อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากกลับจากงานเทกระจาดที่ต่างจังหวัด
ระยะทางร้อยกว่ากิโลที่ขับกลับมาคนเดียว ก็หาฟัง youtube เรื่อยเปื่อย ทั้ง TED Talk ทั้งอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง
จนจับพลัดจับผลู ไปฟัง Coach ด้านความสัมพันธ์คนหนึ่งชื่อ Matt BOGGS
ก็ฟังคุณบ็อกส์เธอเล่าโน่น เล่านี่ไปเพลิน ๆ บางข้อก็เห็นด้วย บางข้อก็งั้น ๆ
มาสะดุดที่เค้าบอกว่า หนึ่งในความมีเสน่ห์หรือความดึงดูดใจของผู้หญิงสำหรับเค้าก็คือ "ความเป็นผู้หญิง"
แม้ว่า สมัยนี้ ขอบเขตของความเป็นหญิงชายตอนนี้มันจะเบลอ ๆ กว่าสมัยก่อน
การบอกว่า ความประพฤติแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เป็นนิสัยของผู้หญิงหรือของผู้ชาย อาจจะฟังดูบ้ง ๆ ในสายตาของคนสมัยใหม่
แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากพอสมควรทีเดียว ที่ยังตีความและมีความคิดว่า ความเป็นผู้ชาย หมายถึง การนำ การตัดสินใจ ความเข้มแข็งเด็ดขาด การมีอิสระในการทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเองทั้งหมด การยื่นมือออกไปช่วยเหลือ
และความเป็นผู้หญิง หมายถึง ความอ่อนโยน อ่อนหวาน การพึ่งพิง
เจ้าความ "เบลอ ๆ " ของขอบเขตชายหญิงอันที่จริงมันก็เป็นเรื่องที่ดี
เพราะทำให้ทั้งชายและหญิงไม่ต้องถูกตีกรอบด้วยความคิดในแบบที่ว่า
ผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ ใส่สีชมพูไม่ได้
ผู้หญิงห้ามสบถ หรือ ยกของหนักไม่ได้
แต่อย่างไรเสีย ในความสัมพันธ์ ถ้าจะให้ราบรื่นและมีความสุข บางทีมันก็ต้องผลัดกันรุกรับ
โดยผู้ชายก็จะถูกคาดหวังให้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำมากกว่า
ผู้หญิงหลายคนกลัวผู้ชายจะดูถูก ก็จะเปย์ทุกบาททุกสตางค์ หารเท่า นับเหรียญจ่ายกันให้เป๊ะทีเดียวเลยกับผู้ชาย
ยืนกรานที่จะยกแบกลากสัมภาระทุกอย่างด้วยตัวเองเต็มสองมือไม่ยอมให้ผู้ชายเอื้อมมือมาช่วย
หรือไม่ยอมรับของฝาก (ที่สมควรแก่เหตุและปัจจัยที่จะรับ)
ถามว่าดีไหม ? ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ดีแหละค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อน แล้วหวังความสัมพันธ์ที่มากกว่านั้น
การไม่รู้จักรับเลย คือ การปฏิเสธผู้ชายคนนั้นอย่างเด็ดขาดด้วยอวัจนภาษาว่า "คุณเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น"
ถ้าผู้ชายคนนั้น ไม่ได้อยากเข้าหาคุณในฐานะเพื่อน เขาจะหายไปเลยค่ะ
คนที่อยู่ใน friend zone ส่วนใหญ่จะราว ๆ นี้กันทั้งนั้น
ที่กล้าพูดอย่างนี้ เพราะนี่เจ้าแม่เฟรนด์โซนมาทั้งชีวิต
ตอนสาว ๆ บางที เราก็ไม่ได้อยากอยู่ในเฟรนด์โซนหรอก
ได้แต่สงสัยว่า ทำไมพี่คนนั้นเจอกันที่งานนั้นตอนออกบู๊ธ เค้าชวนเราไปกินข้าวหลังเลิกงาน
คุยกันสนุกสนาน
อ้าว ... เงินเราออกพอดี เรา (ซึ่งตอนนั้นก็จนแต่ยิ้ง ...หยิ่ง) เลยขอเลี้ยงข้าว ขี้เกียจได้ชื่อว่ามาเกาะผู้ชายกินฟรี
แล้ว พี่เค้าก็หายไปเลยยยยยย ...
ท่าทางที่เหมือนจะเข้ามาสนใจ กลายเป็นแบบพี่กับน้อง แต่ไม่ติดต่อมาอีกเลยนะ
ทำไมผู้ชายคนนั้น (เพื่อนของเพื่อน) ที่เคยไปพร่ำเพ้อกับเพื่อนว่าชอบเรามากมาย
พอเค้าเอาเนื้อแห้งอย่างดีมาให้ห่อใหญ่ นั่งรถเอามาให้ถึงที่ เผอิญเราไม่กินเนื้อ เลยปฏิเสธไปอย่างหนักแน่น
ดูเค้าหน้าเจื่อน ๆ ส่วนเราไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่ว่าเสียดายของถ้าเอาของมาให้แล้วเราไม่กิน
นี่ก็หายไปเลยเหมือนกัน ไหนบอกว่าชอบช้านนนนน...
ไหนเพื่อนชั้นบอกว่า เธออกหักจากชั้นมากมาย ... แต่เธอหายไปจากชั้นเองนะ
เกิดอะไรขึ้น ???
เพราะงั้น เลยขออนุญาตตั้งกระทู้แชร์ความเห็นนิดหน่อยว่า
ทำไมบางคนที่คิดว่าตัวเองก็โอเค พร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทำไมถึงไม่มีคนมาจีบ ทำไมถึงอยู่ในเฟรนด์โซนตลอด
นั่นเป็นเพราะคุณเองวางตัวเองอยู่ในโซนนั้น ด้วยการปฏิเสธการรับในทุกกรณี ปฏิเสธความช่วยเหลือ ตั้งหน้าตั้งตาจะเลี้ยง จะเปย์ตลอดรึเปล่า ?
เลยทำให้ผู้ชายดี ๆ ที่เข้ามา ไม่กล้าเข้ามาใกล้กว่านี้
ปล.
กระทู้นี้ไม่ได้สำหรับทุกคนนะคะ
คุณต้องเคยเจอ เคยเห็น และเคยเป็นอย่างที่ดิฉัน เห็น เป็น เจอ มาก่อน ถึงจะเก็ทว่า "อ้อ ... มันอย่างนี้นี่เอง"
เมื่อสองสามปีที่แล้ว ดิฉันได้ตั้งกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/39599333
"มาเป็นสาวสายเปย์ที่มีสติและมีเหตุผลกันดีกว่า"
ถามว่าดิฉันย้อนแย้งในตัวเองไหม ?
ไม่ค่ะ ... สิ่งที่พยายามจะบอกก็คือ สำหรับสาว strong ทั้งหลาย อยากให้รับให้ถูกจังหวะ อย่ากลัวที่จะรับ รับอย่างสง่างาม ไม่ใช่รับอย่างหิวโหย อย่างไม่รู้จักขอบคุณ อย่างไม่รู้จักตอบแทนให้เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป อย่างตะกละตะกราม หรืออย่างไม่ให้เกียรติคนให้อย่างที่ผู้ชายที่เคยเล่าในกระทู้นั้นเคยเจอว่า สาว ๆ ที่เดทด้วยทั้งหมด ทรีทคุณเค้าราวกับเป็น grab ส่วนตัวที่ส่งข้าวส่งน้ำ ส่งอาหารแพง ๆ ดี ๆ ฟรี ราวกับกำลังชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวร
คุณผู้หญิงคะ ที่บ่นว่าทำไมไม่มีแฟน ลองเช็ครึยังว่าคุณ "เปย์" จนเกินไปรึเปล่า ?
ระยะทางร้อยกว่ากิโลที่ขับกลับมาคนเดียว ก็หาฟัง youtube เรื่อยเปื่อย ทั้ง TED Talk ทั้งอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง
จนจับพลัดจับผลู ไปฟัง Coach ด้านความสัมพันธ์คนหนึ่งชื่อ Matt BOGGS
ก็ฟังคุณบ็อกส์เธอเล่าโน่น เล่านี่ไปเพลิน ๆ บางข้อก็เห็นด้วย บางข้อก็งั้น ๆ
มาสะดุดที่เค้าบอกว่า หนึ่งในความมีเสน่ห์หรือความดึงดูดใจของผู้หญิงสำหรับเค้าก็คือ "ความเป็นผู้หญิง"
แม้ว่า สมัยนี้ ขอบเขตของความเป็นหญิงชายตอนนี้มันจะเบลอ ๆ กว่าสมัยก่อน
การบอกว่า ความประพฤติแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เป็นนิสัยของผู้หญิงหรือของผู้ชาย อาจจะฟังดูบ้ง ๆ ในสายตาของคนสมัยใหม่
แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากพอสมควรทีเดียว ที่ยังตีความและมีความคิดว่า ความเป็นผู้ชาย หมายถึง การนำ การตัดสินใจ ความเข้มแข็งเด็ดขาด การมีอิสระในการทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเองทั้งหมด การยื่นมือออกไปช่วยเหลือ
และความเป็นผู้หญิง หมายถึง ความอ่อนโยน อ่อนหวาน การพึ่งพิง
เจ้าความ "เบลอ ๆ " ของขอบเขตชายหญิงอันที่จริงมันก็เป็นเรื่องที่ดี
เพราะทำให้ทั้งชายและหญิงไม่ต้องถูกตีกรอบด้วยความคิดในแบบที่ว่า
ผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ ใส่สีชมพูไม่ได้
ผู้หญิงห้ามสบถ หรือ ยกของหนักไม่ได้
แต่อย่างไรเสีย ในความสัมพันธ์ ถ้าจะให้ราบรื่นและมีความสุข บางทีมันก็ต้องผลัดกันรุกรับ
โดยผู้ชายก็จะถูกคาดหวังให้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำมากกว่า
ผู้หญิงหลายคนกลัวผู้ชายจะดูถูก ก็จะเปย์ทุกบาททุกสตางค์ หารเท่า นับเหรียญจ่ายกันให้เป๊ะทีเดียวเลยกับผู้ชาย
ยืนกรานที่จะยกแบกลากสัมภาระทุกอย่างด้วยตัวเองเต็มสองมือไม่ยอมให้ผู้ชายเอื้อมมือมาช่วย
หรือไม่ยอมรับของฝาก (ที่สมควรแก่เหตุและปัจจัยที่จะรับ)
ถามว่าดีไหม ? ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ดีแหละค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อน แล้วหวังความสัมพันธ์ที่มากกว่านั้น
การไม่รู้จักรับเลย คือ การปฏิเสธผู้ชายคนนั้นอย่างเด็ดขาดด้วยอวัจนภาษาว่า "คุณเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น"
ถ้าผู้ชายคนนั้น ไม่ได้อยากเข้าหาคุณในฐานะเพื่อน เขาจะหายไปเลยค่ะ
คนที่อยู่ใน friend zone ส่วนใหญ่จะราว ๆ นี้กันทั้งนั้น
ที่กล้าพูดอย่างนี้ เพราะนี่เจ้าแม่เฟรนด์โซนมาทั้งชีวิต
ตอนสาว ๆ บางที เราก็ไม่ได้อยากอยู่ในเฟรนด์โซนหรอก
ได้แต่สงสัยว่า ทำไมพี่คนนั้นเจอกันที่งานนั้นตอนออกบู๊ธ เค้าชวนเราไปกินข้าวหลังเลิกงาน
คุยกันสนุกสนาน
อ้าว ... เงินเราออกพอดี เรา (ซึ่งตอนนั้นก็จนแต่ยิ้ง ...หยิ่ง) เลยขอเลี้ยงข้าว ขี้เกียจได้ชื่อว่ามาเกาะผู้ชายกินฟรี
แล้ว พี่เค้าก็หายไปเลยยยยยย ...
ท่าทางที่เหมือนจะเข้ามาสนใจ กลายเป็นแบบพี่กับน้อง แต่ไม่ติดต่อมาอีกเลยนะ
ทำไมผู้ชายคนนั้น (เพื่อนของเพื่อน) ที่เคยไปพร่ำเพ้อกับเพื่อนว่าชอบเรามากมาย
พอเค้าเอาเนื้อแห้งอย่างดีมาให้ห่อใหญ่ นั่งรถเอามาให้ถึงที่ เผอิญเราไม่กินเนื้อ เลยปฏิเสธไปอย่างหนักแน่น
ดูเค้าหน้าเจื่อน ๆ ส่วนเราไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่ว่าเสียดายของถ้าเอาของมาให้แล้วเราไม่กิน
นี่ก็หายไปเลยเหมือนกัน ไหนบอกว่าชอบช้านนนนน...
ไหนเพื่อนชั้นบอกว่า เธออกหักจากชั้นมากมาย ... แต่เธอหายไปจากชั้นเองนะ
เกิดอะไรขึ้น ???
เพราะงั้น เลยขออนุญาตตั้งกระทู้แชร์ความเห็นนิดหน่อยว่า
ทำไมบางคนที่คิดว่าตัวเองก็โอเค พร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทำไมถึงไม่มีคนมาจีบ ทำไมถึงอยู่ในเฟรนด์โซนตลอด
นั่นเป็นเพราะคุณเองวางตัวเองอยู่ในโซนนั้น ด้วยการปฏิเสธการรับในทุกกรณี ปฏิเสธความช่วยเหลือ ตั้งหน้าตั้งตาจะเลี้ยง จะเปย์ตลอดรึเปล่า ?
เลยทำให้ผู้ชายดี ๆ ที่เข้ามา ไม่กล้าเข้ามาใกล้กว่านี้
ปล.
กระทู้นี้ไม่ได้สำหรับทุกคนนะคะ
คุณต้องเคยเจอ เคยเห็น และเคยเป็นอย่างที่ดิฉัน เห็น เป็น เจอ มาก่อน ถึงจะเก็ทว่า "อ้อ ... มันอย่างนี้นี่เอง"
เมื่อสองสามปีที่แล้ว ดิฉันได้ตั้งกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/39599333
"มาเป็นสาวสายเปย์ที่มีสติและมีเหตุผลกันดีกว่า"
ถามว่าดิฉันย้อนแย้งในตัวเองไหม ?
ไม่ค่ะ ... สิ่งที่พยายามจะบอกก็คือ สำหรับสาว strong ทั้งหลาย อยากให้รับให้ถูกจังหวะ อย่ากลัวที่จะรับ รับอย่างสง่างาม ไม่ใช่รับอย่างหิวโหย อย่างไม่รู้จักขอบคุณ อย่างไม่รู้จักตอบแทนให้เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป อย่างตะกละตะกราม หรืออย่างไม่ให้เกียรติคนให้อย่างที่ผู้ชายที่เคยเล่าในกระทู้นั้นเคยเจอว่า สาว ๆ ที่เดทด้วยทั้งหมด ทรีทคุณเค้าราวกับเป็น grab ส่วนตัวที่ส่งข้าวส่งน้ำ ส่งอาหารแพง ๆ ดี ๆ ฟรี ราวกับกำลังชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวร