@@@ โครงสร้างพื้นฐานในช่วง 8 ปี มาเลย์ แอบมองนะจ๊ะ @@@

มีบางคนด้อยค่าประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา บอกว่าเวียดนามจะแซงไทย ผมรออยู่สามสิบปีแล้ว ตั้งแต่เวียดนามเริ่มกินตลาดแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอค่าแรงราคาถูกกว่าของไทย ต่อมาก็เริ่มมีนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามที่กลุ่มคนไทยไปลงทุน เพราะเน้นอุตสาหกรรมค่าแรงราคาถูกที่ไม่ต้องแรงงานฝีมือมากนัก


ขณะที่ประเทศไทยก็ก้าวไปอีกขั้น เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ทักษะอีกระดับหนึ่งที่ไม่ได้เน้นค่าแรงเหมือนเก่า เพราะเรารู้ว่าประเทศไทยอยู่เพียงอุตสาหกรรมแบบเก่าไม่ได้ หลายคนคงไม่รู้ว่าในนิคมอุตสาหกรรมชานเมืองไม่ไกลจากกรุงเทพของเรามีโรงงานผลิตต่อยอดแผ่นเวเฟอร์ไมโครชิพ และเซมิคอนดักเตอร์มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว นั่นคือหนึ่งในอีกหลายร้อยโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีและแรงงานฝีมือที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรายังไม่มีประชากรที่มีคุณภาพขนาดนั้น


ส่วนแรงงานราคาถูกของเราก็เริ่มหายากขึ้นไปทุกที่จนต้องพึ่งพาแรงงานจากพม่าที่มาอยู่ในประเทศหลายล้านคน ในภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลและประมงเกือบจะเป็นแรงงานพม่าล้วนๆ ผมเคยพูดเล่นสนุกๆ ในกลุ่มเสวนาว่า จ.ระนองกับ จ.สมุทรสาคร มีพม่ามากกว่าคนไทยเสียอีก ขนาดป้ายโฆษณาสมาร์ทโฟนกับเครื่องดื่มชูกำลังยังเป็นภาษาพม่าเลย


*************************************


เมื่อวานนี้ นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เขียนอะไรบางอย่างบน เฟซบุค เกี่ยวกับประเทศไทยว่า


ฉันเสียใจที่เห็นภาพเหล่านี้ ที่เห็นนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศมาเลเซียนะรู้หรือยัง?

นี่คือรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทย เปรียบเทียบการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านกับเรา ฉันเคยวางแผนเศรษฐกิจและต้องทำมันแต่เนิ่นๆ เพราะเราต้องอยู่ข้างหน้าเสมอ หากเราต้องการแข่งขันกับประเทศอื่น เราไม่สามารถล้าหลังในด้านโครงสร้างพื้นฐานได้

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยังก่อให้เกิดสภาพเศรษฐกิจที่ดีและการจ้างงานอีกด้วย คนหนุ่มสาวและผู้สำเร็จการศึกษาในท้องถิ่นมีโอกาสในการทำงาน และพวกเขายังสามารถได้รับประสบการณ์และเรียนรู้ในโครงการที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

นอกจากนั้นยังสามารถระดมเศรษฐกิจท้องถิ่นในพื้นที่โครงการ และสร้างประโยชน์มาสู่ผู้ค้ารายย่อย เพียงแค่รัฐบาลพรรคแนวร่วมแห่งความหวัง (Pakatan Harapan : PH) ตัดงบประมาณก้อนนี้ ยกเลิกโครงการและจ่ายค่าชดเชยในโครงการพัฒนาอื่นๆ ที่นาจิบเคยทำมาก่อนต้องหยุดลง ไม่มีการวางแผนเศรษฐกิจใดๆ


**********************************


ผมบอกได้เลยนะครับว่าประเทศไทยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาไปได้ไกลกว่าที่คาดหวังเอาไว้ ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐานทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ถนนระหว่างจังหวัดสายใหม่ ทางรถไฟเส้นใหม่ รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงของจริง และความเร็วปานกลางที่เพื่อนบ้านเครมของตัวเองว่าความเร็วสูง การเชื่อมต่อทางรถไฟที่ไปรับส่งสินค้าจากจีนใต้ โดยไทยยังใช้รางมิเตอร์เกจของเราที่สามารถทะลุจากเวียงจันทร์ประเทศลาวไปถึงสิงคโปร์ได้ในเวลาเพียงไม่ถึงสองวัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน


ไอ้ที่บอกว่าเวียดนามจะแซงไทย มาเลย์แซงไทยไปหลายปีแล้ว ถ้าคนเคยเดินทางไปทั่วเอเซียมาแล้วจะหัวเราะกับคำพูดเหล่านี้ เพราะคนที่กล้าพูดแบบนี้คงไม่เคยไปเวียดนามกับมาเลย์แล้วลงไปเดินทางบนถนนระหว่างจังหวัดจริงๆ หรอกครับ บ้านนอกของเราเป็นสวรรค์ ถนนหนทางและสาธารณูปโภคมีน้ำมีไฟ เจริญกว่าบ้านนอกของเขาแบบคนละโลก จะบอกว่าไทยเราเจริญไปพร้อมกันทั้งประเทศ ไม่ใช่เจริญแต่เขตจังหวัดใหญ่ในเมืองเหมือนเวียดนามกับมาเลย์


ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้าลุงข้างบ้านที่บางคนเกลียดหน้าอย่างนายกคนปัจจุบันได้นั่งต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า โครงการที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ ทางรถไฟทางคู่และทางรถไฟเส้นใหม่ รถไฟความเร็วสูงของแท้ที่ไม่ใช่ของปลอมแบบลาว รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ก็คงได้เดินโครงการไปต่อไม่ต้องหยุดชะงัก


แต่ถ้าลุงแกไม่ได้ไปต่อ ด้วยเหตุผลทางการเมืองอย่างไรก็แล้วแต่ ลุงต้องเก็บของกลับไปเลี้ยงหมาที่บ้าน ประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ บางเรื่องที่ลุงแกวางแผนพัฒนาที่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ก็คงโดนรื้อโครงการทิ้งไม่ต่างกับที่หลายรัฐบาลในอดีตทำกับโครงการของรัฐบาลเก่า


ผมคาดว่าลุงข้างบ้านแกคงต้องช้ำใจเหมือนที่นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเขียนระบายความในใจลงในเฟซบุคเมื่อวานนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่