สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะเชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ
https://www.nopeopletravelphoto.com/
ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 นะครับ ตอนอื่นๆดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ตอน 1 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/rome_vatican_city_2022
ตอน 3 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/milan_lake_como_garda_venice_2022
ตอน 4 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/dolomites_2022
เดือนที่เดินทาง - กรกฎาคม 2022
ความเดิมตอนที่แล้ว เราไปเที่ยวโรมและวาติกันเป็นเวลา 3 คืน เช้าวันนี้เราไปรับรถเช่าที่สนามบิน Leonardo da Vinci และไม่รอช้าขับไปเมือง Florence กันเลย เราจะอยู่ที่ Florence ทั้งหมด 2 คืนและไปต่อกันที่ Cinque Terre อีก 1 คืน เป็นเมืองริมทะเลน่ารักๆที่เป็นต้นแบบให้กับเมืองในการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Luca ด้วย
Day 4 - ฟลอเรนซ์ (Florence)
ขับรถจากโรมมาที่ฟลอเรนซ์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าใครไม่เคยขับรถที่ยุโรปขอเตือนก่อนว่าคนที่นี่ขับรถเร็วมาก ขับอยู่ 150 ก็สามารถโดนเปิดไฟสูงไล่ได้ การขับรถข้ามเมืองทุกครั้งต้องจ่ายค่าทางด่วนเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับระยะทาง จะใช้เงินสดหรือใช้บัตรเครดิต/เดบิตก็ได้ครับ
ฟลอเรนซ์ เป็นชื่อภาษาอังกฤษ คนอิตาลีจะเรียกว่าฟิเรนเซ่ (Firenze) เมืองจะมีแม่น้ำ Arno ผ่ากลางเมืองและมีสะพานสวยๆบนแม่น้ำนี้ นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า Florence เป็นต้นกำเนิดของยุค Renaissance ยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปะ วิทยาศาสตร์ การค้าและการเมือง เป็นยุคหลังจากยุคมืดหรือยุคกลางของยุโรปจบลง พูดเรื่องนี้ไปยาวอีก บน YouTube มีวีดีโอดีๆเยอะมากสำหรับคนที่สนใจครับ
ที่พักของเราวันนี้ก็เป็นอพาร์ทเม้นต์อีกเช่นกันที่ Mamo Florence - Fiesolana Apartments ห้องดีมากและอยู่ไม่ไกลที่เที่ยวเลย พอเอาของเก็บแล้วก็รีบเลยเพราะว่าจองตั๋วเข้าดูวัง Palazzo Vecchio ที่เป็นที่อยู่อาศัยและทำงานของตระกูลเมดิชี่ (Medici) ที่เป็นดยุคของเมือง Florence ด้านในมีงานศิลปะภาพวาดรูปแกะสลักมากมายเกี่ยวกับศาสนาและตระกูล Medici
ด้านหน้ามีจำลองรูปแกะสลัก David ของ Michelangelo ตั้งอยู่ ของจริงย้ายไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์เรียบร้อย ไม่ต้องห่วงเพราะเราจองตั๋วไปดูของจริงแล้วเรียบร้อย พูดถึงจองตั๋ว ควรจองมาก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 - 2 เดือนไม่งั้นอาจจะเต็มก่อนได้ ที่นี่มีหอคอยสูงที่ขึ้นไปดูวิวได้ ผมก็อยากไปนะแต่ว่าตั๋วเค้าขายหมดไปถึงอาทิตย์หน้าเลย ไม่เป็นไรชีวิตต้องไปต่อ
เว็บจองตั๋ว
เข้าพิพิธภัณฑ์:
https://www.getyourguide.com/florence-l32/florence-skip-the-line-entry-ticket-to-palazzo-vecchio-t68021/
ขึ้นหอคอย:
https://museicivicifiorentini.comune.fi.it/en/palazzovecchio/visitamuseo/tower_of_palazz0vecchio.html
สิ่งแรกที่สัมผัสได้ตั้งแต่มาถึงคือศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ช่างแตกต่างกับโรมอย่างสิ้นเชิง สะอาดกว่าด้วย ถ้าดูจากทางเข้า Palazzo Vecchio จะเห็นว่าสีสันต่างๆจะดูนวลๆพาสเทล
ด้านในเป็นการทัวร์ห้องต่างๆในวัง แต่ละห้องถูกประดับตกแต่งด้วยภาพวาดรูปปั้น วัสดุก่อสร้างอาจจะไม่รวยเท่าโรมแต่มันมีเสน่ห์ในแบบของมัน ภาพวาดที่ห้องโถงรับแขกที่ใช้ประชุมหรือปราศัยในอดีตนี้เป็นภาพของดยุคบ้าง ภาพบรรยายฉากสงครามกับเมืองใกล้เคียงบ้าง
เดินดูรอบๆแล้วมันสะดุดตามากกับรูปสลักนี้ ทำไรกันนะ
ด้านในยังมีห้องเล็กๆอีกเยอะแยะที่มีภาพวาดงานศิลปะอยู่เบียดๆกัน อยู่กันครอบครัวเดียวเดินๆจะกลัวผีหลอกมั้ยรูปปั้นหน้าคนเต็มไปหมด
ตามสไตล์ต้องมีภาพวาดบนเพดานให้ปวดคอกลับไป ดูพี่คนนี้ถ่ายรูปแบบนี้ปวดหลังเลยนะ
ถึง Medici จะรวยมากแต่คงไม่รวยเท่าศาสนจักรในโรม วัสดุก่อสร้างก็ผสมๆกันระหว่างหินทรายหินแกรนิตหินอ่อน ที่พื้นในหลายๆห้องเป็นดินเผา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทำลวดลายสวยงาม
ด้านในจะมีห้องที่สะสมแผนที่ที่วาดมาตั้งแต่สมัย Renaissance ด้านในควรจะมีลูกโลกลูกแรกๆของโลกแต่วันนี้เค้าล้อมรั้วไว้ซ่อมบำรุง เจอแผนที่ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดด้วยหนะ หน้าตาแปลกๆแต่สมัยนั้นเค้าไม่มีดาวเทียมนี่นะ
แล้วก็มีวิวที่เห็นจากหน้าต่างระเบียงนิดหน่อย มีภาพ Santa Croce Basilica กับ Santa Maria del Fiore Cathedral ถ้าได้ขึ้นบนหอคอยก็จะเห็นชัดกว่านี้นะครับ
เมืองฟลอเรนซ์ก็ไม่ใหญ่มากเดินวนไปวนมาก็จะกลับมาเห็น Cathedral of Santa Maria del Fiore หรือ Duomo คือมันเห็นได้จากทุกที่เพราะว่าใหญ่มากจริงๆ
เดินมาจนเจอริมน้ำก็จะมองไปเห็น Ponte Vecchio สะพานเก่าที่บ้านเรือนร้านค้าอยู่บนสะพาน ถ้าจะถ่ายภาพสะพานนี้ก็ต้องไปยืนที่สะพานอื่น แนะนำไปที่สะพาน Ponte Santa Trinita ที่อยู่ข้างๆกัน
มองไปแล้วเห็นบ้านริมน้ำนี้ทำหน้าเบะด้วย ชีวิตเจ็บปวดไรมานะ
เดิน 10 นาทีก็มาถึงลานหน้า Santa Maria Novella Basilica โบสถ์เล็กๆ (ถ้าเทียบกับ Duomo) ที่สวยมาก ด้านหน้าของโบสถ์ใช้หินอ่อนหลายสีมาสร้างเป็นลวดลายละเอียดยิบ
มื้อเย็นวันนี้เอาร้านอาหารมาแนะนำอีกแล้วครับ Trattoria Dall'Oste, Borgo San Lorenzo ร้านนี้ดีมากจริงๆเอาหัวเป็นประกัน เป็นสเต็กสไตล์ Florence ชิ้นนึงน้ำหนัก 1.2 kg เนื้อวัวมาจากวัวท้องถิ่นผ่านการ dry age มาแล้ว ราคาสูงหน่อยแต่ว่าคุ้มแน่นอน เนื้อสวยงามมากเลยต้องถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย แนะนำให้จองโต๊ะในเว็บล่วงหน้าซัก 2 อาทิตย์ ตอนที่ผมไปถ้าไปกินก่อน 1 ทุ่มเป็นเวลาก่อนร้านยุ่งได้ลด 30% ด้วยแน่ะ
เว็บร้าน
https://trattoriadalloste.com/en/ จองร้านที่สะดวกได้เลยมี 2 - 3 สาขา
กินข้าวอิ่มแล้วมีแรงคืนนี้มีแผนจะไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ Piazzale Michelangelo บนยอดเนินที่ออกนอกเมืองไปนิดหน่อย ตรงนี้มันก็ไกลไปหน่อยที่จะเดินแล้วรถก็จอดอยู่แถวที่พักก็เลยเดินหาแท๊กซี่กันโกลาหล สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาคือที่ฟลอเรนซ์ไม่มี Uber และการหาแท๊กซี่คือต้องไปยืนรอที่ที่มีป้าย Taxi ปักอยู่แต่ไม่ใช่ทุกที่จะมีรถมา เดินหาโบกอยู่ครึ่งชั่วโมงไม่มีใครจอดจนเดินมาถึงหน้าโรงแรมหรูเลยถามเค้าว่าหารถที่ไหนได้บ้างคับ ลุงพนักงานใจดีมากบอกเดี๋ยวโทรเรียกให้เลย ได้ไปแล้ว
มาถึงแล้วคนเยอะมากแต่ยืนรอซักพักก็มีคนกลับเราก็เสียบเลย รออยู่ 2 ชั่วโมงเพราะท้องฟ้าสว่างแบบนี้เป็นชั่วโมงเพราะพิษหน้าร้อน วิวนี้ถ้าไม่ได้มาเหมือนกับไม่ได้มาฟลอเรนซ์เลยนะ
ทีนี้ตอนจะกลับบ้านเนี่ยรถแท๊กซี่มันน้อยแล้วมาช้า ถ้าไม่ได้ขับรถไปเองก็รอนานนิดนึงแต่ได้กลับแน่นอน
Day 5
คืนก่อนถ่ายรูปจน 4 ทุ่มเหมือนเดิมเลยกลับบ้านมาล้มพับไปเลย วันนี้จริงๆมีแผนว่าจะเดินไปยอดหอระฆังข้างๆ Duomo แต่ว่าวันก่อนไปเดินขึ้นยอดโดมที่วาติกันมาแล้วปวดเข่าจังเลยตัดสินใจทิ้งบัตรดีกว่าเพราะทริปนี้ยังอีกไกล อายุยังน้อยๆอยู่แท้ๆ
ถ้าสนใจอยากเดินขึ้นบันไดไปดูวิวจองตั๋วไปก่อนล่วงหน้าเหมือนเดิมนะครับ จองได้ที่นี่
https://operaduomofirenze.skiperformance.com/en/store#/en/buy
ไม่ขึ้นหอระฆังก็ไม่เป็นไรเดินไปดูรอบๆอย่างเดียวได้ อันนี้เดินผ่านจากที่พัก Santa Croce Basilica หน้าตาคล้ายๆ Santa Maria Novella เล็กน้อย
โบสถ์ในฟลอเรนซ์เค้าก็จะมีสไตล์คล้ายๆกันประดับลวดลายด้วยหินอ่อนหลายสี ผมว่าสวยมากตรงที่เค้าใช้สีที่มีตามธรรมชาติแล้วก็เลือกสีได้เข้ากันเก่งมาก เมืองเก่าๆในยุโรปกับนั่งร้านเป็นของคู่กัน โบสถ์นี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1296 แล้วเสร็จ ค.ศ. 1436 ทั้งใหญ่โตและแข็งแรงต้านทานกาลเวลามาก
ด้านหน้าประตูก็จะมีภาพโมเสกอย่างละเอียดอยู่ด้วย สวยมากคนทำเก่งโคตร
จริงๆอยากจะเข้าไปดูข้างในแต่เค้าเปิดตั้ง 10 โมงแล้วตอนนั้นแค่ 8 โมงคิวที่ต่อเข้าไปข้างในยาวไปถึงท้ายโบสถ์แล้ว ถามหน้าประตูเค้าบอกว่าดูสภาพนี้ต้องรอ 2 ชั่วโมงกว่าจะได้เข้า ไม่มีค่าเข้าแต่ว่าขอตัดใจไม่เข้าไปหาเจลาโต้กินดีกว่าครับ
[CR] รีวิวพาเที่ยว Road Trip อิตาลีเหนือ ตอนที่ 2 ฟลอเรนซ์ (Florence) ชิงเคว เทเร่ (Cinque Terre)
สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะเชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ https://www.nopeopletravelphoto.com/
ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 นะครับ ตอนอื่นๆดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ตอน 1 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/rome_vatican_city_2022
ตอน 3 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/milan_lake_como_garda_venice_2022
ตอน 4 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/dolomites_2022
เดือนที่เดินทาง - กรกฎาคม 2022
ความเดิมตอนที่แล้ว เราไปเที่ยวโรมและวาติกันเป็นเวลา 3 คืน เช้าวันนี้เราไปรับรถเช่าที่สนามบิน Leonardo da Vinci และไม่รอช้าขับไปเมือง Florence กันเลย เราจะอยู่ที่ Florence ทั้งหมด 2 คืนและไปต่อกันที่ Cinque Terre อีก 1 คืน เป็นเมืองริมทะเลน่ารักๆที่เป็นต้นแบบให้กับเมืองในการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Luca ด้วย
Day 4 - ฟลอเรนซ์ (Florence)
ขับรถจากโรมมาที่ฟลอเรนซ์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าใครไม่เคยขับรถที่ยุโรปขอเตือนก่อนว่าคนที่นี่ขับรถเร็วมาก ขับอยู่ 150 ก็สามารถโดนเปิดไฟสูงไล่ได้ การขับรถข้ามเมืองทุกครั้งต้องจ่ายค่าทางด่วนเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับระยะทาง จะใช้เงินสดหรือใช้บัตรเครดิต/เดบิตก็ได้ครับ
ฟลอเรนซ์ เป็นชื่อภาษาอังกฤษ คนอิตาลีจะเรียกว่าฟิเรนเซ่ (Firenze) เมืองจะมีแม่น้ำ Arno ผ่ากลางเมืองและมีสะพานสวยๆบนแม่น้ำนี้ นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า Florence เป็นต้นกำเนิดของยุค Renaissance ยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปะ วิทยาศาสตร์ การค้าและการเมือง เป็นยุคหลังจากยุคมืดหรือยุคกลางของยุโรปจบลง พูดเรื่องนี้ไปยาวอีก บน YouTube มีวีดีโอดีๆเยอะมากสำหรับคนที่สนใจครับ
ที่พักของเราวันนี้ก็เป็นอพาร์ทเม้นต์อีกเช่นกันที่ Mamo Florence - Fiesolana Apartments ห้องดีมากและอยู่ไม่ไกลที่เที่ยวเลย พอเอาของเก็บแล้วก็รีบเลยเพราะว่าจองตั๋วเข้าดูวัง Palazzo Vecchio ที่เป็นที่อยู่อาศัยและทำงานของตระกูลเมดิชี่ (Medici) ที่เป็นดยุคของเมือง Florence ด้านในมีงานศิลปะภาพวาดรูปแกะสลักมากมายเกี่ยวกับศาสนาและตระกูล Medici
ด้านหน้ามีจำลองรูปแกะสลัก David ของ Michelangelo ตั้งอยู่ ของจริงย้ายไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์เรียบร้อย ไม่ต้องห่วงเพราะเราจองตั๋วไปดูของจริงแล้วเรียบร้อย พูดถึงจองตั๋ว ควรจองมาก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 - 2 เดือนไม่งั้นอาจจะเต็มก่อนได้ ที่นี่มีหอคอยสูงที่ขึ้นไปดูวิวได้ ผมก็อยากไปนะแต่ว่าตั๋วเค้าขายหมดไปถึงอาทิตย์หน้าเลย ไม่เป็นไรชีวิตต้องไปต่อ
เว็บจองตั๋ว
เข้าพิพิธภัณฑ์: https://www.getyourguide.com/florence-l32/florence-skip-the-line-entry-ticket-to-palazzo-vecchio-t68021/
ขึ้นหอคอย: https://museicivicifiorentini.comune.fi.it/en/palazzovecchio/visitamuseo/tower_of_palazz0vecchio.html
สิ่งแรกที่สัมผัสได้ตั้งแต่มาถึงคือศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ช่างแตกต่างกับโรมอย่างสิ้นเชิง สะอาดกว่าด้วย ถ้าดูจากทางเข้า Palazzo Vecchio จะเห็นว่าสีสันต่างๆจะดูนวลๆพาสเทล
ด้านในเป็นการทัวร์ห้องต่างๆในวัง แต่ละห้องถูกประดับตกแต่งด้วยภาพวาดรูปปั้น วัสดุก่อสร้างอาจจะไม่รวยเท่าโรมแต่มันมีเสน่ห์ในแบบของมัน ภาพวาดที่ห้องโถงรับแขกที่ใช้ประชุมหรือปราศัยในอดีตนี้เป็นภาพของดยุคบ้าง ภาพบรรยายฉากสงครามกับเมืองใกล้เคียงบ้าง
เดินดูรอบๆแล้วมันสะดุดตามากกับรูปสลักนี้ ทำไรกันนะ
ด้านในยังมีห้องเล็กๆอีกเยอะแยะที่มีภาพวาดงานศิลปะอยู่เบียดๆกัน อยู่กันครอบครัวเดียวเดินๆจะกลัวผีหลอกมั้ยรูปปั้นหน้าคนเต็มไปหมด
ตามสไตล์ต้องมีภาพวาดบนเพดานให้ปวดคอกลับไป ดูพี่คนนี้ถ่ายรูปแบบนี้ปวดหลังเลยนะ
ถึง Medici จะรวยมากแต่คงไม่รวยเท่าศาสนจักรในโรม วัสดุก่อสร้างก็ผสมๆกันระหว่างหินทรายหินแกรนิตหินอ่อน ที่พื้นในหลายๆห้องเป็นดินเผา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทำลวดลายสวยงาม
ด้านในจะมีห้องที่สะสมแผนที่ที่วาดมาตั้งแต่สมัย Renaissance ด้านในควรจะมีลูกโลกลูกแรกๆของโลกแต่วันนี้เค้าล้อมรั้วไว้ซ่อมบำรุง เจอแผนที่ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดด้วยหนะ หน้าตาแปลกๆแต่สมัยนั้นเค้าไม่มีดาวเทียมนี่นะ
แล้วก็มีวิวที่เห็นจากหน้าต่างระเบียงนิดหน่อย มีภาพ Santa Croce Basilica กับ Santa Maria del Fiore Cathedral ถ้าได้ขึ้นบนหอคอยก็จะเห็นชัดกว่านี้นะครับ
เมืองฟลอเรนซ์ก็ไม่ใหญ่มากเดินวนไปวนมาก็จะกลับมาเห็น Cathedral of Santa Maria del Fiore หรือ Duomo คือมันเห็นได้จากทุกที่เพราะว่าใหญ่มากจริงๆ
เดินมาจนเจอริมน้ำก็จะมองไปเห็น Ponte Vecchio สะพานเก่าที่บ้านเรือนร้านค้าอยู่บนสะพาน ถ้าจะถ่ายภาพสะพานนี้ก็ต้องไปยืนที่สะพานอื่น แนะนำไปที่สะพาน Ponte Santa Trinita ที่อยู่ข้างๆกัน
มองไปแล้วเห็นบ้านริมน้ำนี้ทำหน้าเบะด้วย ชีวิตเจ็บปวดไรมานะ
เดิน 10 นาทีก็มาถึงลานหน้า Santa Maria Novella Basilica โบสถ์เล็กๆ (ถ้าเทียบกับ Duomo) ที่สวยมาก ด้านหน้าของโบสถ์ใช้หินอ่อนหลายสีมาสร้างเป็นลวดลายละเอียดยิบ
มื้อเย็นวันนี้เอาร้านอาหารมาแนะนำอีกแล้วครับ Trattoria Dall'Oste, Borgo San Lorenzo ร้านนี้ดีมากจริงๆเอาหัวเป็นประกัน เป็นสเต็กสไตล์ Florence ชิ้นนึงน้ำหนัก 1.2 kg เนื้อวัวมาจากวัวท้องถิ่นผ่านการ dry age มาแล้ว ราคาสูงหน่อยแต่ว่าคุ้มแน่นอน เนื้อสวยงามมากเลยต้องถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย แนะนำให้จองโต๊ะในเว็บล่วงหน้าซัก 2 อาทิตย์ ตอนที่ผมไปถ้าไปกินก่อน 1 ทุ่มเป็นเวลาก่อนร้านยุ่งได้ลด 30% ด้วยแน่ะ
เว็บร้าน https://trattoriadalloste.com/en/ จองร้านที่สะดวกได้เลยมี 2 - 3 สาขา
กินข้าวอิ่มแล้วมีแรงคืนนี้มีแผนจะไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ Piazzale Michelangelo บนยอดเนินที่ออกนอกเมืองไปนิดหน่อย ตรงนี้มันก็ไกลไปหน่อยที่จะเดินแล้วรถก็จอดอยู่แถวที่พักก็เลยเดินหาแท๊กซี่กันโกลาหล สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาคือที่ฟลอเรนซ์ไม่มี Uber และการหาแท๊กซี่คือต้องไปยืนรอที่ที่มีป้าย Taxi ปักอยู่แต่ไม่ใช่ทุกที่จะมีรถมา เดินหาโบกอยู่ครึ่งชั่วโมงไม่มีใครจอดจนเดินมาถึงหน้าโรงแรมหรูเลยถามเค้าว่าหารถที่ไหนได้บ้างคับ ลุงพนักงานใจดีมากบอกเดี๋ยวโทรเรียกให้เลย ได้ไปแล้ว
มาถึงแล้วคนเยอะมากแต่ยืนรอซักพักก็มีคนกลับเราก็เสียบเลย รออยู่ 2 ชั่วโมงเพราะท้องฟ้าสว่างแบบนี้เป็นชั่วโมงเพราะพิษหน้าร้อน วิวนี้ถ้าไม่ได้มาเหมือนกับไม่ได้มาฟลอเรนซ์เลยนะ
ทีนี้ตอนจะกลับบ้านเนี่ยรถแท๊กซี่มันน้อยแล้วมาช้า ถ้าไม่ได้ขับรถไปเองก็รอนานนิดนึงแต่ได้กลับแน่นอน
Day 5
คืนก่อนถ่ายรูปจน 4 ทุ่มเหมือนเดิมเลยกลับบ้านมาล้มพับไปเลย วันนี้จริงๆมีแผนว่าจะเดินไปยอดหอระฆังข้างๆ Duomo แต่ว่าวันก่อนไปเดินขึ้นยอดโดมที่วาติกันมาแล้วปวดเข่าจังเลยตัดสินใจทิ้งบัตรดีกว่าเพราะทริปนี้ยังอีกไกล อายุยังน้อยๆอยู่แท้ๆ
ถ้าสนใจอยากเดินขึ้นบันไดไปดูวิวจองตั๋วไปก่อนล่วงหน้าเหมือนเดิมนะครับ จองได้ที่นี่ https://operaduomofirenze.skiperformance.com/en/store#/en/buy
ไม่ขึ้นหอระฆังก็ไม่เป็นไรเดินไปดูรอบๆอย่างเดียวได้ อันนี้เดินผ่านจากที่พัก Santa Croce Basilica หน้าตาคล้ายๆ Santa Maria Novella เล็กน้อย
โบสถ์ในฟลอเรนซ์เค้าก็จะมีสไตล์คล้ายๆกันประดับลวดลายด้วยหินอ่อนหลายสี ผมว่าสวยมากตรงที่เค้าใช้สีที่มีตามธรรมชาติแล้วก็เลือกสีได้เข้ากันเก่งมาก เมืองเก่าๆในยุโรปกับนั่งร้านเป็นของคู่กัน โบสถ์นี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1296 แล้วเสร็จ ค.ศ. 1436 ทั้งใหญ่โตและแข็งแรงต้านทานกาลเวลามาก
ด้านหน้าประตูก็จะมีภาพโมเสกอย่างละเอียดอยู่ด้วย สวยมากคนทำเก่งโคตร
จริงๆอยากจะเข้าไปดูข้างในแต่เค้าเปิดตั้ง 10 โมงแล้วตอนนั้นแค่ 8 โมงคิวที่ต่อเข้าไปข้างในยาวไปถึงท้ายโบสถ์แล้ว ถามหน้าประตูเค้าบอกว่าดูสภาพนี้ต้องรอ 2 ชั่วโมงกว่าจะได้เข้า ไม่มีค่าเข้าแต่ว่าขอตัดใจไม่เข้าไปหาเจลาโต้กินดีกว่าครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้