กัญชาไม่ใช่ปัญหา แต่คนทำงานนั่นแหละ ตัวปัญหา

กระทู้คำถาม
ถีบขาคู่

ไม่ได้เรื่อง  ไม่ได้ความ  ไร้วิสัยทัศน์  ขาดความเอาใจใส่   เช้าแปดชาม เย็นสิบชาม   พูดพล่ามไปวัน ๆ
ถีบขาคู่ถีบขาคู่ถีบขาคู่

.

ย้อนไปเมื่อสามปีก่อน   ปี 2562   
พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ประกาศใช้   ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีก 1 ปีข้างหน้า   
แต่พอถึงปี 2563   ต้องประกาศขยายเวลาบังคับใช้ไปอีก 1 ปี   เพราะยังไม่มีหน่วยงานและบุคลากรรับผิดชอบด้านนี้

เวลาหนึ่งปีที่รัฐบาลไม่ทำอะไร !!!

อย่างกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา  ก็มีตำรวจ  อัยการ  ศาล  รับผิดชอบ
เรื่องคอมพิวเตอร์  อินเตอร์เน็ต  ก็มีกระทรวงดิจิตัล รับผิดชอบ
เรื่องการศึกษา  ก็มีกระทรวงศึกษาธิการ  รับผิดชอบ

แต่เรื่องข้อมูลส่วนบุคคล  แม้จะมีกฎหมายออกมาแล้ว  แต่ยังไม่มีหน่วยงานและบุคลากร
ต้องเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 1 ปี

ถึงปี 2564   แทนที่ทุกอย่างจะพร้อม  เพราะมีเวลาเตรียมการตั้ง 2 ปีแล้ว
กลับยังไม่พร้อม   ต้องประกาศเลื่อนการบังคับใช้อีกครั้ง

จนถึงปีนี้   2565   พ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคลจึงมีผลบังคับใช้
ต้องใช้เวลา 3 ปี ในการตระเตรียมความพร้อม   แต่ถึงขนาดนั้น  ถึงวันนี้  ก็ยังมีปัญหา ยังไม่มีอะไรชัด ว่ากฎหมายนี้แค่ไหนอย่างไร

ทำงานประสาอะไรไม่รู้
ถีบขาคู่

.
9 มิ.ย. 65   กฎหมายกัญชาเสรีมีผลบังคับใช้

กฎหมายนี้ประกาศออกมาเมื่อ 120 วันที่แล้ว (ก่อน 9 มิ.ย. 120 วัน)
คือ ตอนประกาศ  กฎหมายบอกว่า  ให้มีผลบังคับใช้ในอีก 120 วันข้างหน้า
นั่นเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ  ซึ่งก็คือรัฐบาล  ได้เตรียมความพร้อม สร้างความพร้อม วางมาตรการ กฎ ระเบียบ รองรับกฎหมายเสรีกัญชา

แต่ผลก็คือ 120 วัน  ก็ 120 วันที่ผ่านไปเปล่า ๆ
เอาแต่ประกาศโครม ๆ ว่าเป็นผลงาน  ทั้งที่ไม่มีมาตรการ กฎ ระเบียบอะไรที่รัดกุมชัดเจนรองรับเลย

อ้างนั่นอ้างนี่แถ ๆ ไถ ๆ ไป
ถีบขาคู่
.
ตอนนี้  ก็เลยอลเวง   รีบเร่งจะออกมาตรการต่าง ๆ รองรับ
ยิ่งผู้ว่า กทม. ทำงานฉับไวไปก่อน  ออกมาตรการรองรับ  ยิ่งทำให้รัฐบาลฉุกละหุก
แต่ก็ยังเป็นลิงแก้แห  เพราะเหมือนจะหาคนรับผิดชอบเต็ม ๆ ไม่ได้  ใช้วิธีโยนกันไปโยนกันมา  
อ้างว่ามีกฎ ระเบียบ ประกาศ   มีอะไร ๆ เป็นแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว  ทำความเข้าใจกับประชาชนมมาตลอดอยู่แล้ว

ยิ่งเพิ่มความหมั่นไส้ในความไม่เอาไหนในการทำงาน
ถีบขาคู่

.

กัญชานั้น  ความจริงมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่  น้อยกว่าเหล้า   แต่ต้องใช้ให้เป็น  มีความเข้าใจในการใช้   
ซึ่งตรงนี้  แทนที่ภาครัฐผู้ออกกฎหมายเสรีจะดำเนินการสร้างความเข้าใจให้ประชาชนอย่างถ่องแท้   กลับไม่ทำ
การอ้างว่าทำ  แต่ทำแบบเด็กเล่นขายของ   ข้าราชการเอาแต่กุมหัมทำงานแบบเอาใจนักการเมือง  ความซวยก็ตกที่ประชาชน
แม้จะมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่  น้อยกว่าเหล้า  แต่ผลของการใช้ที่ไม่ถูกต้อง  ส่งผลต่อบุคคลและสังคมสูงกว่า  ผลสืบเนื่องอันตรายกว่า

กัญชาจึงไม่ใช่ปัญหา   แต่ปัญหาคือความไม่เอาไหนของรัฐบาล
ถีบขาคู่

.

ถ้าอ้างอย่างที่รัฐบาลอ้างอยู่ตอนนี้  คือทำความเข้าใจให้ประชาชนรู้อยู่แล้ว  ประชาชนต้องใช้วิจารณาญาณในการใช้ด้วย
งั้น เรื่องอื่น  เช่น  ทำแท้ง  ทรงผมและการแต่งกายนักเรียน  ฯลฯ   ก็ควรเปิดเสรีได้  เพราะประชาชนมีวิจารณาญาณดูแลตัวเองได้

เอ้า  เรื่องห้ามนั่งท้ายรถกระบะ  วันนี้ถึงไหน  กฎหมายเป็นไง   ที่ว่าเลื่อนการบังคับใช้ เลื่อนถึงไหน
วันนี้  มีผลบังคับใช้หรือไม่  หรือดองอยู่  หรือลืม ปล่อยทิ้งไปแล้ว    ???

.

ปัญหาอะไรในบ้านเมือง   เอาแต่อ้างโน่นอ้างนู่น   ไม่เคยแสดงให้เห็นวิธีการแก้ปัญหา ป้องกันปัญหาที่ดี
กลายเป็นว่า  ปัญหาที่เกิดคือปัญหา  หรือรัฐบาลนั่นแหละตัวปัญหาซะเอง
อ้างว่าแก้ปัญหา  ยิ่งแก้ยิ่งเกิดปัญหาซ้ำซ้อนมากกว่าปัญหาเดิม
ไม่รู้ทำงานกันยังไง

สะท้อนให้เห็นการทำงานของรัฐบาลเป็นอย่างดี
ถ้าไม่กลัวทู้หาย  สาธยายมากกว่านี้
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่