JJNY : 'สุทิน'โวมีรมต.ถูกสอย 1-2คน│สมคิดเตือน'พรรคร่วมรบ.'│กอบศักดิ์เตือนสัญญาณน่ากังวลใจ│ว่าที่ทูตสหรัฐช่วยไทยกดดันพม่า

'สุทิน' โวมี รมต.ถูกสอยกลางสภาฯ 1-2 คนโดนแน่ แย้มอาจเป็น 'ประยุทธ์' เผยหากพูดไปมีคนช็อก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7165162
 
 
‘สุทิน’ โวมี รมต.ถูกสอยกลางสภาฯ 1-2 คนโดนแน่ แย้มอาจเป็น ‘ประยุทธ์’ เผยข้อมูลทุจริต หากพูดไปมีคนช็อก แจงเศรษฐกิจไทย ยังไม่ประสานขอเวลามา
 
วันที่ 16 ก.ค.65 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงทีเด็ดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะเป็นเรื่องการทุจริตที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม คาดไม่ถึง รวมถึงเรื่องนโยบายที่ผิดพลาด ซึ่งหากพูดไปจะทำให้มีคนช็อก
 
สำหรับความมั่นใจที่จะสอยรัฐมนตรีคนใดร่วงได้บ้างนั้น ก็จะมีร่วงบ้างแต่ไม่ขอบอกชื่อ แต่มีเซอร์ไพรส์แน่นอน มั่นใจว่าจะมีรัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ประมาณ 1-2 คน ดีไม่ดีอาจจะเป็นนายกฯ หากนายกฯ หลุดก็จะหลุดทั้งคณะ
 
เมื่อถามว่าจะมีการแบ่งเวลาให้พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) อภิปรายด้วยได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรค ศท.ยังไม่มีการประสานมา เราทราบแค่จากข่าว เราก็ทำงานของเราไปเรื่อยๆ ซึ่งการจัดสรรเวลาก็ลงตัวไปแล้ว
 
แต่หากพรรค ศท.ประสงค์จะอภิปรายและประสานมาในเวลาที่ไม่กระชั้นชิดเกินไป เราก็อาจจะประชุมแล้วปรับให้ได้ แต่หากกระชั้นชิดมากก็ไม่สามารถปรับได้



สมคิด เตือน 'พรรคร่วมรบ.' คิดให้ดีก่อนโหวต หวั่นตอบปชช.ไม่ได้ ตายในสนามเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3456812

“สมคิด” ลั่น จัดหนักถลก “บิ๊กตู่” บริหารไม่โปร่งใส-เอื้อพวกพ้อง แนะ พรรคร่วม รบ.ฟังข้อมูลก่อนตัดสินใจโหวต หวั่น ตายในสนามเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีการลงมติ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคได้เก็บข้อมูลทำงานอย่างเต็มกำลัง เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ และ การอภิปรายครั้งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตอบเพราะพี่น้องประชาชนจับตาดูอยู่
 
นายสมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีงูเห่าเพิ่มขึ้นนั้น ตนเชื่อว่า ไม่น่ามีแล้ว เพราะประชาชนคงไม่ยอมแล้ว ที่ไปแล้วก็ไม่ว่ากัน ส่วนที่ยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่ตัดสินใจร่วมฝ่ายค้านจะเป็นพลังที่จะช่วยให้ฝ่ายค้านได้คะแนนเพิ่มขึ้น และขอส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาล หากฟังคำอภิปรายแล้วมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่แน่ว่ารัฐบาลจะรอดหรือไม่ เพราะอยู่ที่การอภิปรายของฝ่ายค้าน แต่เชื่อว่าเป็นช่วงปลายรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องระวังตัวเอง เพราะต้องไปตอบคำถามประชาชนในสนามเลือกตั้ง ถ้ายังเข้าข้างรัฐบาลอย่างไม่มีเหตุผล  พรรคการเมืองนั้นก็เตรียมตัวตายในสนามเลือกตั้ง
 
ทั้งนี้ การอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่ความล้มเหลวของรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด เพราะรับปากประชาชนแล้วทำไม่ได้ นอกจากนี้ 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลล้มเหลวไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้เลย อีกทั้งการบริหารประเทศมีความไม่โปร่งใส การทำงานของรัฐบาลให้การช่วยเหลือพรรคพวกมาตลอด ซึ่งอยากให้ประชาชนรอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้าน
 
“นอกจากนี้ไม่ประหลาดในการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ใช้พื้นที่กองทัพเป็นสถานที่ต่อรองทางการเมือง เพราะทำมาตลอดและที่มาของรัฐบาลมาจากคสช. ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับฝ่ายทหารมากกว่าประชาชน เห็นได้จาก ส.ว.ส่วนใหญ่ เป็นทหาร ตำรวจ เป็นข้าราชการเกษียณ  ไม่ต่างจากพรรคข้าราชการในสภา หากจะให้ทหารออกจากการเมืองคงยาก ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถครอบงำเสียงในสภาได้ สามารถสั่งได้ตามใจ ดังนั้น หากพรรค พท.เป็นรัฐบาลก็พร้อมที่จะตั้งส.ส.ร.ขึ้นมา เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ให้ประเทศไทยหลุดจากกับดักรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อเริ่มตั้งต้นกันใหม่ หากไม่แก้ตรงนี้ประเทศเดินหน้าไม่ได้แน่” นายสมคิด กล่าว


 
"กอบศักดิ์" เตือนสัญญาณน่ากังวลใจจากเมืองจีน ตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวแค่ +0.4% ต่ำสุด รอบนี้ผีซ้ำด้ำพลอย วิกฤตข้างหน้า แก้ได้ยากขึ้น
https://siamrath.co.th/n/365655

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 
 
สัญญาณน่ากังวลใจจากเมืองจีน !!!
อีกหนึ่งสมรภูมิที่น่าจับตามอง ท่ามกลางมรสุม Perfect Storm ก็คือ จีน
 
ปกติแล้ว คนจะติดตามเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับจีน จะกระทบกับทุกคน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำนองว่า หากจีนจาม "ฮัดเช่ย" ทุกคนก็สะเทือน
 
เพียงแต่ ช่วงหลังๆสงครามที่ยุโรป สงครามของเฟดกับเงินเฟ้อและฟองสบู่ ที่นำมาซึ่งการหนีตายของนักลงทุนสร้างสีสัน มีลุ้นทุกวันแย่งซีน
ทำให้ทุกคนต้องหันไปดูยุโรปและสหรัฐอย่างใจจรดใจจ่อ ลืมจีนไปชั่วขณะ
 
ทั้งประเด็นเรื่องสงครามการค้ากับสหรัฐ การปราบปรามกลุ่มเทค วิกฤตอสังหา Covid Lockdown ที่เคยเป็นประเด็นข่าวดัง แต่ก็ถูกเบียดตกขอบ โดยข่าวยุโรปและสหรัฐ
 
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจจีนล่าสุดที่ออกมาเมื่อวานนี้ มีความสำคัญมาก เป็นสัญญาณเตือนภัย เพราะในไตรมาสที่ 2 จีนขยายตัวได้แค่ +0.4% เทียบกับปีก่อนหน้า
 
ติดลบ -2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
 
นับเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดของจีนในช่วงที่ผ่านมา (ถ้าไม่นับช่วงเกิดโควิดในปี 2020) ที่เป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญ ก็เพราะเรื่องนี้จะมีนัยยะกับระบบเศรษฐกิจโลก
 
ต่อไป เนื่องจากจีนเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจโลก เป็นเสาหลักที่ช่วยให้โลกผ่านวิกฤตต่างๆ มาได้
ช่วงต้มยำกุ้ง จีนก็ขยายตัวได้อย่างน้อย 6.7%
 
ช่วง Subprime จีนก็ขยายตัวได้ 6.4%
 
ช่วงโควิดแรกๆ จีนก็กลับมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว จนมีคนบอกว่า ครึ่งหนึ่งของยอดขายแบรนด์หรูโลกระหว่างโควิดมาจากผู้บริโภคจีน
แต่ครั้งนี้ ระหว่างที่เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจซบเซาจาก Perfect Storm จีนขยายตัวได้แค่ 0.4%
 
ส่วนหนึ่ง คงมาจากการ Lockdown เมืองต่างๆ
 
แต่เมื่อลองไปดูลึก จะพบว่าการที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวไม่ดี น่าจะมีปัจจัยอื่นๆ อีกเช่นกัน เพราะหลัง Wuhan และก่อนที่จะเผชิญโควิดระลอกใหม่ เศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่า 5% ถึง 6 ไตรมาสจาก 9 ไตรมาส !!!
  
เป็นหนังคนละม้วนกับช่วงก่อนหน้าที่จีนจะขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ 6-8% ระหว่าง 2012-2018 ขยายตัวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ 10-15% ระหว่างปี 2003-2007
 
การที่เป็นเช่นนี้ เพราะจีนกำลังเผชิญกับวิกฤตอสังหา ที่ยังลุกลาม บานปลาย จาก Evergrande ได้กระจายไปยังบริษัทต่างๆ
ล่าสุดบริษัท Shimao ต้องผิดนัดชำระหนี้ กระทั่ง Country Garden ที่เป็นเบอร์ 1 ก็ถูกกดดัน ราคาหุ้นตก ราคาหุ้นกู้ซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 70% ของหน้าตั๋ว
 
ถ้าเบอร์ 1 ยังมีปัญหา ก็หมายความว่า บริษัทอสังหาจีนส่วนใหญ่ กำลังลำบาก ลูกค้าเริ่มไม่จ่ายค่างวดบ้าน เพราะสร้างไม่เสร็จ
 
เจ้าหนี้ ไม่ยอมยืดหนี้ให้ ถ้าจะกู้ใหม่ ดอกก็แพงลิ่ว ถูก Downgrade แถมราคาบ้านก็เริ่มลง ทำให้คนชะลอการซื้อออกไป
ทั้งนี้ เนื่องจากภาคอสังหาเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ในจีน เมื่ออสังหาเกิดปัญหา ก็จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นำมาถึงเศรษฐกิจที่หมุนต่อลำบาก พอมาประจวบกับการ
 
ระบาดของโควิด เจอผลกระทบจากวิกฤตในยุโรปและสหรัฐ
 
การคลี่คลายปัญหาของจีนก็ไม่ง่าย ต้องลดดอกเบี้ย (ขณะที่คนอื่นขึ้น) อัดฉีดสภาพคล่อง (ขณะที่สหรัฐเริ่มดูดกลับ)
นอกจากนี้ ระหว่างที่สู้กับปัญหาเหล่านี้ ตัวเลขล่าสุดชี้ว่า เด็กที่จบใหม่ของจีน ตกงาน 1 ใน 5 มีแบงก์ล้มในเมืองเล็ก
ข่าวเหล่านี้ ไม่ใช่ข่าวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่เป็นข่าวของเศรษฐกิจที่กำลังสู้กับปัญหา ต้องปรับตัว
 
และมีนัยยะต่อไปว่า จีนจะไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวช่วยเศรษฐกิจโลก ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ช่วงลำบากในปีหน้า
 
จากทุกที ที่จะมีเศรษฐกิจจีนช่วงพยุงเศรษฐกิจโลกในยามคับขัน
 
รอบนี้ ผีซ้ำด้ำพลอย
 
จีนจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้วิกฤตข้างหน้า แก้ได้ยากขึ้นครับ
 
อย่าลืมเตรียมตัว ถ้าเตรียมตัวดี เราจะผ่านไปได้
 
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ
 
#ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ #จีน
 
https://www.facebook.com/drkobsakpootrakool/posts/pfbid02PbB3aEPPQJxk3GRrzLj8Nq4uVRgrZQqWKpKfXwe2wMM9jBXKBCcTj2Scan6YzQKSl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่