ก่อนอื่นเราขอเท้าความก่อน เราประสบอุบัติเหตุนำรถไปชน โดยได้ทำการเครมประกันตามปกติ (ชั้น 1) โดยวันที่ชนคือ เดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งปัจจุบันเป็นเดือนพฤศจิกายน 2565 (ก็ยังไม่เสร็จ) รวมอายุเอาลูกรัก (รถ) ไปจอดอู่5 เดือน อาการคือ กระจกข้างแตกหัก 1ข้าง ไฟหน้าแตก 1 ข้าง เสากระจกบังลมเสียหาย  กระจกบังลมแตก (แต่ไม่ถึงห้องเครื่อง) ซึ่งขณะไปอู่รถเราสามารถสตาท์ได้ปกติ หน้าจอวิทยุสามารถใช้งานได้โดยเราพยายามติดตามการซ่อมของอู่เรื่อยมา เมื่ออาทิตก่อน อู่แจ้งว่ารถเราเร่งไม่ขึ้น เนื่องจากไปติดตั้งกล่องเก็บประจุไฟ ซึ่งตัวเราได้ทำการถอดสายที่เชื่อมกับขั้วแบตออกหมดแล้ว ซึ่งช่างที่ถอดให้เป็นอู่ที่ซ่อมประจำ แล้วก็วิ่งได้ปกติไม่มีปัญหาเรื่อยมาจนประสบอุบัติเหตุ (เอาไปทำงานทุกวัน)โดยก็เถียงกับอู่ว่ามันถอดนานแล้วค่ะ อู่เขาก็ไม่ยอมท่าเดียว หาว่าเราใส่มาแล้วทำรถพังเอง มีการพูดว่าเราไม่ได้แจ้งปัญหาเรื่องห้องเครื่อง อ่าว ? ตรูเป็นช่างเรอะ?! ตรูจะรู้ได้ไง ทางประกันจึงมาไกล่เกลี่ยโดยให้นำรถส่งศูนย์ที่มีความเป็นกลาง ปรากฎว่าศูนย์เช็คแล้ว สรุปว่า ปีกผีเสื้ออุดตัน เนื่องจากจอดนาน และแบตพัง แล้วมาโทษแต่กล่องเราทั้งๆที่มันมันไม่ได้ต่อสายไฟนานแล้ว (เราพึ่งเปลี่ยนแบตก่อนชน 3 เดือนและเปลี่ยนออกซิเจนเซ็นเซอร์)  และมีค่าตรวจสอบ ค่ารื้อสายไฟจิปาะทะ อีกเบ็ดเสร็จ 20000 บาท แต่ประกันปฎิเสธ ที่จะไม่จ่ายค่ะ จะให้เจ้าของรถรับผิดชอบ เรางงค่ะ รถเราอยู่ในความดูแลของอู่มา 5 เดือน  ความล้าช้าเกิดจากการซ่อมของอู่ในเครือของประกัน แต่ให้เราจ่ายๆ ทั้งๆที่มันเกิดจากการที่คุณไม่ยอมซ่อม และการที่อู่เขาเป็นช่างก็ควรทราบว่าถ้าจอดรถนานจะมีปัญหาอะไรบ้าง กระทู้นี้คือระบายอารมล้วนๆค่ะ เลยอยากถามค่ะว่ามันได้เหรอ5555555 ทั้งเครียดและงงเลยค่ะ