HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัส ที่หลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ เพราะการแสดงอาการของโรคอาจเกิดขึ้นหลายปีหลังจากติดเชื้อ โดยผู้ป่วยมักจะมีหูดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) และในผู้หญิงจะมีอาการตกขาวมากกว่าปกติ บางครั้งผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการและเชื้อก็จะหายไปเอง แต่อันตรายจากไวรัสชนิดนี้ คือ เชื้อ HPV บางสายพันธุ์อาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้
หลายคนคงคุ้นชื่อวัคซีน HPV ว่าเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และคิดว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้ แต่จริง ๆ แล้ว เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้หลายชนิด ไม่เพียงแต่มะเร็งปากมดลูกเท่านั้น
พ.ต.ท.นพ.ภาคภูมิ เตชะขะวนิชกุล หน่วยมะเร็งนรีเวช โรงพยาบาลตำรวจ และกรรมการสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก พบหมอเต้ ยืนยันกับ Hfocus ว่า ทุกเพศควรฉีดวัคซีน HPV ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น เพราะไวรัสชนิดนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียว
แต่เป็นสาเหตุของมะเร็งอีกหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง มะเร็งทวารหนักและมะเร็งองคชาตในผู้ชาย รวมถึงมะเร็งช่องปากและลำคอ
ทั้งนี้ เชื้อไวรัส HPV ผู้หญิงเจอเชื้อประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ พบความชุกในช่วงอายุ 20-30 ปี ผู้ชาย 20-30 เปอร์เซ็นต์ พบเชื้อได้ตลอดช่วงชีวิต กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พบสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่มีเชื้อไวรัส HIV ในร่างกาย มักจะเจอเชื้อไวรัส HPV เป็นการติดเชื้อร่วมกันได้สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์
"ส่วนใหญ่แล้วผู้ชายจะไม่ทราบว่าติดเชื้อ HPV จนกว่าจะเกิดการแสดงอาการ แตกต่างจากผู้หญิงที่มักจะมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้ชายจึงเป็นแหล่งเก็บเชื้อแล้วส่งกลับไปให้ผู้หญิง ซึ่งการแพร่เชื้อมักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรือหากเกิดรอยแผลก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะผิวหนังก็เหมือนกับฉนวน หากร่างกายไม่มีบาดแผลก็จะไม่ติดโรค แต่ถ้าเกิดแผลขึ้นมาก็จะส่งต่อเชื้อกันไปมาได้ สำหรับช่วงอายุที่ควรรับวัคซีน HPV ผู้หญิงควรฉีดในช่วงอายุ 9-45 ปี ส่วนผู้ชายควรฉีดในช่วงอายุ 9-26 ปี แต่ฉีดช้ากว่านั้นก็ยังได้ประโยชน์อยู่" พ.ต.ท.นพ.ภาคภูมิ เตชะขะวนิชกุล กล่าว
สำหรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือวัคซีน HPV ควรฉีดทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากอายุ น้อยกว่า 15 ปี ฉีด 2 เข็ม ที่ 0 และ 6-12 เดือน (ดูที่เข็มแรก ถ้าฉีดก่อน 15 ปี ) อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 ,6 เดือน ปัจจุบันมีชนิดป้องกัน 4 และ 9 สายพันธุ์ ผู้หญิงที่ฉีดครบแล้วยังไม่ต้องฉีดซ้ำตลอดชีวิต และต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเหมือนเดิม
การป้องกันการติดเชื้อด้วยการฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะถ้าติดเชื้ออาจก่อโรคเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
Cr. พบหมอเต้
/Hfocus
https://www.facebook.com/share/p/Br4oG2yGtjQn26Xr/?
ทำไมผู้ชายถึงควรฉีดวัคซีน HPV? ไวรัสตัวนี้ไม่ใช่แค่สาเหตุมะเร็งปากมดลูก
HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัส ที่หลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ เพราะการแสดงอาการของโรคอาจเกิดขึ้นหลายปีหลังจากติดเชื้อ โดยผู้ป่วยมักจะมีหูดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) และในผู้หญิงจะมีอาการตกขาวมากกว่าปกติ บางครั้งผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการและเชื้อก็จะหายไปเอง แต่อันตรายจากไวรัสชนิดนี้ คือ เชื้อ HPV บางสายพันธุ์อาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้
หลายคนคงคุ้นชื่อวัคซีน HPV ว่าเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และคิดว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้ แต่จริง ๆ แล้ว เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้หลายชนิด ไม่เพียงแต่มะเร็งปากมดลูกเท่านั้น
พ.ต.ท.นพ.ภาคภูมิ เตชะขะวนิชกุล หน่วยมะเร็งนรีเวช โรงพยาบาลตำรวจ และกรรมการสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก พบหมอเต้ ยืนยันกับ Hfocus ว่า ทุกเพศควรฉีดวัคซีน HPV ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น เพราะไวรัสชนิดนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียว
แต่เป็นสาเหตุของมะเร็งอีกหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง มะเร็งทวารหนักและมะเร็งองคชาตในผู้ชาย รวมถึงมะเร็งช่องปากและลำคอ
ทั้งนี้ เชื้อไวรัส HPV ผู้หญิงเจอเชื้อประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ พบความชุกในช่วงอายุ 20-30 ปี ผู้ชาย 20-30 เปอร์เซ็นต์ พบเชื้อได้ตลอดช่วงชีวิต กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พบสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่มีเชื้อไวรัส HIV ในร่างกาย มักจะเจอเชื้อไวรัส HPV เป็นการติดเชื้อร่วมกันได้สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์
"ส่วนใหญ่แล้วผู้ชายจะไม่ทราบว่าติดเชื้อ HPV จนกว่าจะเกิดการแสดงอาการ แตกต่างจากผู้หญิงที่มักจะมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้ชายจึงเป็นแหล่งเก็บเชื้อแล้วส่งกลับไปให้ผู้หญิง ซึ่งการแพร่เชื้อมักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรือหากเกิดรอยแผลก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะผิวหนังก็เหมือนกับฉนวน หากร่างกายไม่มีบาดแผลก็จะไม่ติดโรค แต่ถ้าเกิดแผลขึ้นมาก็จะส่งต่อเชื้อกันไปมาได้ สำหรับช่วงอายุที่ควรรับวัคซีน HPV ผู้หญิงควรฉีดในช่วงอายุ 9-45 ปี ส่วนผู้ชายควรฉีดในช่วงอายุ 9-26 ปี แต่ฉีดช้ากว่านั้นก็ยังได้ประโยชน์อยู่" พ.ต.ท.นพ.ภาคภูมิ เตชะขะวนิชกุล กล่าว
สำหรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือวัคซีน HPV ควรฉีดทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากอายุ น้อยกว่า 15 ปี ฉีด 2 เข็ม ที่ 0 และ 6-12 เดือน (ดูที่เข็มแรก ถ้าฉีดก่อน 15 ปี ) อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 ,6 เดือน ปัจจุบันมีชนิดป้องกัน 4 และ 9 สายพันธุ์ ผู้หญิงที่ฉีดครบแล้วยังไม่ต้องฉีดซ้ำตลอดชีวิต และต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเหมือนเดิม
การป้องกันการติดเชื้อด้วยการฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะถ้าติดเชื้ออาจก่อโรคเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
Cr. พบหมอเต้
/Hfocus
https://www.facebook.com/share/p/Br4oG2yGtjQn26Xr/?