[CR] รีวิวเที่ยว Italy โดยละเอียดแบบไม่ง้อทัวร์ 10วัน [ฉบับไม่เน้นพิพิธภัณฑ์] [26 FEB - 07 MAR 19]

กระทู้นี้จะเป็นการรีวิวแผนการท่องเที่ยวแบบละเอียด ฉบับไกด์ตกงาน หรือบริษัททัวร์เจ๊ง!!! กันไปเลย ในสไตล์ #เที่ยวแบบเจม(ชื่อเจ้าของกระทู้) ซึ่งถ้าผู้คนที่รู้จักจะพอทราบว่าเป็นการเที่ยวแบบประหยัด คุมงบ (ประหยัดในที่นี่ไม่ได้หมายถึงเที่ยวแบบเคี่ยวลากดินอะไรแบบนั้น จะเน้นไปทางเที่ยวเชิงคุ้มค่า และการมีไหวพริบในการเลือกจองทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ขนส่งสาธารณะ) จะไม่เป็นฟุ่มเฟือยทริปเด็ดขาดถ้าเลือกได้ (ฮ่าๆ) เพื่อนๆบางคนก็ชอบพูดว่า "เฮ่ย มาเที่ยวทั้งที อย่าไปคิดเรื่องเงินสิวะ " "ผมก็จะสวนกลับไปทันทีว่า ตูไม่รวย ตูต้องคิด ฮาๆๆ 


เริ่มต้นก็ขอเปลือยงบการเงินกับเคล็ดลับคร่าวๆก่อนเลย 

เคล็ดลับที่ 1. ตอนนี้มีสายการบินตรงของประเทศอิตาลีเปิดใหม่ AIRITALY (กทม-มิลาน) (แยกขายโหลดกระเป๋าแบบ Airasia) ราคาจะถูกลงถ้าเราตัดเป็นโหลดกระเป๋าแค่คนเดียว (เริ่มต้น 23โลเท่ากับ 3800บาท ต่อคน-ไปกลับ) ตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 16000บาท ต่อคน ถ้าไม่ซีเรียสประหยัดไปเกือบ 4000บาท แต่อาหารยัง Full board ตามสไตล์บินทางไกล

เคล็ดลับที่ 2. จองโรงแรมล่วงหน้า5-6เดือนเป็นต้นไปจะได้ราคาจะถูกมาก ก่อนคลิกจ่ายตังให้เปิดเวป Hotelscombind.com เปรียบเทียบราคาที่ถูกที่สุดก่อนทุกครั้งแล้วค่อยตัดสินใจจ่าย

เคล็ดลับที่ 3.ปัจุบันการจองโรงแรมจะมีการจองให้เลือกหลายแบบ เช่น แบบจ่ายตังทันที, แบบไปจ่ายที่โรงแรม หรือ แบบสามารถยกเลิกการจองได้ตลอด ให้เราจองโรงแรมแบบต๊ะ!!ไว้ก่อน อ่านไม่ผิดครับ แบบต๊ะ!!ไว้ก่อนจริงๆ (แบบสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลาก่อนเข้าพัก 7วัน) เพื่อขอวีซ่าให้ผ่านก่อน (ใช้เลขบัตรเครดิตค้ำBookingไว้ก่อน) แต่จะราคาแบบนี้จะสูงกว่าราคาแบบ Non Refundable Rate (แบบไม่สามารถยกเลิกได้) ดังนั้นเมื่อขอวีซ่าผ่านแล้ว ให้ยกเลิกการจองโรงแรมที่จองมาทั้งหมด แล้วเปลี่ยนมาเป็นการจองแบบ Non Refundable ในโรงแรมเดิม (หมายเหตุ ถ้าโรงแรมนั้นๆยังไม่เต็ม) เราก็จะได้เงินส่วนต่างพอสมควรคืนมาพอได้เป็นค่าขนม (วีซ่าขอได้ก่อนวันเดินทาง 90วัน) 

เคล็ดลับที่ 4.รถไฟหัวจรวดข้ามเมืองที่อิตาลีถ้าจองล่วงหน้า 3-6เดือนจะมีโปร 9.90 ยูโร[366THB] (จากราคาปกติ 45ยูโร[1667THB]) เลือกหาเอาได้ตามสะดวกที่เวป Trenit.app (ถูกกว่ารถไฟไทยอีก)

เคล็ดลับที่ 5. ที่ยุโรปเขาล้ำกว่าเราไป 10ก้าวแล้ว!! เราสามารถเปรียบเทียบราคารถบัส และรถไฟพร้อมกันได้ทั้งทั่วยุโรป ที่เวป goeuro.com มันจะเด้งขึ้นว่าการเดินทางโดยประเภทรถอะไรราคาถูกที่สุด คล้ายๆกับเวป Skyscanner แต่อันนี้สแกนหา Transportation (ทั้งรถไฟ รถบัส เครื่องบิน เด้งมารวมกันหมด)

เคล็ดลับที่ 6. เวป Rome2rio ยังเป็นเทพมาจุติแห่งการหา Transportaion ที่ดีที่สุด ใช้ได้ทุกประเทศทั่วโลก มีประโยชน์มากมาย แม้กระทั้งเที่ยวในประเทศไทยก็ใช้ได้

เคล็ดลับที่ 7. บริษัท Flixbus ก็ยังคงเป็นบริษัทที่ได้มารตฐานของการจองตั๋วรถบัสทั่วยุโรป และจองล่วงหน้าได้ราคาประหยัด โดยเฉพาะ3-6เดือนเป็นต้นไป และเป็นบริษัทเดียวที่ส่ง Tag กระเป๋ามาให้ลูกค้าปริ้นก่อนขึ้นรถ แถมยังสามารถยกเลิกการจองได้ก่อนเดินทาง30วัน แล้วนำเครดิตนำมาใช้จองในครั้งต่อไป (คืนเป็นเงินไม่ได้)​

🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹🇮🇹
หมายเหตุที่ 1 : งบดังกล่าวยังไม่รวม ค่าอาหาร ค่าเข้าชมโคลอสเซี่ยม 14 ยูโร ค่ารถไฟใต้ดินทุกเมืองครั้งละ 1.50ยูโร ต่อเที่ยว และค่าภาษีเก็บเพิ่มเมืองละ 4ยูโรต่อคนเวลาเข้าพักโรงแรม
หมายเหตุที่ 2 : วางแผนงบการเงินล่วงหน้าสำหรับผมไม่ใช่คนงก!! แต่เป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการโดนฟันหัวแบะของเจ้าถิ่น!!! ให้ได้มากที่สุด
หมายเหตุที่ 3 : ค่าวีซ่าเชงเก้น 2850 บาทต่อคน
หมายเหตุที่ 4 : สกุลเงินในตารางเป็นหน่วย(บาท)


แผนการท่องเที่ยวคร่าวๆครับ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์และทรงผม)  
TIP : ทำแผนออกมาสวยๆและละเอียดไปเลยครับ มีชัยไปกว่าครึ่งในการขอวีซ่า (ความคิดเห็นส่วนตัว)

ใบเสร็จราคาตั๋วเครื่องบิน Air Italy บินตรง !! ย้ำนะครับว่าบินตรง !! 

เบี้ยประกันมูลค่าสูงสุด 2 ล้านบาทตามกำหนดของสถานทูตระบุไว้ จ่ายเพียงคนละ 540 บาท

ส่วนรายละเอียดในการขอวีซ่ามีเพื่อนๆรีวิวไว้เพียบเลยครับ
https://ppantip.com/topic/38102728
แค่อัพเดจเปลี่ยนแปลงปัจุบันอยู่ไม่กี่อย่าง
1.VFS อิตาลีย้ายจากสีลมมาตึกจามจุรีสแควร์แล้ว 
2.ไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านในการยืนแล้วครับ 
3.ราคาวีซ่าอิตาลีถ้าไปรับด้วยตัวเองอยู่ที่คนละ 2850 บาท 

และแล้วเราก็มา ออกเดินทางสุวรรณภูมิแต่เช้าตรู่กันเลย !!!

และก็เป็นบัสเกตเช่นเคย สงสัยสายการบินใหม่ยังคงต้องเป็นแบบนี้อยู่ (เฮ่ย เราบินตรง 12ชม.นะเฟ่ย เป็นบัสเกตได้ไงฟะ ไม่หรูเลย อิอิ) 

มาๆมาดูหนังซัก 18 เรื่องก่อนถึงกันดีกว่า 

เมื่อเครื่องบินสูงได้ที่ ต่อมาก็คือเวลาของ Breakfast จ้า เมนูเช้าวันนี้มีแค่ 2ตัวเลือกคือ ออมเล็ต กับ ผัดซีอิ้ว (ผมเลือกออมเล็ต แฟนเลือกผัดซีอิ้ว แชร์กัน)

อือหือ ....กว่าจะถึง ไกลและนานโครต 

ก่อนเครื่องจะลง มีเสริฟอีก1มื้อจ้า (จริงๆแล้วระหว่างบิน มีของว่างอีก 1มื้อ รวมๆแล้วเป็น 3มื้อ) 

ผ่านตม.อิตาลีอย่างสบายใจ ผมโดนซักถามนิดหน่อย ว่ามาทำอะไรมากับใคร ไปเที่ยวไหนบ้าง แต่แฟนผมไม่โดนถามอะไรเลย ตม.เขากวนๆอีกว่ามาฮันนีมูนรึ ? ผมก็ตอบไปว่า Something like that !! 555
ตัดภาพมาที่ !! มารอรับกระเป๋ากัน 
TIP : สายการบิน Air Italy จะจอดTerminal 1ครับ  

และแล้วก็ออกมาจากเกตสนามบิน ตามล่าหาซิม Italy กัน 
ส่วนตัวแล้วผมไม่เปิดโรมมิ่งมาจากไทยนะครับ มาซื้อซิมเองเอาง่ายและถูกกว่า ผมเลือกซื้อซิมค่าย Vodafone นะครับ สนนราคาอยู่ที่ 30ยูโร ใช้งานได้ 8GB โทร 500นาที (เอาไปทำบ้าไร 500นาที มาอยู่แค่ 10วันเอง 555) ประเด็นที่เด็ดคือมันใช้ได้2ซิมใน1เบอร์ครับ (คือได้ตัวซิมมาใส่2อัน แบ่งซิมกันกับแฟนกันใช้คนละเครื่องได้เลย) แต่อีกเครื่องต้องรอ3ชม.ค่อยเปิดใช้งานนะครับ เจ้าหน้าที่บอกมา ไม่งั้นมันจะไม่ทำงาน 

ส่วนการนั่งรถเข้าเมือง ผมจอง Shuttle Bus ของ Milan Malpansa มา สนนราคาอยู่ที่ 7 ยูโรต่อคนต่อเที่ยว ผมจองไปกลับมาเลยเสร็จสรรพ (ประหยัดไปได้4ยูโร) 
TIP:คือ Shuttle Bus นี้ จะไม่เหมือนใครตรงที่ว่ารถจะมีทุกๆ 24ชม.แบ่งรอบจองออกเป็น Part เช่นรอบ 06.00-12.00น. รอบ12.00-18.00 รอบ18.00-24.00 และรอบ24.00-06.00 ดังนั้นเวลาเราจองเราแค่เลือกเวลาไฟล์ทเราลงกะให้ตรงกับรอบๆนั้นๆใน6ชมก็เป็นพอ ป้องกันการไฟล์ทดีเลย์ได้ดีเลยและประหยัดกว่าการนั่งรถไฟเข้าเมืองไปได้หลายยูโรอย่างของผมไฟล์ทจริงกำหนดลง14.20 แต่ลงจริงเกือบบ่าย3 ผมจองรอบ12.00-18.00ก็ไม่มีปัญหา แต่ควรปริ๊นกระดาษไปให้นายตั๋วฉีกนะ ใช้เวลาถึงตัวเมืองมิลานประมาณ 1ชม.นิดๆ

ภาพประกอบแผนที่ระหว่างสนามบินถึงใจกลางเมืองมิลาน 

ตามกำหนดการที่แพลนไว้ของผมคือ ถึงมิลานปุ้บ จะนำกระเป๋าไปฝากที่โรงแรม ClubHotel ตรงย่านสถานีรถไฟมิลาน ที่จองมากับ BAG BNB สนนฝากใบละ 5ยูโร (24ชม.) เข้า Lobby มาถึงก็ยื่นใบที่ปริ้นมาเลยจ้า 
เพื่อที่จะไปเดินเล่นปราสาท Duomo กลางเมืองมิลานแบบตัวปลิวกัน แต่เผอิญ!! ไฟล์ทดีเลย์ ทุกอย่างเลยคลาดเคลื่อนไปหมด มาถึงมิลานก็ค่ำซะแล้ว แถมรถไฟที่จองไปกรุงโรมก็เวลา 21.20นาที กลายเป็นฝากกระเป๋าไปประมาณ 2ชมเอง 

หน้าตาของตั๋วรถไฟใต้ดินต่อเที่ยว ต่อคนครับ 1.5ยูโร (สำหรับผมไม่มีหรอกครับบัตร Italy Pass ,Milan Pass ,Roma Pass กินเงินผมไม่ได้แน่นอน ฮาๆๆๆ) 

แผนที่รถไฟฟ้าในกรุงมิลานครับ พอให้งงเป็นสังเขป 

นั่งรถไฟใต้ดินมาสักครู่จาก Milano Centrale เลือกลงสถานี Duomo ขึ้นจากสถานีมาโผล่หัวก็เป็น Duomo De Milano เลยครับ โอโห !!! ขนาดมาถึงค่ำแล้ว ยังอลังการขนาดนี้ 

วิจิตรการตามาก ....

เดินมุ่งหน้าไป Gallerria Vitorio Emmanuelle กันต่อ

ข้างในก็สวยงามตามแบบที่เขาว่าไว้ 

ปิดท้ายก่อนกลับไปที่สถานีรถไฟมิลาน เพื่อไปลุยกรุงโรมกันต่อ (คืนแรกนอนบนรถไฟจ้า ZzzZ) 

ถึง Milano Centrale แวะเอากระเป๋าที่ฝากที่โรงแรมคืน
(เหมือนลุง รีเซฟชั่นจะงงว่า เอ้ะ !! ทำไมมันฝากแปบเดียว)
แว้ปมาส่องชานชาลารถไฟกันหน่อยเดี๋ยวหลง !! 
รถไฟที่ผมนั่งจะเป็น Milan - Genoa 1ชม. และก็ Genoa - Rome อีก 6ชม. นั่ง 2ต่อ 

โอ้ว..ได้เหมือนห้องส่วนตัวเลย 

นั่งไปสัก 3 ชม.ก็มีคนมานั่งด้วย ว้าาา นึกว่าจะไปไพรเวทซะแล้ว
TIP : สนนราคารถไฟ Milan - Rome ต่อคนเท่ากับ 751 บาท โอ้วมายก้อด .....

ถึงกรุงโรมกันแล้ว.... นี่หรือเมืองหลวงอันเลื่องชื่อ 
TIP : รถไฟมาจอดที่สถานี Roma Ostiense ต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปต่อที่ Roma Termini ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้โรงแรมและต่อไปเมือง Florence เราเลยเลือกที่พักที่นี่ 

แผนที่ จาก Roma Ostiense ไปที่ Roma Termini เพื่อไปพักที่โรงแรมระแวกนั้น

จัดแซนวิส+กาแฟมื้อแรกที่อิตาลีในชีวิต รสชาติอร่อยดี พอแก้หนาวได้ 
คนอิตาลีจะสั่งกาแฟและกระดกกินมันตรงเคาเตอร์เลย ไม่ต้องไปนั่งโต๊ะเป็นพิธีให้เสียเวลา เหมือนบ้านเรากระดกเครื่องดื่มชูกำลังยังไงอย่างนั้น 

ร้านโชว์ห่วยที่สุดแสนคลาสสิคในกรุงโรม 
แพลนวันนี้หลวมๆคือ ลุยนครวาติกัน กับ เซนแองโล่
ชื่อสินค้า:   Milan - Rome - Florence - La Spezia - Pisa - Venice - Lecco - Milan
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่