[CR] รีวิวพาเที่ยว Road Trip อิตาลีเหนือ ตอนที่ 1 กรุงโรม (Rome) นครรัฐวาติกัน (Vatican City)


สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะเชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ https://www.nopeopletravelphoto.com/

ตอนนี้เป็นตอนที่ 1 นะครับ ตอนอื่นๆดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ตอน 2 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/florence_cinque_terre_2022
ตอน 3 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/milan_lake_como_garda_venice_2022
ตอน 4 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/dolomites_2022

เดือนที่เดินทาง - กรกฎาคม 2022

สวัสดีครับมิตรรักแฟนเพลง นานๆจะมีเรื่องราวการเดินทางมาเล่าให้ฟัง มารอบนี้ได้ไปสถานที่ในความใฝ่ฝันที่อยากไปมาร่วมสิบปีได้แล้วก็คืออิตาลีนั่นเอง สาเหตุที่อยากมามากก็เพราะเมื่อก่อนชอบเล่นเกม Assassin's Creed มากๆแล้วภาคสองนี่เค้ามีตัวเอกเป็นคนฟลอเรนซ์และเดินทางไปทั่วอิตาลีเพื่อทำภารกิจมากมายเลยอินจัดมาตั้งแต่ตอนนั้นน่ะเอง

ทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมดไม่รวมนั่งเครื่องบินที่ 16 วัน 15 คืน และตอนแรกเลยและเราก็มาอยู่กันที่กรุงโรมและนครรัฐวาติกันเป็นเวลา 3 คืนและจะพาไปชมดูเมืองแห่งสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ศูนย์กลางคริสตศาสนจักรและอาณาจักรโรมันในสมัยโบราณกันครับผม

Day 1
ตามแผนการเรามาถึงสนามบิน Leonardo da Vinci ตอนบ่ายโมงครึ่ง แนะนำว่าให้ทุกคนหาซิมอินเตอร์เน็ตมาจากบ้านเพราะว่าที่นี่ขายแพงมากตั้ง 55 Euro ใช้ได้ 30 วัน ส่วนการเข้าไปในใจกลางกรุงโรมนั้นมีสองช่องทางคือสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินได้ราคาไม่แพงมากแต่ว่าใช้เวลาร่วมชั่วโมง กับนั่งแท็กซี่ที่จอดหน้าประตูทางออกเลยที่ราคาเหมา 50 Euro ไปลงตรงไหนก็ได้ในเมือง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

การขึ้นแท็กซี่ในอิตาลีแต่ละเมืองมีระบบไม่เหมือนกัน ที่โรมนี้ไม่มีมิเตอร์เพราะฉะนั้นต้องตกลงราคากันก่อนขึ้นครับ
 
ที่พักของเราถ้าใครอยากจะมาตามรอยก็ได้เลยชื่อว่า Your House @Colosseum เป็นที่พักสไตล์ AirBnb ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์เป็นคนดูแลเอง โลเคชั่นดีมากอยู่หน้าที่เที่ยวและห่างจากสถานีรถไฟแค่ 5 นาที เสียอยู่อย่างเดียวต้องลากกระเป๋าใหญ่ยักษ์ขึ้นบ้าน 4 ชั้นบวกกับช่วงกลางคืนคนกินเหล้าหนวกหูพอประมาณ พอมาถึงแล้วรับกุญแจจากลุงเจ้าของเค้าก็แนะนำการเดินทางในเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งก็เป็นที่ทั่วๆไปที่ทำการบ้านมาแล้วเรียบร้อย

กว่าจะพักผ่อนอาบน้ำก็ประมาณ 3 โมงครึ่งก็ออกมาเดินเที่ยวกันเลย เดือนกรกฎานี้เป็นหน้าร้อนของยุโรปซึ่งความร้อนในแดดนี่ไม่แพ้แถวบ้านเราเลย ยังดีที่เวลาเข้าร่มแล้วลมค่อนข้างเย็น ออกมาจากบ้านปุ๊บก็ซื้อติมกินก่อนเลย Gelato เค้าอร่อยจริงๆไม่ได้โม้



การมาอิตาลีนี้ก็ถือเป็นการมาเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกแบบว่ามองไปทางไหนก็ตื่นเต้นกับบ้านช่องสวยๆมีการคุมโทนและมีการตกแต่งสวยงามมาก นี่ขนาดยังไม่ถึงที่เที่ยวก็ถ่ายรูปไปเพียบแล้ว

เดินจากที่พักมาจนถึง Spanish Steps คาดไว้แล้วว่าคนนั่งกันเป็นล้านแน่นอนแต่ปรากฎว่าวันนี้บันไดโล่งมากเพราะว่าเค้าปิดจัดงานแฟชั่นโชว์ มีรั้วเหล็กเกะกะเล็กน้อยแต่ไม่เป็นไรนะ

พอถอยหลังมาก็คนเยอะเบอร์นี้เลย ส่วนด้านบนก็สามารถขึ้นได้ด้วยบันไดด้านข้าง มองคนอื่นเดินแล้วก็ตามๆเค้าไป แดดร้อนมากฟ้าแทบจะไม่มีเมฆ


ใครมาช่วงหน้าร้อนแบบนี้ก็ค่อยๆเที่ยวกันไม่ต้องหักโหมเพราะมันจะเป็นลมเอาได้ครับ อย่างผมและภรรยาเองก็ต้องพากันไปที่สวนใกล้ๆนั่งหลบแดดซักพัก หกโมงเย็นรอแดดตกๆค่อยเดินออกไปหาข้าวกินแถวๆ Piazza del Popolo ลานกว้างที่มีเสา obelisk ที่ถูกขนมาจากอียิปต์ในสมัยอาณาจักรโรมัน รอบๆก็เต็มไปด้วยรูปสลักหินอ่อนแบบโรมันวางอยู่เพียบ


ทางทิศตะวันออกของ Piazza del Popolo ทุกคนสามารถเดินขึ้นบันไดไปที่จุดชมวิว Terrazza del Pincio ที่เห็นวิวกรุงโรมมุมกว้างได้และด้านบนก็เป็นสวนสาธารณะ มีนักดนตรีเปิดหมวกมาแสดงด้วยนะ อีกความทรมานนึงของการมาเที่ยวหน้าร้อนที่นี่คือพระอาทิตย์ตกดึกมาก รูปนี้ที่ถ่ายมานี่คือเวลา 2 ทุ่ม 45 เข้าไปแล้ว ยืนรอจนเมื่อย

แต่ไหนๆได้รูปแล้วฟ้ายังสว่าง สามารถเดินไปเก็บภาพวิวกรุงโรมได้อีกมุมที่ Terrazza Viale del Belvedere ที่อยู่ใกล้ๆด้วย

มองจากตรงนี้ก็เห็นโบสถ์ St. Peter's Basilica ใน Vatican City ที่เราจะไปเที่ยวกันพรุ่งนี้เช้า ตื่นเต้นแล้วนะ

Day 2
จะว่าไปแล้วมาเที่ยวยุโรปนี่ดีจังไม่ค่อยรู้สึกถึงความ jetlag เท่าไหร่และวันนี้จะเป็นวันที่ยาวนานมากเพราะพระอาทิตย์หน้าร้อนขึ้นนาน 15 ชั่วโมง สิ่งแรกของวันคือตื่นตั้งแต่ตีห้าไปถ่ายภาพ Colosseum และบริเวณใกล้เคียงที่เดินจากบ้านพักแค่ 5 นาที เหมือนเป็นเวลาเดียวที่จะไม่มีคนแถวนี้เลย

วันนี้ทั้งวันเราจะไปเที่ยว Vatican City กัน ใช้เวลาทั้งวันได้จริงๆเพราะว่าทั้งพิพิธภัณฑ์วาติกันและโบสถ์ St. Peter's Basilica ทั้งกว้างใหญ่และเดินเยอะมาก คำแนะนำที่มีให้ทุกคนคือให้จองตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนไม่งั้นอาจจะไม่ได้ดูเพราะเต็มเร็วมากๆ

เว็บจองตั๋ว
พิพิธภัณฑ์วาติกัน: https://tickets.museivaticani.va/home
ทัวร์ St. Peter's Basilica และบัตรผ่านขึ้นยอดโดม: https://www.getyourguide.com/rome-l33/st-peter-s-basilica-tour-with-dome-climb-and-papal-tombs-t390868/
ร้านอาหารใกล้ๆแนะนำ Margot - Ristorante Prati ปกติไม่แนะนำร้านอาหารแต่ร้านนี้หร่อยจริงแถมพนักงานใจดี ค่าข้าวมีเศษ 1 Euro กว่าๆปัดลงให้ซะงั้น ใช้บัตรจ่ายด้วยนะไม่ใช่ไม่มีเหรียญ เมนูแนะนำสปาเก็ตตี้เส้นดำกับหอยแมลงภู่

การเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑ์นั้นง่ายมากเพราะว่าทางเดินเค้าบังคับว่าทุกคนต้องได้เดินผ่านทุกจุดสำคัญ ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าจะหาภาพวาดหรือรูปปั้นโด่งดังเจอมั้ยเพราะงานศิลปะมันแน่นไปหมด ควรให้เวลากับที่นี่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงไปเลยครับเพราะยาวมากๆ

ทัวร์ที่จองมาเค้าบอกว่ารวมอาหารเช้าด้วย แต่ที่ไม่ได้คาดไว้คือที่กินข้าวจะสวยงามข้างๆสนามหญ้าในรูปด้านบน เป็นขนมปังไข่เบคอนไส้กรอกทั่วไปแต่บรรยากาศดี

พอกินข้าวแล้วทางเข้าอยู่ใกล้ๆ ด้านในการจัดแสดงมีงานศิลปะหลายประเภท เช่นรูปสลักหินอ่อน ภาพวาด โมเสก ภาพปัก แบบอะไรที่ทำเป็นงานศิลปะได้เค้ามีหมด ห้องแรกเลยเป็นห้องที่มีรูปแกะสลักเรียงเป็นตับแบบนี้

คือผมก็ไม่รู้ว่างานชิ้นไหนโด่งดังบ้างแต่รูปสลักทั้งหมดที่เห็นมหัศจรรย์มาก คือทำยังไงให้หินมันดูอ่อนนุ่มพริ้วเหมือนเสื้อผ้าขนาดนั้น แล้วรายละเอียดของอวัยวะร่างกายของหุ่นมันดูแล้วเหมือนคนมาก อย่างเช่นรูปสลักนี้ชื่อว่า The Laocoon Statue ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมานานกว่า 2,000 ปี โชว์ทั้งฝีมือความประณีตและความรู้ด้าน anatomy หรือกายวิภาคของมนุษย์เป็นอย่างดีทั้งกล้ามเนื้อเส้นเลือดเส้นเอ็นสมจริงม๊าก

คือมาเดินเที่ยว Vatican Museum นี่ต้องเตรียมปวดคอไว้เลยเพราะไม่ว่าจะเป็นกำแพงหรือเพดานมันต้องมีภาพวาดงานศิลปะวิจิตรงดงามตลอดเวลา คือตรงไหนเป็นฝากำแพงโล่งๆนี่ต้องรีบไปหาคนมาวาด

แล้วความบ้าคลั่งคือบางทีที่เห็นบนเพดานมันเหมือนเป็นงานปั้นนูนต่ำเนี่ย จริงๆเป็นภาพวาด 2 มิตินี่แหละแต่ว่าวาดออกมาแล้วมันดู 3D มากจนเหมือนเป็นการปั้นนูนออกมา สุดยอดฝีมือจริงๆ

ตามเส้นทางเค้าก็จะมีจัดแสดงวัตถุโบราณแสดงอยู่ด้วยแต่ว่าถ้าไม่สังเกตดีๆอาจจะมองข้ามไปเพราะนักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เช่นไหในรูปเห็นบ่อยมากในหนังย้อนยุคโรมันกรีกโบราณต่างๆ วันนี้ได้เห็นของจริงด้วยนะ

อีกสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็นคืองานปักผ้าผืนใหญ่มาก ขนาดดูใกล้ๆก็ยังมีรายละเอียดทั้งผมและหนวดขนาดนี้ แล้วดูที่เพดานนั้นเป็นภาพวาด 2 มิติหมดเลยแต่มันนูนออกมาจริงๆนะ


กลับมาปวดคอต่อที่โถงทางเดินนี้ ไม่ต้องถามทำไมปวด บนเพดานมีภาพวาดน่าจะหลายร้อยรูปติดอยู่เห็นแล้วถึงกับอึ้ง จริงๆห้องนี้มีชื่อว่า Halll of Maps หรือห้องโถงแผนที่ กำแพงสองข้างจะเป็นภาพวาดแผนที่อิตาลีที่วาดตั้งแต่นานมาแล้วในอดีตและมีแผนที่ที่ใหม่กว่าเรื่อยมาทำให้เห็นว่าการแบ่งประเทศสาธารณรัฐเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยยังไงบ้าง แต่เพดานนี้มาดึงความสนใจไปหมด

ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ภาพวาดบนผนังเพดานก็ยิ่งอลังมากขึ้นไปอีก อย่างภาพวาดใหญ่เท่ากำแพงตึก 3 ชั้นรอบด้านแบบนี้ก็มี
ชื่อสินค้า:   Rome, Vatican, Italy
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่