ไม่เคยคิดเลยว่ามีลูกแล้วจะเหนื่อยขนาดนี้

ตอนท้องดีใจ ดี๊ด๊า ซื้อของเตรียมให้ลูกมากมาย อยากทำนู่นทำนี่กับลูก วาดฝันไว้สวยงาม แต่พอคลอดปุ๊บ เหมือนโลกถล่มทลาย ชีวิตเปลี่ยนไปมากๆ ยิ่งเราไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก ไม่นึกว่าที่เค้าบอกว่าต้องอดหลับอดนอนมันจะหนักขนาดนี้ ลูกนอนยากร้องงอแงต้องพาอุ้มเดินตลอดมันเป็นยังไง

รู้สึกตัวเองโทรมมาก ผมเผ้าไม่ได้ตัด(จริงๆแทบไม่ได้หวี จับมัดเอา) หน้าไม่ได้แต่ง ใส่แต่ชุดให้นมโคร่งๆ นานๆจะได้ออกไปข้างนอกทำธุระซื้อของ แต่ก็ต้องรีบไปรีบกลับเพราะเกรงใจคนที่ฝากเลี้ยง ปวดแขนปวดหลังระบมไปหมดจากการอุ้มลูก ที่เบื่อสุดๆคือการปั๊มนมที่วนเป็นลูปไม่จบสิ้น แต่ก็ทำเพื่อให้ลูกได้กินนมแม่

ตอนนี้ลูกน้อย 2 เดือน ผ่านไปแต่ละวันไม่เคยซ้ำกัน บางวันก็ร้องไม่หยุดเลย ยังดีที่เราพอมีคนช่วยและจ้างแม่บ้านทำงานบ้าน (ก่อนหน้านี้ทำเองแทบสลบ) แต่หลักๆและช่วงกลางคืนคือเราดู
แอบอิจฉาสามีที่ไปทำงานตามปกติ มีเวลาrelax กินข้าวนอกบ้าน เจอเพื่อนฝูง (สามีทำงานต่างจังหวัด มาหาช่วยดูลูกเสาร์อาทิตย์)

ตอนนี้พูดตรงๆถ้าย้อนไปได้ไม่มีลูกคงดีกว่า แต่มีแล้วก็ต้องดูแลกันไป ไม่รู้เป็นแบบนี้เพราะเราติดสบาย ปรับตัวยากรึเปล่า ยังโหยหาวันเวลาที่ไปกินข้าวดูหนังกับสามี ช่วงก่อนโควิดเราก็ไปเที่ยวทั้งในและต่างประเทศบ่อยๆ ตอนนี้คืออยู่บ้านเกือบ100% จริงๆตอนท้องก็ตั้งใจท้องและคิดว่าตัวเองพร้อมพอควรแล้วยังเป็นได้ขนาดนี้

เข้ามาบ่น ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นแบบเราบ้างมั้ย อยากฟังประสบการณ์และขอคำแนะนำค่ะ
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 67
คุณแม่เขียนเล่าได้เห็นภาพมากเลยนะคะ ได้อ่านแล้วทำให้หมอคิดถึงพ่อแม่หลายๆ คนที่พาลูกมาหาหมอ ทุกคนรักและเป็นห่วงลูก มีความตั้งใจอยากจะเลี้ยงลูกให้ดี แต่การเลี้ยงลูกให้ดีตามที่คาดหวัง บางทีไม่ได้ง่ายดาย มีปัจจัยหลายอย่างที่ประกอบเข้ามา เช่น พื้นอารมณ์ของเด็ก สุขภาพจิตของพ่อแม่ สถานการณ์แวดล้อม ยิ่งเมื่อเป็นลูกคนแรก หลายๆ อย่างก็เหมือนการลองผิดลองถูก

ยิ่งเป็นพ่อแม่ที่จริงจังตั้งใจ คาดหวังสูง ก็มักจะเครียด เหนื่อย บางทีรู้สึกท้อแท้ตามไปด้วย ความเครียดและเหนื่อยที่เกิดขึ้น มาจากความรักที่เรามีให้เขานั่นเอง เราอยากทำให้ดี ให้ลูกมีความสุข

เชื่อเถอะว่า ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะทำทุกอย่างได้ดีพร้อมทั้ง 100% ไม่ว่าคุณจะเรียนจบอะไรมา มีตำแหน่งหน้าที่การงานแบบไหน
สำคัญคือ ต้องมีความหวังและกำลังใจการเลี้ยงลูก ยอมรับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ให้อภัยตัวเอง ให้โอกาสคนอื่นๆ (ลูกของเรา สามีภรรยา คนที่ช่วยเลี้ยงลูก) ขอความช่วยเหลือในยามจำเป็น และอย่าลืมที่จะพักผ่อนดูแลกายใจตัวเองบ้าง

และจริงๆ ความสุขที่เกิดอาจจะมีมากกว่าความเครียด แต่ใจคนเราอาจจะมองชัดในความทุกข์มากกว่าความสุข ลองสำรวจดูและบอกตัวเองว่า จริงๆ เวลาดีๆ ก็มีอยู่ ตรงนั้นจะเป็นกำลังใจให้เรามีแรงมากขึ้น เอาชนะความเหนื่อยที่เกิดได้

ส่งกำลังใจให้ผู้ปกครองทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งมีลูก หมอเชื่อว่าในมุมที่แม่เครียดๆ ก็ยังมีเวลาทำให้เราให้ได้ยิ้ม หัวเราะ รู้สึกอบอุ่นใจอยู่
อย่างไรก็ตามถ้าสุขภาพจิตของเรามันไม่ไหวจริง ก็อาจจะต้องหาตัวช่วยเพิ่มเติม เช่นการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่