สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะเชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ
https://www.nopeopletravelphoto.com/
ตอนนี้เป็นตอนที่ 3 นะครับ ตอนอื่นๆดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ตอน 1 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/rome_vatican_city_2022
ตอน 2 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/florence_cinque_terre_2022
ตอน 4 -
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/dolomites_2022
เดือนที่เดินทาง - กรกฎาคม 2022
ตอนนี้ขอรวมไว้เลย 4 ที่เที่ยวใกล้ๆมิลานโดยเราจะขับรถไปเรื่อยๆจนไปสุดที่เวนิซ มาถึงจุดนี้วางแผนเที่ยวยากมากเพราะที่ไหนๆก็สวย สุดท้ายตัดใจเลือกไปตามนี้เลยครับ
- มิลาน 1 คืน
- ทะเลสาบโคโม 1 คืน
- ทะเลสาบการ์ดา 1 คืน
- เทือกเขาโดโลไมท์ 4 คืน (ขอยกไปตอนหน้าให้ดูกันเต็มๆ)
- เวนิซ 2 คืน
Day 7 - มิลาน (Milan)
Milan อยู่ไม่ไกลจาก La Spezia เท่าไหร่ขับรถแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง เห็นเจ้าถิ่นขับเร็วต้องคอยเตือนตัวเองว่าเราไม่รีบนะ ที่มิลานนี้ผมก็ถือว่าเป็นเมืองทางผ่านเฉยๆสำหรับไปต่อที่อื่น มาถึงก็เช็คอินก่อนโรงแรม NYX MILAN ราคาพอรับไหวห้องดีเตียงนอนหลับสบาย โลเคชั่นก็อยู่หน้าสถานีรถไฟ Milano Centrale ไปเที่ยวในเมืองสะดวกมาก
อยู่นี่คืนเดียวผมว่าพอแล้วครับเพราะที่เที่ยวดูเหมือนมีแค่แถว Piazza Duomo ถ้าต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ Duomo เฉยๆไม่มีค่าเข้านะครับแต่กิจกรรมที่ควรทำคือขึ้นไปเดินบนหลังคาโบสถ์ที่มียอดแหลมๆเป็นรูปปั้นอยู่มากถึง 3,400 ตัวด้วยกัน แนะนำจองตั๋วไปล่วงหน้าเหมือนเดิมโดยตั๋วมีทั้งแบบเดินขึ้น 250 ขั้นกับขึ้นลิฟท์ เลือกตามสังขารได้เลยจ้า
เว็บซื้อตั๋ว:
https://ticket.duomomilano.it/en/
ก่อนอื่นไปเที่ยวด้านในกันก่อน ด้านในมีกระจกสีเยอะแยะสวยดีครับ เวลาแดดส่องเข้ามามันจะมีสีสาดลงมาที่เสากำแพงด้วย
พอดูข้างในแล้วให้กลับออกมาทางเดิมแล้วเดินไปด้านหลังโบสถ์ทางซ้ายจะมีทางเข้าสำหรับขึ้นไปหลังคาแบบเดิน แบบลิฟท์ให้เดินต่อไปอีกหน่อยจนถึงก๊อกน้ำสาธารณะ ถึงแล้วก็จะเห็นเสามากมายซ้อนๆกันแบบนี้เลย
เดินไปบนยอดสุดจะอยู่กลางหลังคาเลย ที่ยุโรปนี่ดีครับ เก็บเงินค่าขึ้นไม่ต้องกังวลว่าคนจะมาเดินค้ำหัวพระเจ้า ได้เงินไปบำรุงบูรณะสถานที่ เค้าบอกว่ายอดเสาต่างๆนี่มันเปราะบางมากจนต้องซ่อมกันตลอดเวลาจนให้คนทั่วไปมีโอกาสให้เป็นเจ้าของยอดเสาด้วยการบริจาคเงิน คล้ายๆทำบุญกระเบื้องหลังคาโบสถ์บ้านเราเลยเนอะ
ขาลงจากหลังคาจะต้องผ่านด้านในโบสถ์อีกทีเดินผ่านรูปสลักของ St. Bartholomew หน้าตาน่ากลัวนี้ด้วย รูปสลักนี้คือตอนที่นักบุญสาวกพระเยซูคนนี้ถูกจับถลกหนังทั้งเป็นตามตำนาน ชีวิตมันโหดร้าย
หลังจากออกมาจากโบสถ์แนะนำให้เดินต่อไปที่ร้านเจลาโต้ Vanilla Gelati Italiani ร้านนี้หร่อยมากจนกลับมาเบิ้ล 2 รอบ เขินเลย ด้านข้างโบสถ์เป็น Galleria Vittorio Emanuele II ห้างที่เก่าที่สุดของอิตาลีแล้วสวยโคตร
ปิดลงที่ภาพถ่ายตอนเย็นที่เดิม Piazza Duomo คนเยอะมากเลยต้องใช้ long exposure เบลอคนจะได้ไม่ยุ่งเหยิงมาก
ท้องฟ้าเหมือนพึ่ง 1 ทุ่มแต่ว่ามัน 4 ทุ่มแล้ว กลับไปนอนอย่างไวเพราะวันรุ่งขึ้นจะวาร์ปไปโผล่ Lake Como กัน ตื่นเต้นแล้ว
Day 8 - ทะเลสาบโคโม (Lake Como)
สวัสดี Lake Como คงเป็นสถานที่ที่ใครๆก็ต้องคิดถึงถ้ามาอิตาลีเหนือ ขับรถจากมิลานแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับคนขับรถอาจจะต้องชำนาญนิดนึงเพราะว่าเป็นทางบนเขาเยอะมากช่วงใกล้ๆถึงทะเลสาบและบางช่วงโคตรแคบ โชคดีขานี้เราไม่ได้ขับเพราะเป็นหน้าที่ของภรรยา วิวข้างทางสวยมากจริงๆเหมือนได้มาดาวนาบู ติ่งสตาร์วอร์สต้องมาให้ได้
โดยคืนนี้เราจะพักที่เมือง Lenno ที่อยู่ตรงข้ามฝั่งน้ำกับเมือง Bellagio ที่เป็นเมืองที่คนไปเที่ยวเยอะสุดละ พอเอาของเข้าที่พักเอารถจอดแล้วก็เดินไปที่ท่าเรือ Lenno เป็นบริการเรือสาธารณะไปตามเมืองต่างๆรอบๆทะเลสาบ ตอนแรกก็ขับรถมาอยู่นะครับแต่หาที่จอดไม่ได้เลยต้องขับรถกลับไปเก็บที่ที่พักแล้วเดินกลับมา วันนี้อากาศร้อนมากเพราะว่ามี heatwave พอดี ปาเข้าไป 36 องศาเซลเซียส
น้ำสวยมากเลยขนาดอยู่ติดกับท่าเรือ เห็นน้ำแล้วอยากโดดลงไปให้มันหายร้อน น้ำในทะเลสาบเย็นมากครับเพราะเป็นน้ำจากภูเขาเกิดจากหิมะที่ละลายไหลมารวมกันเป็นทะเลสาบ
เวลาเดินเรือแนะนำให้ศึกษาให้ดีๆเพราะมันสับสนง่าย ตารางสามารถหาดูได้ที่ท่าเรือเลยครับเพราะว่าตารางบนเว็บบอกไม่ละเอียดเอาซะเลย ระหว่างทางก็จะผ่านเมืองต่างๆสวยๆแบบนี้
และอันนี้เองคือ Bellagio เมืองนี้ตั้งอยู่ปลายแหลมกลางทะเลสาบทำให้เห็นได้รอบด้านไปเลย ส่วนในเมืองก็เล็กอาคารบ้านเรือนน่ารักดีสีสันสวยงาม
เกิดมาก็พึ่งเคยเจอ heatwave ตัวเป็นๆก็วันนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงโลกของเราเข้าไปอีกว่าอีกไม่นานคนเราคงออกมาเดินข้างนอกตอนกลางวันไม่ได้แล้วแน่ๆเลยนะ
พอเดินในเมืองแล้ว พักเหนื่อยแล้วเลยมาเดินเล่นต่อแถวท่าเรือ ตรงท่าเรือนี้มองเห็นเมือง Bellagio สวยมากเลย น้ำใสสีสวย
เดินเลยท่าเรือมานิดก็จะมีต้นไม้เรียงเป็นแนวยาวออกดอกสีชมพูเป็นพุ่มเต็มต้นเลย หน้าร้อนมันก็จะสีสดใสประมาณนี้
ที่มาเดินเล่นตรงนี้ก็เพราะจะมารอขึ้นเรือไปต่อเมือง Varenna อีกเมืองที่ศึกษามาว่าสวยมากพอใกล้ถึงเวลาเรือออกก็เดินกลับไปท่าเรือ ปรากฎว่าไม่ได้ดูเวลาเรือให้ดีก่อนคือเรือมันมีขาไปแต่กว่าจะไปถึงไม่มีเรือกลับแล้วจ้า คือบริการรถเรือสาธารณะที่อิตาลีนี่เค้าหวานเย็นพอสมควรปิดเร็วมาก อันนี้พลาดเองไม่ได้ดูให้ดีเลยแห้วอดไป
ยืนทำใจอยู่สองนาทีแล้วยอมรับว่าหมดหนทางเลยตัดสินใจนั่งเรือกลับ Lenno แล้วไปโดดน้ำเล่นก่อนนอนละกัน น้ำเย็นสะใจมากหลังจากร้อนมาทั้งวัน
Day 9
มาเที่ยวทีไรนี่ตื่นเช้าตลอดไม่เหมือนวันทำงาน พอดีที่พักมีระเบียงมองออกไปทางทะเลสาบด้วยเลยโผล่หน้าออกมาดูฟ้าเริ่มสว่างแล้ว มองออกไปจะเห็น Villa del Balbianello ที่เราจะไปกันวันนี้เป็นความตั้งใจที่จะไปให้ได้เพราะความเป็นติ่งสตาร์วอร์ส
Villa del Balbianello อยู่ที่เมือง Lenno เหมือนกันแนะนำให้ไปเช้าหน่อย เค้าเปิดให้เข้าชม 10 โมงเช้าเราไปถึงกันประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วเอารถไปจอดตรงนิ [LINK] ถ้าใครต้องการเดินไปทางเดินเข้าอยู่ตรงที่จอดเลยแต่ถ้าอยากจะแบบซึมซับบรรยากาศเหมือนพัดเม่กับอนาคินก็สามารถไปทางเรือได้ด้วย ท่าเรือเค้าเปิดเวลาเดียวกับวิลล่าให้ไปขึ้นที่ Lido di Lenno ค่าเรืออยู่ที่ 5 Euro สำหรับไปขาเดียวแล้วเดินกลับ หรือไปกลับ 7 Euro ถ้ามาแล้วเรือเต็มก่อนก็รอเค้ากลับมาใหม่ครับ คนขับบอกว่ารอครึ่งชั่วโมงแต่จริงๆไม่ถึงหรอก
เรือเป็นแบบนี้เท่ดีแถมบนเรือมีของเล่นด้วยอยากได้ ระหว่างทางก็จะเห็นวิลล่าจากด้านล่างยังกะอยู่ในหนังแน่ะ
มาถึงแล้วขึ้นท่านี้แล้วก็ต้องซื้อตั๋วค่าเข้าอีกรอบถ้าดูแต่ในสวนค่าเสียหาย 11 Euro แต่ถ้าอยากดูในบ้านเค้าด้วยเพิ่มอีก 22 Euro แต่เรามาติ่งตามหนังเฉยๆดูแต่ในสวนจ้า
ตรงนี้เป็นที่ที่อนาคิน สกายวอล์คเกอร์บอกกับพัดเม่ อมิดาล่าว่า "I don't like sand. It's coarse and rough and irritating and it gets everywhere." กรี๊ดมากได้มาเห็นที่จริงแล้ว
มีคนสุดกว่าคือเอาชุดเจไดมาด้วยนับถือเลยแต่ชุดผิดนะครับหัวหน้า นอกจากระเบียงริมน้ำแล้วก็มีระเบียงที่อยู่ยอดเนินอีกอันที่อนาคินมายืนทำสมาธิเพราะคืนก่อนฝันร้ายเห็นแม่
นอกจากมาติ่งตามหนังแล้วในสวนมันสวยมากครับ ดอกไม้สีแดงสีม่วงเยอะแยะ บนหินบนรั้วกับรูปสลักหินมีมอสเกาะเขียวสดชื่นมาก คนที่ชอบถ่ายรูปถ้าได้มาถ่ายเมมเต็มแน่นอน ถ้ามาที่โคโมห้ามพลาด
[CR] รีวิวพาเที่ยว Road Trip อิตาลีเหนือ ตอนที่ 3 มิลาน (Milan) โคโม (Como) การ์ดา (Garda) เวนิซ (Venice)
สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูแบบเต็มๆไม่มีโลโก้เกะกะเชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวผมได้เลยครับ https://www.nopeopletravelphoto.com/
ตอนนี้เป็นตอนที่ 3 นะครับ ตอนอื่นๆดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ตอน 1 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/rome_vatican_city_2022
ตอน 2 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/florence_cinque_terre_2022
ตอน 4 - https://www.nopeopletravelphoto.com/post/dolomites_2022
เดือนที่เดินทาง - กรกฎาคม 2022
ตอนนี้ขอรวมไว้เลย 4 ที่เที่ยวใกล้ๆมิลานโดยเราจะขับรถไปเรื่อยๆจนไปสุดที่เวนิซ มาถึงจุดนี้วางแผนเที่ยวยากมากเพราะที่ไหนๆก็สวย สุดท้ายตัดใจเลือกไปตามนี้เลยครับ
- มิลาน 1 คืน
- ทะเลสาบโคโม 1 คืน
- ทะเลสาบการ์ดา 1 คืน
- เทือกเขาโดโลไมท์ 4 คืน (ขอยกไปตอนหน้าให้ดูกันเต็มๆ)
- เวนิซ 2 คืน
Day 7 - มิลาน (Milan)
Milan อยู่ไม่ไกลจาก La Spezia เท่าไหร่ขับรถแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง เห็นเจ้าถิ่นขับเร็วต้องคอยเตือนตัวเองว่าเราไม่รีบนะ ที่มิลานนี้ผมก็ถือว่าเป็นเมืองทางผ่านเฉยๆสำหรับไปต่อที่อื่น มาถึงก็เช็คอินก่อนโรงแรม NYX MILAN ราคาพอรับไหวห้องดีเตียงนอนหลับสบาย โลเคชั่นก็อยู่หน้าสถานีรถไฟ Milano Centrale ไปเที่ยวในเมืองสะดวกมาก
อยู่นี่คืนเดียวผมว่าพอแล้วครับเพราะที่เที่ยวดูเหมือนมีแค่แถว Piazza Duomo ถ้าต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ Duomo เฉยๆไม่มีค่าเข้านะครับแต่กิจกรรมที่ควรทำคือขึ้นไปเดินบนหลังคาโบสถ์ที่มียอดแหลมๆเป็นรูปปั้นอยู่มากถึง 3,400 ตัวด้วยกัน แนะนำจองตั๋วไปล่วงหน้าเหมือนเดิมโดยตั๋วมีทั้งแบบเดินขึ้น 250 ขั้นกับขึ้นลิฟท์ เลือกตามสังขารได้เลยจ้า
เว็บซื้อตั๋ว: https://ticket.duomomilano.it/en/
ก่อนอื่นไปเที่ยวด้านในกันก่อน ด้านในมีกระจกสีเยอะแยะสวยดีครับ เวลาแดดส่องเข้ามามันจะมีสีสาดลงมาที่เสากำแพงด้วย
พอดูข้างในแล้วให้กลับออกมาทางเดิมแล้วเดินไปด้านหลังโบสถ์ทางซ้ายจะมีทางเข้าสำหรับขึ้นไปหลังคาแบบเดิน แบบลิฟท์ให้เดินต่อไปอีกหน่อยจนถึงก๊อกน้ำสาธารณะ ถึงแล้วก็จะเห็นเสามากมายซ้อนๆกันแบบนี้เลย
เดินไปบนยอดสุดจะอยู่กลางหลังคาเลย ที่ยุโรปนี่ดีครับ เก็บเงินค่าขึ้นไม่ต้องกังวลว่าคนจะมาเดินค้ำหัวพระเจ้า ได้เงินไปบำรุงบูรณะสถานที่ เค้าบอกว่ายอดเสาต่างๆนี่มันเปราะบางมากจนต้องซ่อมกันตลอดเวลาจนให้คนทั่วไปมีโอกาสให้เป็นเจ้าของยอดเสาด้วยการบริจาคเงิน คล้ายๆทำบุญกระเบื้องหลังคาโบสถ์บ้านเราเลยเนอะ
ขาลงจากหลังคาจะต้องผ่านด้านในโบสถ์อีกทีเดินผ่านรูปสลักของ St. Bartholomew หน้าตาน่ากลัวนี้ด้วย รูปสลักนี้คือตอนที่นักบุญสาวกพระเยซูคนนี้ถูกจับถลกหนังทั้งเป็นตามตำนาน ชีวิตมันโหดร้าย
หลังจากออกมาจากโบสถ์แนะนำให้เดินต่อไปที่ร้านเจลาโต้ Vanilla Gelati Italiani ร้านนี้หร่อยมากจนกลับมาเบิ้ล 2 รอบ เขินเลย ด้านข้างโบสถ์เป็น Galleria Vittorio Emanuele II ห้างที่เก่าที่สุดของอิตาลีแล้วสวยโคตร
ปิดลงที่ภาพถ่ายตอนเย็นที่เดิม Piazza Duomo คนเยอะมากเลยต้องใช้ long exposure เบลอคนจะได้ไม่ยุ่งเหยิงมาก
ท้องฟ้าเหมือนพึ่ง 1 ทุ่มแต่ว่ามัน 4 ทุ่มแล้ว กลับไปนอนอย่างไวเพราะวันรุ่งขึ้นจะวาร์ปไปโผล่ Lake Como กัน ตื่นเต้นแล้ว
Day 8 - ทะเลสาบโคโม (Lake Como)
สวัสดี Lake Como คงเป็นสถานที่ที่ใครๆก็ต้องคิดถึงถ้ามาอิตาลีเหนือ ขับรถจากมิลานแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับคนขับรถอาจจะต้องชำนาญนิดนึงเพราะว่าเป็นทางบนเขาเยอะมากช่วงใกล้ๆถึงทะเลสาบและบางช่วงโคตรแคบ โชคดีขานี้เราไม่ได้ขับเพราะเป็นหน้าที่ของภรรยา วิวข้างทางสวยมากจริงๆเหมือนได้มาดาวนาบู ติ่งสตาร์วอร์สต้องมาให้ได้
โดยคืนนี้เราจะพักที่เมือง Lenno ที่อยู่ตรงข้ามฝั่งน้ำกับเมือง Bellagio ที่เป็นเมืองที่คนไปเที่ยวเยอะสุดละ พอเอาของเข้าที่พักเอารถจอดแล้วก็เดินไปที่ท่าเรือ Lenno เป็นบริการเรือสาธารณะไปตามเมืองต่างๆรอบๆทะเลสาบ ตอนแรกก็ขับรถมาอยู่นะครับแต่หาที่จอดไม่ได้เลยต้องขับรถกลับไปเก็บที่ที่พักแล้วเดินกลับมา วันนี้อากาศร้อนมากเพราะว่ามี heatwave พอดี ปาเข้าไป 36 องศาเซลเซียส
น้ำสวยมากเลยขนาดอยู่ติดกับท่าเรือ เห็นน้ำแล้วอยากโดดลงไปให้มันหายร้อน น้ำในทะเลสาบเย็นมากครับเพราะเป็นน้ำจากภูเขาเกิดจากหิมะที่ละลายไหลมารวมกันเป็นทะเลสาบ
เวลาเดินเรือแนะนำให้ศึกษาให้ดีๆเพราะมันสับสนง่าย ตารางสามารถหาดูได้ที่ท่าเรือเลยครับเพราะว่าตารางบนเว็บบอกไม่ละเอียดเอาซะเลย ระหว่างทางก็จะผ่านเมืองต่างๆสวยๆแบบนี้
และอันนี้เองคือ Bellagio เมืองนี้ตั้งอยู่ปลายแหลมกลางทะเลสาบทำให้เห็นได้รอบด้านไปเลย ส่วนในเมืองก็เล็กอาคารบ้านเรือนน่ารักดีสีสันสวยงาม
เกิดมาก็พึ่งเคยเจอ heatwave ตัวเป็นๆก็วันนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงโลกของเราเข้าไปอีกว่าอีกไม่นานคนเราคงออกมาเดินข้างนอกตอนกลางวันไม่ได้แล้วแน่ๆเลยนะ
พอเดินในเมืองแล้ว พักเหนื่อยแล้วเลยมาเดินเล่นต่อแถวท่าเรือ ตรงท่าเรือนี้มองเห็นเมือง Bellagio สวยมากเลย น้ำใสสีสวย
เดินเลยท่าเรือมานิดก็จะมีต้นไม้เรียงเป็นแนวยาวออกดอกสีชมพูเป็นพุ่มเต็มต้นเลย หน้าร้อนมันก็จะสีสดใสประมาณนี้
ที่มาเดินเล่นตรงนี้ก็เพราะจะมารอขึ้นเรือไปต่อเมือง Varenna อีกเมืองที่ศึกษามาว่าสวยมากพอใกล้ถึงเวลาเรือออกก็เดินกลับไปท่าเรือ ปรากฎว่าไม่ได้ดูเวลาเรือให้ดีก่อนคือเรือมันมีขาไปแต่กว่าจะไปถึงไม่มีเรือกลับแล้วจ้า คือบริการรถเรือสาธารณะที่อิตาลีนี่เค้าหวานเย็นพอสมควรปิดเร็วมาก อันนี้พลาดเองไม่ได้ดูให้ดีเลยแห้วอดไป
ยืนทำใจอยู่สองนาทีแล้วยอมรับว่าหมดหนทางเลยตัดสินใจนั่งเรือกลับ Lenno แล้วไปโดดน้ำเล่นก่อนนอนละกัน น้ำเย็นสะใจมากหลังจากร้อนมาทั้งวัน
Day 9
มาเที่ยวทีไรนี่ตื่นเช้าตลอดไม่เหมือนวันทำงาน พอดีที่พักมีระเบียงมองออกไปทางทะเลสาบด้วยเลยโผล่หน้าออกมาดูฟ้าเริ่มสว่างแล้ว มองออกไปจะเห็น Villa del Balbianello ที่เราจะไปกันวันนี้เป็นความตั้งใจที่จะไปให้ได้เพราะความเป็นติ่งสตาร์วอร์ส
Villa del Balbianello อยู่ที่เมือง Lenno เหมือนกันแนะนำให้ไปเช้าหน่อย เค้าเปิดให้เข้าชม 10 โมงเช้าเราไปถึงกันประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วเอารถไปจอดตรงนิ [LINK] ถ้าใครต้องการเดินไปทางเดินเข้าอยู่ตรงที่จอดเลยแต่ถ้าอยากจะแบบซึมซับบรรยากาศเหมือนพัดเม่กับอนาคินก็สามารถไปทางเรือได้ด้วย ท่าเรือเค้าเปิดเวลาเดียวกับวิลล่าให้ไปขึ้นที่ Lido di Lenno ค่าเรืออยู่ที่ 5 Euro สำหรับไปขาเดียวแล้วเดินกลับ หรือไปกลับ 7 Euro ถ้ามาแล้วเรือเต็มก่อนก็รอเค้ากลับมาใหม่ครับ คนขับบอกว่ารอครึ่งชั่วโมงแต่จริงๆไม่ถึงหรอก
เรือเป็นแบบนี้เท่ดีแถมบนเรือมีของเล่นด้วยอยากได้ ระหว่างทางก็จะเห็นวิลล่าจากด้านล่างยังกะอยู่ในหนังแน่ะ
มาถึงแล้วขึ้นท่านี้แล้วก็ต้องซื้อตั๋วค่าเข้าอีกรอบถ้าดูแต่ในสวนค่าเสียหาย 11 Euro แต่ถ้าอยากดูในบ้านเค้าด้วยเพิ่มอีก 22 Euro แต่เรามาติ่งตามหนังเฉยๆดูแต่ในสวนจ้า
ตรงนี้เป็นที่ที่อนาคิน สกายวอล์คเกอร์บอกกับพัดเม่ อมิดาล่าว่า "I don't like sand. It's coarse and rough and irritating and it gets everywhere." กรี๊ดมากได้มาเห็นที่จริงแล้ว
มีคนสุดกว่าคือเอาชุดเจไดมาด้วยนับถือเลยแต่ชุดผิดนะครับหัวหน้า นอกจากระเบียงริมน้ำแล้วก็มีระเบียงที่อยู่ยอดเนินอีกอันที่อนาคินมายืนทำสมาธิเพราะคืนก่อนฝันร้ายเห็นแม่
นอกจากมาติ่งตามหนังแล้วในสวนมันสวยมากครับ ดอกไม้สีแดงสีม่วงเยอะแยะ บนหินบนรั้วกับรูปสลักหินมีมอสเกาะเขียวสดชื่นมาก คนที่ชอบถ่ายรูปถ้าได้มาถ่ายเมมเต็มแน่นอน ถ้ามาที่โคโมห้ามพลาด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้