อุ๊งอิ๊ง นำทีมเพื่อไทย ปล่อยคลิปอวยพรปีใหม่ ยัน พท.พร้อมคิดใหญ่ รับใช้ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3748908
 
 
“อุ๊งอิ๊ง” นำพท. ปล่อยคลิปอำลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ยันรบ.เพื่อไทยที่พร้อมคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน
 
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พรรคเพื่อไทย นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคและส.ส.ของพรรค ปล่อยคลิปอำลาปี 65 เตรียมต้อนรับปี 2566 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ปีแห่งการเริ่มใหม่ โดยอวยพรว่า ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่พี่น้องนับถือ ดลบันดาลให้ทุกท่านพบแต่ความสุข โชคลาภ สุขภาพดีทั้งกายและใจ เดินทางกลับบ้านปลอดภัย เดินทางกลับมาสดใส เต็มพร้อมด้วยพลัง ขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ที่ร่วมเดินทางด้วยกันตลอดปี 2565 พบกันใหม่ปีหน้า กับรัฐบาลเพื่อไทยที่พร้อมจะ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน
 
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ปีใหม่นี้ ให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไปไหนมาไหนปลอดภัย ถ้าปีหน้าพรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน เราจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
  

---

 
‘ปธ.กมธ.การเมืองฯ’ โต้ ‘เรืองไกร’ ดูงานเยอรมัน ไม่เข้าข่ายรับผลประโยชน์เกิน 3 พันบาท
https://www.matichon.co.th/politics/news_3748779
  
‘ปธ.กมธ.การเมืองฯ’ โต้ ‘เรืองไกร’ ดูงานเยอรมันไม่เข้าข่ายรับผลประโยชน์เกิน 3 พันบาท
 
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ประธานคณะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ในฐานะ กมธ. แถลงถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ กมธ.การเมืองฯ ที่ได้เดินทางไปเยอรมันระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน-4 ธันวาคม 2565 โดยทางมูลนิธิฮันส์ ไซเดล ประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด เข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์เกิน 3,000 บาท และเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯหรือไม่
 
โดยนายณัฐชากล่าวว่า กมธ.ได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมันจริง เพราะทางมูลนิธิฮันส์ ไซเดลฯ ได้เชิญ กมธ.ไปดูงานโดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ทาง กมธ.ได้หารือกันแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของ กมธ.จึงไปดูระบบเลือกตั้งของประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อนำมาปรับปรุงใช้ในประเทศของเรา และได้ขออนุญาตและได้รับการอนุมัติจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาแล้ว เมื่อกลับจากดูงาน ทาง กมธ.ก็ได้รวบรวมข้อมูล เพื่อทำรายงานเสนอต่อสภา
 
นายณัฐชากล่าวว่า นอกจากนั้น ในเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งค่าเครื่องบิน ค่าอาหาร ที่พัก หรืออื่นๆ ที่ กมธ.สามารถเบิกจ่ายจากงบของสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่ทาง กมธ.ไม่ได้เบิกแม้แต่บาทเดียว เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคลหรือการรับผลประโยชน์เกิน 3,000 บาท แต่เป็นการเชิญ กมธ.ทั้งคณะเพื่อไปศึกษาดูงาน ซึ่งหน่วยงานอื่นๆ แม้แต่นายกฯก็เคยไปต่างประเทศโดยหน่วยงานนั้นๆ เชิญและออกค่าใช้จ่ายให้ หรือกรณีที่ประเทศไทยเชิญหน่วยงานจากต่างประเทศมาดูงานก็มีการออกค่าใช้จ่ายให้เช่นกัน
 

---

ไม่หยุดปีใหม่! ทร.ยันลุยค้นหาต่อเนื่อง ผู้สูญหาย เรือหลวงสุโขทัยล่ม อีก 5 นาย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7436916

ไม่หยุดปีใหม่! ทร.ยันลุยค้นหาต่อเนื่อง ผู้สูญหาย เรือหลวงสุโขทัยล่ม อีก 5 นาย เผย ผบ.ทร. กำชับให้เร่งรัดดำเนินการด้านสิทธิกำลังพลแก่ครอบครัว
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2565 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตลอดทั้งวัน กำลังทางเรือและอากาศยาน ยังคงดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่ที่รับมอบหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งบนผิวน้ำและใต้แนวน้ำ นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ของท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาด โดยปัจจุบันยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม ซึ่งกองทัพเรือยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่สูญหายอีก 5 นายอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่
  
สำหรับในส่วนของสิทธิกำลังพลและการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบนั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหาย โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่างๆ อย่างเร่งด่วน
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 29 ธันวาคม 2565) เวลา 17.00 น.
 
ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 22 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 2 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 5 นาย
 
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 22 นาย ประกอบด้วย
1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก
2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
3. พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
4. พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล
6. จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
7. จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
9. จ่าโท สหรัฐ อีสา
10. จ่าตรี สถาพร สมเหนือ
11. จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์
12. จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
13. จ่าตรี ศราวุธ นาดี
14. จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
15. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ
16. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
17. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
18. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
19. พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
20. พลทหาร จำลอง แสนแก
21. พันจ่าเอก คุณากร จริยศ
22. พลทหาร ชลัส อ้อยทอง
 
รายชื่อกำลังพลที่ยังคงสูญหาย รวม 7 นาย ( มี 2 นายที่อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล)
 
กำลังพล เรือหลวงสุโขทัย จำนวน 3 นาย
1. ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม
2. จ่าตรี โสภณ วงษ์สนิท
3. พลทหาร ชัยชนะ ช่างวาด
 
กำลังพล หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 2 นาย
1. พันจ่าเอก จิราวัฒน์ เจริญศิลป์
2. พลทหาร ทวีศักดิ์ แซ่เซียว
 
กำลังพล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 2 นาย
1. จ่าเอก ไพร ร่วมญาติ
2. พลทหาร อับดุลอาซิส มะแอ
  

---

 
ไร้เงา บิ๊กตู่-ผบ.ทร. แจงกมธ. ปม รล.สุโขทัยล่ม ‘เต้’ คาใจเสธ.ทร.ตอบไม่เคลียร์
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7436772
 
ไร้เงา “บิ๊กตู่-ผบ.ทร.” แจงกมธ.ทหาร ปมเรือหลวงสุโขทัย ล่ม “เต้” สับ ไร้สปิริต โวย เสธ.ทร.ตอบไม่เคลียร์ หวั่นโยนความผิดผู้การเรือฯ รับผิดคนเดียว

เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมกมธ. ว่า กมธ.มีวาระพิจารณากรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และพล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. เข้าชี้แจง
 
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า แต่รมว.กลาโหม ได้ส่งผู้แทนมาชี้แจง ส่วนผบ.ทร.ส่ง พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ มาเป็นตัวแทนชี้แจงต่อกมธ. โดยทางกองทัพเรือชี้แจงว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา 2 ชุด โดยให้เสนาธิการทหารเรือสอบข้อเท็จจริงว่า เรือรบหลวงสุโขทัยจมเพราะอะไร จากนั้นจะตั้งคณะกรรมสอบสวนความผิดทางละเมิด ว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดผิดพลาดและต้องรับผิดชอบกรณีดังกล่าวต่อไป
 
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กมธ.ได้สอบถามหลายเรื่อง อาทิ จำนวนเสื้อและแพชูชีพในวันเกิดเหตุ พร้อมขอบันทึกวิทยุสื่อสารจากบนเรือและชายฝั่ง ระหว่างช่วงที่เกิดเหตุ 6 ชั่วโมงก่อนเรืออับปาง รวมทั้งประวัติการซ่อมเรือรบหลวงสุโขทัยตั้งแต่ปี 2540-2565 ว่าบริษัทใดที่ได้รับงานซ่อมบำรุง รวมทั้งงบประมาณในการซ่อมบำรุงจากกองทัพเรือ
 
นอกจากนี้ ตนได้สอบถามว่าท้องเรือรบหลวงสุโขทัย มีรอยแตกก่อนออกเรือหรือไม่ เพราะเรือรบสามารถทนคลื่นได้ 7-8 เมตร ไม่มีทางจม ทั้งนี้ มีเรื่องร้องเรียนว่า มีกำลังพลจมน้ำระหว่างการช่วยเหลือจากเอกชน เช่น สลิงขาดระหว่างช่วยเหลือ หรือการไม่ให้เอกชนเข้าไปภายในพื้นที่ เพราะกลัวจะเห็นสภาพความเป็นจริง
 
โดยเสนาธิการเรือปฏิเสธว่าไม่จริง ที่สำคัญยังได้สอบถามว่า บริษัทที่ซ่อมเรือรบหลวงสุโขทัยเป็นบริษัทเครือข่ายแม่ทัพเรือภาคที่ 1 จริงหรือไม่ ซึ่งทางเสนาธิการทหารเรือระบุว่า จะหาข้อมูลมาชี้แจงภายหลัง ทั้งนี้ กมธ.ได้ตั้งคำถามที่สังคมสงสัยไปจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีคำตอบจากผู้มาชี้แจง
 
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การให้ผู้บังคับบัญชาสอบผู้ใต้บังคับบัญชา มันจะเกิดความน่าเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะเป็นคนในสอบกันเอง ส่วนตัวมองว่าการชี้แจงของตัวแทนที่มาในวันนี้เหมือนเป็นการโยนความผิดให้ผู้บังคับการเรือรบหลวงสุโขทัย โดยที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่
 
“ขอถามว่าในช่วงเกิดเหตุการณ์ ทั้งนายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหม ผบ.ทร แม่ทัพเรือภาคที่ 1 และเสนาธิการทหารเรือ พวกท่านอยู่ที่ไหน อยู่ที่งานแต่งใครหรือไม่ ทำไมไม่นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปดูในพื้นที่ พวกท่านไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสปิริตความเป็นผู้นำ ไม่เป็นผู้นำที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ใต้บังคับบัญชา” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
 
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งต่อไป ตนจะเสนอให้เชิญอดีตผู้การเรือรบ อดีตทหารเรือ และผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ มาเป็นอนุกรรมการฯ ในกมธ.ทหาร เพื่อร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว และจะนำผลการตรวจสอบที่ได้ ไปเปรียบเทียบกับผลสอบของกองทัพเรือว่าตรงกันหรือไม่