อาหารตามสั่งขึ้น 5 บาททุกเมนู แบกต้นทุนต่อไม่ไหว ก๊าซ-น้ำมัน-หมู ขึ้นไม่หยุด
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/294867
ร้านอาหารตามสั่ง แบกต้นทุนต่อไม่ไหว ทั้งก๊าซหุงต้ม น้ำมันปาล์ม หมู ขึ้นไม่หยุด ติดป้ายขึ้นราคาอาหาร 5 บาททุกเมนู
แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ติดป้ายแจ้งลูกค้าที่เข้าไปรับประทานอาหาร ขอปรับราคาอาหารขึ้น 5 บาททุกเมนู โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางร้านไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยแม่ค้า บอกว่า ตั้งแต่ต้นปี ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง อย่างก๊าซหุงต้ม ขึ้นมา 3 รอบ รวม 45 บาทต่อถัง 15 กิโลฯ แต่ราคาที่ซื้อจริง ต้องบวกค่าขนส่งด้วย รวมแล้วเกิน 50 บาทต่อถัง และที่หนักอีกตัว คือ น้ำมันปาล์มขวด ที่วันนี้ทะลุ 70 บาทไปแล้ว ซี่งจริงๆ จะขึ้น 10 บาท แต่กลัวว่าลูกค้ารับไม่ไหว จึงขึ้น 5 บาท และดูสถานการณ์อีกที
ขณะที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเดือนพฤาภาคม พบว่า ครัวเรือนไทยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ถ้าเทียบจากต้นปี เพิ่มขึ้นถึง 606 บาท จาก 17,321 บาท เมื่อเดือนมกราคม เป็น 17,927 บาทในเดือนพฤษภาคม โดยค่าใช้จ่ายสูงสุด อยู่ที่ ค่าน้ำมัน ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เฉลี่ย 4,370 ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากต้นปี ถึง 313 บาท ซึ่งก็สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่สูงขึ้น 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี
รับชมผ่านยูทูบ :
https://youtu.be/IHPa5fws8hs
พุ่งไม่หยุดจริงๆ! พรุ่งนี้กลุ่มเบนซินขึ้น 30-50 สต.
https://www.matichon.co.th/economy/news_3387794
พุ่งไม่หยุดจริงๆ! พรุ่งนี้กลุ่มเบนซินขึ้น 30-50 สต.
PTT Station และบางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม มีผล 8 มิ.ย.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG (เฉพาะPTT Station) = 51.96, GSH95 = 44.55, E20 = 43.44, GSH91 = 44.28, E85 = 37.14, พรีเมียม GSH95 = 50.04, HSD- B7= 33.94, HSD-B10 = 33.94, HSD-B20=33.94
ด้าน ดีเซลพรีเมียม B7ของ PTT Station = 45.36 บาทต่อลิตร ขณะที่ ดีเซลพรีเมียม B7 ของบางจาก = 46.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ชาวเน็ตขุดคลิป ‘เสธ.ไก่อู’ บอก GT200 ใช้ได้จริงด้วยหลักฟิสิกส์ โอกาสตรวจเจอสูงถึง 70%
https://www.catdumb.com/wtf-stories/84130
หลังผ่านมามากกว่า 10 ปี เครื่องหาระเบิดลวงโลก GT200 ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งครับ
เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยว่ากระทรวงกลาโหม ได้ทุ่มงบ 7 ล้านบาท จ้างให้ สวทช. แกะเครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง ตกเครื่องละ 10,000 บาทเลยทีเดียว
เป็นผลให้เกิดเสียงวิจารณ์และข้อสงสัยจากสังคมอย่างหนักว่า จะแกะตรวจไปทำไม ในเมื่อมันก๊องแก๊งแบบนั้น แถมใครๆ ก็รู้ว่ามันใช้ไม่ได้!?
ทำเอาโฆษกกลาโหมออกมาแจงว่าทำไปตามคำแนะนำของอัยการ
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5402117336497678
ก่อนอัยการโต้ว่าคดีสิ้นสุดแล้ว อัยการไม่ได้แนะให้ตรวจ
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5408421129200632
ทำให้ล่าสุดวันนี้โฆษกของกองทัพบกบอกว่าจะไม่ผ่าแล้ว แล้วจะคืนงบ 2-3 ล้านบาทคืน เพราะผ่าไปแล้ว 300 กว่าเครื่อง
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5411234145585997
ซึ่งก็กลายเป็นว่าเหมือนกรณีนี้จะได้จบลงไปแบบงงๆ โดยทางกองทัพบก (ที่ถูกยกเป็นองค์กรโปร่งใสแห่งปี) ไม่ได้มีการแจงรายละเอียดเบื้องลึกและคนที่รับผิดชอบถึงกรณีนี้นั้น
ก็ได้เกิดกระแสการขุดคลิปในอดีตขึ้นมาครับ…
ล่าสุดโลกทวิตเตอร์ได้มีการขุดคลิปที่ เสธ.ไก่อู (สรรเสริญ แก้วกำเนิด) อดีตโฆษกกองทัพบก ที่เคยไปออกรายการเจาะข่าวเด่นทางช่อง 3 อธิบายถึงสรรพคุณของ GT200
ซึ่งในรายการ เสธ.ไก่อู ได้บอกว่า GT200 ใช้ได้จริง ถ้าจะหาสารอะไร ก็เอามาทำเป็นซิมการ์ดแล้วใส่เข้าไปในเครื่อง จะทำให้สนามแม่เหล็กเกิดขึ้น จะเหมือนใช้แผนที่เข็มทิศ โดยหาด้วยแกน X แกน Y ทำให้สามารถกำหนดพื้นที่คร่าวๆ ของวัตถุที่ต้องการหาได้
พร้อมยืนยันว่า GT200 จำเป็นต้องมี ประชาชนต้องเข้าใจว่ามันใช้หลักการทางฟิสิกส์ มีโอกาสหาวัตถุได้สูงถึง 70% ซึ่งเพียงพอแล้วกับการให้เจ้าหน้าที่ฝากชีวิตไว้ได้
https://twitter.com/Unrulycat2511/status/1533338204559921152
หลังจากนี้เคส GT200 ในครั้งนี้จะมีอัปเดตออกตามมาอีกหรือไม่ หรือจะหายเงียบไปอีกครั้ง?
ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ…
บก.ลายจุด เสนอ กทม.หนุน ‘รถดูดโคลน’ ช่วยผู้ต้องขังลอกท่อ ชาวเน็ตชี้คุ้ม ดีกว่าซื้อรถถัง
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3387407
‘บก.ลายจุด’ เสนอ กทม.หนุนอุปกรณ์-รถดูดโคลน ส่งใจผู้ต้องขัง ชาวเน็ตเห็นด้วย ดีกว่าซื้อรถถัง
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน สืบเนื่องจาก นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ประชุมหารือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมราชทัณฑ์ เรื่อง การดำเนินงานล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง โดยข้อสรุปเบื้องต้นมีการร่วมตั้งเป้าหมายขุดลอกท่อ 500 กิโลเมตร ใช้ “
งบประมาณ 15 ล้านบาท”
ซึ่งนาย
ชัชชาติระบุว่า เป็นราคาที่สมเหตุสมผล ถึงแม้เอกชนจะเสนอราคาต่ำแต่คุณภาพกลับไม่ได้ จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเอกชน และมั่นใจว่าราชทัณฑ์จะทำได้ดีกว่า ทั้งนี้ กทม.จะเริ่มจ้างกรมราชทัณฑ์ในการลอกท่อระบายน้ำ โดย “
นักโทษชั้นเยี่ยม” เป็นผู้ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ผ่านกระบวนการระหว่างรัฐ ตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ที่รัฐต้องส่งเสริมหรือสนับสนุน ปี 2563
ด้าน นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.
ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียนและนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสวัสดิการของนักโทษชั้นเยี่ยมที่จะมาเป็นผู้ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ ความว่า ราคาถูก อยากให้ กทม.ช่วยสนับสนุนสวัสดิการของผู้ต้องขังที่มาทำงานที่ยากลำบากนี้ เป็นกำลังใจให้พวกเขา
“กทม.ควรสนับสนุนอุปกรณ์ อย่าง รถดูดโคลน ระบบรอกไฟฟ้า หรือรถยกถังโคลน เพื่อให้ประหยัดแรงและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน โคตรคุ้ม น่าทำความร่วมมือกันยาวๆ”
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นใต้คอมเมนต์ของนาย
สมบัติเป็นจำนวนมาก อาทิ
รถดูดโคลนควรมี ขนาดคนทำสวนเขายังซื้อได้ เห็นด้วย, ชาวบ้านที่เห็นคนเหล่านี้ทำงานขอแนะนำให้นำน้ำ ขนม มอบให้กับเขา, ใช่ครับ บก. ดีกว่าซื้อเครื่องบิน รถถัง, คิดเหมือนกันค่ะ ขนมน้ำกาแฟหรืออะไรก็ได้แบ่งปันกันไป, สวัสดิการหน้ากากกันกลิ่นสารเคมีกลิ่นรุนแรงด้วยค่ะ
ไปจนถึงความเห็นที่ว่า
“กรมราชทัณฑ์ หรือ กทม. นี่สามารถตั้งเป็นธุรกิจเพื่อสังคม ที่จะมีอุปกรณ์ทำงาน และเพื่อความปลอดภัยให้พร้อม แล้วต่อยอดให้นักโทษที่ออกมาแล้วบริหารจัดการไปเลยได้ไหมครับ
รับงานรัฐทั่วไป ในมาตรฐานบริษัทเอกชน ที่คิดราคาถูกได้ เพราะทุนตั้งต้นมาจากรัฐ แต่ก็ให้ค่าตอบแทนนักโทษที่มาทำงานเหมือนค่าตอบแทนทั่วไป (หรือเป็น Rate ฝึกงานก็ยังได้ แต่ถ้าออกมาแล้วมาทำงาน ก็รับเงินเดือนปกติ)
งานรัฐมีมากมาย เชื่อว่าน่าจะรองรับการทำงานได้อีกมาก”
นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยด้วยว่า “
อยากรู้ว่าคนเก่าเอางบไปทำอะไรหมดครับ งานนี้ทำไม ศรีสุวรรณ ไม่เห็นไปร้องบ้างเลยว่างบที่ผ่านมาหายไปไหน”
JJNY : 5in1 ขึ้น5บ.ทุกเมนู│พรุ่งนี้เบนซินขึ้น30-50สต.│ชาวเน็ตขุดคลิป‘ไก่อู’│บก.ลายจุดหนุน‘รถดูดโคลน’│เผด็จการพม่าฉุน
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/294867
ร้านอาหารตามสั่ง แบกต้นทุนต่อไม่ไหว ทั้งก๊าซหุงต้ม น้ำมันปาล์ม หมู ขึ้นไม่หยุด ติดป้ายขึ้นราคาอาหาร 5 บาททุกเมนู
แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ติดป้ายแจ้งลูกค้าที่เข้าไปรับประทานอาหาร ขอปรับราคาอาหารขึ้น 5 บาททุกเมนู โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางร้านไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยแม่ค้า บอกว่า ตั้งแต่ต้นปี ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง อย่างก๊าซหุงต้ม ขึ้นมา 3 รอบ รวม 45 บาทต่อถัง 15 กิโลฯ แต่ราคาที่ซื้อจริง ต้องบวกค่าขนส่งด้วย รวมแล้วเกิน 50 บาทต่อถัง และที่หนักอีกตัว คือ น้ำมันปาล์มขวด ที่วันนี้ทะลุ 70 บาทไปแล้ว ซี่งจริงๆ จะขึ้น 10 บาท แต่กลัวว่าลูกค้ารับไม่ไหว จึงขึ้น 5 บาท และดูสถานการณ์อีกที
ขณะที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเดือนพฤาภาคม พบว่า ครัวเรือนไทยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ถ้าเทียบจากต้นปี เพิ่มขึ้นถึง 606 บาท จาก 17,321 บาท เมื่อเดือนมกราคม เป็น 17,927 บาทในเดือนพฤษภาคม โดยค่าใช้จ่ายสูงสุด อยู่ที่ ค่าน้ำมัน ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เฉลี่ย 4,370 ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากต้นปี ถึง 313 บาท ซึ่งก็สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่สูงขึ้น 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/IHPa5fws8hs
พุ่งไม่หยุดจริงๆ! พรุ่งนี้กลุ่มเบนซินขึ้น 30-50 สต.
https://www.matichon.co.th/economy/news_3387794
พุ่งไม่หยุดจริงๆ! พรุ่งนี้กลุ่มเบนซินขึ้น 30-50 สต.
PTT Station และบางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม มีผล 8 มิ.ย.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG (เฉพาะPTT Station) = 51.96, GSH95 = 44.55, E20 = 43.44, GSH91 = 44.28, E85 = 37.14, พรีเมียม GSH95 = 50.04, HSD- B7= 33.94, HSD-B10 = 33.94, HSD-B20=33.94
ด้าน ดีเซลพรีเมียม B7ของ PTT Station = 45.36 บาทต่อลิตร ขณะที่ ดีเซลพรีเมียม B7 ของบางจาก = 46.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ชาวเน็ตขุดคลิป ‘เสธ.ไก่อู’ บอก GT200 ใช้ได้จริงด้วยหลักฟิสิกส์ โอกาสตรวจเจอสูงถึง 70%
https://www.catdumb.com/wtf-stories/84130
หลังผ่านมามากกว่า 10 ปี เครื่องหาระเบิดลวงโลก GT200 ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งครับ
เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยว่ากระทรวงกลาโหม ได้ทุ่มงบ 7 ล้านบาท จ้างให้ สวทช. แกะเครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง ตกเครื่องละ 10,000 บาทเลยทีเดียว
เป็นผลให้เกิดเสียงวิจารณ์และข้อสงสัยจากสังคมอย่างหนักว่า จะแกะตรวจไปทำไม ในเมื่อมันก๊องแก๊งแบบนั้น แถมใครๆ ก็รู้ว่ามันใช้ไม่ได้!?
ทำเอาโฆษกกลาโหมออกมาแจงว่าทำไปตามคำแนะนำของอัยการ
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5402117336497678
ก่อนอัยการโต้ว่าคดีสิ้นสุดแล้ว อัยการไม่ได้แนะให้ตรวจ
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5408421129200632
ทำให้ล่าสุดวันนี้โฆษกของกองทัพบกบอกว่าจะไม่ผ่าแล้ว แล้วจะคืนงบ 2-3 ล้านบาทคืน เพราะผ่าไปแล้ว 300 กว่าเครื่อง
https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5411234145585997
ซึ่งก็กลายเป็นว่าเหมือนกรณีนี้จะได้จบลงไปแบบงงๆ โดยทางกองทัพบก (ที่ถูกยกเป็นองค์กรโปร่งใสแห่งปี) ไม่ได้มีการแจงรายละเอียดเบื้องลึกและคนที่รับผิดชอบถึงกรณีนี้นั้น
ก็ได้เกิดกระแสการขุดคลิปในอดีตขึ้นมาครับ…
ล่าสุดโลกทวิตเตอร์ได้มีการขุดคลิปที่ เสธ.ไก่อู (สรรเสริญ แก้วกำเนิด) อดีตโฆษกกองทัพบก ที่เคยไปออกรายการเจาะข่าวเด่นทางช่อง 3 อธิบายถึงสรรพคุณของ GT200
ซึ่งในรายการ เสธ.ไก่อู ได้บอกว่า GT200 ใช้ได้จริง ถ้าจะหาสารอะไร ก็เอามาทำเป็นซิมการ์ดแล้วใส่เข้าไปในเครื่อง จะทำให้สนามแม่เหล็กเกิดขึ้น จะเหมือนใช้แผนที่เข็มทิศ โดยหาด้วยแกน X แกน Y ทำให้สามารถกำหนดพื้นที่คร่าวๆ ของวัตถุที่ต้องการหาได้
พร้อมยืนยันว่า GT200 จำเป็นต้องมี ประชาชนต้องเข้าใจว่ามันใช้หลักการทางฟิสิกส์ มีโอกาสหาวัตถุได้สูงถึง 70% ซึ่งเพียงพอแล้วกับการให้เจ้าหน้าที่ฝากชีวิตไว้ได้
https://twitter.com/Unrulycat2511/status/1533338204559921152
หลังจากนี้เคส GT200 ในครั้งนี้จะมีอัปเดตออกตามมาอีกหรือไม่ หรือจะหายเงียบไปอีกครั้ง?
ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ…
บก.ลายจุด เสนอ กทม.หนุน ‘รถดูดโคลน’ ช่วยผู้ต้องขังลอกท่อ ชาวเน็ตชี้คุ้ม ดีกว่าซื้อรถถัง
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3387407
‘บก.ลายจุด’ เสนอ กทม.หนุนอุปกรณ์-รถดูดโคลน ส่งใจผู้ต้องขัง ชาวเน็ตเห็นด้วย ดีกว่าซื้อรถถัง
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน สืบเนื่องจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ประชุมหารือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมราชทัณฑ์ เรื่อง การดำเนินงานล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง โดยข้อสรุปเบื้องต้นมีการร่วมตั้งเป้าหมายขุดลอกท่อ 500 กิโลเมตร ใช้ “งบประมาณ 15 ล้านบาท”
ซึ่งนายชัชชาติระบุว่า เป็นราคาที่สมเหตุสมผล ถึงแม้เอกชนจะเสนอราคาต่ำแต่คุณภาพกลับไม่ได้ จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเอกชน และมั่นใจว่าราชทัณฑ์จะทำได้ดีกว่า ทั้งนี้ กทม.จะเริ่มจ้างกรมราชทัณฑ์ในการลอกท่อระบายน้ำ โดย “นักโทษชั้นเยี่ยม” เป็นผู้ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ผ่านกระบวนการระหว่างรัฐ ตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ที่รัฐต้องส่งเสริมหรือสนับสนุน ปี 2563
ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียนและนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสวัสดิการของนักโทษชั้นเยี่ยมที่จะมาเป็นผู้ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ ความว่า ราคาถูก อยากให้ กทม.ช่วยสนับสนุนสวัสดิการของผู้ต้องขังที่มาทำงานที่ยากลำบากนี้ เป็นกำลังใจให้พวกเขา
“กทม.ควรสนับสนุนอุปกรณ์ อย่าง รถดูดโคลน ระบบรอกไฟฟ้า หรือรถยกถังโคลน เพื่อให้ประหยัดแรงและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน โคตรคุ้ม น่าทำความร่วมมือกันยาวๆ”
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นใต้คอมเมนต์ของนายสมบัติเป็นจำนวนมาก อาทิ รถดูดโคลนควรมี ขนาดคนทำสวนเขายังซื้อได้ เห็นด้วย, ชาวบ้านที่เห็นคนเหล่านี้ทำงานขอแนะนำให้นำน้ำ ขนม มอบให้กับเขา, ใช่ครับ บก. ดีกว่าซื้อเครื่องบิน รถถัง, คิดเหมือนกันค่ะ ขนมน้ำกาแฟหรืออะไรก็ได้แบ่งปันกันไป, สวัสดิการหน้ากากกันกลิ่นสารเคมีกลิ่นรุนแรงด้วยค่ะ
ไปจนถึงความเห็นที่ว่า
“กรมราชทัณฑ์ หรือ กทม. นี่สามารถตั้งเป็นธุรกิจเพื่อสังคม ที่จะมีอุปกรณ์ทำงาน และเพื่อความปลอดภัยให้พร้อม แล้วต่อยอดให้นักโทษที่ออกมาแล้วบริหารจัดการไปเลยได้ไหมครับ
รับงานรัฐทั่วไป ในมาตรฐานบริษัทเอกชน ที่คิดราคาถูกได้ เพราะทุนตั้งต้นมาจากรัฐ แต่ก็ให้ค่าตอบแทนนักโทษที่มาทำงานเหมือนค่าตอบแทนทั่วไป (หรือเป็น Rate ฝึกงานก็ยังได้ แต่ถ้าออกมาแล้วมาทำงาน ก็รับเงินเดือนปกติ)
งานรัฐมีมากมาย เชื่อว่าน่าจะรองรับการทำงานได้อีกมาก”
นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยด้วยว่า “อยากรู้ว่าคนเก่าเอางบไปทำอะไรหมดครับ งานนี้ทำไม ศรีสุวรรณ ไม่เห็นไปร้องบ้างเลยว่างบที่ผ่านมาหายไปไหน”