กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี
วันนี้ออกนอกฝรั่งเศสกันอีกแล้ว พากันไปเที่ยวกรุงโรม เพื่อช่วยให้การเที่ยวโรมนั้นง่ายขึ้นเราขอเสนอแผนการท่องเที่ยวฉบับ 2 วันให้ทุกคนได้ลองไปปรับใช้กันดู น่าจะช่วยให้ทริปโรมนั้นแพลนง่ายขึ้น ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่าระบบขนส่งของโรมนั้นจะไม่ค่อยตรงเวลาสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะรถบัส ดังนั้นเนี่ยเราขอแนะนำให้เตรียมรองเท้าผ้าใบแบบอึดๆ เพื่อมาสู้กับทริปนี้ ชาร์แบตมือถือให้พร้อมเพื่อGoogle Maps
ถึงแม้ว่าระบบขนส่งสาธารณะอาจจะไม่ค่อยตรงเวลาแต่ก็อยากให้ทุกคนทำความรู้จักกับตั๋วของเขาไว้สักหน่อย เพราะว่าในการเดินทางบางครั้งเราก็ยังต้องพึ่งเขาอยู่ ในกรุงโรมเนี่ย มีทั้งรถบัสส รถทรัม และรถไฟใต้ดินค่ะ โดยทั่วไปแล้วตั๋วที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวก็มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ
1. Single Ticket - หรือตั๋วเที่ยวเดียว ราคา 1.50 ยูโร โดยตั๋วชนิดนี้จะมีอายุอยู่ได้ 100 นาทีหลังจากการ validate ตั๋วครั้งแรก ภายในช่วง 100 นาทีนี้ สามารถเปลี่ยนรถได้ไม่จำกัดเลย จะไปบัส ต่อทรัม ต่อเมโทร ก็ตามสบายเลย
2. Pass for 1 day, 2 days, 7 days - ราคาของแต่ละชนิดจะต่างกันไป เริ่มต้นที่ 7 ยูโร สามารถใช้ได้กับรถสาธารณะทุกประเภทภายในระยะเวลาของตั๋วที่เราเลือกซื้อ
เรียบร้อยสำหรับเรื่องของตั๋วรถในกรุงโรม ไปเริ่มดูกันเลยว่าแพลนเที่ยวใน 2 วันในโรมนั้นมีอะไรบ้าง
วันที่ 1 - เก็บแลนด์มาร์กกรุงโรม
1. COLOSSEUM - สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่นี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน เพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันระหว่างนักรบและสัตว์ดุร้าย พื้นที่ด้านในจุผู้ชมได้ถึง 40,000 - 70,000 คน นอกจากนี้ภายในยังมีการแบ่งแยกบริเวณที่นั่งชมแยกตามชนชั้นอีกด้วย
เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจในโคลอสเซียมกันค่อนข้างมาก เราขอแนะนำให้สำรองตั๋วมาล่วงหน้าเพื่อการเข้าชมที่สะดวกมากขึ้น ขนาดมีตั๋วมาแล้วก็อาจจะยังต้องรอคิวกันยาวสักหน่อย ถ้าเดินไปถึงด้านหน้าเเล้วพบกับแถวยาวก็แนะนำให้สูดหายใจเข้าลึกๆ อดทนค่ะ
ที่อยู่ : Piazza del Colosso, 1, Rome
เวลาเปิด - ปิด :
วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคมถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 08:30-16:30
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 15 มีนาคม 08:30-17:00
วันที่ 16 มีนาคมถึงวันเสาร์สุดท้ายอขงเดือนมีนาคม 08:30-17:30
วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมถึงวันที่ 31 สิงหาคม 08:30-19:15
วันที่ 1 กันยายนถึงวันที่ 30 กันยายน 08:30-19:00
วันที่ 1 ตุลาคมถึงวันเสาร์สุดท้ายของเดือนตุลาคม 08:30-18:30
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 12 ยูโร, พลเมืองยุโรปอายุระหว่าง 18-25 ปี 7.50 ยูโร, อายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรี, เปิดให้เข้าฟรีทุกวันอาทิตย์, ค่าธรรมเนียมในการจองตัวออนไลน์ 2 ยูโร
2. PIAZZA VENEZIA - จัตุรัสเวเนเซีย ใจกลางกรุงโรมใกล้กับอนุเสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 และ Venetian Palace จัตุรัสเเห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของประเทศอิตาลี โดยมีพระเจ้าวิคเนอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่มีส่วนร่วมในการรวมประเทศ ภายในอาคาร
ที่อยู่ : Piazza Venezia, Rome
3. CAMPIDOGLIO - เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะได้พบกับจัตุรัสคัมปิโลยิโอ (Campidoglio) ซึ่งออกแบบโดยไมเคิลแองเจโล เมื่อเดินไปเรื่อยๆจนสุดบันไดก็จะได้พบกับรูปปั้นของฝาแฝด Dioscuri ตั้งอยู่ ทั้งสองเป็นผู้ที่เอาชนะผู้บุกรุกในสมันโรมันโบราณ (Roman Republic)
ที่อยู่ : Piazza del Campidoglio, Rome
4. AI TRE SCALLINI - เดินจนเหนื่อยแล้วก็ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน แน่นอนว่ามาถึงอิตาลีก็ไม่ควรพลาดเมนูพาสต้าต่างๆ ร้านนี้มีลาซันญ่าและราวิโอลีเป็นจานซิกเนเจอร์ อาหารเรียกน้ำย่อยที่อยากแนะนำให้ลอง คือ Caprese Salad ที่มีมะเขือเทศและมอสซาเรลล่าชีส ช่วยเพิ่มความสดชื่นหลังจากการเดินเที่ยว
ที่อยู่ : Via Panisperna, 251, Rome
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 12:00-01:00
5. ถนนชอปปิ้ง VIA DEL CORSO - ถนนสายนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเดินเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ต่างๆ นอกจากนี้ถนนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ถนนสายนี้เป็นเส้นทางลากยาวจากจัตุรัสเวเนเซียไปถึงจัตุรัสโปโปโล
6. TREVI FOUNTAIN - น้ำพุเทรวี น้ำพุที่สวยที่สุดในกรุงโรม ความสวยงามของน้ำพุเเห่งนี้ก็คงต้องพูดถึงรูปปั้นแกะสลักหินเป็นเทพโพไซดอน เจ้าแห่งสมุทรที่ตั้งอยู่ตรงกลาง รูปแกะสลักนี้เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหินก้อนใหญ่เพียงหนึ่งก้อน เป็นการสร้างสรรค์ผลงานตามสไตล์บาโรก (Baroque) ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18
เราเก็บรูปมาให้ดูทั้งกลางวันกลางคืนเลยนะ สวยคนละแบบ
อีอย่าง หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวความเชื่อของการโยนเหรียญที่น้ำพุแห่งนี้ มาทบทวนกันหน่อย เขาบอกว่าถ้าโยนเหรียญด้วยมือความ ผ่านไหล่ซ้าย จะทำให้ได้กลับมาที่น้ำพุแห่งนี้อีกครั้ง แต่ก็มีอีกความเชื่อว่าเหรีญญแรกจำทำให้คุณได้กลับมา เหรียญที่สองจะทพให้คุณได้พบกับคนรักและรักกันไปตลอดกาล เหรียญที่ 3 จะทำให้คุณและคนที่คุณรักต้องพรากจากกัน เพราะฉะนั้นเช็คให้แน่ใจก่อนโยนนะจ๊ะ
ที่อยู่ : Piazza di Trevi, Rome
7. PANTHEON - มหาวิหารนี้มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับมหาวิหารโรมันและมีรูปปั้นของนักบุญนิกายคาทอลิกมากมายตั้งอยู่ ไฮไลท์ของมาหาวิหารนี้คือโดมสูง แต่ที่น่าแปลก คือ โดมแห่งนี้ไม่ได้มีเสาตั้งค้ำใดๆ และก็เป็นเวลากว่า 2,000 ปีแล้วที่มีการสร้างโดมแห่งนี้ขึ้นมา แต่ก็ดูว่าไม่มีทีท่าของความเสื่อมสภาพเลยแม้แต่น้อย ในวันที่แดดออก แสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านหลังคาโดมได้อย่างมหัศจรรย์ หากเเต่ว่าในวันที่ฝนตกกลับไม่มีน้ำฝนรั่วลงมาเลยแม้แต่หยดเดีถึงแม้ว่ารู้ที่หลังคาจะทำให้น้ำฝนเข้ามาในหลังคา แต่น่าจะเป็นเพราะการก่อสร้างที่ทำให้น้ำฝนระเหยออกไปเสียก่อนที่จะทะลุเข้าไปด้านใน เเละก็อาจจะเป็นเรื่องของความดันอากาศที่เข้ามามีส่วนช่วยให้น้ำฝนระเหยไป
ที่อยู่ : Piazza della Rotonda, Rome
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00 - 19:30 วันอาทิตย์ 09:00-18:00
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
8. คาเฟ่ TAZZA D'ORO - คนอิตาเลียนกับการดื่มกาแฟคือเรื่องที่ไม่น่าจะเเยกออกจากันได้ คาเฟ่ดังๆ 3 อันดับแรกที่เป็ยนที่นิยมในอิตาลี คือ Antico Caffe Greco ใกล้กับบันไดสเปน, คาเฟ่ Sant Eustachio ไม่ไกลจาก Pantheon และคาเฟ่ Tazza D'oro ซึ่งตั้งอยู่ข้าง Pantheon
ร้านกาเเฟ Tazza D'oro คั่วกาแฟสดใหม่ทุกเช้า โดยทางร้านใช้เมล็ดกาแฟจากอเมริกาใต้ แนะนำว่าเมนูที่ไม่ควรพลาด คือ ลาเต้ แต่ถ้าใครอยากลองกาแฟสไตล์อิตาเลียนก็คงจะหนีไม้พ้นเอสเพรสโซ่ ส่วนถ้าใครไปเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ก็ขอแนะนำให้ลองกาแฟเย็นกรานิต้า ซึ่งเป็นการเอาครีมสดมาวางไว้บนเอสเพรสโซ่เย็น รสชาติก็จะเป็นครีมสดหวานๆผสมกัมเอสเพรสโซ่ที่มีความขม
ที่อยู่ : Via degli Orfani, 84, Rome
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 07:00-20:00 วันอาทิตย์ 10:30-19:15
9. PIAZZA NAVONA - เป็นลานจัตุรัสที่มีความครึกครื้นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่เรียงราย เหล่าศิลปินที่มาทำการแสดงเปิดหมวก โดยบนจัตุรัสแห่งนี้มีน้ำพุตั้งอยู่ 3 ที่ด้วยกัน นั่นคือ น้ำพุ Nettuno น้ำพุ Fiumi น้ำพุ Moro
นอกจากความครึกครื้นบนจัตุรัสแล้ว การเดินเข้าไปชมโบสถ์ Sant'Agnese In Agone ก็ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้ โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์สไตล์บโรก สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยที่ตั้งของโบสถ์หน้าจัตุรัสนาโวนาแห่งนี้เป็นที่ที่นักบุญAgnese หนึ่งในสี่ของนักบุญหญิงชาวคริสเตียนที่ถูกเปลือยกายและมัดเอาไว้โดยผู้ที่ต้องการกำจัดเธอ ตอนนั้นเกิดเรื่องมหัศจจรย์ขึ้น คือ จู่ๆผลของเธอก็ยืดยาวออกมาเพื่อปกคลุมร่างกายของเธอจนมิดชิด เพื่อปกป้องเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอ
ที่อยู่ : Piazza Navona, Rome
10. ร้านอาหาร CANTINA E CUCINA - ตั้งอยู่ห่างจากจัตุรัสนาโวนาด้วยระยะการเดินเท้าเพียง 3 นาที มื้อนี้อาจจะต้องรอกันนานหน่อย แต่หากอยากหลีกเลี่ยงฝูงชน เราขอแนะนำให้ไปที่ร้านตั้งแต่ช่วง 18:00-19:00 เพราะเป็นช่วงที่ดินเนอร์ของชาวอิตาเลียนนั้นยังไม่เริ่มต้น
ที่อยู่ : Via del Governo Vecchio, 87, Rome
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11:00-01:00
สิ้นสุดไปแล้วสำหรับวันแรกในโรมนอนก่อน แล้วมาดูกันว่าวันที่สองจะเป็นยังไงต่อ
ไกด์บุ๊คเที่ยวโรม - 2 วันในกรุงโรม