บันทึกการเดินทางประจำวันที่ 24 - 05 -2018
หลังจากหาทางกลับมาจาก putajaya ได้แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปสู่สถานีรถบัส เพื่อที่จะเดินทางไปที่เมือง 'มะละกา' (อ่านบันทึกการเดินทางป่วนๆที่ปุตราจายา :
เกือบโดนขังที่ 'ปุตราจายา' )
การเดินทางไปเมืองมะละกาจากกัวลาลัมเปอร์
- ขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งเบอร์เซปาดู เซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan) ไปลงที่สถานีขนส่งมะละกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 11 – 15 RM (1 RM = 7-9 บาท) ถ้าไปถึงช่วงดึกๆ จะมีแท็กซี่รออยู่เต็มเลย แต่เราแนะนำให้เรียกgrabดีกว่า ถูกกันกว่ามาก
เราพักที่โรงแรม 906 reverside hotel ไม่ใกล้ไม่ไกลแลนด์มาร์คต่างๆ ราคาก็โอเคเลย ประมาณ500-600บาท พนักงานบริการดี และที่สำคัญ ปลอดภัยมากๆ ใครมาคนเดียวแราแนะนำที่นี่เลย
บันทึกการเดินทางประจำวันที่ 25 - 05 -2018
เรามีเวลาเที่ยวในมะละกาแค่วันนี้วันเดียว แต่ก็ไม่วายที่จะตื่นสาย ตื่นตั้ง 11 โมงแหนะ กว่าจะอาบน้ำ เก็บของเสร็จ ก็ปาไปเที่ยงครึ่งแล้ว ลงมาฝากกระเป๋าที่ล็อบบี้เสร็จ ก็ถึงเวลาเดินสำรวจเมือง 'มะละกา'
'มะละกา' เป็นเมืองเล็กๆในมาเลเซียที่มีเสน่ห์มากๆ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม จนได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกในเอเชีย
จากโรงแรมเราเดินออกมาไม่ถึง10 นาทีก็จะถึงแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองมะละกา นั่นก็คือ 'Dutch Square'
'Dutch Square' หรือ 'จัตุรัสดัตช์แสควร์' เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางเมืองมะละกา มีอาคารบ้านเรือนสีแดงอิฐที่สวยงาม และสถาปัตยกรรมแบบชาวดัตช์ที่เคยเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ ทำให้จัตุรัสแห่งนี้กลายเป็นเสน่ห์ของเมืองมะละกา
จุดเด่นอีกอย่างในลานจตุรัสแห่งนี้ ก็คือรถสามล้อที่ถูกตกแต่งเป็นลายการ์ตูนต่างๆ หรือที่เรียกว่า 'Rigshaw' ถือว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้
มา 'มะละกา' ทั้งทีก็ต้องมาลองกินอาหารทีเด็ดของที่นี่ นั่นก็คือ 'ข้าวมันไก่' กับ 'ลอดช่อง'
ร้านข้าวมันไก่เจ้าดังในเมือง 'มะละกา' มีชื่อว่า ' NASI AYAM HOE KEE ' ไก่รสชาติกลมกล่อม กินเข้าไปคือไม่ต้องเคี้ยวเลย มันนุ่มมมม ละลายในปาก ส่วนความพิเศษจะอยู่ที่ ตัวข้าว ข้าวมันของร้านนี้จะมาในรูปแบบเจ้าก้อนนนน น่ารักและอร่อยมากๆ
ทีเด็ดอีกอย่างที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ 'ลองช่อง' อันนี้เราไม่เจาะจงว่าต้องไปกินร้านไหนนะ เพราะว่ามันมีขายเกือบทั่วเมืองเลย จะกินร้านไหนก็ได้ เรากินเจ้าที่อยู่ตรงข้ามร้านข้าวมันไก่นี่แหละ ส่วนตัวเราคิดว่าตัวเนื้อลอดช่อง ยังไม่หนึบเท่าที่บ้านเรา แต่น้ำเชื่อมเค้าหอมแบบ หอมมากๆ เพราะน้ำเชื่อมทำมาจาก 'น้ำตาลอ้อย' ซึ่งเป็นของฝากของเมืองมะละกา
ถนน Jonker walk ช่วงเย็นจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นถนนคนเดิน คล้ายถนนคนเดินบ้านเราเลย มีทั้งของกิน เสื้อผ้า ของฝาก ของจุ๊กจิ๊กน่ารักก็มี เดินเพลินมากๆ ถ้าใครโชคดีอาจจะได้เห็นคุณลุงคุณป้ามาเปิดคอนเสิร์ตอยู่บนเวทีกลางตลาดนัด
- จบการบันทึก -
written by lanlalin the real nomad
✪ INSTA @lanlalin___
✪ FB @The real nomadลุยเดี่ยวเที่ยวรอโลก
https://www.facebook.com/therealnomads
✪ youtube :
https://www.youtube.com/channel/UCw1bGgebvFWRQW2Fxz4v1FQ
✪ EMAIL cream.abc@hotmail.com
05-07-2020
มี 1 วัน มา 'มะละกา'
บันทึกการเดินทางประจำวันที่ 24 - 05 -2018
หลังจากหาทางกลับมาจาก putajaya ได้แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปสู่สถานีรถบัส เพื่อที่จะเดินทางไปที่เมือง 'มะละกา' (อ่านบันทึกการเดินทางป่วนๆที่ปุตราจายา : เกือบโดนขังที่ 'ปุตราจายา' )
การเดินทางไปเมืองมะละกาจากกัวลาลัมเปอร์
- ขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งเบอร์เซปาดู เซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan) ไปลงที่สถานีขนส่งมะละกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 11 – 15 RM (1 RM = 7-9 บาท) ถ้าไปถึงช่วงดึกๆ จะมีแท็กซี่รออยู่เต็มเลย แต่เราแนะนำให้เรียกgrabดีกว่า ถูกกันกว่ามาก
เราพักที่โรงแรม 906 reverside hotel ไม่ใกล้ไม่ไกลแลนด์มาร์คต่างๆ ราคาก็โอเคเลย ประมาณ500-600บาท พนักงานบริการดี และที่สำคัญ ปลอดภัยมากๆ ใครมาคนเดียวแราแนะนำที่นี่เลย
เรามีเวลาเที่ยวในมะละกาแค่วันนี้วันเดียว แต่ก็ไม่วายที่จะตื่นสาย ตื่นตั้ง 11 โมงแหนะ กว่าจะอาบน้ำ เก็บของเสร็จ ก็ปาไปเที่ยงครึ่งแล้ว ลงมาฝากกระเป๋าที่ล็อบบี้เสร็จ ก็ถึงเวลาเดินสำรวจเมือง 'มะละกา'
จากโรงแรมเราเดินออกมาไม่ถึง10 นาทีก็จะถึงแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองมะละกา นั่นก็คือ 'Dutch Square'
จุดเด่นอีกอย่างในลานจตุรัสแห่งนี้ ก็คือรถสามล้อที่ถูกตกแต่งเป็นลายการ์ตูนต่างๆ หรือที่เรียกว่า 'Rigshaw' ถือว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้
มา 'มะละกา' ทั้งทีก็ต้องมาลองกินอาหารทีเด็ดของที่นี่ นั่นก็คือ 'ข้าวมันไก่' กับ 'ลอดช่อง'
ทีเด็ดอีกอย่างที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ 'ลองช่อง' อันนี้เราไม่เจาะจงว่าต้องไปกินร้านไหนนะ เพราะว่ามันมีขายเกือบทั่วเมืองเลย จะกินร้านไหนก็ได้ เรากินเจ้าที่อยู่ตรงข้ามร้านข้าวมันไก่นี่แหละ ส่วนตัวเราคิดว่าตัวเนื้อลอดช่อง ยังไม่หนึบเท่าที่บ้านเรา แต่น้ำเชื่อมเค้าหอมแบบ หอมมากๆ เพราะน้ำเชื่อมทำมาจาก 'น้ำตาลอ้อย' ซึ่งเป็นของฝากของเมืองมะละกา
ถนน Jonker walk ช่วงเย็นจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นถนนคนเดิน คล้ายถนนคนเดินบ้านเราเลย มีทั้งของกิน เสื้อผ้า ของฝาก ของจุ๊กจิ๊กน่ารักก็มี เดินเพลินมากๆ ถ้าใครโชคดีอาจจะได้เห็นคุณลุงคุณป้ามาเปิดคอนเสิร์ตอยู่บนเวทีกลางตลาดนัด
- จบการบันทึก -
written by lanlalin the real nomad
✪ INSTA @lanlalin___
✪ FB @The real nomadลุยเดี่ยวเที่ยวรอโลก https://www.facebook.com/therealnomads
✪ youtube :https://www.youtube.com/channel/UCw1bGgebvFWRQW2Fxz4v1FQ
✪ EMAIL cream.abc@hotmail.com
05-07-2020