แม่หนูเป็นมะเร็งเต้านมมา 13 ปี หมอแจ้งว่าเป็นระยะ 2A ยังไม่แพร่กระจายไปที่อื่น เข้าพบหมอตามนัดทุกๆ3 เดือน มีการตรวจเลือดหาค่ามะเร็ง เอ๊กปอด แสกนมวลกระดูก ทุกปี จนทุกอย่างปกติหมอจึงให้หยุดยารักษามะเร็ง เนื่องจากกินต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้กระดูกพรุน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 แม่ได้ทำการผ่าตัดเต้านมครั้งที่ 3 ที่แผลเดิม เนื่องจากหมอสงสัยว่ามะเร็งจะเกิดขึ้นที่เดิม พอหมอนัดฟังผลปรากฎว่าไม่ใช่มะเร็ง หลังจากนั้นประมาณสองเดือน แม่มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ฉี่เหลือง คันตามผิวหนัง วันที่ 12 สิงหาคม 2565 จึงได้พาแม่ไปทำ CT Scan ผลออกมาคือมีเนื้องงอกอุดตันท่อน้ำดี หมอ
บอกว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ค่าตับสูง ค่าเลือดผิดปกติ มีจุดที่ตับ จึงได้ทำการใส่ขดลวดระบายให้หายเหลือง แต่แม่ไม่ยอมตัดชิ้นเนื้อตับไปตรวจ เพราะหมอแจ้งแม่ว่ามะเร็งได้แพร่กระจายไปที่ตับ ผ่าไม่ได้ให้ได้แค่คีโม ทำให้แม่ท้อ ร้องไห้ และไม่อยากสู้กับ
คีโมต่อ อีกอย่างคือแผลที่เต้านมยังไม่หายดี และหลังจากใส่ขดลวด แม่เจ็บที่ท้อง และสันหลัง ทางเราจึงปฏิเสธการตัดชิ้นเนื้อตับ หมอไม่ได้ให้ยา หรือนัดเข้าตรวจอีกเลย (แม่เราเคยผ่าตัด เต้านม 3 รอบ คีโม 8 เข็ม สายแสงประมาณร้อยกว่าแสง ผ่าตัดนิ่ว ไส้ติ่ง ผ่าตัดไต ผ่าตัดมดลูกและรังไข่ ผ่าตัดใส่ขดลวด) 
-หนูอยากทราบว่ามีวิธีการดูแลคนป่วยแบบไหนถึงจะอยู่กับเราได้นาน
-สามารถทานอาหารเสริมตัวไหนบ้าง ที่จะพอประคับประครองคนป่วยได้
-แนวทางการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ
-หรือทาง รพ.มียาแบบทานโดยที่ไม่คีโม หรือไม่