นายฮ้อยผจญมนตร์ดำเขมร
ล. วิลิศมาหรา
เปลวร้อนจากไอแดดเต้นระยิบระยับกลางท้องทุ่งแห่งแดนดินถิ่นเสียงแคน ผืนนาหน้าแล้ง มองดูแล้วก่อให้เกิดความหดหู่ในจิตใจ ขาม นายฮ้อยหนุ่มลูกชายของนายฮ้อยไฝ นั่งบนหลังม้า ทอดตามองออกไปกลางท้องทุ่งอันกว้างไกลเบื้องหน้า ซึ่งตนจะต้องนำขบวนคาราวาน ต้อนฝูงควายนับร้อยตัวเดินทางผ่านไป เขากำลังทำหน้าที่คุมทัพควายไปขายยังต่างจังหวัด แทนนายฮ้อยไฝผู้เป็นพ่อ เป็นครั้งแรกในชีวิต
การนำควายไปขายในครั้งนี้ ขามมีลุงคำผายเป็นผู้ช่วย พร้อมด้วยไอ้แหวง ไอ้หยัน และคณะผู้ติดตามเป็นชายฉกรรจ์อีกจำนวนหลายคน ขบวนคาราวานพากันเดินทางมานอนกลางดินกินกลางทราย ผ่านทั้งป่าและทุ่งนาอันแห้งแล้ง บนเส้นทางที่ทุรกันดาร ผ่านมาตามทางเกวียน ใกล้กับพรมแดนไทยและเขมร จุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองล่าง ใช้เวลาในการเดินทางยาวนานเป็นแรมเดือนเลยทีเดียว
ผินหน้ากลับมามองขบวนทัพควายของตน ก่อนมาเขาได้ทำพิธีสืบต่อการเป็นนายฮ้อยจากผู้เป็นพ่อ โดยมีหมอธรรมเป็นคนทำพิธีกรรมให้ พร้อมด้วยผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน และเจ้าอาวาสวัดที่ตนเคารพนับถือ
“ไปคราวนี้จงมีสติ ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ขอให้โชคดีมีชัย กลับมาบ้านเราได้อย่างปลอดภัยกันทุกคน”
พระและนายฮ้อยไฝ ตลอดจนผู้เฒ่าทุกคน พากันอวยชัยให้พรแก่ขาม
“สาธุจ้ะ” ขามก้มลงกราบพระ ไหว้นายฮ้อยผู้พ่อและผู้ชราในหมู่บ้าน
“พ่อขอมอบตะกรุดยันตร์และย่ามใส่ของขลังทั้งหมดให้แก่เอ็ง วิชาอาคมต่าง ๆ ที่พ่อสอนให้ ขอให้เอ็งจงจำไว้ อย่าทำในสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรม โดยเฉพาะข้อขะลำของนายฮ้อย ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด”
“วางใจเถอะจ้ะพ่อ ข้าจะจำไว้ ไม่เผลอไผลไปทำผิดขะลำเป็นอันขาด”
นายฮ้อยไฝพยักหน้าอย่างพอใจ แกหันมาหยิบขันน้ำมนต์ซึ่งมีก้อนเหล็กไหลแช่อยู่ ยื่นส่งให้ลูกชาย ขามรับขันมาชูขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะยกดื่ม ทันทีที่น้ำมนต์ล่วงผ่านลำคอลงไป ความร้อนแรงก็แล่นซ่านไปทั้งตัว จนเนื้อตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
“นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เอ็งก็คือนายฮ้อยขาม ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้า กุมชะตาชีวิตของคนและควายในกองคาราวาน จงประพฤติตนอยู่ในจารีตสิบสอง ปกครองสิบสี่ และถือข้อขะลำเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
นึกถึงพิธีกรรมในวันนั้นแล้ว ขามก็ระบายลมหายใจออกมา เขามีความภูมิใจในตำแหน่งของนายฮ้อย ผู้มีไสยเวทย์และอาคมขลัง มีฝีมือในการต่อสู้อันฉกาจฉกรรจ์ สมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายนักสู้แห่งพื้นที่ราบสูงอีสาน
จนถึงวันต้อนควายไปขาย การเดินทางของทัพควายมีจำนวนเกวียนที่ร่วมเดินทางไปนับสิบเล่ม ขณะนี้พวกตนกำลังจะล่วงผ่านพ้นท้องทุ่งที่แห้งแล้ว ขบวนคาราวานทยอยเดินผ่านกันเป็นทิวแถว คำผายกับชายฉกรรจ์คุมทัพควาย ขี่ม้ากระหนาบฝูงควาย ทุกคนเหน็บมีดพกไว้ที่เอว สะพายปืนลูกซองยาวไว้ที่หลัง คอยอารักขาขบวนควาย ป้องกันกลุ่มโจรที่จะเข้ามาปล้นควาย ซึ่งมักพบว่าเป็นพวกโจรของหมอคาถาชาวเขมร ที่ชอบปล้นวัวควายในเส้นทางสายนี้อยู่เป็นประจำ
ติดตามนายฮ้อยขามไปคุมคาราวานควายได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/WTMieLnprxY
อภินิหารเขี้ยวเสือไฟเป็นเรื่องที่เขียนมานานมากแล้ว ฉายซ้ำอีกรอบ นำมาอัดเสียงใหม่ค่ะ
นายฮ้อยผจญมนตร์ดำเขมร + อภินิหารเขี้ยวเสือไฟ
การนำควายไปขายในครั้งนี้ ขามมีลุงคำผายเป็นผู้ช่วย พร้อมด้วยไอ้แหวง ไอ้หยัน และคณะผู้ติดตามเป็นชายฉกรรจ์อีกจำนวนหลายคน ขบวนคาราวานพากันเดินทางมานอนกลางดินกินกลางทราย ผ่านทั้งป่าและทุ่งนาอันแห้งแล้ง บนเส้นทางที่ทุรกันดาร ผ่านมาตามทางเกวียน ใกล้กับพรมแดนไทยและเขมร จุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองล่าง ใช้เวลาในการเดินทางยาวนานเป็นแรมเดือนเลยทีเดียว
ผินหน้ากลับมามองขบวนทัพควายของตน ก่อนมาเขาได้ทำพิธีสืบต่อการเป็นนายฮ้อยจากผู้เป็นพ่อ โดยมีหมอธรรมเป็นคนทำพิธีกรรมให้ พร้อมด้วยผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน และเจ้าอาวาสวัดที่ตนเคารพนับถือ
“ไปคราวนี้จงมีสติ ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ขอให้โชคดีมีชัย กลับมาบ้านเราได้อย่างปลอดภัยกันทุกคน”
พระและนายฮ้อยไฝ ตลอดจนผู้เฒ่าทุกคน พากันอวยชัยให้พรแก่ขาม
“สาธุจ้ะ” ขามก้มลงกราบพระ ไหว้นายฮ้อยผู้พ่อและผู้ชราในหมู่บ้าน
“พ่อขอมอบตะกรุดยันตร์และย่ามใส่ของขลังทั้งหมดให้แก่เอ็ง วิชาอาคมต่าง ๆ ที่พ่อสอนให้ ขอให้เอ็งจงจำไว้ อย่าทำในสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรม โดยเฉพาะข้อขะลำของนายฮ้อย ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด”
“วางใจเถอะจ้ะพ่อ ข้าจะจำไว้ ไม่เผลอไผลไปทำผิดขะลำเป็นอันขาด”
นายฮ้อยไฝพยักหน้าอย่างพอใจ แกหันมาหยิบขันน้ำมนต์ซึ่งมีก้อนเหล็กไหลแช่อยู่ ยื่นส่งให้ลูกชาย ขามรับขันมาชูขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะยกดื่ม ทันทีที่น้ำมนต์ล่วงผ่านลำคอลงไป ความร้อนแรงก็แล่นซ่านไปทั้งตัว จนเนื้อตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
“นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เอ็งก็คือนายฮ้อยขาม ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้า กุมชะตาชีวิตของคนและควายในกองคาราวาน จงประพฤติตนอยู่ในจารีตสิบสอง ปกครองสิบสี่ และถือข้อขะลำเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
นึกถึงพิธีกรรมในวันนั้นแล้ว ขามก็ระบายลมหายใจออกมา เขามีความภูมิใจในตำแหน่งของนายฮ้อย ผู้มีไสยเวทย์และอาคมขลัง มีฝีมือในการต่อสู้อันฉกาจฉกรรจ์ สมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายนักสู้แห่งพื้นที่ราบสูงอีสาน
จนถึงวันต้อนควายไปขาย การเดินทางของทัพควายมีจำนวนเกวียนที่ร่วมเดินทางไปนับสิบเล่ม ขณะนี้พวกตนกำลังจะล่วงผ่านพ้นท้องทุ่งที่แห้งแล้ว ขบวนคาราวานทยอยเดินผ่านกันเป็นทิวแถว คำผายกับชายฉกรรจ์คุมทัพควาย ขี่ม้ากระหนาบฝูงควาย ทุกคนเหน็บมีดพกไว้ที่เอว สะพายปืนลูกซองยาวไว้ที่หลัง คอยอารักขาขบวนควาย ป้องกันกลุ่มโจรที่จะเข้ามาปล้นควาย ซึ่งมักพบว่าเป็นพวกโจรของหมอคาถาชาวเขมร ที่ชอบปล้นวัวควายในเส้นทางสายนี้อยู่เป็นประจำ
ติดตามนายฮ้อยขามไปคุมคาราวานควายได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/WTMieLnprxY
อภินิหารเขี้ยวเสือไฟเป็นเรื่องที่เขียนมานานมากแล้ว ฉายซ้ำอีกรอบ นำมาอัดเสียงใหม่ค่ะ