ม็อบเชียงใหม่ ชูป้าย ตะโกนไล่ บิ๊กตู่ พ้นนายกฯ ระดมตร.กว่า 2 พันนาย อารักขาเข้ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7135353
ม็อบเชียงใหม่ ตะโกนไล่ ‘บิ๊กตู่’ ลาออก อยู่ 8 ปี อนาคตไม่มี หนุ่มใหญ่ดอดชูป้ายต้านถึงสนามบิน ระดมตำรวจกว่า 2 พันนาย อารักขาเข้ม
วันที่ 29 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเขียงใหม่ว่า ในการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจติดตามงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมนั้น แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด อีกทั้งมีการปิดลับกำหนดงานและภารกิจต่างๆ ของนายกฯ
แต่ทันทีที่คณะของนายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ปิดบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ ปรากฎว่าที่บริเวณด้านหน้าท่าอากาศยานจังหวัดเขียงใหม่ มีคนต่อต้านที่ใช้ชื่อว่า
เกียรติ ลำปาง ได้มาชูป้ายประท้วง ข้อความว่า
“ฮาจังคิง! ----- ประยุทธ์” อีกข้อความ
“ปล่อยลูกหลานเฮา ---- ประ--------” พร้อมประกาศผ่านเพจส่วนตัวว่า “
มาต้อนรับ-ขับไล่ ประยุทธ์! ที่สนามบินนานาชาติ จ.เชียงใหม่ วันนี้ตามไล่ทั้งวันแน่นอน”
จากนั้นเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พล.อ.
ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด FTI EXPO 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES FOR STRONGER THAILAND ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มเห็นต่างประมาณ 20 คน มาปักหลักชูป้ายต่อต้านนายกฯ บริเวณด้านหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ พร้อมข้อความระบุเช่น
อยู่ 8 ปี อนาคตไม่มี ลาออกไป, อนาคตไม่มี หนี้สาธารณะ, ลุงตู่ กู้ กู้ กู้
นอกจากนี้ยังมีข้อความประชด เช่น
อยู่ยาวไป 7 ชั่วโคตร และลงท้ายด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นต้น ขณะที่มีบางส่วนตะโกนไล่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตรึงกำลังสกัดไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่จัดงาน
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึง คุ้มกันถึง 2,120 นาย แบ่งเป็น สภ.เมือง 230 นาย สภ.แม่ปิง 70 นาย สภ.ภูพิงฯ70 นาย สภ.ช้างเผือก 250 นาย สภ.สารภี 275 นาย สภ.สันกำแพง 50 นายสภ.แม่ริม 65 นาย สภ. แม่แตง 180 นาย สภ.สันทราย 60 นาย
กลุ่มงานจราจร 160 นาย
ก.สสภ.จว.เชียงใหม่ 130 นาย คฝ.ภ.จว.ลำพูน 180 นาย คฝ.ภ.จว.ลำปาง 180 นาย บก.สส.ภ.5 210 นาย EOD ตร. 10 นาย และสันติบาล 40 นาย
"เวิลด์แบงก์" หั่น GDP ไทยปีนี้ เหลือโต 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9%
https://ch3plus.com/news/economy/morning/298430
(29 มิ.ย.) นาย
เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ประจำประเทศไทย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 นี้ จะขยายตัวที่ 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 65
โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 6 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 15 ล้านคนในปี 66 ก่อนจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 24 ล้านคนในปี 67
พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวที่ระดับ 4.3% และปี 67 ขยายตัวที่ระดับ 3.9%
นาย
เกียรติพงศ์ ยังให้ความเห็นต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. สามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ควรเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยหากมีการปรับขึ้นในทุกรอบของการประชุม กนง. ในช่วงที่เหลือของปีนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็จะสามารถกลับสู่อัตราใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยปกติได้ในปี 66 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยค่อนข้างฟื้นตัวได้ดีขึ้น
พร้อมระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/65 ส่วนไตรมาส 2/65 อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมก็ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
กระดูกสันหลังชาติครวญ คนงานดำนาหายาก-ค่าแรงพุ่ง 400 บ. วอนรัฐช่วยแก้ฝนทิ้งช่วง
https://www.matichon.co.th/region/news_3425596
กระดูกสันหลังชาติครวญ คนงานดำนาหายาก-ค่าแรงพุ่ง 400 บ. วอนรัฐช่วยแก้ฝนทิ้งช่วง
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นาย
แก่น ท้าวสุวรรณ อายุ 56 ปี ชาวตำบลหัวดง อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนทำนาโดยการปักดำนาข้าว เพราะว่าการปักดำนาข้าวจะได้ผลผลิตผลดีกว่านาหว่าน แต่ที่สำคัญในช่วงนี้คือค่าแรงจะสูงขึ้นจาก 300-400 บาทต่อหัวแล้ว ส่วนการว่าจ้างถอนต้นกล้าจากมัดละ 3 บาทเดี๋ยวนี้เป็น 4-5 บาทแล้ว
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจ้างมาดำเพราะว่าต้นกล้า พร้อมสำหรับจะปักดำนาข้าวแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ต้นกล้าจะแก่เกินนำมาประจำแล้วไม่ได้ผล การหาแรงงานปักดำนาข้าวก็ลำบากขึ้นทุกที เนื่องจากงานในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ส่วนใหญ่เกษตรกรชาวไร่ชาวนาจะใช้วิธี หว่านข้าวในการปลูกต้นข้าวแต่ปัญหาที่ตนหนักใจก็คือ น้ำในการที่จะมาปักดำนาข้าวไม่มีในทุ่งนาอยู่เลย ตนต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบขึ้นมาจากสระน้ำในพื้นที่นาข้าวของตนเองในการปักดำนาข้าวในครั้งนี้หากน้ำในสระหมดก็คงต้องรอฝนหาฝนไม่ตกลงมาต้นกล้านาข้าวที่จ้างปักดำก็คงแห้งตายหมด
ตนอยากให้ทางราชการ หน่วยงานของรัฐขอฝนเทียมพระราชทานมาตกในพื้นที่อำนาจเจริญด้วย เพราะพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่ในพื้นที่ของจังหวัดอำนาจเจริญในช่วงนี้ จะประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงมานานนับเป็นเดือนๆแล้ว หากไม่มีฝนตกมาภายใน 1 อาทิตย์นี้คงจะสร้างความเสียหายให้กับนาข้าวหลายหมื่นไร่แบะขยายวงกว้างออกไปอีกเลยทีเดียว ดีหน่อยที่นาข้าวของเกษตรกรบางรายที่อยู่ในระบบของการส่งน้ำส่งน้ำชลประทานเข้าถึง ส่วนนาข้าวที่อยู่นอกเขตชลประทานคงต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงกันขาดน้ำอีกยาวนาน
ทางด้าน นาย
สนอง หน่อแก้ว กำนันตำบลจิกดู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า การรับจ้างปรับดำนาข้าวในพื้นที่ของจังหวัดอำนาจเจริญโดยเฉพาะในตำบลจิกดู่ของตน จะมีผู้ว่าจ้างนิยมจ้างปักดำนาข้าวกันไม่มากนัก เนื่องจากค่าแรงค่อนข้างจะแพง บางพื้นที่ยิ่ง 400 บาท ซึ่งการปักดำนาข้าวจะได้ผลดีกว่าการหว่านข้าวในนา เนื่องจากต้นข้าวจะมีกอใหญ่รวงข้าวสวยน้ำหนักดีกว่านาหว่านเกษตรกรที่มีนาข้าวจึงนิยมว่าจ้างให้คนมาปักดำนาข้าวให้ ผู้รับจ้างดำนาถ้าห่อข้าวนำกับข้าวมากินเองก็จะได้ค่าแรงดีขึ้นหากให้ทางผู้ว่าจ้างเลี้ยงอาหารกลางวันก็จะได้ค่าแรงต่ำลงซึ่งค่าแรงขนาดนี้ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญจะอยู่ในราคา 350 บาทถึง 400 บาท
แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือปัญหาฝนทิ้งช่วง ซึ่งประสบมาแล้วนานนับกว่า 2 เดือน กำลังแห้งตายระนาว ส่วนผู้ที่มีนาข้าวในเขตชลประทานก็ดีหน่อยได้รับน้ำจากชลประทานในการปักดำนาข้าวในครั้งนี้ตนอยากให้ทางจังหวัดเร่งขอฝนหลวงพระราชทานด้วยก็จะดีทีเดียวที่จะช่วยชาวเกษตรกรชาวนาในครั้งนี้ได้ได้มีข้าวกินข้าวได้ขายในปีนี้
JJNY : ม็อบเชียงใหม่ชูป้ายไล่ตู่│"เวิลด์แบงก์"หั่น GDPไทยปีนี้ เหลือ 2.9%│กระดูกสันหลังชาติครวญ│ชัชชาติ ถกสภาผู้บริโภค
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7135353
ม็อบเชียงใหม่ ตะโกนไล่ ‘บิ๊กตู่’ ลาออก อยู่ 8 ปี อนาคตไม่มี หนุ่มใหญ่ดอดชูป้ายต้านถึงสนามบิน ระดมตำรวจกว่า 2 พันนาย อารักขาเข้ม
วันที่ 29 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเขียงใหม่ว่า ในการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจติดตามงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมนั้น แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด อีกทั้งมีการปิดลับกำหนดงานและภารกิจต่างๆ ของนายกฯ
แต่ทันทีที่คณะของนายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ปิดบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ ปรากฎว่าที่บริเวณด้านหน้าท่าอากาศยานจังหวัดเขียงใหม่ มีคนต่อต้านที่ใช้ชื่อว่า เกียรติ ลำปาง ได้มาชูป้ายประท้วง ข้อความว่า “ฮาจังคิง! ----- ประยุทธ์” อีกข้อความ “ปล่อยลูกหลานเฮา ---- ประ--------” พร้อมประกาศผ่านเพจส่วนตัวว่า “มาต้อนรับ-ขับไล่ ประยุทธ์! ที่สนามบินนานาชาติ จ.เชียงใหม่ วันนี้ตามไล่ทั้งวันแน่นอน”
จากนั้นเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด FTI EXPO 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES FOR STRONGER THAILAND ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มเห็นต่างประมาณ 20 คน มาปักหลักชูป้ายต่อต้านนายกฯ บริเวณด้านหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ พร้อมข้อความระบุเช่น อยู่ 8 ปี อนาคตไม่มี ลาออกไป, อนาคตไม่มี หนี้สาธารณะ, ลุงตู่ กู้ กู้ กู้
นอกจากนี้ยังมีข้อความประชด เช่น อยู่ยาวไป 7 ชั่วโคตร และลงท้ายด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นต้น ขณะที่มีบางส่วนตะโกนไล่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตรึงกำลังสกัดไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่จัดงาน
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึง คุ้มกันถึง 2,120 นาย แบ่งเป็น สภ.เมือง 230 นาย สภ.แม่ปิง 70 นาย สภ.ภูพิงฯ70 นาย สภ.ช้างเผือก 250 นาย สภ.สารภี 275 นาย สภ.สันกำแพง 50 นายสภ.แม่ริม 65 นาย สภ. แม่แตง 180 นาย สภ.สันทราย 60 นาย
กลุ่มงานจราจร 160 นาย
ก.สสภ.จว.เชียงใหม่ 130 นาย คฝ.ภ.จว.ลำพูน 180 นาย คฝ.ภ.จว.ลำปาง 180 นาย บก.สส.ภ.5 210 นาย EOD ตร. 10 นาย และสันติบาล 40 นาย
"เวิลด์แบงก์" หั่น GDP ไทยปีนี้ เหลือโต 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9%
https://ch3plus.com/news/economy/morning/298430
(29 มิ.ย.) นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ประจำประเทศไทย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 นี้ จะขยายตัวที่ 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 65
โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 6 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 15 ล้านคนในปี 66 ก่อนจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 24 ล้านคนในปี 67
พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวที่ระดับ 4.3% และปี 67 ขยายตัวที่ระดับ 3.9%
นายเกียรติพงศ์ ยังให้ความเห็นต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. สามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ควรเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยหากมีการปรับขึ้นในทุกรอบของการประชุม กนง. ในช่วงที่เหลือของปีนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็จะสามารถกลับสู่อัตราใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยปกติได้ในปี 66 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยค่อนข้างฟื้นตัวได้ดีขึ้น
พร้อมระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/65 ส่วนไตรมาส 2/65 อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมก็ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
กระดูกสันหลังชาติครวญ คนงานดำนาหายาก-ค่าแรงพุ่ง 400 บ. วอนรัฐช่วยแก้ฝนทิ้งช่วง
https://www.matichon.co.th/region/news_3425596
กระดูกสันหลังชาติครวญ คนงานดำนาหายาก-ค่าแรงพุ่ง 400 บ. วอนรัฐช่วยแก้ฝนทิ้งช่วง
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายแก่น ท้าวสุวรรณ อายุ 56 ปี ชาวตำบลหัวดง อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนทำนาโดยการปักดำนาข้าว เพราะว่าการปักดำนาข้าวจะได้ผลผลิตผลดีกว่านาหว่าน แต่ที่สำคัญในช่วงนี้คือค่าแรงจะสูงขึ้นจาก 300-400 บาทต่อหัวแล้ว ส่วนการว่าจ้างถอนต้นกล้าจากมัดละ 3 บาทเดี๋ยวนี้เป็น 4-5 บาทแล้ว
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจ้างมาดำเพราะว่าต้นกล้า พร้อมสำหรับจะปักดำนาข้าวแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ต้นกล้าจะแก่เกินนำมาประจำแล้วไม่ได้ผล การหาแรงงานปักดำนาข้าวก็ลำบากขึ้นทุกที เนื่องจากงานในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ส่วนใหญ่เกษตรกรชาวไร่ชาวนาจะใช้วิธี หว่านข้าวในการปลูกต้นข้าวแต่ปัญหาที่ตนหนักใจก็คือ น้ำในการที่จะมาปักดำนาข้าวไม่มีในทุ่งนาอยู่เลย ตนต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบขึ้นมาจากสระน้ำในพื้นที่นาข้าวของตนเองในการปักดำนาข้าวในครั้งนี้หากน้ำในสระหมดก็คงต้องรอฝนหาฝนไม่ตกลงมาต้นกล้านาข้าวที่จ้างปักดำก็คงแห้งตายหมด
ตนอยากให้ทางราชการ หน่วยงานของรัฐขอฝนเทียมพระราชทานมาตกในพื้นที่อำนาจเจริญด้วย เพราะพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่ในพื้นที่ของจังหวัดอำนาจเจริญในช่วงนี้ จะประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงมานานนับเป็นเดือนๆแล้ว หากไม่มีฝนตกมาภายใน 1 อาทิตย์นี้คงจะสร้างความเสียหายให้กับนาข้าวหลายหมื่นไร่แบะขยายวงกว้างออกไปอีกเลยทีเดียว ดีหน่อยที่นาข้าวของเกษตรกรบางรายที่อยู่ในระบบของการส่งน้ำส่งน้ำชลประทานเข้าถึง ส่วนนาข้าวที่อยู่นอกเขตชลประทานคงต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงกันขาดน้ำอีกยาวนาน
ทางด้าน นายสนอง หน่อแก้ว กำนันตำบลจิกดู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า การรับจ้างปรับดำนาข้าวในพื้นที่ของจังหวัดอำนาจเจริญโดยเฉพาะในตำบลจิกดู่ของตน จะมีผู้ว่าจ้างนิยมจ้างปักดำนาข้าวกันไม่มากนัก เนื่องจากค่าแรงค่อนข้างจะแพง บางพื้นที่ยิ่ง 400 บาท ซึ่งการปักดำนาข้าวจะได้ผลดีกว่าการหว่านข้าวในนา เนื่องจากต้นข้าวจะมีกอใหญ่รวงข้าวสวยน้ำหนักดีกว่านาหว่านเกษตรกรที่มีนาข้าวจึงนิยมว่าจ้างให้คนมาปักดำนาข้าวให้ ผู้รับจ้างดำนาถ้าห่อข้าวนำกับข้าวมากินเองก็จะได้ค่าแรงดีขึ้นหากให้ทางผู้ว่าจ้างเลี้ยงอาหารกลางวันก็จะได้ค่าแรงต่ำลงซึ่งค่าแรงขนาดนี้ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญจะอยู่ในราคา 350 บาทถึง 400 บาท
แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือปัญหาฝนทิ้งช่วง ซึ่งประสบมาแล้วนานนับกว่า 2 เดือน กำลังแห้งตายระนาว ส่วนผู้ที่มีนาข้าวในเขตชลประทานก็ดีหน่อยได้รับน้ำจากชลประทานในการปักดำนาข้าวในครั้งนี้ตนอยากให้ทางจังหวัดเร่งขอฝนหลวงพระราชทานด้วยก็จะดีทีเดียวที่จะช่วยชาวเกษตรกรชาวนาในครั้งนี้ได้ได้มีข้าวกินข้าวได้ขายในปีนี้