สมช.’ตั้งกรรมการ 2 ชุดแก้วิกฤตพลังงาน จ่อคุยกัมพูชาสำรวจปิโตรเลียมในทะเล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมในครั้งนี้ได้พิจารณาแผนรับมือวิกฤติพลังงานและอาหารที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยแผนรองรับจัดทำครอบคลุมใน 3 ระยะคือระยะสั้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ก.ค. – ก.ย.ระยะ 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อเตรียมการรองรับไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของการกระทบกับเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ได้แก่ คณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะทำหน้าที่คล้ายๆกับคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่มีการนำเอาหน่วยงานเศรษฐกิจเข้ามาประชุมหารือร่วมกัน และชุดที่สอง คณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามประมวลผลวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาทุกมิติ และจัดทำแผนรองรับทุกด้านตามวิกฤติการณ์ในอนาคตด้วย
โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง อาจเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยคณะกรรมการทั้งสองชุดจะเข้าสู่การประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.)
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่าในการพิจารณาแผนระยะสั้นในระยะ 3 เดือนได้พิจารณาถึงการต่อมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ดำเนินการอยู่ระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย.2565 โดยจะพิจารณาต่อไปจนถึงเดือนธ.ค. 2565 และต้องพิจารณาด้วยว่าจะต้องเพิ่มเติมมาตรการใดอีกบ้าง หรือว่าอะไรที่จะยุติลงรวมทั้งต้องพิจารณารวมไปด้วยว่ารัฐบาลจะใช้เงินจากไหนมาดำเนินการ หากมีการกู้เงินมากขึ้นอีก ก็จะต้องระวังเรื่องการก่อหนี้สาธารณะและเป็นภาระทางการคลังในอนาคตด้วย
"ต้องดูว่ามาตรการ 3 เดือนจะต่อมาตรการอะไรให้ได้มากแค่ไหน ที่จะให้ถึงเดือนธ.ค.จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมอีก ผมยืนยันดูแลให้เต็มที่ เท่าที่จะมากได้ ตอนนี้หลายประเทศมีปัญหามากกว่าเรา ทุกรัฐบาลก็แก้ไขปัญหากันอยู่ และระยะต่อไป
หากเศรษฐกิจดีขึ้น สถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้น จะดูแลต่ออย่างไร ต้องมีการจำกัดการช่วยเหลือหรือไม่ ฉะนั้นหากช่วง 6 เดือนสถานการณ์ดีขึ้นก็ลดมาตรการช่วยเหลือลง สิ่งสำคัญวันนี้ขอให้ช่วยกันประหยัดพลังงานและใช้เท่าที่จำเป็น ผมขอร้อง ผมเองก็ใช้เท่าที่จำเป็น ผมอยู่ในฐานะผู้บริหารก็ไม่สบายใจและพยายามทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการจัดหาพลังงานเพิ่มเติมทั้งจากในประเทศและการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะในอนาคตการนำเข้าพลังงานจากพื้นที่ห่างไกลอาจทำได้ยากจากความขัดแย้งที่มีอยู่
โดยในประเทศไทยได้สั่งการให้จัดหาแหล่งพลังงานเพิ่มในพื้นที่อ่าวไทย รวมทั้งพื้นที่อื่นๆทั้งทางบกและทะเล รวมทั้งให้หารือกับต่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศและของภูมิภาคอาเซียนด้วย
ส่วนในเรื่องของความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเราก็มีแนวทางที่เคยจัดทำการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในรูปแบบ JDA ก็อาจหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องนี้ใช่การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าอย่าไปเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขตแดนแต่เป็นเรื่องของการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจร่วมกัน
โดยอาจจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทางทะเลซึ่งจะได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งทางพลังงานและทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องมีการหารือเรื่องนี้กันต่อไป ส่วนจะทำหรือไม่ต้องดูในเรื่องของความจำเป็นในวันนี้ด้วย
https://www.bangkokbiznews.com/business/1013609
ปัญหามีไว้แก้ไข
ลุงตู่ไม่เคยถอดใจ ก้าวไปข้างหน้าไม่ถอยหลัง
หวยแพงว่ายากที่จะแก้ไข ลุงตู่ก็ทำได้แล้ว
การหาแหล่งพลังงานเพิ่มขึ้นเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวค่ะ
ปลื้มลุงตู่ตรงสู้ไม่หนีค่ะ
ไม่เหมือนพวกหนีคุก ป่านนี้ยังหนี หนี และหนี
ไม่มีวันได้กลับ
ลุงตู่จะอยู่อย่างเชิดหน้าสง่างามเพราะทำเพื่อชาติอย่างเต็มที่ค่ะ
💛มาลาริน/กรี๊ดดดด!ดีใจค่าา..สมช.’ตั้งกรรมการ 2 ชุดแก้วิกฤตพลังงาน จ่อคุยกัมพูชาสำรวจปิโตรเลียมในทะเล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมในครั้งนี้ได้พิจารณาแผนรับมือวิกฤติพลังงานและอาหารที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยแผนรองรับจัดทำครอบคลุมใน 3 ระยะคือระยะสั้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ก.ค. – ก.ย.ระยะ 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อเตรียมการรองรับไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของการกระทบกับเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ได้แก่ คณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะทำหน้าที่คล้ายๆกับคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่มีการนำเอาหน่วยงานเศรษฐกิจเข้ามาประชุมหารือร่วมกัน และชุดที่สอง คณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามประมวลผลวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาทุกมิติ และจัดทำแผนรองรับทุกด้านตามวิกฤติการณ์ในอนาคตด้วย
โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง อาจเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยคณะกรรมการทั้งสองชุดจะเข้าสู่การประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.)
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่าในการพิจารณาแผนระยะสั้นในระยะ 3 เดือนได้พิจารณาถึงการต่อมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ดำเนินการอยู่ระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย.2565 โดยจะพิจารณาต่อไปจนถึงเดือนธ.ค. 2565 และต้องพิจารณาด้วยว่าจะต้องเพิ่มเติมมาตรการใดอีกบ้าง หรือว่าอะไรที่จะยุติลงรวมทั้งต้องพิจารณารวมไปด้วยว่ารัฐบาลจะใช้เงินจากไหนมาดำเนินการ หากมีการกู้เงินมากขึ้นอีก ก็จะต้องระวังเรื่องการก่อหนี้สาธารณะและเป็นภาระทางการคลังในอนาคตด้วย
"ต้องดูว่ามาตรการ 3 เดือนจะต่อมาตรการอะไรให้ได้มากแค่ไหน ที่จะให้ถึงเดือนธ.ค.จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมอีก ผมยืนยันดูแลให้เต็มที่ เท่าที่จะมากได้ ตอนนี้หลายประเทศมีปัญหามากกว่าเรา ทุกรัฐบาลก็แก้ไขปัญหากันอยู่ และระยะต่อไป
หากเศรษฐกิจดีขึ้น สถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้น จะดูแลต่ออย่างไร ต้องมีการจำกัดการช่วยเหลือหรือไม่ ฉะนั้นหากช่วง 6 เดือนสถานการณ์ดีขึ้นก็ลดมาตรการช่วยเหลือลง สิ่งสำคัญวันนี้ขอให้ช่วยกันประหยัดพลังงานและใช้เท่าที่จำเป็น ผมขอร้อง ผมเองก็ใช้เท่าที่จำเป็น ผมอยู่ในฐานะผู้บริหารก็ไม่สบายใจและพยายามทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการจัดหาพลังงานเพิ่มเติมทั้งจากในประเทศและการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะในอนาคตการนำเข้าพลังงานจากพื้นที่ห่างไกลอาจทำได้ยากจากความขัดแย้งที่มีอยู่
โดยในประเทศไทยได้สั่งการให้จัดหาแหล่งพลังงานเพิ่มในพื้นที่อ่าวไทย รวมทั้งพื้นที่อื่นๆทั้งทางบกและทะเล รวมทั้งให้หารือกับต่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศและของภูมิภาคอาเซียนด้วย
ส่วนในเรื่องของความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเราก็มีแนวทางที่เคยจัดทำการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในรูปแบบ JDA ก็อาจหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องนี้ใช่การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าอย่าไปเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขตแดนแต่เป็นเรื่องของการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจร่วมกัน
โดยอาจจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทางทะเลซึ่งจะได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งทางพลังงานและทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องมีการหารือเรื่องนี้กันต่อไป ส่วนจะทำหรือไม่ต้องดูในเรื่องของความจำเป็นในวันนี้ด้วย
https://www.bangkokbiznews.com/business/1013609
ปัญหามีไว้แก้ไข
ลุงตู่ไม่เคยถอดใจ ก้าวไปข้างหน้าไม่ถอยหลัง
หวยแพงว่ายากที่จะแก้ไข ลุงตู่ก็ทำได้แล้ว
การหาแหล่งพลังงานเพิ่มขึ้นเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวค่ะ
ปลื้มลุงตู่ตรงสู้ไม่หนีค่ะ
ไม่เหมือนพวกหนีคุก ป่านนี้ยังหนี หนี และหนี
ไม่มีวันได้กลับ
ลุงตู่จะอยู่อย่างเชิดหน้าสง่างามเพราะทำเพื่อชาติอย่างเต็มที่ค่ะ