2
“ตื่นแล้วหรือ” เสียงเล็กดังขึ้น
บาร์ธกะพริบตา ค่อยๆปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืดสลัวรอบตัว ก่อนที่จะพบว่าตนกำลังนั่งอยู่ในห้องครัวขนาดเล็ก
หญิงร่างเล็กนั่งอยู่ทางหัวโต๊ะอีกด้านหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตคู่นั้นจ้องมองเขานิ่ง “บาร์ธ”
“เอด้า” บาร์ธเปล่งเสียงออกมาอย่างยากเย็น พยายามกวาดตามองไปรอบๆตัว ก่อนที่จะมองสำรวจร่างตัวเอง “เกิดอะไรขึ้น”
เด็กหนุ่มประมวลความทรงจำอย่างรวดเร็ว -- หากแต่นึกอะไรไม่ออก นอกจากคราบเลือดบนฝ่ามือของเอด้า และศีรษะของเขาที่ถูกทุบเข้าเต็มแรง
บาร์ธมองรอยเลือดบนฝ่ามือของเอด้าที่ประสานอยู่บนโต๊ะนิ่ง -- มันเปื้อนเลือดมากกว่าที่เขาจำได้
“คุณเป็นคนทุบผม” เขากระซิบเสียงเบา จ้องมองใบหน้าอันขาวซีดตรงหน้านิ่ง “ทำไมกัน”
เอด้าไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา “เธอเหมือนมนุษย์มาก” เธอพูดเสียงเรียบ จากนั้นจึงถามเขาต่อไปว่า “เธอปวดหัวไหม เธอมองเห็นทุกอย่างชัดเจนดีหรือเปล่า”
บาร์ธมองเธออย่างมึนงง
“เธอได้ยินเสียงใครอื่นนอกจากเราสองคนไหม --” เธอถาม
บาร์ธส่ายหน้า
“ดี” เอด้าพึมพัม “เขาคงหลับอยู่ --”
ทว่าบาร์ธไม่ยอมให้เธอเลี่ยงคำตอบ
“คุณ” เขาเค้นเสียงออกมา “คุณทำร้ายผมแบบนี้ เพราะคุณระแวงผม -- เพราะคุณกำลังซ่อนอะไรบางอย่างจากทุกคนในหมู่บ้าน -- และคุณรู้ ว่าผมรู้ว่าคุณทำอะไร --”
“ฉันทำอะไรหรือ” เอด้าถาม
“คุณทำอะไรบางอย่างกับสามีของคุณ” บาร์ธว่าต่อไป “สามีที่ป่วยหนักของคุณคนนั้น”
คราวนี้เอด้าดูประหลาดใจขึ้นมา หากแต่เธอไม่ได้เลี่ยงคำตอบจากเขาเช่นก่อนหน้า เธอโน้มร่างเข้ามาใกล้เขา แล้วกระซิบว่า “เธอ
รู้หรือ” เธอถาม “สมองเธอประมวลทุกอย่างได้อยู่จริงๆหรือ”
ท่าทีของเอด้าทำให้บาร์ธประหลาดใจขึ้นมาแทน
นี่ไม่ใช่ท่าทีตื่นตระหนก หรือหวาดกลัว -- บาร์ธนึก ขณะที่พินิจมองอีกฝ่าย -- ไม่เลย เอด้าไม่ได้ตื่นตระหนก หรือหวาดกลัวแม้สักนิด ที่เขาถามถึงความลับของเธอ -- ในทางตรงกันข้าม มันเป็นท่าทีราวกับระมัดระวังในอะไรบางอย่าง
“เธอรู้อะไรอีก” เธอถามเสียงเบา
“ผมรู้อะไรอีกน่ะหรือ --” บาร์ธมองเอด้าที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิม “ไม่มีใครเห็นสามีคุณมาหลายวันแล้ว คุณขังเขาไว้ในบ้านหลังนี้ --” เขากลั้นใจ “คุณ --”
คุณฆ่าเขา --
แวบนั้นดวงตาอันแข็งทื่อของเอด้าทำให้บาร์ธเผลอชะงักไป คำพูดกลืนหายไปในลำคอของตนเอง หากแต่เขาก็รวบรวมความกล้า เปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“คุณฆ่าลินคอล์น -- คุณฆ่าสามีของคุณ --” บาร์ธมองรอยเลือดบนฝ่ามืออีกฝ่าย “คุณเพิ่งฝังเขา -- ผมเห็นคุณในสวน -- ผมรู้ --” บาร์ธกระซิบ “ผมรู้ว่าคุณทำ เอด้า --”
เอด้าไม่ได้ละสายตาไปจากเด็กหนุ่มตรงหน้า เธอมองเขานิ่ง ราวกับกำลังประมวลในอะไรบางอย่าง
จากนั้นเอด้าก็พูดออกมาว่า “เธอไม่ได้ปวดหัว เธอมองเห็นทุกอย่างปกติดี” เธอมองตามสายตาเขาที่จ้องมายังรอยเลือดบนฝ่ามือตนเอง ก่อนที่จะพยักหน้าช้าๆ “ดี -- สมกับที่เป็นหุ่นยนต์ที่ทุกคนพูดถึงกัน”
บาร์ธส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ “คุณไม่ปฏิเสธหรือ” เขาถามช้าๆ “คุณจะไม่อธิบายอะไรผมหน่อยหรือ --”
“เธอเป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาด บาร์ธ เธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอด เธอถูกออกแบบมาเพื่อการณ์นี้ เธอเป็นนักสังเกตการณ์ที่ดีมาก -- ถ้าไม่ใช่เธอ หมู่บ้านอันยิ่งใหญ่และสวยงามของพวกเราคงมีคดีที่ปิดไม่ได้มากกว่านี้” เอด้าพยักหน้า “ฉันรู้ว่าเธอมีสายตาที่เฉียบคมแค่ไหน -- ลินคอล์นเองก็รู้ดีในเรื่องนี้ -- มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะหาสายตาที่สมบูรณ์แบบเช่นที่เธอมีได้ -- เช่นที่ฉันมี -- บางครั้งฉันก็ตาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สังเกตเห็นเธอวันนี้หรอก -- เราต่างมีดวงตาที่ช่าง -- จะว่าอย่างไรดี -- ดวงตาที่
ดีแสนดีเหมือนกัน จริงไหม” จากนั้นจึงเสริมว่า “ลินคอล์นสร้างสายตาเธอ โดยมีต้นแบบมาจากสายตาของฉัน -- จะทำอย่างไรได้ ลินคอล์นรักและชื่นชมดวงตาของฉันมาก”
ดวงตาที่ดีแสนดี -- คำนั้นทำให้หัวใจของบาร์ธเต้นผิดจังหวะขึ้นมา -- เอด้าพูดอะไรออกมากันนี่
“เธอพูดถูก” เอด้ากระซิบ คาบบุหรี่ที่ปลายริมฝีปาก และจุดไฟอย่างไม่เร่งรีบ “ฉันทุบเธอ และฉันฝังสามีตัวเอง”
คำสารภาพนั้นทำให้บาร์ธเผลอกลั้นใจโดยไม่รู้ตัว
“มันไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่ฉันต้องฝังเขา -- ไม่เลย ไม่สักนิด --” เธอพ่นควันสีเทาออกมา ดวงตาสีน้ำตาลเหม่อลอยไปชั่วขณะ “แต่การที่ฉันต้องผ่าสมองเขาออกมาจากกะโหลกต่างหากล่ะ ที่ยากเหลือเชื่อ -- โดยเฉพาะตอนที่ฉันต้องพยายามรักษาสภาพมันให้สมบูรณ์ดีพร้อม --”
บาร์ธนิ่งไปชั่วขณะ --
สมองหรือ
เอด้ายกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นมาพินิจมอง “เลือดลินคอล์นไหลทะลักออกมามากเกินไป -- มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้นกว่าเดิม --” เธอพ่นควันสีเทาออกมาอีกครั้ง “ตอนนั้นเอง ที่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเรื่องที่จัดการได้ยากกว่าที่คาดเอาไว้หลายเท่า”
ทำไมกัน -- บาร์ธได้ยินเสียงตัวเองถามออกไป
“ทำไมน่ะหรือ” เอด้าคล้ายจะยิ้มออกมาที่มุมปาก “เรื่องนี้ทำให้ฉันกลัวขึ้นมา” เธอชี้นิ้วไปทางมุมห้องด้านหลังเด็กหนุ่ม
บาร์ธหันไปมอง และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเพิ่งมองเห็นค้อน และมีดผ่าตัดที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะมุมห้อง
บาร์ธเผลอกลั้นใจโดยไม่รู้ตัว เหงื่อกาฬพลันไหลอาบไปทั่วขมับ และลำคอของตนเอง
“รู้ไหม ว่าลินคอล์นเป็นคนฉลาดมาก --” เอด้าถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “เป็นเพราะเขา บริษัทนั่นถึงสร้างหุ่นแบบเธอขึ้นมาได้ -- เป็นเพราะสมองอันล้ำเลิศของเขา เธอถึงมีตัวตนขึ้นมาแบบนี้ได้ บาร์ธ เขารู้
ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ -- รู้กระทั่งว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอมีชีวิตขึ้นมาได้ -- สมอง และดวงตา -- นั่นคือสองสิ่งหลักที่ทำให้เธอประมวลอะไรๆในหัวได้เร็วขนาดนั้น -- ดูเหมือนวิทยาศาสตร์พื้นฐานจะเป็นคำตอบของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ไม่ว่าจะมนุษย์หรือหุ่นยนต์ -- เราต่างมีดวงตาเพื่อมองสิ่งต่างๆ แล้วส่งผ่านประสาทไปที่สมอง ให้มีการจดจำ และประมวลสิ่งต่างๆ” เธอส่งยิ้มมาให้เขาเล็กน้อย “ลินคอล์นที่รักของฉัน เรียกมันว่าหลักพื้นฐานของการเรียนรู้และจดจำ”
บาร์ธยังคงไม่ได้พูดอะไรกลับไป
ทว่าเอด้าก็ไม่ได้มีท่าทีคาดหวังว่าจะมีบทสนทนากับเขามากไปกว่านี้
“และเพราะการสร้างเธอขึ้นมา เขาถึงป่วยแบบนั้น --” เธอกระซิบ ราวกับจะพูดกับตนเอง “และเพราะเขาป่วยขนาดนั้น ถึงทำให้ฉันต้องทำอะไรแบบนี้ -- ไม่อย่างนั้น ฉันก็คงไม่ต้องเป็นคนลงมือทำ
อะไรๆเองแบบนี้”
“เอด้า --” บาร์ธกระซิบช้าๆ “คุณกำลังพูดอะไรออกมา -- คุณตั้งใจจะลงมือทำอะไรกัน --”
“ฉันไม่อยากให้มือตัวเองเปื้อนเลือด” เอด้าพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม คิ้วบางขมวดเข้าหากัน จนทำให้ใบหน้าอันขาวซีดนั่นดูจริงจังมากกว่าเดิม “มันน่ารังเกียจ มันน่าขยะแขยง -- ถ้าเลือกได้ ฉันไม่อยากจะทำแบบนี้กับลินคอล์น หรือใครทั้งนั้น --”
“เอด้า --”
“รู้ไหม ว่าอะไรในตัวเธอที่ฉันชอบ --” เอด้ามองบุหรี่ในมือตนเอง “มันไม่ใช่ระบบประมวลอะไรนั่นเลยสักนิด -- ไม่ใช่แม้แต่ความจริงที่ว่าเธอเป็นเหมือนมนุษย์เหล็กที่เดินได้อย่างที่ใครหลายคนชื่นชมกัน”
บาร์ธมองหญิงตรงหน้านิ่ง แทบไม่กล้าเปล่งเสียงลมหายใจออกมา
เอด้าเหลือบตาขึ้นมองบาร์ธ “ดวงตาที่เฉียบคม สมบูรณ์พร้อม” เธอชี้มาทางเขา “ดวงตาของเธอ -- นั่นล่ะ ที่ฉันชอบมากที่สุด -- ทำไมจะไม่ล่ะ ในเมื่อมันมีต้นแบบมาจากดวงตาของฉัน”
สัญชาตญาณในตัวกระตุ้นให้บาร์ธลุกขึ้นหนีในวินาทีนั้น หากแต่สองขาของเขากลับขยับไม่ได้แม้สักนิด!
“เอด้า!” เขาร้องออกมาในทันทีที่เอด้าลุกขึ้น แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาทางเขา
“เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอก” เอด้าสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด “เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากมองฉัน บาร์ธ --”
“คุณทำอะไรผม!” บาร์ธร้องออกมา ใกล้จะสูญเสียการควบคุมตัวเอง ในตอนที่รู้ตัวว่าไม่อาจขยับท่อนแขนหรือท่อนขาได้แม้สักนิด “เอด้า! --”
“เธอรู้สึกกลัวด้วยงั้นหรือ” เอด้ากระซิบ “เธอไม่ควรมายุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง -- เธอไม่ควรมาที่นี่เลย บาร์ธ”
ตอนนั้นเองที่ภาพบางอย่างไหลผ่านเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วและรุนแรง ราวกับคลื่นความทรงจำที่ไหลทะลักเข้ามาในสมอง
ภาพที่เขาถูกใครบางคนกระแทกหลังศีรษะจนสลบไป
ภาพที่เขาฟื้นขึ้นมาเห็นเอด้ายืนอยู่เหนือร่างของเรา
ภาพที่เขามองเห็นดวงตาของเอด้าจ้องมองมานิ่ง
จากนั้นภาพของมีดผ่าตัดที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ก็ปรากฏชัดขึ้น ก่อนที่เลือดสีแดงฉานจะไหลทะลักไปทั่วใบหน้าของเขา
“คุณคิดจะทำอะไร!” บาร์ธคำรามลั่น เหงื่อไหลอาบไปทั่วทั้งร่าง ในตอนที่เอด้าหยุดยืนอยู่ข้างเขา “คุณพยายามจะทำลายผม และขายอะไหล่ในตัวผมหรือ เอด้า! ดวงตาของผมหรือที่คุณต้องการ! นี่มันผิดกฎหมายคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์เช่นผม! คุณกำลังทำเรื่องผิดกฎหมาย!” บาร์ธพยายามออกแรงดิ้นรน หากแต่ร่างทั้งร่างยังคงไม่อาจขยับได้แม้สักนิด “ทำไมกัน ทำไมคุณต้องทำอะไรแบบนี้!”
“
กฎหมายหรือ” เอด้าส่ายหน้า ราวกับเพิ่งได้ยินอะไรที่ขำขันที่สุดที่เคยได้ยินมา “ฉันไม่คิดว่านั่นจะโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจได้หรอกนะ บาร์ธ”
“อะไรนะ” บาร์ธมองเอด้าด้วยดวงตาเบิกโพลง “
เขาหรือ --”
มีใครอื่นอยู่ที่นี่งั้นหรือ --
“ถ้าไม่ระวังให้ดี เขาอาจจะตื่นขึ้นมา” เอด้ากระซิบ “อย่าเสียงดังนัก บาร์ธ -- ฉันกำลังตัดสินใจ -- และฉันกำลังซื้อเวลาให้เธออยู่”
“ใครกัน!” บาร์ธร้องลั่น หอบหายใจอย่างรุนแรง
“เขาคือใคร!”
ตอนนั้นเองที่เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม
“เอด้า”
NEOHUMAN ไม่ใช่มนุษย์ (2)
บาร์ธกะพริบตา ค่อยๆปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืดสลัวรอบตัว ก่อนที่จะพบว่าตนกำลังนั่งอยู่ในห้องครัวขนาดเล็ก
หญิงร่างเล็กนั่งอยู่ทางหัวโต๊ะอีกด้านหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตคู่นั้นจ้องมองเขานิ่ง “บาร์ธ”
“เอด้า” บาร์ธเปล่งเสียงออกมาอย่างยากเย็น พยายามกวาดตามองไปรอบๆตัว ก่อนที่จะมองสำรวจร่างตัวเอง “เกิดอะไรขึ้น”
เด็กหนุ่มประมวลความทรงจำอย่างรวดเร็ว -- หากแต่นึกอะไรไม่ออก นอกจากคราบเลือดบนฝ่ามือของเอด้า และศีรษะของเขาที่ถูกทุบเข้าเต็มแรง
บาร์ธมองรอยเลือดบนฝ่ามือของเอด้าที่ประสานอยู่บนโต๊ะนิ่ง -- มันเปื้อนเลือดมากกว่าที่เขาจำได้
“คุณเป็นคนทุบผม” เขากระซิบเสียงเบา จ้องมองใบหน้าอันขาวซีดตรงหน้านิ่ง “ทำไมกัน”
เอด้าไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา “เธอเหมือนมนุษย์มาก” เธอพูดเสียงเรียบ จากนั้นจึงถามเขาต่อไปว่า “เธอปวดหัวไหม เธอมองเห็นทุกอย่างชัดเจนดีหรือเปล่า”
บาร์ธมองเธออย่างมึนงง
“เธอได้ยินเสียงใครอื่นนอกจากเราสองคนไหม --” เธอถาม
บาร์ธส่ายหน้า
“ดี” เอด้าพึมพัม “เขาคงหลับอยู่ --”
ทว่าบาร์ธไม่ยอมให้เธอเลี่ยงคำตอบ
“คุณ” เขาเค้นเสียงออกมา “คุณทำร้ายผมแบบนี้ เพราะคุณระแวงผม -- เพราะคุณกำลังซ่อนอะไรบางอย่างจากทุกคนในหมู่บ้าน -- และคุณรู้ ว่าผมรู้ว่าคุณทำอะไร --”
“ฉันทำอะไรหรือ” เอด้าถาม
“คุณทำอะไรบางอย่างกับสามีของคุณ” บาร์ธว่าต่อไป “สามีที่ป่วยหนักของคุณคนนั้น”
คราวนี้เอด้าดูประหลาดใจขึ้นมา หากแต่เธอไม่ได้เลี่ยงคำตอบจากเขาเช่นก่อนหน้า เธอโน้มร่างเข้ามาใกล้เขา แล้วกระซิบว่า “เธอรู้หรือ” เธอถาม “สมองเธอประมวลทุกอย่างได้อยู่จริงๆหรือ”
ท่าทีของเอด้าทำให้บาร์ธประหลาดใจขึ้นมาแทน
นี่ไม่ใช่ท่าทีตื่นตระหนก หรือหวาดกลัว -- บาร์ธนึก ขณะที่พินิจมองอีกฝ่าย -- ไม่เลย เอด้าไม่ได้ตื่นตระหนก หรือหวาดกลัวแม้สักนิด ที่เขาถามถึงความลับของเธอ -- ในทางตรงกันข้าม มันเป็นท่าทีราวกับระมัดระวังในอะไรบางอย่าง
“เธอรู้อะไรอีก” เธอถามเสียงเบา
“ผมรู้อะไรอีกน่ะหรือ --” บาร์ธมองเอด้าที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิม “ไม่มีใครเห็นสามีคุณมาหลายวันแล้ว คุณขังเขาไว้ในบ้านหลังนี้ --” เขากลั้นใจ “คุณ --”
คุณฆ่าเขา --
แวบนั้นดวงตาอันแข็งทื่อของเอด้าทำให้บาร์ธเผลอชะงักไป คำพูดกลืนหายไปในลำคอของตนเอง หากแต่เขาก็รวบรวมความกล้า เปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“คุณฆ่าลินคอล์น -- คุณฆ่าสามีของคุณ --” บาร์ธมองรอยเลือดบนฝ่ามืออีกฝ่าย “คุณเพิ่งฝังเขา -- ผมเห็นคุณในสวน -- ผมรู้ --” บาร์ธกระซิบ “ผมรู้ว่าคุณทำ เอด้า --”
เอด้าไม่ได้ละสายตาไปจากเด็กหนุ่มตรงหน้า เธอมองเขานิ่ง ราวกับกำลังประมวลในอะไรบางอย่าง
จากนั้นเอด้าก็พูดออกมาว่า “เธอไม่ได้ปวดหัว เธอมองเห็นทุกอย่างปกติดี” เธอมองตามสายตาเขาที่จ้องมายังรอยเลือดบนฝ่ามือตนเอง ก่อนที่จะพยักหน้าช้าๆ “ดี -- สมกับที่เป็นหุ่นยนต์ที่ทุกคนพูดถึงกัน”
บาร์ธส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ “คุณไม่ปฏิเสธหรือ” เขาถามช้าๆ “คุณจะไม่อธิบายอะไรผมหน่อยหรือ --”
“เธอเป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาด บาร์ธ เธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอด เธอถูกออกแบบมาเพื่อการณ์นี้ เธอเป็นนักสังเกตการณ์ที่ดีมาก -- ถ้าไม่ใช่เธอ หมู่บ้านอันยิ่งใหญ่และสวยงามของพวกเราคงมีคดีที่ปิดไม่ได้มากกว่านี้” เอด้าพยักหน้า “ฉันรู้ว่าเธอมีสายตาที่เฉียบคมแค่ไหน -- ลินคอล์นเองก็รู้ดีในเรื่องนี้ -- มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะหาสายตาที่สมบูรณ์แบบเช่นที่เธอมีได้ -- เช่นที่ฉันมี -- บางครั้งฉันก็ตาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สังเกตเห็นเธอวันนี้หรอก -- เราต่างมีดวงตาที่ช่าง -- จะว่าอย่างไรดี -- ดวงตาที่ดีแสนดีเหมือนกัน จริงไหม” จากนั้นจึงเสริมว่า “ลินคอล์นสร้างสายตาเธอ โดยมีต้นแบบมาจากสายตาของฉัน -- จะทำอย่างไรได้ ลินคอล์นรักและชื่นชมดวงตาของฉันมาก”
ดวงตาที่ดีแสนดี -- คำนั้นทำให้หัวใจของบาร์ธเต้นผิดจังหวะขึ้นมา -- เอด้าพูดอะไรออกมากันนี่
“เธอพูดถูก” เอด้ากระซิบ คาบบุหรี่ที่ปลายริมฝีปาก และจุดไฟอย่างไม่เร่งรีบ “ฉันทุบเธอ และฉันฝังสามีตัวเอง”
คำสารภาพนั้นทำให้บาร์ธเผลอกลั้นใจโดยไม่รู้ตัว
“มันไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่ฉันต้องฝังเขา -- ไม่เลย ไม่สักนิด --” เธอพ่นควันสีเทาออกมา ดวงตาสีน้ำตาลเหม่อลอยไปชั่วขณะ “แต่การที่ฉันต้องผ่าสมองเขาออกมาจากกะโหลกต่างหากล่ะ ที่ยากเหลือเชื่อ -- โดยเฉพาะตอนที่ฉันต้องพยายามรักษาสภาพมันให้สมบูรณ์ดีพร้อม --”
บาร์ธนิ่งไปชั่วขณะ -- สมองหรือ
เอด้ายกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นมาพินิจมอง “เลือดลินคอล์นไหลทะลักออกมามากเกินไป -- มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้นกว่าเดิม --” เธอพ่นควันสีเทาออกมาอีกครั้ง “ตอนนั้นเอง ที่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเรื่องที่จัดการได้ยากกว่าที่คาดเอาไว้หลายเท่า”
ทำไมกัน -- บาร์ธได้ยินเสียงตัวเองถามออกไป
“ทำไมน่ะหรือ” เอด้าคล้ายจะยิ้มออกมาที่มุมปาก “เรื่องนี้ทำให้ฉันกลัวขึ้นมา” เธอชี้นิ้วไปทางมุมห้องด้านหลังเด็กหนุ่ม
บาร์ธหันไปมอง และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเพิ่งมองเห็นค้อน และมีดผ่าตัดที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะมุมห้อง
บาร์ธเผลอกลั้นใจโดยไม่รู้ตัว เหงื่อกาฬพลันไหลอาบไปทั่วขมับ และลำคอของตนเอง
“รู้ไหม ว่าลินคอล์นเป็นคนฉลาดมาก --” เอด้าถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “เป็นเพราะเขา บริษัทนั่นถึงสร้างหุ่นแบบเธอขึ้นมาได้ -- เป็นเพราะสมองอันล้ำเลิศของเขา เธอถึงมีตัวตนขึ้นมาแบบนี้ได้ บาร์ธ เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ -- รู้กระทั่งว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอมีชีวิตขึ้นมาได้ -- สมอง และดวงตา -- นั่นคือสองสิ่งหลักที่ทำให้เธอประมวลอะไรๆในหัวได้เร็วขนาดนั้น -- ดูเหมือนวิทยาศาสตร์พื้นฐานจะเป็นคำตอบของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ไม่ว่าจะมนุษย์หรือหุ่นยนต์ -- เราต่างมีดวงตาเพื่อมองสิ่งต่างๆ แล้วส่งผ่านประสาทไปที่สมอง ให้มีการจดจำ และประมวลสิ่งต่างๆ” เธอส่งยิ้มมาให้เขาเล็กน้อย “ลินคอล์นที่รักของฉัน เรียกมันว่าหลักพื้นฐานของการเรียนรู้และจดจำ”
บาร์ธยังคงไม่ได้พูดอะไรกลับไป
ทว่าเอด้าก็ไม่ได้มีท่าทีคาดหวังว่าจะมีบทสนทนากับเขามากไปกว่านี้
“และเพราะการสร้างเธอขึ้นมา เขาถึงป่วยแบบนั้น --” เธอกระซิบ ราวกับจะพูดกับตนเอง “และเพราะเขาป่วยขนาดนั้น ถึงทำให้ฉันต้องทำอะไรแบบนี้ -- ไม่อย่างนั้น ฉันก็คงไม่ต้องเป็นคนลงมือทำอะไรๆเองแบบนี้”
“เอด้า --” บาร์ธกระซิบช้าๆ “คุณกำลังพูดอะไรออกมา -- คุณตั้งใจจะลงมือทำอะไรกัน --”
“ฉันไม่อยากให้มือตัวเองเปื้อนเลือด” เอด้าพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม คิ้วบางขมวดเข้าหากัน จนทำให้ใบหน้าอันขาวซีดนั่นดูจริงจังมากกว่าเดิม “มันน่ารังเกียจ มันน่าขยะแขยง -- ถ้าเลือกได้ ฉันไม่อยากจะทำแบบนี้กับลินคอล์น หรือใครทั้งนั้น --”
“เอด้า --”
“รู้ไหม ว่าอะไรในตัวเธอที่ฉันชอบ --” เอด้ามองบุหรี่ในมือตนเอง “มันไม่ใช่ระบบประมวลอะไรนั่นเลยสักนิด -- ไม่ใช่แม้แต่ความจริงที่ว่าเธอเป็นเหมือนมนุษย์เหล็กที่เดินได้อย่างที่ใครหลายคนชื่นชมกัน”
บาร์ธมองหญิงตรงหน้านิ่ง แทบไม่กล้าเปล่งเสียงลมหายใจออกมา
เอด้าเหลือบตาขึ้นมองบาร์ธ “ดวงตาที่เฉียบคม สมบูรณ์พร้อม” เธอชี้มาทางเขา “ดวงตาของเธอ -- นั่นล่ะ ที่ฉันชอบมากที่สุด -- ทำไมจะไม่ล่ะ ในเมื่อมันมีต้นแบบมาจากดวงตาของฉัน”
สัญชาตญาณในตัวกระตุ้นให้บาร์ธลุกขึ้นหนีในวินาทีนั้น หากแต่สองขาของเขากลับขยับไม่ได้แม้สักนิด!
“เอด้า!” เขาร้องออกมาในทันทีที่เอด้าลุกขึ้น แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาทางเขา
“เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอก” เอด้าสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด “เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากมองฉัน บาร์ธ --”
“คุณทำอะไรผม!” บาร์ธร้องออกมา ใกล้จะสูญเสียการควบคุมตัวเอง ในตอนที่รู้ตัวว่าไม่อาจขยับท่อนแขนหรือท่อนขาได้แม้สักนิด “เอด้า! --”
“เธอรู้สึกกลัวด้วยงั้นหรือ” เอด้ากระซิบ “เธอไม่ควรมายุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง -- เธอไม่ควรมาที่นี่เลย บาร์ธ”
ตอนนั้นเองที่ภาพบางอย่างไหลผ่านเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วและรุนแรง ราวกับคลื่นความทรงจำที่ไหลทะลักเข้ามาในสมอง
ภาพที่เขาถูกใครบางคนกระแทกหลังศีรษะจนสลบไป
ภาพที่เขาฟื้นขึ้นมาเห็นเอด้ายืนอยู่เหนือร่างของเรา
ภาพที่เขามองเห็นดวงตาของเอด้าจ้องมองมานิ่ง
จากนั้นภาพของมีดผ่าตัดที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ก็ปรากฏชัดขึ้น ก่อนที่เลือดสีแดงฉานจะไหลทะลักไปทั่วใบหน้าของเขา
“คุณคิดจะทำอะไร!” บาร์ธคำรามลั่น เหงื่อไหลอาบไปทั่วทั้งร่าง ในตอนที่เอด้าหยุดยืนอยู่ข้างเขา “คุณพยายามจะทำลายผม และขายอะไหล่ในตัวผมหรือ เอด้า! ดวงตาของผมหรือที่คุณต้องการ! นี่มันผิดกฎหมายคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์เช่นผม! คุณกำลังทำเรื่องผิดกฎหมาย!” บาร์ธพยายามออกแรงดิ้นรน หากแต่ร่างทั้งร่างยังคงไม่อาจขยับได้แม้สักนิด “ทำไมกัน ทำไมคุณต้องทำอะไรแบบนี้!”
“กฎหมายหรือ” เอด้าส่ายหน้า ราวกับเพิ่งได้ยินอะไรที่ขำขันที่สุดที่เคยได้ยินมา “ฉันไม่คิดว่านั่นจะโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจได้หรอกนะ บาร์ธ”
“อะไรนะ” บาร์ธมองเอด้าด้วยดวงตาเบิกโพลง “เขาหรือ --”
มีใครอื่นอยู่ที่นี่งั้นหรือ --
“ถ้าไม่ระวังให้ดี เขาอาจจะตื่นขึ้นมา” เอด้ากระซิบ “อย่าเสียงดังนัก บาร์ธ -- ฉันกำลังตัดสินใจ -- และฉันกำลังซื้อเวลาให้เธออยู่”
“ใครกัน!” บาร์ธร้องลั่น หอบหายใจอย่างรุนแรง “เขาคือใคร!”
ตอนนั้นเองที่เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม “เอด้า”