JJNY : 5in1 โจ้แฉสั่งเร่งลงนาม│ก้าวไกลจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง│ชี้แผนแป๊ะ│เวียดนามไม่ได้ตกลงกับไทยเรื่องข้าว│จีนป่วนอีก!

ไอ้โม่ง โผล่อีก! โจ้ แฉ สั่งเร่งลงนามสัญญาท่อส่งน้ำ จี้ ‘ป้อม’ชะลอ หวั่นรัฐเสียหาย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7279484
 
 
 
ส.ส.โจ้ ปูดมี ‘ไอ้โม่ง’ สั่งเร่งรัดลงนามสัญญาบริหารจัดการท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก บี้ ‘ประวิตร-อาคม’ ชะลอลงนามในสัญญา หวั่นรัฐเสียหาย
 
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2565 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันนี้ศาลปกครองสูงสุด มีคำวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาฉบับลงวันที่ 15 ส.ค.65 ในคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 ระหว่าง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท อีสวอเตอร์ ผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ผู้ถูกฟ้องคดี บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้ร้องสอด
 
โดยศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ที่มีคำสั่งรับคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา บริษัท อีสวอเตอร์ และมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับการดำเนินการตามประกาศเชิญชวนเอกชน เพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออกไว้ชั่วคราว ก่อนพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดี หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยกคำขอของผู้ฟ้องคดีนั้น
 
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า 
 
1.คดีนี้ ตนยื่นเรื่องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ว่า เรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับเอกชนหลายราย มีการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในลักษณะแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำผิด และผูกขาดตัดตอน (ฮั้ว) ไม่เปิดให้แข่งขันอย่างเสรีตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ประโยชน์ของประเทศและประชาชนเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช.
 
2. คดีนี้ ศาลยังมิได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า การดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาตตะวันออก ได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
 
3. ขณะนี้มีไอ้โม่งเร่งรัดจัดให้มีการลงนามในสัญญา ดังนั้น วันนี้ตนจึงทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อให้ตรวจสอบและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ และระมัดระวัง มิให้กระทำการใดผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ทำให้ประเทศและประชาชนเสียหาย
 
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้น นายประภาส คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่จะเกษียณอายุวันที่ 30 ก.ย.นี้ อย่าลงนามในสัญญาให้กับบริษัทใดในลักษณะทิ้งทวน หรือ อย่าจำยอมต่ออำนาจของใครก็ตามที่สั่งให้ลงนามสัญญาในทันที เพราะวันที่ 29 ก.ย. คณะรัฐมนตรีจะมีมติตั้งอธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่แล้ว ขอให้บุคคลทั้งหมดชะลอการลงนามในสัญญาบริหารจัดการท่อส่งน้ำในภาคตะวันออกไว้ก่อน เนื่องจากมีประเด็นความเสียหายมาก อาทิ ประเด็นแบ่งแยกค่าแรกเข้าทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เรื่องการชำระเงิน ผลประโยชน์ตอบแทนรายปี ส่วนแบ่งรายได้รายปี รวมถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของบริษัทเอกชนคู่สัญญา
 
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การที่ศาลสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราว ไม่ได้เป็นบทบังคับให้ต้องลงนามในสัญญา อีกทั้งการที่รักษาการนายกฯ รมว.คลัง จะสั่งให้กรมธนารักษ์ชะลอการลงนามไว้ก่อน เพื่อรอคำพิพากษาของศาลปกครอง ย่อมทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะหากมีการลงนามในสัญญา ยังมีข้อโต้แย้งว่าการแบ่งแยกค่าแรกเข้า ออกเป็น 2 งวดดังกล่าว ยังมีความเสี่ยงว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
 

 
ก้าวไกล จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง เชื่อ ยุบสภาก่อนครบวาระ ลั่น 'พิธา' พร้อมเป็นนายกฯ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7279696

ก้าวไกล จัดทัพ ส.ส.เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมเป็นตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง เชื่อ ยุบสภาก่อนครบวาระ ลั่น ‘พิธา’ พร้อมเป็นนายกฯ
 
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2565 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศไทม์ไลน์เลือกตั้งวันที่ 7 พ.ค.2566 ว่า พรรคก้าวไกลมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ทั้งตามกรอบเวลาที่ กกต.กำหนด และในกรณีเกิดกายุบสภาก่อนกรอบเวลา
 
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเห็นว่าสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับทุกพรรคการเมือง คือการออกกฎเกณฑ์ของ กกต.เกี่ยวกับกรอบเวลา 180 วัน ก่อนครบวาระของสภาฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกำหนดกรอบอย่างกว้าง แต่จะส่งผลต่อการทำหน้าที่ของผู้สมัครในเขตต่างๆ ในการจัดกิจกรรม
 
นายพิจารณ์ ยังกล่าวกรณีวาระนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์  อาจจะกลับมาในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งยังคงมีอำนาจในการยุบสภาด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะยุบสภาก่อนกำหนด
 
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลมีแผนสำหรับทุกกรณีอยู่แล้ว รวมถึงการเตรียมผู้สมัครส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยพรรคได้รับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกพรรคและประชาชน ผ่านแคมเปญก้าวไกล NEXT ล้วนให้น้ำหนักและเรียกร้องให้พรรคต้องคัดเลือกผู้สมัครที่มีอุดมการณ์ และความฝันยึดโยงร่วมกับพรรค เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดงูเห่าขึ้นมาอีก
 
นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาการนายกฯ มีความพยายามปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งเช่นกัน ตนมองว่าไม่สามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับมาได้อีกแล้ว เมื่อเทียบกับผลงานที่ผ่านมาในการเป็นแกนนำรัฐบาล
 
โดยจะเห็นได้จากการเลือกตั้งซ่อมและการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา ที่สะท้อนความนิยมที่ตกต่ำลงของพรรค และการเลือกตั้งรอบนี้จะเป็นการพิพากษาโดยประชาชน ที่จะบอกว่าประเทศนี้ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองเฉพาะกิจ เพื่อการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารมีอำนาจอีกแล้ว
 
นายพิจารณ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนประเทศ พรรคก้าวไกลไม่ได้ต้องการเพียงอำนาจและจำนวนส.ส.ในสภา กระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคมีเป้าหมายเพื่อให้ ส.ส.เป็นตัวแทนแห่งความเปลี่ยนแปลง ไม่ทรยศเสียงของประชาชน และจะเข้าไปยืนยันผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
 
เหมือนที่พรรคก้าวไกลทำมาตลอดในการขับเคลื่อนภายใต้เส้นแบ่งที่ชัดเจน ระหว่างผลประโยชน์ของกลุ่มทุนและความนิยมทางการเมืองกับหลักการและผลประโยชน์ของประชาชน เช่น กรณีพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และกฎหมายสมรสเท่าเทียม
 
“พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ในอนาคตอันใกล้นี้เราจะนำเสนอชุดนโยบายต่างๆ ออกมา ทั้งนโยบายที่มุ่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่เสนอมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ และชุดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะกลาง เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ทั้งการเมือง สังคม และเศรษฐกิจในขณะนี้” นายพิจารณ์ กล่าว
   

 
'กูรูไพศาล' ชี้แผนแป๊ะล้ำลึกกฎหมายเลือกตั้งส่อโมฆะแต่ทุกเรื่องมีทางออกเสมอ!
https://www.dailynews.co.th/news/1496140/

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก paisal puechmongkol หัวข้อ “วิกฤติรัฐธรรมนูญ-วิกฤติบ้านเมือง” มีรายละเอียดดังนี้
 
วิกฤติรัฐธรรมนูญ-วิกฤติบ้านเมือง!!!!
 
1. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องขอให้วินิจฉัยว่ากฎหมายเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่แล้ว และส่อว่าจะเป็นโมฆะตามคำร้องด้วย แป๊ะวางหมากเอาไว้แยบยลมากเพราะถ้าตกเป็นโมฆะขึ้นมา กำหนดการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมปีหน้าก็อาจจะทำไม่ได้ และอย่าลืมว่า กกต.ชุดปัจจุบันนี้กำลังต้องคดี ในเดือนหน้า ถ้าศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะไม่มีผู้จัดการเลือกตั้งซ้ำเข้าไปอีก!!!
 
แผนแป๊ะล้ำลึกจริงๆ ทำให้บรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ ต้องอยู่ในสภาพขวัญผวาอีกครั้งหนึ่ง แต่ทุกเรื่องมีทางออกเสมอ เมื่อถึงเวลาจะเฉลยให้ได้ทราบกัน เดินหน้าโลดได้เลย
 
2. ขณะนี้มีกระแสความวิตกกังวลเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้ว ถ้าหากรักษาการไม่ได้ก็จะเกิดวิกฤติทางการเมืองซ้ำซ้อนเพิ่มขึ้นอีก เพราะมีปัญหาว่าจะสรรหานายกฯกันอย่างไร?
 
3. ในข้อนี้ไม่มีปัญหาเพราะถ้าเกิดกรณีเช่นนี้และศาลสั่งว่ารักษาการไม่ได้ ปลัดกระทรวงก็ต้องรักษาการแทนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และประธานรัฐสภาก็ต้องเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อสรรหานายกฯ ตามมาตรา 272 วรรคแรกจากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้ยื่นไว้
ถ้าเลือกไม่ได้ก็ต้องเลือกจากคนนอกตามมาตรา 272 วรรค 2
 
และถ้าเลือกไม่ได้อีก ก็ต้องเป็นไปตามมาตรา 5 คือ คณะผู้เลือกซึ่งประกอบจากองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยและประธานศาลต่างๆ จะต้องจัดประชุมกันเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีต่อไป
 
ไม่มีปัญหา ไม่ต้องห่วงว่า ใครจะมายึดอำนาจ ดาวเดือนดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจด้วยเลย!!!! พระอาทิตย์โคจรเข้าสู่ราศีกันย์มีองศากว่า 6 แล้ว ส่องแสงถึงดาวพฤหัสในราศีมีน แผ่พลังไปถึงดาวอังคารในราศีเมษแล้วจ้า

อนึ่ง #สำนักข่าวคนรู ได้จัดส่งทีมข่าวไปอยู่ชายป่ารอยต่อแล้ว ใครจะไปใครจะมาก็ช่าง แต่คงต้องนับหนึ่งประเทศไทยแน่!!!
 
ต้องนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ต้องคดีทางการเมืองทุกคน รวมทั้งผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีตามมาตรา 112 เพื่อกลับมาร่วมกันฟื้นฟูชาติบ้านเมืองของเรา โดยเร็วที่สุด ลุงจิ๋วฝากบอกไว้.
 
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก paisal puechmongkol
  
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid027mr5k5QF2NwogFWcGfB8RsETKE5t96519Et3MoZPaGtUXSHJ2FrL2R6FbnkHppBnl
 

 
เวียดนามเผยไม่ได้ตกลงกับไทยเรื่องขึ้นราคาข้าว
https://tna.mcot.net/world-1023024

ฮานอย 22 ก.ย. – รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของเวียดนาม ระบุว่าเวียดนามไม่ได้ทำข้อตกลงกับไทยเรื่องร่วมมือกันขึ้นราคาข้าวในตลาดโลก
 
นายเล มิน ฮวาน รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของเวียดนาม ปฏิเสธเรื่องร่วมมือกันขึ้นราคาข้าวในตลาดโลก ต่อที่ประชุมรัฐบาลเวียดนามวันนี้ โดยกล่าวว่ากระทรวงเกษตรของทั้งสองประเทศเพียงแค่ดำเนินความร่วมมือโดยทั่วไปเท่านั้น
 
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า คำกล่าวของรัฐมนตรีเกษตรเวียดนามถือเป็นแถลงการณ์ครั้งแรกของรัฐบาลเวียดนามในเรื่องนี้ และมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรของไทยเผยได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะร่วมมือกันขึ้นราคาข้าวในตลาดโลก โดยได้เริ่มการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกรัฐบาลไทยระบุว่าจุดประสงค์ของการขึ้นราคาข้าวร่วมกันเป็นไปเพื่อเพิ่มอำนาจในตลาดโลกของทั้งสองประเทศ และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวนา
 
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า ไทยกับเวียดนาม เป็นผู้ผลิตข้าวเปลือกร้อยละ 10 ของตลาดโลก และเป็นผู้ส่งออกข้าวร้อยละ 26 ขณะที่สมาคมอาหารเวียดนามคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม ว่าเวียดนามจะส่งออกข้าว 6.3-6.5 ล้านตันในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 6.24 ล้านตัน ในปี 2564 เนื่องจากตลาดมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นมาก.-สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่