🥊 เปรียบมวยกันอีกครั้งครับ ระหว่างโภชนาการแบบ Low carb กับ Low fat (แปลว่า High carb นั่นแหละ) คราวนี้มาดูกันด้วยเรื่องของโรคไขมันพอกตับ หรือ non-alcoholic fatty liver diseas (NAFLD) กันบ้างว่ากินแบบไหน ถึงจะจัดการกับเจ้าโรคนี้ได้
📚 ในทางวิชาการมันก็น่าศึกษานะครับ ว่าโภชนาการแบบไหนส่งผลต่อโรคยังไงบ้าง แต่ถ้าว่ากันตามน้ำลายของกลุ่มผู้นับถือศาสนา Low carb ในเน็ตนี่ไม่มีทางที่การทานคาร์บ จะทำให้ NAFLD ดีขึ้นได้แน่ๆ เพราะว่ายังไงคาร์บก็กระตุ้นอินซูลิน และจะเปลี่ยนเป็นไขมัน และสะสมไขมันอยู่ดี เราจะมาดูกันว่าน้ำลายนั้นจะถ่มรดหน้าใครกันแน่ ๕๕
📝 งานนี้ก็เป็นการศึกษาแบบ Systematic review นะครับ โดยเขาก็ค้นข้อมูลจากงานวิจัยโดยเกณฑ์ที่คัดมาศึกษา ดูตามหลัก PICO อันดับแรก จะศึกษาในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปี และเป็น NAFLD อันดับต่อมาการทดลอง เป็นการศึกษาโภชนาการแบบ Low carb หรือ Low fat โดยจะเทียบกันระหว่างโภชนาการ หรือเทียบกับก่อนเริ่มทดลองก็ได้ ส่วนผลที่ได้ก็คือดูในสิ่งที่เกี่ยวกับตับ
🔎 หลังจากค้นข้อมูลจาก PubMed/Medline, Web of science, Scopus, และ Cochrane เขาก็คัดงานวิจัยที่เข้าเกณฑ์มา 15 งาน ก็มีทั้งการเปรียบเทียบ Low carb กับรูปแบบอื่นๆ Low fat กับรูปแบบอื่นๆ และ Low carb กับ Lo fat ประกบคู่กันเอง เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะกำหนดให้ทานพลังงานอาหารเท่าๆกัน ส่วนใหญ่จะให้ทานพลังงานติดลบ ลบมากลบน้อยแตกต่างกันไป มีบางงานที่ไม่ได้ระบุเรื่องพลังงาน แต่กำหนดเรื่องสัดส่วนโภชนาการเปรียบเทียบกันชัดเจน
📌 ผลที่ได้คือ อันดับแรกสำหรับ NAFLD ระหว่างโภชนาการรูปแบบต่างๆ ที่เขานำมาศึกษา ไม่มีแบบไหนดีที่สุดกว่าแบบอื่นๆชัดเจน ได้ผลดีพอๆกัน ไม่ว่าจะเป็น Low carb หรือ Low fat ก็ให้ผลได้ไม่แตกต่างกัน
😎 สิ่งที่สำคัญก็คือการโภชนาการให้อยู่ในภาวะที่พลังงานติดลบ หรือทานอาหารแคลอรี่ต่ำ (Hypocaloric diet) ซึ่งจะช่วยเรื่องการดื้ออินซูลิน และ Metabolic syndrome ซึ่งส่งผลต่อมายัง NAFLD ย้ำอีกครั้งว่าจะทานแบบ Low carb หรือ Low fat ก็ให้ผลได้เหมือนกัน และในข้อมูลที่เขาศึกษาถ้าติดลบเท่าๆกัน ก็ลดน้ำหนักได้เหมือนๆกัน
มาถึงตรงนี้อาจจะมีพวกท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่า Cal in Cal out มันโบราณไปแล้ว ก็อยากจะบอกซ้ำๆนะครับ ว่ามันเก่าจริง แต่ก็ยังได้ผลและเป็นวิธีการที่เข้าใจง่าย อีกทั้งจริงๆแล้วในยุคปัจจุบัน คนที่เข้าใจเรื่อง Energy balance เขาก็ไม่ได้กินสุดโต่ง แคลไม่เกินเป็นพอย่างเดียวนะครับ คนที่มีความเข้าใจ เขาก็นำพลังงานเป้าหมาย มากำหนดสัดส่วนปริมาณสารอาหารกันนะรู้ยัง อิอิ 😜
📌 ย้อนไปในประวัติศาสตร์ ยุคนึงเขาเชื่อกันเรื่อง Low fat ยุคต่อมาเขาก็มาศรัทธากันที่ Low carb แต่ปัจจุบันข้อมูลต่างๆก็เยอะมากขึ้น การศึกษาจำนวนมาก พบว่าจะทานรูปแบบไหนก็ได้ ขอให้มันลดน้ำหนัก ลดความอ้วนได้ มันก็ส่งผลดีได้ทั้งนั้น เลือกเอารูปแบบที่เหมาะกับเรา ทำให้เราทำได้นานพอจนเห็นผล และรักษาผลนั้นต่อไปได้ ก็โอเคแล้ว
ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-08-22-low-fat-diet-versus-low-carbohydrate-diet-for-management-of-non-alcohol-fatty-liver-disease/
Low carb หรือ Low fat กินแบบไหนถึงจะลดไขมันพอกตับได้ ? 🤔
📚 ในทางวิชาการมันก็น่าศึกษานะครับ ว่าโภชนาการแบบไหนส่งผลต่อโรคยังไงบ้าง แต่ถ้าว่ากันตามน้ำลายของกลุ่มผู้นับถือศาสนา Low carb ในเน็ตนี่ไม่มีทางที่การทานคาร์บ จะทำให้ NAFLD ดีขึ้นได้แน่ๆ เพราะว่ายังไงคาร์บก็กระตุ้นอินซูลิน และจะเปลี่ยนเป็นไขมัน และสะสมไขมันอยู่ดี เราจะมาดูกันว่าน้ำลายนั้นจะถ่มรดหน้าใครกันแน่ ๕๕
📝 งานนี้ก็เป็นการศึกษาแบบ Systematic review นะครับ โดยเขาก็ค้นข้อมูลจากงานวิจัยโดยเกณฑ์ที่คัดมาศึกษา ดูตามหลัก PICO อันดับแรก จะศึกษาในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปี และเป็น NAFLD อันดับต่อมาการทดลอง เป็นการศึกษาโภชนาการแบบ Low carb หรือ Low fat โดยจะเทียบกันระหว่างโภชนาการ หรือเทียบกับก่อนเริ่มทดลองก็ได้ ส่วนผลที่ได้ก็คือดูในสิ่งที่เกี่ยวกับตับ
🔎 หลังจากค้นข้อมูลจาก PubMed/Medline, Web of science, Scopus, และ Cochrane เขาก็คัดงานวิจัยที่เข้าเกณฑ์มา 15 งาน ก็มีทั้งการเปรียบเทียบ Low carb กับรูปแบบอื่นๆ Low fat กับรูปแบบอื่นๆ และ Low carb กับ Lo fat ประกบคู่กันเอง เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะกำหนดให้ทานพลังงานอาหารเท่าๆกัน ส่วนใหญ่จะให้ทานพลังงานติดลบ ลบมากลบน้อยแตกต่างกันไป มีบางงานที่ไม่ได้ระบุเรื่องพลังงาน แต่กำหนดเรื่องสัดส่วนโภชนาการเปรียบเทียบกันชัดเจน
📌 ผลที่ได้คือ อันดับแรกสำหรับ NAFLD ระหว่างโภชนาการรูปแบบต่างๆ ที่เขานำมาศึกษา ไม่มีแบบไหนดีที่สุดกว่าแบบอื่นๆชัดเจน ได้ผลดีพอๆกัน ไม่ว่าจะเป็น Low carb หรือ Low fat ก็ให้ผลได้ไม่แตกต่างกัน
😎 สิ่งที่สำคัญก็คือการโภชนาการให้อยู่ในภาวะที่พลังงานติดลบ หรือทานอาหารแคลอรี่ต่ำ (Hypocaloric diet) ซึ่งจะช่วยเรื่องการดื้ออินซูลิน และ Metabolic syndrome ซึ่งส่งผลต่อมายัง NAFLD ย้ำอีกครั้งว่าจะทานแบบ Low carb หรือ Low fat ก็ให้ผลได้เหมือนกัน และในข้อมูลที่เขาศึกษาถ้าติดลบเท่าๆกัน ก็ลดน้ำหนักได้เหมือนๆกัน
มาถึงตรงนี้อาจจะมีพวกท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่า Cal in Cal out มันโบราณไปแล้ว ก็อยากจะบอกซ้ำๆนะครับ ว่ามันเก่าจริง แต่ก็ยังได้ผลและเป็นวิธีการที่เข้าใจง่าย อีกทั้งจริงๆแล้วในยุคปัจจุบัน คนที่เข้าใจเรื่อง Energy balance เขาก็ไม่ได้กินสุดโต่ง แคลไม่เกินเป็นพอย่างเดียวนะครับ คนที่มีความเข้าใจ เขาก็นำพลังงานเป้าหมาย มากำหนดสัดส่วนปริมาณสารอาหารกันนะรู้ยัง อิอิ 😜
📌 ย้อนไปในประวัติศาสตร์ ยุคนึงเขาเชื่อกันเรื่อง Low fat ยุคต่อมาเขาก็มาศรัทธากันที่ Low carb แต่ปัจจุบันข้อมูลต่างๆก็เยอะมากขึ้น การศึกษาจำนวนมาก พบว่าจะทานรูปแบบไหนก็ได้ ขอให้มันลดน้ำหนัก ลดความอ้วนได้ มันก็ส่งผลดีได้ทั้งนั้น เลือกเอารูปแบบที่เหมาะกับเรา ทำให้เราทำได้นานพอจนเห็นผล และรักษาผลนั้นต่อไปได้ ก็โอเคแล้ว
ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-08-22-low-fat-diet-versus-low-carbohydrate-diet-for-management-of-non-alcohol-fatty-liver-disease/