เดือด! กมธ. บี้กองทัพแจงงบลับ 500 ล้าน แฉเช่ารถเบนซ์หรูให้ 36 นายทหารใหญ่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7167252
กมธ.งบประมาณ ถกเดือด บี้งบกองทัพ ไอติม ถามแผนปรับลดงบกำลังพล จี้แจงงบลับ 500 ล้านบาท สมชัย แฉเช่ารถเบนซ์หรูให้ 36 นายทหารใหญ่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 197,292,732,000 ล้านบาท
โดยนาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกมธ. ถามว่า เมื่อเทียบกองทัพไทยกับจำนวนประชากรที่มีในประเทศ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ในอาเซียน และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว พบว่ามากกว่าครึ่ง เป็นงบประมาณที่ใช้จ่ายประจำเรื่องเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และค่าใช้จ่ายบุคลากร จึงอยากทราบแผนงานกองทัพในการที่จะปรับลดจำนวนกำลังพลอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกันหากพิจารณาไปถึงการเกณฑ์ทหารของกองทัพบก ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายบุคลากรจำนวนมากเช่นกัน เพราะในปีหนึ่งจะมีจำนวนทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ประมาณ 1 แสนคน แม้จะมีนโยบายเปิดรับสมัคร แต่เมื่อพิจารณาจำนวนก็จะพบว่ามีไม่ถึงครึ่งที่เข้ามาสมัครเอง ดังนั้นมากกว่าครึ่งจึงยังเป็นการบังคับเกณฑ์ ซึ่งการบังคับเกณฑ์นี้ทำให้เกิดความเสียโอกาสของบุคคล เช่น ขาดโอกาสในการทำงานในขณะที่ประเทศกำลังต้องการแรงงาน เพราะกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย
“จึงอยากทราบแนวทางของกองทัพอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับนโยบายการเกณฑ์ทหารว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในอนาคต นอกจากนี้ยังอยากทราบถึงงบลับ 469,955,000 บาท ที่อยู่ในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้หรือไม่” นาย
พริษฐ กล่าว
ด้านนาย
อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. กล่าวว่า กราบขอบคุณกองทัพ ที่ทำให้งบประมาณประจำปีลดน้อยลง ยอมรับว่าจ.ลพบุรีของตน มีกำลังพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่ผ่านมาเห็นผ้าคลุมศพทหารอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้มีการเพิ่มงบประมาณ การบูรณาการงบประมาณ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้จากประสบการณ์การไปดูถ่ายโอนภารกิจ พบว่ากำลังพลมีการเสี่ยงตายจำนวนมาก ตนอยากให้มีการสับเปลี่ยนกำลังพล เนื่องจากกังวลถึงขวัญกำลังใจของพลทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดน และกำลังพลที่อยู่ว่าง
ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานได้ส่งเสริมให้กำลังพลได้ไปศึกษาต่อ เพื่อให้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันโรงพยาบาลทหารขนาดใหญ่ทั้งในพื้นที่จ.ลพบุรี หรือแม้แต่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ในกทม. ไม่ได้รักษาหรือให้บริการเฉพาะบุคลากรของกองทัพเท่านั้น แต่ยังให้บริการประชาชนทั่วไปด้วย ดังนั้นจึงอยากให้เพิ่มอัตรากำลังพลในการพยาบาล
ขณะที่นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกกพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะกมธ. อภิปรายพุ่งเป้าไปที่ค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูงโดยขอทราบรายละเอียดเงินตอบแทนพิเศษทหารระดับพันเอก (พิเศษ) ขึ้นไป จนถึงระดับนายพล ว่ามีอัตราการจ่ายอย่างไร และจ่ายอยู่จำนวนกี่นาย รวมงบประมาณเท่าใด
นาย
สมชัย กล่าวว่าได้รับจดหมายจากกำลังพลส่งมาให้และขออ่านเพื่อสอบถามให้เหล่าทัพต่างๆ ชี้แจง โดยระบุว่าได้รับการแจ้งจากคนในกองทัพว่า ปัจจุบันทุกเหล่าทัพมีการเช่ารถยนต์ให้ผู้บริหารระดับสูง รวม 36 คน เช่น ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดฯ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และที่ปรึกษากองทัพ โดยรถที่เช่า เป็นรถเบนซ์ S500 และ S400
ในจดหมายดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่าการเช่ารถให้ผู้บริหารกองทัพมีหลักเกณฑ์เหมือนหน่วยราชการอื่นทั่วไปหรือไม่ที่จะมีการกำหนดวงเงิน ค่าเช่า และจำนวนซีซีของรถยนต์ เทียบกับตำแหน่งต่างๆ ซึ่งตนอยากได้รับคำชี้แจงจากกองทัพ
กฟผ.วอนรัฐอุ้มภาระเชื้อเพลิง เหตพยุงค่าไฟใกล้ทะลุแสนล้านแล้ว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/301498
กฟผ. เผยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ร่วมแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้กู้เงินนับหมื่นล้านเสริมสภาพคล่องแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องขอกู้เงินเพิ่ม วอนรัฐช่วยดูแลเพื่อมิให้กระทบความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว แจงกำไรสะสมเป็นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในรูปของสินทรัพย์เพื่อผลิตและส่งไฟฟ้า มิใช่เงินสด ไม่สามารถนำมาช่วยพยุงค่าไฟฟ้าได้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 นายบุ
ญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาวิกฤตราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมรับภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่งวดเดือนก.ย.64 จนถึงปัจจุบันรวมแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้ กฟผ. จะพยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแล้วจำนวน 25,000 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอต่อการแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่เกินกำลัง เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นจริง วอนรัฐช่วยดูแลเพื่อไม่ให้กระทบต่อความความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว
ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่มิได้มุ่งแสวงหากำไร โดยราคาค่าไฟฟ้าและกำไรของ กฟผ. ถูกกำกับโดย กกพ. ให้มีรายได้เพียงพอต่อการลงทุนและบริหารกิจการเท่านั้น ซึ่งกำไรของ กฟผ. จะถูกนำส่งกระทรวงการคลังเป็นเงินรายได้แผ่นดินเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ รวมถึงลงทุนในระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและส่งไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคงทางพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ส่วนกำไรสะสมของ กฟผ. จำนวน 3.29 แสนล้านบาท ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงินนั้นไม่ใช่เงินสด แต่เป็นการแสดงตัวเลขสะสมของมูลค่าสินทรัพย์ที่ กฟผ. นำกำไรส่วนที่เหลือจากการนำส่งกระทรวงการคลังในแต่ละปีไปลงทุนในรูปของสินทรัพย์ที่ใช้ผลิตและส่งไฟฟ้าให้แก่ประชาชน อาทิ โรงไฟฟ้า สถานีส่งไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการ จึงไม่สามารถนำกำไรสะสมดังกล่าวมาจ่ายชดเชยค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้
กฟผ. ยังคงติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด และร่วมกับภาครัฐบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อลดภาระค่าเชื้อเพลิงและต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า เช่น ปรับแผนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนถูกก่อน เลื่อนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้ถ่านหินในประเทศซึ่งเป็นเชื้อเพลิงราคาถูกในการผลิตไฟฟ้า ควบคู่กับการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานอย่างเข้มข้นทั้งในสำนักงาน เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศ สู่เป้าหมายลดใช้พลังงานลงร้อยละ 20 เพื่อช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาสูงจากต่างประเทศ โดยประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศให้ก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ด้วยการประหยัดพลังงาน
กลุ่มลอตเตอรี่รายย่อย จี้ ‘นายกฯ’ ปลดบอร์ดสลากฯ ด้านจนท.ขนรถฉีดน้ำตรึงกำลังหน้าทำเนียบฯ
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/301515
เครือข่ายลอตเตอรี่รายย่อย ปักหลักชุมนุมทำเนียบรัฐบาล เตรียมยื่นข้อเรียกร้อง “นายกฯ” จี้ “ปลดบอร์ดสลากฯ” พิจารณาจัดสรรโควต้าผู้ค้าตัวจริง ด้านตำรวจนำรถฉีดน้ำ - ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัย
บรรยากาศด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ์ ทางเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจาการจัดสรรโควต้าสลาก ยังคงปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง โดยช่วงเช้า เริ่มทำกิจกรรมรำบวงสรวงฯ และเปิดให้ผู้ค้าลอตเตอรี่ตัวจริงที่เดินทางมาเข้าร่วมลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ค้าตัวจริง
ก่อนที่เวลา 10.00น. จะแสดงพลัง ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาปลดบอร์ดกองสลาก และการจัดสรรโควต้าสลากให้กับผู้ค้าตัวจริง
ขณะที่ตำรวจ ได้ปิดการจราจรถนนพิษณุโลก ฝั่งทำเนียบแล้ว ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ์ ถึงแยกมิสกวัน พร้อมตรึงกำลัง - สแตนด์บายรถฉีดน้ำแรงดันสูง และเครื่องขยายเสียง ดูแลความปลอดภัย
JJNY : เดือด!กมธ.แฉเช่าเบนซ์หรูให้นายทหาร│กฟผ.วอนรัฐอุ้มภาระ│กลุ่มลอตเตอรี่รายย่อยจี้ปลดบอร์ดสลากฯ│แรงงานบุกทำเนียบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7167252
กมธ.งบประมาณ ถกเดือด บี้งบกองทัพ ไอติม ถามแผนปรับลดงบกำลังพล จี้แจงงบลับ 500 ล้านบาท สมชัย แฉเช่ารถเบนซ์หรูให้ 36 นายทหารใหญ่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 197,292,732,000 ล้านบาท
โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกมธ. ถามว่า เมื่อเทียบกองทัพไทยกับจำนวนประชากรที่มีในประเทศ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ในอาเซียน และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว พบว่ามากกว่าครึ่ง เป็นงบประมาณที่ใช้จ่ายประจำเรื่องเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และค่าใช้จ่ายบุคลากร จึงอยากทราบแผนงานกองทัพในการที่จะปรับลดจำนวนกำลังพลอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกันหากพิจารณาไปถึงการเกณฑ์ทหารของกองทัพบก ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายบุคลากรจำนวนมากเช่นกัน เพราะในปีหนึ่งจะมีจำนวนทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ประมาณ 1 แสนคน แม้จะมีนโยบายเปิดรับสมัคร แต่เมื่อพิจารณาจำนวนก็จะพบว่ามีไม่ถึงครึ่งที่เข้ามาสมัครเอง ดังนั้นมากกว่าครึ่งจึงยังเป็นการบังคับเกณฑ์ ซึ่งการบังคับเกณฑ์นี้ทำให้เกิดความเสียโอกาสของบุคคล เช่น ขาดโอกาสในการทำงานในขณะที่ประเทศกำลังต้องการแรงงาน เพราะกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย
“จึงอยากทราบแนวทางของกองทัพอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับนโยบายการเกณฑ์ทหารว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในอนาคต นอกจากนี้ยังอยากทราบถึงงบลับ 469,955,000 บาท ที่อยู่ในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้หรือไม่” นายพริษฐ กล่าว
ด้านนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. กล่าวว่า กราบขอบคุณกองทัพ ที่ทำให้งบประมาณประจำปีลดน้อยลง ยอมรับว่าจ.ลพบุรีของตน มีกำลังพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่ผ่านมาเห็นผ้าคลุมศพทหารอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้มีการเพิ่มงบประมาณ การบูรณาการงบประมาณ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้จากประสบการณ์การไปดูถ่ายโอนภารกิจ พบว่ากำลังพลมีการเสี่ยงตายจำนวนมาก ตนอยากให้มีการสับเปลี่ยนกำลังพล เนื่องจากกังวลถึงขวัญกำลังใจของพลทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดน และกำลังพลที่อยู่ว่าง
ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานได้ส่งเสริมให้กำลังพลได้ไปศึกษาต่อ เพื่อให้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันโรงพยาบาลทหารขนาดใหญ่ทั้งในพื้นที่จ.ลพบุรี หรือแม้แต่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ในกทม. ไม่ได้รักษาหรือให้บริการเฉพาะบุคลากรของกองทัพเท่านั้น แต่ยังให้บริการประชาชนทั่วไปด้วย ดังนั้นจึงอยากให้เพิ่มอัตรากำลังพลในการพยาบาล
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกกพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะกมธ. อภิปรายพุ่งเป้าไปที่ค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูงโดยขอทราบรายละเอียดเงินตอบแทนพิเศษทหารระดับพันเอก (พิเศษ) ขึ้นไป จนถึงระดับนายพล ว่ามีอัตราการจ่ายอย่างไร และจ่ายอยู่จำนวนกี่นาย รวมงบประมาณเท่าใด
นายสมชัย กล่าวว่าได้รับจดหมายจากกำลังพลส่งมาให้และขออ่านเพื่อสอบถามให้เหล่าทัพต่างๆ ชี้แจง โดยระบุว่าได้รับการแจ้งจากคนในกองทัพว่า ปัจจุบันทุกเหล่าทัพมีการเช่ารถยนต์ให้ผู้บริหารระดับสูง รวม 36 คน เช่น ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดฯ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และที่ปรึกษากองทัพ โดยรถที่เช่า เป็นรถเบนซ์ S500 และ S400
ในจดหมายดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่าการเช่ารถให้ผู้บริหารกองทัพมีหลักเกณฑ์เหมือนหน่วยราชการอื่นทั่วไปหรือไม่ที่จะมีการกำหนดวงเงิน ค่าเช่า และจำนวนซีซีของรถยนต์ เทียบกับตำแหน่งต่างๆ ซึ่งตนอยากได้รับคำชี้แจงจากกองทัพ
กฟผ.วอนรัฐอุ้มภาระเชื้อเพลิง เหตพยุงค่าไฟใกล้ทะลุแสนล้านแล้ว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/301498
กฟผ. เผยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ร่วมแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้กู้เงินนับหมื่นล้านเสริมสภาพคล่องแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องขอกู้เงินเพิ่ม วอนรัฐช่วยดูแลเพื่อมิให้กระทบความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว แจงกำไรสะสมเป็นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในรูปของสินทรัพย์เพื่อผลิตและส่งไฟฟ้า มิใช่เงินสด ไม่สามารถนำมาช่วยพยุงค่าไฟฟ้าได้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาวิกฤตราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมรับภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่งวดเดือนก.ย.64 จนถึงปัจจุบันรวมแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้ กฟผ. จะพยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแล้วจำนวน 25,000 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอต่อการแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่เกินกำลัง เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นจริง วอนรัฐช่วยดูแลเพื่อไม่ให้กระทบต่อความความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว
ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่มิได้มุ่งแสวงหากำไร โดยราคาค่าไฟฟ้าและกำไรของ กฟผ. ถูกกำกับโดย กกพ. ให้มีรายได้เพียงพอต่อการลงทุนและบริหารกิจการเท่านั้น ซึ่งกำไรของ กฟผ. จะถูกนำส่งกระทรวงการคลังเป็นเงินรายได้แผ่นดินเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ รวมถึงลงทุนในระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและส่งไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคงทางพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ส่วนกำไรสะสมของ กฟผ. จำนวน 3.29 แสนล้านบาท ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงินนั้นไม่ใช่เงินสด แต่เป็นการแสดงตัวเลขสะสมของมูลค่าสินทรัพย์ที่ กฟผ. นำกำไรส่วนที่เหลือจากการนำส่งกระทรวงการคลังในแต่ละปีไปลงทุนในรูปของสินทรัพย์ที่ใช้ผลิตและส่งไฟฟ้าให้แก่ประชาชน อาทิ โรงไฟฟ้า สถานีส่งไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการ จึงไม่สามารถนำกำไรสะสมดังกล่าวมาจ่ายชดเชยค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้
กฟผ. ยังคงติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด และร่วมกับภาครัฐบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อลดภาระค่าเชื้อเพลิงและต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า เช่น ปรับแผนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนถูกก่อน เลื่อนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้ถ่านหินในประเทศซึ่งเป็นเชื้อเพลิงราคาถูกในการผลิตไฟฟ้า ควบคู่กับการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานอย่างเข้มข้นทั้งในสำนักงาน เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศ สู่เป้าหมายลดใช้พลังงานลงร้อยละ 20 เพื่อช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาสูงจากต่างประเทศ โดยประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศให้ก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ด้วยการประหยัดพลังงาน
กลุ่มลอตเตอรี่รายย่อย จี้ ‘นายกฯ’ ปลดบอร์ดสลากฯ ด้านจนท.ขนรถฉีดน้ำตรึงกำลังหน้าทำเนียบฯ
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/301515
เครือข่ายลอตเตอรี่รายย่อย ปักหลักชุมนุมทำเนียบรัฐบาล เตรียมยื่นข้อเรียกร้อง “นายกฯ” จี้ “ปลดบอร์ดสลากฯ” พิจารณาจัดสรรโควต้าผู้ค้าตัวจริง ด้านตำรวจนำรถฉีดน้ำ - ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัย
บรรยากาศด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ์ ทางเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจาการจัดสรรโควต้าสลาก ยังคงปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง โดยช่วงเช้า เริ่มทำกิจกรรมรำบวงสรวงฯ และเปิดให้ผู้ค้าลอตเตอรี่ตัวจริงที่เดินทางมาเข้าร่วมลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ค้าตัวจริง
ก่อนที่เวลา 10.00น. จะแสดงพลัง ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาปลดบอร์ดกองสลาก และการจัดสรรโควต้าสลากให้กับผู้ค้าตัวจริง
ขณะที่ตำรวจ ได้ปิดการจราจรถนนพิษณุโลก ฝั่งทำเนียบแล้ว ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ์ ถึงแยกมิสกวัน พร้อมตรึงกำลัง - สแตนด์บายรถฉีดน้ำแรงดันสูง และเครื่องขยายเสียง ดูแลความปลอดภัย