สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
เข้ามากอด เพราะเจอปัญหาเดียวกัน^^ และเหมือนกันทุกข้อ
จนคิดว่า ตัวเองมาตั้งกระทู้เองเลยค่ะ
ต่างกันแค่ ตอนนี้ลูกคุณ 3ขวบ แต่ปัจจุบันลูกเราจะ8ขวบแล้วค่ะ
(ตั้งแต่ท้องลูกคนแรกมา ก็ไม่เคยมีอะไรกันเลยจนปัจจุบัน ส่วนลูกคนที่สองของเรา เราทำเด็กหลอดแก้วเอาค่ะ)
อยากบอกว่า เค้าแก้ไขไม่ได้หรอกค่ะ ไม่เช่นนั้นจะฝืนเค้ามากๆ
เราเข้าใจคุณนะคะ ผ่านจุดนั้นมาหมดแล้ว
คุณคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่าคะ
1. คุณมั่นใจว่าเค้ารักคุณแหละ รักมากด้วย คุณคือ priorityสำหรับเค้าในชีวิตแล้ว
2.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่ใช่เกย์ หรือ ไบ แน่นอน ชายแท้นี่แหละ
3.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่มีคนอื่นหรือกิ้กแน่นอน (เนื่องจากชอบอยู่บ้านเฉยๆ และทำตัวเดิมๆ คุณรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเค้าอยู่แล้ว)
4.คุณมั่นใจว่า เค้าก็รักลูกแหละ (เชื่อว่ารักลูก แต่ก็คงไม่ได้แสดงรักจ้ะจ๋ามากมายอะไร รักสไตล์ขรึมๆเฉื่อยๆนั่นแหละ มีเล่นบ้างนิดหน่อย)
5.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่ได้ทำตัวผิดจริยธรรมอะไร ยังคงทำมาหากินได้ปกติในสไตล์เค้า คือไม่ก่อเกิดปัญหาเรื่องเงินให้คุณ
ถ้ามีครบ 5 ข้อนี้ จากใจของเรานะคะ ลองถามตัวเองว่า เอาวะ ในเมื่อเราเปลี่ยนเค้าไม่ได้ เราจะเปลี่ยนตัวเองแล้วกัน ทำใจไปกับมัน
ทุกวันนี้เราทำใจแล้วค่ะ แล้วอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข (จากที่เคยร้องไห้เสียใจมา ตอนลูกคนแรกอายุ2-3ขวบ คือเราไม่เข้าใจเค้าจริงๆ มันโหดร้ายไป)
ผลคือ ตอนนี้อยู่กันปกติสุขดี แล้วเค้าก็รู้และระลึกในใจว่า เราปรับตัวเพื่อเค้าจริงๆ เราดูออกว่า เค้ารักเรามากขึ้นนะคะ คือเราเองก็มีข้อเสียเรื่องอื่นที่แก้ไขยากเช่นกัน ซึ่งหลังๆ เค้าก็ปรับตัวรับเราในทุกเรื่องได้แล้วเช่นกันค่ะ
อ้อ ประเด็นที่เหมือนกันสุดๆคือ แยกห้องกันตั้งแต่วันที่เราท้อง จนปัจจุบันเช่นกันค่ะ ลืมไปได้เลยว่าจะจู๋จี๋กัน จะโดนตัวเค้า เค้ายังไม่ชอบเลยค่ะ
อ้าว แล้วทำไมยังมองว่าเค้ารักเราล่ะ เราดูจากการระทำอื่นค่ะ อย่าไปโฟกัสในส่วนจริตที่เค้าพยายามเปลี่ยนแล้วจริงๆ แต่มันไม่ได้จริงๆ ลองมองภาพกว้าง เค้าตักเตือนห่วงใยคุณเรื่องสำคัญไหม เค้าไปไหนมาไหนจะไปกินอะไรเค้าอยากมีคุณอยุ่ด้วยไหม เวลาคุณเครียดดูเค้าพยายามอยู่เคียงข้างคุณบ้างไหม
ใช่อยู่ปัญหาเรื่องเซ็กซ์ ทำให้คนเลิกกันมานักต่อนัก แต่คุณรู้ไหมคะ ว่ามีอีกหลายคู่เช่นกันที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีเซ็กซ์ ก็ยังรักกันดี อยู่เป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันจริงๆค่ะ^^
เราขอเป็นกำลังใจให้คู่ของคุณนะคะ อย่างน้อย ก็ไม่ได้มีปัญหากันในเรื่องของเงินใช่ไหมคะ ถ้าเทียบเรื่องเซ็กซ์กับเงิน เราว่าปัญหาเงิน ยังดูน่าปวดหัวมากกว่าอีกด้วยซ้ำค่ะ สู้ๆค่ะ
จนคิดว่า ตัวเองมาตั้งกระทู้เองเลยค่ะ
ต่างกันแค่ ตอนนี้ลูกคุณ 3ขวบ แต่ปัจจุบันลูกเราจะ8ขวบแล้วค่ะ
(ตั้งแต่ท้องลูกคนแรกมา ก็ไม่เคยมีอะไรกันเลยจนปัจจุบัน ส่วนลูกคนที่สองของเรา เราทำเด็กหลอดแก้วเอาค่ะ)
อยากบอกว่า เค้าแก้ไขไม่ได้หรอกค่ะ ไม่เช่นนั้นจะฝืนเค้ามากๆ
เราเข้าใจคุณนะคะ ผ่านจุดนั้นมาหมดแล้ว
คุณคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่าคะ
1. คุณมั่นใจว่าเค้ารักคุณแหละ รักมากด้วย คุณคือ priorityสำหรับเค้าในชีวิตแล้ว
2.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่ใช่เกย์ หรือ ไบ แน่นอน ชายแท้นี่แหละ
3.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่มีคนอื่นหรือกิ้กแน่นอน (เนื่องจากชอบอยู่บ้านเฉยๆ และทำตัวเดิมๆ คุณรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเค้าอยู่แล้ว)
4.คุณมั่นใจว่า เค้าก็รักลูกแหละ (เชื่อว่ารักลูก แต่ก็คงไม่ได้แสดงรักจ้ะจ๋ามากมายอะไร รักสไตล์ขรึมๆเฉื่อยๆนั่นแหละ มีเล่นบ้างนิดหน่อย)
5.คุณมั่นใจว่า เค้าไม่ได้ทำตัวผิดจริยธรรมอะไร ยังคงทำมาหากินได้ปกติในสไตล์เค้า คือไม่ก่อเกิดปัญหาเรื่องเงินให้คุณ
ถ้ามีครบ 5 ข้อนี้ จากใจของเรานะคะ ลองถามตัวเองว่า เอาวะ ในเมื่อเราเปลี่ยนเค้าไม่ได้ เราจะเปลี่ยนตัวเองแล้วกัน ทำใจไปกับมัน
ทุกวันนี้เราทำใจแล้วค่ะ แล้วอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข (จากที่เคยร้องไห้เสียใจมา ตอนลูกคนแรกอายุ2-3ขวบ คือเราไม่เข้าใจเค้าจริงๆ มันโหดร้ายไป)
ผลคือ ตอนนี้อยู่กันปกติสุขดี แล้วเค้าก็รู้และระลึกในใจว่า เราปรับตัวเพื่อเค้าจริงๆ เราดูออกว่า เค้ารักเรามากขึ้นนะคะ คือเราเองก็มีข้อเสียเรื่องอื่นที่แก้ไขยากเช่นกัน ซึ่งหลังๆ เค้าก็ปรับตัวรับเราในทุกเรื่องได้แล้วเช่นกันค่ะ
อ้อ ประเด็นที่เหมือนกันสุดๆคือ แยกห้องกันตั้งแต่วันที่เราท้อง จนปัจจุบันเช่นกันค่ะ ลืมไปได้เลยว่าจะจู๋จี๋กัน จะโดนตัวเค้า เค้ายังไม่ชอบเลยค่ะ
อ้าว แล้วทำไมยังมองว่าเค้ารักเราล่ะ เราดูจากการระทำอื่นค่ะ อย่าไปโฟกัสในส่วนจริตที่เค้าพยายามเปลี่ยนแล้วจริงๆ แต่มันไม่ได้จริงๆ ลองมองภาพกว้าง เค้าตักเตือนห่วงใยคุณเรื่องสำคัญไหม เค้าไปไหนมาไหนจะไปกินอะไรเค้าอยากมีคุณอยุ่ด้วยไหม เวลาคุณเครียดดูเค้าพยายามอยู่เคียงข้างคุณบ้างไหม
ใช่อยู่ปัญหาเรื่องเซ็กซ์ ทำให้คนเลิกกันมานักต่อนัก แต่คุณรู้ไหมคะ ว่ามีอีกหลายคู่เช่นกันที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีเซ็กซ์ ก็ยังรักกันดี อยู่เป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันจริงๆค่ะ^^
เราขอเป็นกำลังใจให้คู่ของคุณนะคะ อย่างน้อย ก็ไม่ได้มีปัญหากันในเรื่องของเงินใช่ไหมคะ ถ้าเทียบเรื่องเซ็กซ์กับเงิน เราว่าปัญหาเงิน ยังดูน่าปวดหัวมากกว่าอีกด้วยซ้ำค่ะ สู้ๆค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
นกเขาไม่ขัน ไม่ใช่ข้ออ้างให้ ไม่กอด ไม่หอม ไม่แสดงความรัก
นี่มันไม่ใช่นกเขาไม่ขันแล้ว เขาหมดความพิศวาสในตัวคุณมากกว่าครับ
ถ้าจะอยู่กับต่อไป ก็ต้องเข้าใจว่าคุณจะอยู่กันแบบเพื่อน แบบพ่อแม่ที่ช่วยกันเลี้ยงลูก แต่ไม่ใช่แบบคนรัก
แต่ถ้าเขายังห่วงใยใส่ใจคุณและลูกดีอยู่ แค่ไม่แสดงความรัก
คุณก็ต้องลองคิดชั่งน้ำหนักดูครับ ว่าความสัมพันธ์แบบนี้คุณรับได้ไหม เพราะบางคนก็ชอบความสัมพันธ์แบบนี้นะ คือเป็นครอบครัวห่วงใยใส่ใจกันโดยไม่มีเรื่อง Sex เข้ามาเกี่ยวข้อง อยู่กันแบบเพื่อนบางคนบอกว่าสบายใจกว่า
นี่มันไม่ใช่นกเขาไม่ขันแล้ว เขาหมดความพิศวาสในตัวคุณมากกว่าครับ
ถ้าจะอยู่กับต่อไป ก็ต้องเข้าใจว่าคุณจะอยู่กันแบบเพื่อน แบบพ่อแม่ที่ช่วยกันเลี้ยงลูก แต่ไม่ใช่แบบคนรัก
แต่ถ้าเขายังห่วงใยใส่ใจคุณและลูกดีอยู่ แค่ไม่แสดงความรัก
คุณก็ต้องลองคิดชั่งน้ำหนักดูครับ ว่าความสัมพันธ์แบบนี้คุณรับได้ไหม เพราะบางคนก็ชอบความสัมพันธ์แบบนี้นะ คือเป็นครอบครัวห่วงใยใส่ใจกันโดยไม่มีเรื่อง Sex เข้ามาเกี่ยวข้อง อยู่กันแบบเพื่อนบางคนบอกว่าสบายใจกว่า
แสดงความคิดเห็น
แฟนไม่ทำการบ้านเลยจนอยากแยกทาง
.
เราเคยจับเข่าคุยกันถึงสาเหตุ เป็นที่ตัวเราหรือเปล่า อยากให้ปรับปรุงตรงไหนมั๊ย แต่เค้าบอกว่านกเขาไม่ขันเอง และอายที่เป็นแบบนี้เลย มันทำให้ไม่มีอารมณ์ไปเลย และบวกกับเค้าก็ไม่แสดงความรักรูปแบบอื่นด้วย เช่น การกอด การหอมนี่ไม่มีเลย แล้วขอแยกห้องนอนอีก เราก็เลยยิ่งน้อยใจเอามากๆ ประท้วงทีนึงถึงจะหอมแก้มมาทีนึงแล้วก็เหมือนเดิม แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเค้าไม่มีเรื่องนอกใจ หรือความเครียดจากงาน
.
ซึ่งเราน้อยใจกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ก็เลยเปลี่ยนมาโฟกัสเรื่องลูกก็ทำให้ลืมเรื่องพวกนี้ไปได้บ้าง แต่สุดท้ายเราที่ยังทำใจรับสภาพนี้ไม่ได้ บวกกับแฟนเราไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ปัญหานี้สักเท่าไร ชวนให้ไปออกกำลังกายก็ไม่ทำ (แฟนเป็นคนเฉื่อยๆ ออกแนวขี้เกียจ ชอบอยู่เฉยๆ) กินยาหาหมอก็ไม่ไป คือไม่ทำอะไรเลย ได้แต่บอกให้เราทำใจเรื่องนี้
.
เราเคยให้กำลังใจเค้า เราจะรักษามันไปด้วยกัน มันน่าจะรักษาได้ ทำไมไม่ลองดูก่อน ถ้าหมอจนปัญญารักษาแล้วก็ว่าไปอย่าง เราจะยอมรับมันพยายามดูก่อน
.
ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเปิดใจคุยกันเรื่องนี้หลายครั้ง จนทะเลาะไม่มองหน้ากันก็หลายครั้ง พาลหงุดหงิดไปเรื่องอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะลองดู ซึ่งแค่ได้ยินแบบนี้เราก็ใจฟูแล้ว เพราะมันให้รู้สึกว่าเค้าได้พยายามที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ทำอะไรเลย บางทีเค้าก็รับปากไปงั้น บางทีก็ทำเป็นนิ่งไม่พูด แล้วก็บอกให้เราทำใจ เราว่ามันใจร้ายกับเราเกินไป ซึ่งเราก็อดทนมาโดยตลอด พยายามให้เวลา และเพราะเราก็ไม่ได้อยากเลิกกันด้วยสาเหตุนี้ ลูกยังเล็กด้วย
.
จนครั้งล่าสุด เราถามเค้าว่าไปหาหมอวันก่อนมา ได้ไปคุยหมอความดันเรื่องยาที่อาจมีผลกระทบให้นกเขาไม่ขันหรือเปล่า (เราเคยอ่านงานวิจัยมาว่ายารักษาความดันอาจมีผลกับเรื่องนี้ ซึ่งสามารถแจ้งหมอเพื่อเปลี่ยนยาได้ เลยให้เค้าไปปรึกษาคุยหมอที่รักษาความดันอยู่ดู) แต่แฟนบอกว่าเค้าอายหมอที่จะคุยเรื่องนี้ แล้วจบด้วยการให้ทำใจ (อีกแล้ว? เกลียดการทำใจโว๊ยยยย!!!)
.
จบสนทนาปุ๊บ ใจเราหล่น หมดคำพูด หมดใจ จนรู้สึกเหนื่อยและท้อกับเรื่องนี้มาก เราคิดเองว่าความรักที่มีให้กันมันไม่พอแล้ว มันขม มันเหมือนไม่มีทางออก มันไปต่อไม่ได้แล้ว เราไม่อยากนอนร้องไห้บ้าบออยู่คนเดียวอีกแล้ว
อีกไม่กี่วันถัดมาเราก็เลยขอแยกทางกับเค้า แต่เค้าขอโอกาสให้อยู่กันเป็นครอบครัว และขอให้เราทำใจเรื่องนั้นได้มั๊ย? ซึ่งเราก็บอกว่ามันเร็วเกินไปที่จะให้เราทำใจเรื่องนี้ หาทางรักษามันไม่ได้เหรอ? ทำไมเราต้องมานั่งทำใจยอมรับอยู่ฝ่ายเดียว? ทำไมไม่คิดจะทำอะไรเลย? เราเหนื่อยหน่ายกับวังวนนี้สุดๆ เรายังทำใจไม่ได้ มันยังไม่ถึงวัยเลย และมันก็ต้องพอแล้วมั้งเพราะยังไงพวกเราก็วนกลับมาทะเลาะกันแบบนี้อยู่ดี!!!
การที่ให้เราแยกกันอยู่มันน่าจะทำใจได้มากกว่าการอยู่ด้วยกันแต่การแสดงความรักไม่มีเลย ซึ่งเค้าก็ร้องไห้ขอโอกาส
.
เราก็ไม่รู้จะยังไงต่อดี กลัวเค้าพูดขอไปทีแล้วไม่จริงจังที่จะแก้ปัญหาอีก แต่เค้าก็มาลงนอนเตียงเดียวกันแต่ก็ยังไม่มีอะไรนะคะ มันก็ดูเค้าพยายามปรับตัวนิดนึง
.
ขอคำแนะนำหน่อยคะ ควรทำไงกับเรื่องนี้ดี เพราะอีกใจก็อยากรักษาครอบครัวไว้ อยากแก่เฒ่าดูแลลูกไปด้วยกัน แต่อีกใจก็อยากเห็นแก่ตัวบ้าง (ซึ่งเราคิดว่าเราดูแลลูกคนเดียวได้) ทั้งที่อยู่ใกล้กันแต่กายกลับห่าง มันก็พาใจห่างไปด้วย