✨โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร?✨
โรคมะเร็งปากมดลูก เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูกซึ่งอยู่บริเวณช่วงล่างของมดลูกและเชื่อมต่อกับช่องคลอด โรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human Papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) ซึ่งมักจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์
🔺ลักษณะอาการที่ผิดปกติ🔺
1.มีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
2.เลือดออกกระปริดกระปรอย
3.เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
4.ประจำเดือนมาผิดปกติประจำเดือนมานานขึ้นหรือมากขึ้นผิดปกติ
5.มีเลือดออกหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
6.มีตกขาวผิดปกติ
7.ตกขาวปริมาณมากขึ้น
8.ตกขาวมีกลิ่นเหม็นหรือมีเลือดปน
9.ปวดหน่วงท้องน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
🔹ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก🔹
1.การมีคู่นอนหลายคน หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
2.การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
3.การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆ อย่างเช่น โรคติดเชื้อคลามีเดีย (chlamydia) โรคหนองในแท้ (gonorrhea) โรคซิฟิลิส (syphilis) และโรคติดเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์ (HIV/AIDS)
4.ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะหากระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
5.การสูบบุหรี่
🔸การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก🔸
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ เริ่มจากแนะนำให้ลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน และงดสูบบุหรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV (HPV vaccine) ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกและรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งได้
✳️การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก✳️
1.การผ่าตัด (Surgery)
2.การใช้รังสีรักษา (Radiation)
ข้อมูล:MEDPARK HOSPITAL
มะเร็งเต้านม
โรคมะเร็งปากมดลูก เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูกซึ่งอยู่บริเวณช่วงล่างของมดลูกและเชื่อมต่อกับช่องคลอด โรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human Papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) ซึ่งมักจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์
🔺ลักษณะอาการที่ผิดปกติ🔺
1.มีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
2.เลือดออกกระปริดกระปรอย
3.เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
4.ประจำเดือนมาผิดปกติประจำเดือนมานานขึ้นหรือมากขึ้นผิดปกติ
5.มีเลือดออกหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
6.มีตกขาวผิดปกติ
7.ตกขาวปริมาณมากขึ้น
8.ตกขาวมีกลิ่นเหม็นหรือมีเลือดปน
9.ปวดหน่วงท้องน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
🔹ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก🔹
1.การมีคู่นอนหลายคน หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
2.การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
3.การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆ อย่างเช่น โรคติดเชื้อคลามีเดีย (chlamydia) โรคหนองในแท้ (gonorrhea) โรคซิฟิลิส (syphilis) และโรคติดเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์ (HIV/AIDS)
4.ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะหากระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
5.การสูบบุหรี่
🔸การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก🔸
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ เริ่มจากแนะนำให้ลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน และงดสูบบุหรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV (HPV vaccine) ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกและรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งได้
✳️การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก✳️
1.การผ่าตัด (Surgery)
2.การใช้รังสีรักษา (Radiation)
ข้อมูล:MEDPARK HOSPITAL