ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ท่าพระมีตลาดแห่งหนึ่งเปิดมาได้สักพักเต็มไปด้วยร้านอาหารและของกินต่างๆสำหรับซื้อติดมือกลับบ้านมากมายราคาสุดประหยัดจนกระทั่งเชื้อไวรัส Covid 19 เข้ามาเจ้าเก่าๆก็ล้มหายตายจากไปเกิดธุรกิจหน้าใหม่ขึ้นมาหลายแห่งแต่เรามาสะดุดตากับชื่อ "เศรษฐีนี หมูทะ" ร้านหมูกระทะสไตล์ไทยแท้จัดให้ชุดใหญ่พิเศษเสิร์ฟแบบ A La Carte ปริมาณคุ้มราคาเพราะเริ่มต้นเพียง 199 บาทก็อิ่มได้ 1-2 คนแบบจุกๆ แถมยังจัดโปรโมชั่นทุกวันจันทร์,อังคาร,พุธลดทุกรายการยกเว้นเครื่องดื่มทันที 20% หรือวันอื่นๆเพียงลงรีวิวในเพจร้านรับส่วนลดทันที 10% (เลือกใช้ได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น) วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแนะนำให้ปักหมุดสู่เดอะมอลล์ท่าพระจอดฟรี 4 ชั่วโมงแรกแล้วขึ้นบันไดเลื่อนชั้น 2 ข้ามสะพานลอยลงตรงหน้าห้างจะเชื่อมกับทางเข้าตลาดพอดี ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะนั่งได้ทั้ง BTS ลงสถานีตลาดพลูหรือรถเมล์มีอีกหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน เดินเข้าตลาดทางด้านซ้ายมือจะมี Big C Mini กับตู้กดเงินอัตโนมัติเรียงกันให้เลยมาอีกนิดหน่อยสังเกตหลังคาสังกะสีทาสีดำสนิทมีโต๊ะ,เก้าอี้เรียงกันมากมาย พร้อมตราแม่หมูสาวแต่งหน้าสวยใส่วิกผมทองสวมถุงมือสีม่วงและจัดเต็มไปด้วยเครื่องเพชรคลุมเสื้อขนสัตว์ฟูฟ่องขาวสะอาดสมเป็นเศรษฐีนีตัวจริงแบบนี้แสดงว่าเราถึงแล้วครับผม

บรรยากาศภายในร้านถึงแม้จะแค่มองผ่านๆเป็นเหมือนเพิงสังกะสีข้างทางธรรมดาแต่ก็มีการตกแต่งให้สวยงามสมชื่อ "เศรษฐีนี หมูทะ" ยิ่งขึ้นด้วยการติดแผ่นฉนวนกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ คุมธีมทั้งหมดด้วยสีดำสนิทสลับสีทองดูมีระดับยิ่งขึ้นตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงกำแพงและผนัง โดยแบ่งออกเป็นสองโซนหลักคือ 1. ด้านในซึ่งไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมายเน้นชวนนั่งทานหมูกระทะชิลๆใต้หลังคาทรงสูงโปร่งโล่งรับสายลมโชยเย็นสดชื่นจากธรรมชาติ ถ้าต้องการเพิ่มความพิเศษให้กับมื้ออาหารนี้ยิ่งขึ้นแนะนำเลือกนั่งโซน 2. ด้านนอกซึ่งตอนใกล้ๆค่ำของวันที่มีอากาศแจ่มใสพนักงานจะเลื่อนหลังคาผ้าใบออกเผยให้เห็นท้องฟ้าและดวงดาวอันสวยงามยามค่ำคืนล้อมรอบด้วยรั้วแขวนพืชไม้เลื้อยสีเขียวทั้งสองฝั่งช่วยเพิ่มอารมณ์เหมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สำหรับสายปาร์ตี้มากินหมูกระทะกับกลุ่มเพื่อนฝูงหรือครอบครัวแล้วอยากถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความประทับใจก็จัดโซนพิเศษเอาไว้ให้โพสต์ท่าเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยเตรียมวิกผมและผ้าคลุมสีสันสดใสต่างๆให้แปลงโฉมพร้อมฉากผนังติด LED ปีกนางฟ้าแสงสีทองพร้อมป้ายไฟตัวอักษรภาษาไทยเขียนสีม่วงชื่อร้านเอาไว้อย่างสวยงามดูโดดเด่น-แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดีครับ

ทุกที่นั่งถูกวางเตาแก๊สแบบพกพาสีแดงสดใสและกระทะสำหรับย่างหมูทรงเจงกิสข่านเคลือบด้วยเทฟลอนสีดำสนิทเพื่อกันวัตถุดิบไหม้-ติดประจำแต่ละโต๊ะ พร้อมรถเข็นติดล้อขนาดสองชั้นคันเล็กเอาไว้วางถังน้ำแข็ง/เครื่องดื่มกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆทั้งไม้จิ้มฟัน/กระดาษทิชชู่/ถังขยะ ส่วนเล่มเมนูอาหารหลักนั้นถูกพิมพ์ด้วยสีอย่างสวยงามเคลือบพลาสติกแข็งเน้นใช้งานทนทาน โดยหน้าแรกเต็มไปด้วยหมูกระทะแบบชุดพร้อมกินราคาเริ่มต้นที่ร่ำรวย 199 บาท (1-2 คน) / มั่งมี 399 บาท (2-3 คน) / มหาเศรษฐี 599 บาท (4-5 คน) ถ้ายังไม่รู้สึกอิ่มสามารถสั่งเนื้อสัตว์แยกถาดได้ทั้ง หมูนุ่ม,หมูหมักพริกไทยดำ,สันคอหมู,หมูสามชั้นสไลด์,ตับหมู,กุ้งสด,ปลาดอลลี่,ปลาหมึกสด,ปลาหมึกกรอบราคาถาดละ 39 บาท วัตถุดิบแปรรูปและผักสดชนิดต่างๆทั้งเต้าหู้ไข่ไก่,เต้าหู้ปลาไส้ชีส,เต้าหู้ปลา,ปูอัด,ปูอัดไส้ชีส,ผักชุดเล็กราคา 29 บาท กะหล่ำปลีฝอย,ผักบุ้ง,ผักกาดขาว,ข้าวโพดอ่อน,ผักสามสีรวม,เห็ดเข็มทองรายการละ 19 บาทและผักชุดใหญ่แบบรวมมิตรราคา 49 บาท นอกนั้นก็เป็นวุ้นเส้น,มาม่า,เส้นบุกสาหร่าย 19 บาท / ไข่ไก่ 10 บาท / ชีสถ้วยละ 39 บาท ส่วนเครื่องดื่มไม่รวมในชุดต้องสั่งแยกทั้งน้ำเปล่า 20 บาท / น้ำอัดลมขวดใหญ่ขนาด 1 ลิตรคิด 40 บาท / โซดาขวดละ 15 บาท / น้ำแข็งคิดราคาเหมาโต๊ะละ 15 บาท ซึ่งในแต่ละวันจะมีวัตถุดิบพิเศษเพิ่มขึ้นมาถ้าอยากทราบต้องสอบถามพนักงานเพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกเบื่อไปก่อนนั่นเองครับ

มาถึงน้องพนักงานก็ให้เราเลือกที่นั่งได้ตามใจตัวเองเพราะยังไม่มีลูกค้าคนอื่นๆภายในร้านแม่แต่คนเดียว ซึ่งหมูกระทะแต่ละชุดให้ปริมาณเยอะขนาดไหนดูจากภาพถ่ายเฉยๆมองไม่ค่อยออกเลยขอของจริงมาวางเรียงบนโต๊ะเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง เนื่องจากด้านในครัวได้จัดเรียงเป็นชุดพร้อมขาย,คลุมแผ่นพลาสติกใสเอาไว้เรียบร้อยแล้วจึกยกออกมาให้เราถ่ายรูปเริ่มต้นจาก "ร่ำรวย" ราคา 199 บาทกินได้ 1-2 คน ประกอบไปด้วยหมูนุ่ม,หมูหมักพริกไทยดำ,สันคอหมู,หมูสามชั้นสไลด์,ตับหมู พร้อมผักสดขนาดเล็กทั้งผักกาดขาว,ผักบุ้งจีน,กะหล่ำปลี,วุ้นเส้น,ไข่ไก่และเห็ดเข็มทอง / "มั่งมี" ราคา 399 บาทกินได้ 2-3 คน ประกอบไปด้วยหมูหมักนุ่ม,หมูหมักพริกไทยดำ,สันคอหมู,หมูสามชั้นสไลด์,ตับหมู,กุ้งสด,ปลาดอลลี่,ปลาหมึกสด,ปลาหมึกกรอบและผักจานเล็กเหมือนชุดร่ำรวย สุดท้าย "มหาเศรษฐี" ราคา 599 บาทกินได้ 4-5 คน วัตถุดิบทุกอย่างเหมือนชุดมั่งมีแต่เพิ่มทั้งเต้าหู้ปลาไส้ชีส,เต้าหู้ปลา,ปูอัด,ไส้กรอก,ลูกชิ้นคริสตัลไส้ไข่กุ้งและปริมาณหมู-ซีฟู้ดต่างๆอัดแน่นรวมถึงผักสดเปลี่ยนเป็นถาดใหญ่พิเศษ เฉลี่ยแล้วเท่ากับว่าอิ่มละประมาณ 100-150 บาทซึ่งถือว่าคุ้มมากสำหรับคนทานไม่จุเน้นนั่งชิลปิ้งนานๆหลังเลิกงานครับ

อย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าชุดปิ้งย่างของทางร้านใช้เตาแก๊สกระป๋องพกพาจับคู่กับกระทะเจงกิสข่านเคลือบเทฟลอน แต่สำหรับใครที่รู้ตัวว่าควบคุมไฟแรงหรือเบาไม่ค่อยเก่งสามารถเลือกขอเปลี่ยนเป็นเตาไฟฟ้าแทนอย่างเราวางตั้งตะหง่านตรงกลางโต๊ะพร้อมเทน้ำซุปใสต้มจากกระดูหมูและผักรสหวานนวลกลมกล่อมลงไป ส่วนน้ำจิ้มเขาก็มีให้เลือกเปลี่ยนความอร่อยได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อถึง 4 สูตรหลักคือ 1.น้ำจิ้มสุกี้หรือหมูกระทะสูตรต้นตำรับปรุงด้วยตัวเองสัมผัสเหนียวข้นเต็มไปด้วยพริก,กระเทียมปั่นละเอียด 2.น้ำจิ้มแจ่วอีสานหอมพริกป่นข้าวคั่วและน้ำมะขามเปียก 3.น้ำจิ้มบาร์บีคิวเลียนแบบร้านมังกรเขียวชื่อดังสีน้ำตาลทองมีเอกลักษณ์และ 4.น้ำจิ้มสูตรแจ่วปลาร้านัวเพิ่มขึ้นมาใหม่ล่าสุดใส่ปลาร้า,ผักชี,ต้นหอมสับลงไปเพิ่มหากหมดต้องขอตรงจากน้องพนักงานเอง โดยน้ำจิ้มทุกสูตรวางไว้ให้ขวดใหญ่บนโต๊ะเติม-ปรุงความแซ่บเพิ่มด้วยพริกขี้หนูสับ/กระเทียมสับ/มะนาวซีกสดๆบีบลงไปจนกว่าจะพอใจครับ

หมูกระทะชุดเริ่มต้นวันนี้เราสั่งเป็น "มหาเศรษฐี" ราคา 599 บาท ซึ่งทางร้านเคลมเอาไว้ว่าทานได้ 4-5 คนแต่แค่ผมกับแฟน 2 คนบอกเลยว่าซัดกันหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ภายในชุดนั้นก็ประกอบไปด้วย หมูหมักนุ่ม,หมูหมักพริกไทยดำ,สันคอหมูสไลด์,หมูสามชั้นสไลด์,ตับหมูสด,กุ้งสดผ่าหลัง,ปลาดอลลี่,ปลาหมึกสด,ปลาหมึกกรอบ,เต้าหู้ปลาไส้ชีส,เต้าหู้ปลาทรงสี่เหลี่ยม,ปูอัด,ไส้กรอกไก่,ลูกชิ้นคริสตัลไส้ไข่กุ้ง,ผักกาดขาว,ผักบุ้งจีน,กะหล่ำปลี,วุ้นเส้น,ไข่ไก่สดและเห็ดเข็มทองให้ปริมาณเต็มถาดสุดบิ๊กเบิ้มวางกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งโต๊ะ สำหรับเครื่องดื่มสั่งเป็นโคล่ายี่ห้อเป๊ปซี่ขนาด 1 ลิตร ราคาขวดละ 40 บาท ส่วนน้ำแข็งก้อนเสิร์ฟครั้งละแก้วโดยสามารถเรียกน้องพนักงานเดินมาเติมได้เรื่อยๆคิดราคาเพียงโต๊ะละ 15 บาทตลอดทั้งคืน พร้อมช้อนพลาสติกสั้นไว้ตักซดน้ำซุปหมูในกระทะร้อนๆ/ถ้วยพัก/จานแบ่งกับตะเกียบไม้แบบใช้แล้วทั้งเพื่อความสะอาด,ถูกหลักอนามัย พร้อมทุกอย่างแล้วก็มาเริ่มลุยกันเลยครับผม

เห็นช่องน้ำซุปภายในกระทะปิ้งย่างไฟฟ้าว่างอยู่หนึ่งร่องเลยสั่งเมนู A La Carte มาเพิ่มอีกนิดหน่อยเริ่มต้นกันด้วย "ชีส" ราคาถ้วยละ 39 บาท ตอนยกเสิร์ฟพูดเลยว่าตกใจเพราะให้ปริมาณเกือบเต็มชามเป็นมอสซาเรลล่าสูตรนมผสมน้ำมันปาล์มไร้ไขมันทรานซ์สัมผัสเหนียวยืดหยุ่นมีกลิ่นหอมแต่ไม่เข้มข้นเท่าของแท้นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งส่วนตัวเรานั้นถือว่าเป็นข้อดีเพราะนั่งกินนานๆไม่รู้สึกเลี่ยนหรือทำให้ร่างกายสั่งตัวเองหยุดงะงักอย่างกระทันหันเมื่อได้รับปริมาณไขมันมากจนเกินไป ส่วนเหล่าเส้นต่างๆนอกจากวุ้นเส้นอยู่ภายในชุดมหาเศรษฐีจำนวนหนึ่งแล้วก็ยังสั่งรายการอื่นมาเพิ่มทั้ง "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ราคา 19 บาท เส้นเรียงกันอย่างสวยงาม,เหนียวนุ่มต้มนานๆแล้วไม่อืดฟูแถมรสชาติเค็มละมุนเข้ากับน้ำซุปของทางร้านได้เป็นอย่างดี "เส้นบุก" หรือเส้นแก้วสาหร่ายขนาดใหญ่ราคาถาดละ 19 บาท แคลอรี่น้อยคาร์โบไฮเดรต 0% อุดมไปด้วยใยอาหารของดีสำหรับชาวคลีน,คีโตแนะนำให้ต้มนานๆหน่อยจะมีสัมผัสตอนเคี้ยวคล้ายกับวุ้นเส้นแทบแยกไม่ออก เตาร้อนๆแล้วก็จัดการเรียงวัตถุดิบต่างๆลงไปอย่างสวยงามแล้วรอจนสุกเกรียมตามระดับที่ต้องการ,จับคีบใส่ถ้วยประจำตัวให้เรียบร้อยแล้วมาชิมน้ำจิ้มทุกสูตรของทางร้านกันครับ