สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่มั่นใจเลยค่ะ เราว่าทุกคนเปลี่ยนกันได้หมด ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน แม้กระทั่งตัวเราเอง จิตใจความคิดเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา
แม้จะแต่งงาน มีลูกแล้ว ทุกคนต้องมีแผนชีวิตเป็นของตัวเอง แผน 1 / แผน 2 อะไรก็ว่าไป
คนโชคดีก็มี คนโชคร้ายมีปัญหาตามมาก็เยอะ อายุมากขึ้นทุกๆวัน เจอปัญหาปุ๊บ เคว้งทำอะไรไม่ถูก รายได้ก็ไม่มี สังคมก็ไม่มี
สำหรับเรา คงทำงานไปด้วย แต่ถ้าจะลาออก ต้องมีทรัพย์สินให้ไม่ลำบาก หรือมีแพลนทำธุรกิจส่วนตัวไปเลย
อย่าไปหวังพ่อแม่คนอื่นจะเอ็นดูเราเหมือนลูกหลานเค้า สมัยนี้เรื่องเงินสำคัญมาก
แม้จะแต่งงาน มีลูกแล้ว ทุกคนต้องมีแผนชีวิตเป็นของตัวเอง แผน 1 / แผน 2 อะไรก็ว่าไป
คนโชคดีก็มี คนโชคร้ายมีปัญหาตามมาก็เยอะ อายุมากขึ้นทุกๆวัน เจอปัญหาปุ๊บ เคว้งทำอะไรไม่ถูก รายได้ก็ไม่มี สังคมก็ไม่มี
สำหรับเรา คงทำงานไปด้วย แต่ถ้าจะลาออก ต้องมีทรัพย์สินให้ไม่ลำบาก หรือมีแพลนทำธุรกิจส่วนตัวไปเลย
อย่าไปหวังพ่อแม่คนอื่นจะเอ็นดูเราเหมือนลูกหลานเค้า สมัยนี้เรื่องเงินสำคัญมาก
ความคิดเห็นที่ 5
แม่เราย้ำกับเราตลอดว่า ต้องทำงานนะ ใช้เงินตัวเองสบายใจสุดนะ
ตอนแต่งงาน พอมีลูก พ่อของลูกบอกให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูก เราก็ไม่ออกค่ะ (เพราะว่าเค้าจะไม่ให้ค่าใช้จ่ายอะไรส่วนตัว เค้าบอกว่า เรามีรายได้จากค่าเช่าคอนโดส่วนตัวเราอยู่แล้ว) และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลย เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็เลิกกัน แต่ตัวเรายังมีงานที่มั่นคง มีงานที่ดีทำอยู่
แต่ว่าแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัว ก็คงมีบริบทต่างกันไปค่ะ การที่คุณแม่ไม่ได้ต้องออกไปทำงาน ได้ใช้เวลาอยู่กับลูก ได้เลี้ยงลูก มันก็เป็นเรื่องดีที่มีคุณค่าค่ะ หลายครอบครัวสามีและบ้านสามีก็พร้อมจะ support คุณแม่ full-time เต็มที่ หลายครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้คุณแม่บ้านหรือคุณแม่ต้องอึดอัดใจ มีให้ใช้จ่ายได้ไม่ขัดสน
มันไม่มีผิดมีถูกน่ะค่ะ อยู่ที่บริบทของแต่ละบ้าน แต่ถ้าตัวเองเราไม่กล้าเสี่ยงออกจากงานมาเป็นแม่บ้านค่ะ
ตอนแต่งงาน พอมีลูก พ่อของลูกบอกให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูก เราก็ไม่ออกค่ะ (เพราะว่าเค้าจะไม่ให้ค่าใช้จ่ายอะไรส่วนตัว เค้าบอกว่า เรามีรายได้จากค่าเช่าคอนโดส่วนตัวเราอยู่แล้ว) และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลย เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็เลิกกัน แต่ตัวเรายังมีงานที่มั่นคง มีงานที่ดีทำอยู่
แต่ว่าแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัว ก็คงมีบริบทต่างกันไปค่ะ การที่คุณแม่ไม่ได้ต้องออกไปทำงาน ได้ใช้เวลาอยู่กับลูก ได้เลี้ยงลูก มันก็เป็นเรื่องดีที่มีคุณค่าค่ะ หลายครอบครัวสามีและบ้านสามีก็พร้อมจะ support คุณแม่ full-time เต็มที่ หลายครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้คุณแม่บ้านหรือคุณแม่ต้องอึดอัดใจ มีให้ใช้จ่ายได้ไม่ขัดสน
มันไม่มีผิดมีถูกน่ะค่ะ อยู่ที่บริบทของแต่ละบ้าน แต่ถ้าตัวเองเราไม่กล้าเสี่ยงออกจากงานมาเป็นแม่บ้านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คุณผู้หญิงสมัยนี้มั่นใจแค่ไหนที่สามีบอกว่าให้ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน
มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันค่ะ ผู้หญิงที่ทำงานมีเงินเดือน ในครอบครัวทุกชนชั้น ถ้าเป็นคุณ คุณจะลาออกจากงานเพื่อเป็นแม่บ้านเต็มตัวมั้ย และมั่นใจได้อย่างไรว่าสามีจะดูแลครอบครัวได้ตลอดรอดฝั่งโดยมองภรรยามีคุณค่าเสมอต้นเสมอปลาย
สำหรับเรา เรามีลูกชาย และเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เราสอนและบอกเค้าไว้แล้วว่า ถ้าต้องมีครอบครัวและจะให้ภรรยาออกจากงานมาดูแลบ้านดูแลลูก จะต้องมีเงินให้ภรรยาใช้จ่ายส่วนตัวด้วย เวลาเค้าอยากซื้ออะไรจะได้มีใช้ไม่ต้องมาคอยเกรงใจขอเงินทุกครั้งจนตัวเค้าเองรู้สึกอึดอัดที่จะขอ งานบ้านก็ต้องช่วยๆหยิบจับด้วยไม่ใช่ว่าให้ภรรยาออกมาเป็นแม่บ้านแล้วจะเหมารวมเป็นหน้าที่ภรรยาทุกอย่างไม่ได้
ถ้าเรามีลูกสาว เราจะสอนลูกสาวไว้เลยว่า ห้ามลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเด็จขาด ผู้ชายและแม่สามีบางคนจะเห็นหัวเราก็ต่อเมื่อเรามีรายได้เป็นของตัวเอง
ขอแท็คมนุษย์เงินเดือนด้วยนะคะ คุณผู้หญิงหลายคนทำงานอยู่แล้ว ก่อนมีครอบครัวและตัดสินใจลาออก