[CR] กินเที่ยวเปรี้ยวมาเลย์ :: ปีนัง - มะละกา - กัวลาฯ 7 วัน 6 คืน

สวัสดีค่า
ห่างหายไปนานตั้งแต่โควิด พอเริ่มบินได้ก็เลยตะลุยเที่ยว ขอประเดิมด้วยทริปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง "มาเลเซีย"  ก่อนเลยค่ะ

ขอสารภาพว่า เดิมทีความรู้เกี่ยวกับมาเลเซียของเรามีน้อยมาก รู้แค่เมืองหลวงคือกัวลาลัมเปอร์ และเมืองปีนังกับมะละกาที่เป็นเมืองมรดกโลก (และช่องแคบมะละกาที่เรียนประวัติศาสตร์ตอนเด็ก) ไม่รู้จักที่เที่ยวหรือแลนด์มาร์กเด่นๆ อะไร ก็เลยไปทำการบ้านมาหน่อย โอ้โห มีที่ท่องเที่ยวเยอะแยะเลย และด้วยความที่เป็นประเทศที่มีส่วนผสมของคนหลายเชื้อชาติ ก็หลอมรวมเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่โดดเด่นเป็นเอกล้กษณ์ มีทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์น่าสนใจ มาเลเซียเลยมีที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากมาย ที่เที่ยวทางธรรมชาติก็เยอะ หรือถ้าอยากเที่ยวแบบ city จัดๆ เลยก็มีให้

เราเลือกดูแล้ว อยากจะไปเที่ยวชิลๆ หน่อย ไม่เน้นถึกเหนื่อยเก็บครบ เน้นกินอร่อย หลับสบาย เดินเที่ยวชิล ๆ ก็เลยจะเน้นกินร้านอร่อย เน้นคาเฟ่ และชมเมือง 

เลยออกมาเป็นรูท  ปีนัง - มะละกา -  กัวลาลัมเปอร์

สรุปข้อมูลเบื้องต้นMalaysia Trip (7 วัน 6 คืน)
เดินทาง May 2022
ปีนัง 3 คืน มะละกา 1 คืน กัวลาลัมเปอร์ 1 คืน
Airlines: Airasia
Time: +1 (เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)
หน่วยเงิน: ริงกิต คิดเงินไทย x8

Day 1 Bangkok - Kuala lumpur - Penang
- Prestige Hotel (Penang)
- Good Friends Never Bojito Pub

 วันนี้เป็นวันเดินทางทั้งวัน เราจะบินไปลงกัวลาฯ (KL) ก่อน แล้วต่อไฟลต์ไปปีนังเลย คืนแรกจะนอนปีนังค่ะ
 เริ่มจากบินดอนเมืองไฟลต์บ่ายโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาที่มาเลเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
 สนามบินที่กัวลาฯ เรียกว่า KLIA (Kualalumper International Airport) มี 2 แห่งคือ KLIA 1 กับ KLIA 2 แต่สนามบินที่ใช้บินคือ KLIA 2 ค่ะ

สาเหตุที่ไม่ได้บินไปลงปีนังเลย เพราะตอนที่จอง ไม่มีไฟลต์กรุงเทพ-ปีนังค่ะ 
ไฟลต์ไปปีนังเกือบสองทุ่ม ก็เลยทานมื้อแรกที่สนามบิน KLIA2 เลย ชื่อร้าน Ah Cheng Lak Sa
สั่ง Nasi Lemak กับ Laksa มาทาน อร่อยมากค่ะ



Nasi Lemak (นาซี เลอมัก) เป็นข้าวสวยร้อน ๆ กินกับปลาเล็กปลาน้อย ส่วนใหญ่มีเนื้อสัตว์พวกเนื้อทอด ไก่ทอด ปลา แกล้มด้วยถั่วลิสง ไข่ต้ม แตงกวาฝาน และน้ำจิ้มซัมบัล (Sambal) ที่ทำจากน้ำพริก หัวหอม น้ำมะขาม ถ้านาซีเลอมักดั้งเดิมจะห่อด้วยใบตองค่ะ

Laksa (ลักซา) เส้นขนมจีน กุ้ง ลูกชิ้นปลา เวลาเสิร์ฟจะโปะด้วยน้ำพริกและใบลักซา (ผักแพว) รสชาติเปรี้ยวด้วยน้ำมะขาม

จากนั้นนั่งเครื่องไปลงปีนัง แล้วเรียกแกรบไปโรงแรมง่าย ๆ เลย เราจะนอนที่ The Prestige Hotel 2 คืน เป็นโรงแรมสวยใหม่ โมเดิร์น อยู่ใจกลางเมือง ทำเลดีสุดๆ
 ห้องสวยน่ารักมาก แนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะ อยู่สบาย ทำเลดี ไปไหนก็ง่าย ราคาไม่แพงด้วยค่ะ

เนื่องจากมาถึงก็ดึกแล้ว จะนอนเลยก็รู้สึกยังไม่ได้เที่ยวเลย เราก็เลยเสิร์ชหาร้านเก๋ๆ ไปนั่งเล่นสักหน่อย อ่านรีวิวเรตติ้งก็มาลงตัวที่ร้าน Good Friends Never Bojito ก็นั่งแกรบไปค่ะ บรรยากาศดีมาก เราสั่ง Smokey Leng Chai, Fifty Red Dates, Something Corny ค่ะ กำลังครึ้มๆดี



DAY 2 : ปีนัง
- Sri Weld Food Court
- Norms Micro Roastery
- Penang Peranakan Mansion
-  Ludwig Soft Serve
- Armenian Street
- Hock Teik Cheng Sin Temple  (Poh Hock Seah)
- Old Master Coffee
- Gēn (Chef Table) @ Prestige Hotel
- Hongkong Boy Kart Noodle
- Beach Street

ก่อนอื่นมารู้จักปีนังกันสักนิดค่ะ

- ปีนังกับสยามมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมายาวนาน สมัยก่อนชาวสยามรู้จักในนาม “เกาะหมาก”
- ยุคล่าอาณานิคมรุ่งเรือง อังกฤษขยายอำนาจเข้ามาในเอเชีย เข้ามาตั้งสถานีการค้าในปีนัง
- อังกฤษขอเช่าเกาะปีนัง สุลต่านเกดะห์ยอมเพื่อแลกกับให้อังกฤษคุ้มครองปีนังจากสยาม เราจึงเสียดินแดนให้ให้อังกฤษไป
- อังกฤษครอบครองปีนังจนถึง 1957 จึงคืนให้มาเลเซียอีกครั้ง ทางการก็พัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตก-ตะวันออก ประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งจีน อินเดีย มาเลย์ จึงมีวัฒนธรรมหลากหลาย แล้วยังปนด้วยอังกฤษกับไทยสยามอย่างเรา ๆ ด้วย จึงเกิดวัฒนธรรมมีสีสัน ได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งเอเชีย”
- ปี 2008 องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเมืองจอร์จทาวน์ เมืองหลวงปีนังเป็น “เมืองมรดกโลก”


วันนี้ก็จะเที่ยวเต็มวันนิดนึง เน้นกินและคาเฟ่เป็นหลัก มีชมเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวบ้าง
เราเป็นทริปชิลๆ ก็เลยไม่ตื่นเช้าค่ะ เริ่มมื้อแรกก็ใกล้เที่ยงเลย ที่ตลาดอาหารใกล้โรงแรม เป็นตลาดเจ้าดังด้วยค่ะ

ชื่อ Sri Weld Food Court
สั่ง Nasi Lemak (คนต่อคิวยาวมาก), Claypot Chicken Rice และ Nasi Goreng



ตามด้วยคาเฟ่ใกล้โรงแรม เรียกว่าตรงข้ามเลย ชื่อ Norms Micro Roastery
คาเฟ่นี้ช่วยชีวิตได้มากเพราะเย็นฉ่ำมาก เนื่องจากข้างนอกร้อนระอุมากค่ะ



จากนั้นจะเริ่มเที่ยวต่อ สถานที่เที่ยวอย่างเป็นทางการของเราวันนี้คือ

Pinang Peranakan Mansion ค่ะ ได้รับการขึ้นทะเบียนอนุรักษ์มรดกโลกค่ะ Mansion ในที่นี่ก็คือคฤหาสน์นั่นเอง

ค่าเข้า 40 ริงกิต


มารู้จัก "เปอรานากัน" กันนิดค่า
เปอรานากัน เป็นคำใช้เรียกคนเชื้อสายจีนลูกผสมที่ถือกำเนิดและอาศัยอยู่ในแถบคาบสมุทรมลายู-อินโดนีเซีย ได้แก่เมืองมะละกา ปีนัง สิงคโปร์ หมู่เกาะชวา ตั้งแต่คริสตศตวรรษที่15 นอกจากนี้ดินแดนแถบนี้ยังมีชาวต่างชาติหลากหลายชาติพันธุ์เข้ามาตั้งรกรากมากมาย จึงเกิดการผสมปนเปหลากหลาย
ชาวเปอรานากันจึงสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่แยกได้อีก เช่น จีนเปอรานากัน ดัตช์เปอรานากัน อาหรับเปอรานากัน และอินเดียเปอรานากัน

ส่วนประวัติของปีนังเปอรานากันแมนชันนั้น - ต้นกำเนิดมาจากคหบดีชาวเปอรานากันชื่อ ชุง เกง คี สร้างคฤหาสน์นี้ขึ้นในปี 1890 สร้างโดยผสมผสานศิลปะทั้งตะวันตกอย่างยุโรปและตะวันออกอย่างจีนเข้าด้วยกัน ตั้งแต่งานกระเบื้อง งานแกะสลัก พอชุงเกงคีเสียชีวิต คฤหาสน์ก็ตกทอดมายังรุ่นลูกหลานต่อ ๆ กันมาจนถูกทิ้งร้างในที่สุด จนกระทั่งมีเอกชนเข้ามาขอซื้อต่อในปี 1990 (ร้อยปีหลังจากสร้างพอดี) แล้วพัฒนาต่อเติมให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอวิถีชีวิตมั่งคั่ง รุ่มรวย และขนบธรรมเนียมหลากหลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวเปอรานากันผ่านสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุกว่าพันชิ้นที่อนุรักษ์ไว้อย่างดี ได้รับรางวัล Penang’s Heritage Mansion ด้วยค่ะ

เข้าไปคือคุ้มมาก สวยงามอลังการ เห็นชีวิตคนมาเลย์สมัยก่อน สะท้อนความรุ่มรวยรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนเปอรานากันโบราณได้อย่างดีมาก ของที่จัดแสดงทุกชิ้นคือหายาก เลอค่า วิจิตรบรรจงละเอียดมาก เป็นหนึ่งในที่ที่เพลินชอบมากที่สุดในการมาเยือนมาเลเซียเลยค่ะ



ชื่อสินค้า:   เที่ยวมาเลเซีย 7 วัน 6 คืน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่