สวัสดีค่ะ
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ
เราได้ประสบการณ์ที่ทำให้เราและครอบครัวของเราเสียใจตลอดชีวิต นั่นก็คือ
การเสียคนในครอบครัว
กระทู้นี้ที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอะไรมาก
จขกท.นี้ทั้งมีเรื่องที่อยากถาม อยากขอคำปรึกษา และก็ต้องการกำลังใจมากๆเลย ซึ่งนอกจากคนรอบข้างที่คอยพูดกับเราแล้วเราก็ยังต้องการคำปลอบโยนจากคนแปลกหน้าด้วย
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย
เรามีน้องชาย2คน คนกลางอายุ 16 ปี คนเล็ก 11 ปี ซึ่งจขกท.เป็นพี่คนโตของบ้าน
เราสนิทกับน้องคนกลางสุด(ถึงส่วนมากจะไม่ค่อยถูกกันก็เถอะ)ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ด้วยกันมาตลอดส่วนน้องคนเล็กก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ น้องคนกลางกลับคนเล็กไม่ถูกกันเป็นอย่างมาก เพราะจะชวนทะเลาะตลอดคนกลางบางครั้งเราก็แอบสงสารน้องเหมือนกันที่ไม่ค่อยถูกกันเลยเชื่อมสัมพันธ์กันโดยการชวนเล่นเกม(แต่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ดี) ทุกอย่างหลังๆมาเริ่มราบลื่น แต่ด้วยความที่เราต้องออกไปทำงานบ้านเพื่อนจึงไม่ค่อยมีเวลามาเล่นเกมกับน้องๆ หลังเลยดูห่างๆกัน
แต่ก็นะความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไม่แตกต่างจากเดิม
เรายังยิ้มยังหัวเราะพูดจาหยอกล้อกันเรื่อยๆ
แต่ใครจะคิดจะฝันว่าอยู่ๆวันหนึ่งความสุขของเราจะพังทลายไปแบบไม่มีวันหวนคืนได้อีก
เข้าสู่ช่วงสอบปลายภาควันแรกเราอยู่ม.ปลายโรงเรียนของเราได้จัดสอบของบางระดับชั้นสลับวันกัน เราไปสอบปลายภาควันแรกกลับมาน้องชายเราก็เหมือนจะทำตัวปกติ แต่ผิดปกติก็คือ ปกติน้องชายคนกลางเป็นคนเก็บตัวไม่ออกไปไหนส่วนมากก็เล่นเกมอยู่ในบ้าน น้อยมากที่จะออกบ้านแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ออกไปเลย เกมที่เล่นแต่ก่อนก็จะเป็น ROV แต่น้องเลิกเล่นไปนานแล้วน้องหันมาเล่นเกมที่เป็นเหมือนโปเกม่อนต่อสู้กัน ซึ่งมันเป็นเกมแบบออฟไลน์ เคยถามน้องว่า :
ทำไมถึงเล่นเกมนี้นี่มันเกมที่เคยเห็นเมื่อหลายปีที่แล้วเลยนะไม่เบื่อหรอ?
น้องก็ตอบว่า :ไม่เบื่อหรอกเกมนี้มันมีตั้งหลายด่านถ้าเล่นจบด่านก็แค่ลบแล้วโหลดมาเล่นใหม่ แค่นั้นเอง
เราไม่ได้ได้อะไร
น้องมีเพลงโปรดที่ฟังก็คือ remember our summer ซึ่งเป็นเพลงที่น้องชอบฟังประจำ
แต่จู่หลังเรากลับมาจากโรงเรียน น้องก็เปลี่ยนเพลงใหม่ซึ่งเพลงนี้ก็คือ river flows in you เราก็เอะใจนิดหน่อยตอนน้องเปลี่ยนเพลง แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร
วันนั้นน้องก็ยังทำตัวปกติเหมือนเดิม แต่ใครจะคิดว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับน้อง
ใครจะคาดคิดว่าเช้าวันต่อมาเราจะเสียน้องชายไปใครจะคิดว่าน้องชายของเราจะคิดสั้น ซึ่งน้องเราได้ทำการฆตต.โดยการแขวนคอตัวเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เราเป็นคนอุ้มน้องชายไว้ ซึ่งน้องชายเราตัวใหญ่และสูง เราเป็นคนหยิบมีดมาตัดเชือก
มันเจ็บปวดมากแบบมากๆที่สุดความหวังนิดๆที่คิดว่าน้องชายยังมีลมหายใจได้มลายหายไปจนสิ้นเมื่อเราได้เห็นหน้าน้องแค่นิดเดียวเองผ่านไปนิดเดียวเอง
เราทรุดลงไปกับพื้นทันที
เคยร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาไหม? ตอนเราดูละครเราไม่เข้าใจว่าทำไมร้องไห้ไม่มีน้ำตาอะไรมันจะแสดงอารมณ์ออกมาขนาดนั้น
พอมาเจอกับตัวเท่านั้นแหละรู้ซึ้งเลยว่าโคตรเจ็บปวดทรมาน พยายามบีบน้ำตาเท่าไหร่ก็ไม่ไหล ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูก สมองเลื่อนลอยหลังจากเสร็จงานศพทุกอย่างเราเหม่อลอย วันๆรู้แค่ว่าตื่นเช้าอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เพียงแค่นั่งเฉยๆก็พลบค่ำแล้วก็ทำกิจวัตรแบบเดิม แต่มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีอะไรเหมือนเดิม!
ภาพจำในหัวของเราก็ยังคงมีน้องอยู่ บางครั้งก็เผลอละเมอเดินเข้าไปบ้านคิดจะไปเรียกน้องมาทานเข้าพอนึกได้ก็ต้องชงัก เป็นแบบนี้มาตลอด นี่ก็จะเข้าเดือนที่ 9 แล้วที่เสียน้องชายไป แต่ก็ยังเหมือนเดิม คิดว่ายังมีเขาอยู่ตลอดเวลา ในบ้านแม้แต่เพื่อนฟูงเราคือคนที่สนิทที่สุดของเขาแล้ว เราโคตรปวดใจเลยที่หลับตาทีไรก็เห็นแต่ภาพน้องภาพเหตุการณ์ในวันนั้น มันแบบ..
ที่จริงมันมีรายละเอียดยิบย่อยมากเกี่ยวกับไสยศาสตร์,ผีสาง ซึ่งตัวเราเป็นคนที่เห็นมาตั้งแต่ ป.5
เราเห็นเราเจอเรื่องลี้ลับ อันนี้เอาเก็บไว้ก่อน
เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร แพนิคหรอ? ซึมเศร้า? หรือยังไง
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น
1.เสียงร้องของคนอารมณ์แบบร้องตกใจ เราจะรู้สึกกลัวมากหัวใจเต้นเร็วมาก
2.เชือกลูกเสือ เรากลัวมากๆมันเป็นสิ่งที่สะท้อนเหตุการณ์ของวันนั้น
3.ผี แต่ก่อนก็กลัวแต่ไม่ได้แบบจนออกอาการเรากลัวแต่เราก็นิ่ง ทั้งที่เห็นแต่กลับทำเป็นไม่เห็น
4.ยามฟ้าสางยามเช้า-ฟ้าเริ่มมืดใกล้พลบค่ำ เรากลัวมากแม้จะตื่นเช้าแค่ไหนเราก็จะไม่ลุกออกมาเด็ดขาด
5.ฤดูหนาว มันทำให้จิตใจเรากระสับกระส่าย
6.เราสะเทือนใจกับคำว่าตาย,จะตาย,อยากตาย,ฆ่าตัวตาย เราได้ยินใครพูดแบบนี้ทีไรรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลมันสั่นใจเราแบบ
7.เราจะติดมือถือมากๆ ติดมือถือไม่ใช่อยากติด แต่เพราะเราไม่อยากทำให้ตัวเองว่าง เราจะพยายามเล่นมือถือตลอดเวลาเพื่อที่จะไม่ได้คิดเรื่องของน้อง
แต่ก่อนตอนน้องอยู่เรากับน้องก็สุมหัวกันอยู่แต่ในบ้านใครจะมาพูดอะไรแบบนู้นแบบนี้เราก็จะไม่ถือสาเอาความอยู่แล้ว เรากับน้องก็จะนิ่งทำเป็นหูทวนลบไปซะ
แต่พอน้องเราไม่อยู่แล้ว คำพูดบางคำที่เปล่งออกมาแล้วมันทำร้ายจิตใจเราก็จะเถียงสู้ขาดใจ ให้คนเหล่านั้นได้รู้ซะบ้างว่า เห็นเราไม่พูดก็ใช่ว่าจะพูดจาแบบนี้ใส่เราได้ จนที่สุดเราก็กลายเป็นคนชอบเถียงคนสะงั้นเพราะเราไม่อยากที่จะทำให้ใครเข้าใจผิดออีกต่อไป
อยู่แต่ในบ้านหรอ? ออกมาข้างนอกมาดูโลกภายนอกหน่อย.
แล้วไง อยากออกก็จะออกไปเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากออกไป แต่ออกไปเเล้วเจอคำพูดแบบนี้เลยไม่ออกไปไง
คุณหญิงคุณชายเพิ่งจะออกบ้านหรอ? นานๆทีเห็นออกมาดูโลก นั่นนู่นนี่
บางคนอาจจะคิดว่าคำพูดแค่นี้เองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้
แต่ใครจะใคร่รู้ว่าเรื่องเล็กที่คุณว่า เรากับน้องโดนพูดแบบนี้ใส่ตั้งแต่ตอนประถมแล้ว
เราก็ไม่รู้นะว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา ตอนนี้เราเหนื่อยมากเลย เหนื่อยใจ เจ็บปวดใจเจ็บปวดที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโตเราพบเจอแต่เรื่องสูญเสีย ปู่ ย่า น้องชาย เป็นคนที่เรารักมากๆ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึง นอนร้องไห้เกือบทุกคืน
ตอนที่น้องเราเสียนั้น เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมากกลางหัว สิ่งที่เราจินตนาการไว้ในหัวหายไปหมด อนาคตที่เราวาดฝันก็สลาย
แต่ในความคิดนั้นเราก็ดันมีความเห็นแก่ตัวด้วย
ในหัวเราอยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นว่า
อ้าว น้องมาชิงไปก่อนแล้วเราล่ะ เราก็จะตายไม่ได้น่ะสิ เราก็ต้องทุกข์แบบนี้สิ
ซึ่งมันเป็นความคิดที่โคตรเลวและโคตรเห็นแก่ตัวเลย
หลังจากน้องเสียไปประมาณ2-3อาทิตย์ เราก็เริ่มป่วยหนักซมอยู่แบบนั้น คืนหนึ่งเรานอนไม่หลับนอนยังไงก็ไม่หลับหายใจก็ไม่ออกคืนที่เงียบสงบได้ยินเหมือนมีคนหลายคนมาพูดอยู่ข้างหูทั้งสองข้างเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ พูดอยู่ไม่หยุด พอเราหลับตาก็เห็นคนจูงมือเราลากไปนู่นไปนี่เป็นผู้ชายทีผู้หญิงทีสลับสับเปลี่ยนกันไปจนสุดท้ายมาอยู่ที่ผู้หญิงนางชุดเราแรงๆแล้วบอกว่าไม่อยากไปหาน้องชายหรอ?เขาบอกว่าเขารู้นะว่าน้องชายอยู่ไหนพูดแล้วก็ยิ้มให้เราแต่เราชักมือกลับบอกว่าไม่ไป ยื้อกันอยู่นานในที่สุดเราก็ตื่นลืมตาขึ้นเหงื่อแตกเต็มตัวหายใจก็ไม่ค่อยออปในใจก็คิดว่าอย่าตายนะห้ามตายเด็ดขาดนะ เราไม่อยากให้แม่ให้คนที่รักเจอเราเป็นศพอีกคน ค่ำคืนที่แสนยาวนาน เราภาวนาขอให้เช้าไวๆ คืนนั้นทั้งคืนเหมือนไม่ได้นอนเลย เป็นอะไรที่โคตรน่ากลัวมาก
ที่จริงเรื่องนี้คือเรื่องยิบย่อยที่เกิดขึ้น มันมีมากกว่านั้นและน่ากลัวกว่านั้นมาก
ทุกวันเราแอบหวังนะขอแค่ได้เจอน้องในฝันก็ดีแล้ว
น้องจะชอบมาเข้าฝันก่อนวันพระบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง บอกว่าเจอคนนั้นคนนี้ที่เคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ชาติก่อนก็มี ล่าสุดก็มาคุยเล่นด้วยบอกว่าตัวเขาเองเริ่มเลือนลางเริ่มจะจำอะไรไม่ค่อยได้แล้วบางครั้งก็ลืมว่าตัวเองเป็นคนยังไงชอบอะไรก็เกือบลืมไปซะหมดแต่เขาบอกว่าเขายังไม่ลืมพ่อแม่พี่และน้องเลยนั่นคือสิ่งที่เขายังจำได้
แต่ก็แค่นั้นแหละ
เราแค่หวังว่าทุกคนจะใส่ใจกับลูกคนกลางบ้าง ส่วนมากลูกคนกลางจะโดนเมินไปในหลายๆเรื่อง ขอให้ใส่ใจพวกเขาด้วย
เรื่องที่เล่าๆมาก็วกไปวนมาเล่าไปร้องไห้ไป ก็ไม่มีอะไรมาก
สำหรับใครที่เข้ามารับฟังจนจบ ขอบคุณนะคะ
เจอเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจขอคำปลอบใจที่ทำให้รู้สึกดีหน่อยค่ะ
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ
เราได้ประสบการณ์ที่ทำให้เราและครอบครัวของเราเสียใจตลอดชีวิต นั่นก็คือ การเสียคนในครอบครัว
กระทู้นี้ที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอะไรมาก
จขกท.นี้ทั้งมีเรื่องที่อยากถาม อยากขอคำปรึกษา และก็ต้องการกำลังใจมากๆเลย ซึ่งนอกจากคนรอบข้างที่คอยพูดกับเราแล้วเราก็ยังต้องการคำปลอบโยนจากคนแปลกหน้าด้วย
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย
เรามีน้องชาย2คน คนกลางอายุ 16 ปี คนเล็ก 11 ปี ซึ่งจขกท.เป็นพี่คนโตของบ้าน
เราสนิทกับน้องคนกลางสุด(ถึงส่วนมากจะไม่ค่อยถูกกันก็เถอะ)ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ด้วยกันมาตลอดส่วนน้องคนเล็กก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ น้องคนกลางกลับคนเล็กไม่ถูกกันเป็นอย่างมาก เพราะจะชวนทะเลาะตลอดคนกลางบางครั้งเราก็แอบสงสารน้องเหมือนกันที่ไม่ค่อยถูกกันเลยเชื่อมสัมพันธ์กันโดยการชวนเล่นเกม(แต่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ดี) ทุกอย่างหลังๆมาเริ่มราบลื่น แต่ด้วยความที่เราต้องออกไปทำงานบ้านเพื่อนจึงไม่ค่อยมีเวลามาเล่นเกมกับน้องๆ หลังเลยดูห่างๆกัน
แต่ก็นะความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไม่แตกต่างจากเดิม
เรายังยิ้มยังหัวเราะพูดจาหยอกล้อกันเรื่อยๆ
แต่ใครจะคิดจะฝันว่าอยู่ๆวันหนึ่งความสุขของเราจะพังทลายไปแบบไม่มีวันหวนคืนได้อีก
เข้าสู่ช่วงสอบปลายภาควันแรกเราอยู่ม.ปลายโรงเรียนของเราได้จัดสอบของบางระดับชั้นสลับวันกัน เราไปสอบปลายภาควันแรกกลับมาน้องชายเราก็เหมือนจะทำตัวปกติ แต่ผิดปกติก็คือ ปกติน้องชายคนกลางเป็นคนเก็บตัวไม่ออกไปไหนส่วนมากก็เล่นเกมอยู่ในบ้าน น้อยมากที่จะออกบ้านแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ออกไปเลย เกมที่เล่นแต่ก่อนก็จะเป็น ROV แต่น้องเลิกเล่นไปนานแล้วน้องหันมาเล่นเกมที่เป็นเหมือนโปเกม่อนต่อสู้กัน ซึ่งมันเป็นเกมแบบออฟไลน์ เคยถามน้องว่า :ทำไมถึงเล่นเกมนี้นี่มันเกมที่เคยเห็นเมื่อหลายปีที่แล้วเลยนะไม่เบื่อหรอ?
น้องมีเพลงโปรดที่ฟังก็คือ remember our summer ซึ่งเป็นเพลงที่น้องชอบฟังประจำ
แต่จู่หลังเรากลับมาจากโรงเรียน น้องก็เปลี่ยนเพลงใหม่ซึ่งเพลงนี้ก็คือ river flows in you เราก็เอะใจนิดหน่อยตอนน้องเปลี่ยนเพลง แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร
วันนั้นน้องก็ยังทำตัวปกติเหมือนเดิม แต่ใครจะคิดว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับน้อง
ใครจะคาดคิดว่าเช้าวันต่อมาเราจะเสียน้องชายไปใครจะคิดว่าน้องชายของเราจะคิดสั้น ซึ่งน้องเราได้ทำการฆตต.โดยการแขวนคอตัวเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เราเป็นคนอุ้มน้องชายไว้ ซึ่งน้องชายเราตัวใหญ่และสูง เราเป็นคนหยิบมีดมาตัดเชือก
มันเจ็บปวดมากแบบมากๆที่สุดความหวังนิดๆที่คิดว่าน้องชายยังมีลมหายใจได้มลายหายไปจนสิ้นเมื่อเราได้เห็นหน้าน้องแค่นิดเดียวเองผ่านไปนิดเดียวเอง
เราทรุดลงไปกับพื้นทันที
เคยร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาไหม? ตอนเราดูละครเราไม่เข้าใจว่าทำไมร้องไห้ไม่มีน้ำตาอะไรมันจะแสดงอารมณ์ออกมาขนาดนั้น
พอมาเจอกับตัวเท่านั้นแหละรู้ซึ้งเลยว่าโคตรเจ็บปวดทรมาน พยายามบีบน้ำตาเท่าไหร่ก็ไม่ไหล ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูก สมองเลื่อนลอยหลังจากเสร็จงานศพทุกอย่างเราเหม่อลอย วันๆรู้แค่ว่าตื่นเช้าอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เพียงแค่นั่งเฉยๆก็พลบค่ำแล้วก็ทำกิจวัตรแบบเดิม แต่มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีอะไรเหมือนเดิม!
ภาพจำในหัวของเราก็ยังคงมีน้องอยู่ บางครั้งก็เผลอละเมอเดินเข้าไปบ้านคิดจะไปเรียกน้องมาทานเข้าพอนึกได้ก็ต้องชงัก เป็นแบบนี้มาตลอด นี่ก็จะเข้าเดือนที่ 9 แล้วที่เสียน้องชายไป แต่ก็ยังเหมือนเดิม คิดว่ายังมีเขาอยู่ตลอดเวลา ในบ้านแม้แต่เพื่อนฟูงเราคือคนที่สนิทที่สุดของเขาแล้ว เราโคตรปวดใจเลยที่หลับตาทีไรก็เห็นแต่ภาพน้องภาพเหตุการณ์ในวันนั้น มันแบบ..
ที่จริงมันมีรายละเอียดยิบย่อยมากเกี่ยวกับไสยศาสตร์,ผีสาง ซึ่งตัวเราเป็นคนที่เห็นมาตั้งแต่ ป.5
เราเห็นเราเจอเรื่องลี้ลับ อันนี้เอาเก็บไว้ก่อน
เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร แพนิคหรอ? ซึมเศร้า? หรือยังไง
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น
1.เสียงร้องของคนอารมณ์แบบร้องตกใจ เราจะรู้สึกกลัวมากหัวใจเต้นเร็วมาก
2.เชือกลูกเสือ เรากลัวมากๆมันเป็นสิ่งที่สะท้อนเหตุการณ์ของวันนั้น
3.ผี แต่ก่อนก็กลัวแต่ไม่ได้แบบจนออกอาการเรากลัวแต่เราก็นิ่ง ทั้งที่เห็นแต่กลับทำเป็นไม่เห็น
4.ยามฟ้าสางยามเช้า-ฟ้าเริ่มมืดใกล้พลบค่ำ เรากลัวมากแม้จะตื่นเช้าแค่ไหนเราก็จะไม่ลุกออกมาเด็ดขาด
5.ฤดูหนาว มันทำให้จิตใจเรากระสับกระส่าย
6.เราสะเทือนใจกับคำว่าตาย,จะตาย,อยากตาย,ฆ่าตัวตาย เราได้ยินใครพูดแบบนี้ทีไรรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลมันสั่นใจเราแบบ
7.เราจะติดมือถือมากๆ ติดมือถือไม่ใช่อยากติด แต่เพราะเราไม่อยากทำให้ตัวเองว่าง เราจะพยายามเล่นมือถือตลอดเวลาเพื่อที่จะไม่ได้คิดเรื่องของน้อง
แต่ก่อนตอนน้องอยู่เรากับน้องก็สุมหัวกันอยู่แต่ในบ้านใครจะมาพูดอะไรแบบนู้นแบบนี้เราก็จะไม่ถือสาเอาความอยู่แล้ว เรากับน้องก็จะนิ่งทำเป็นหูทวนลบไปซะ
แต่พอน้องเราไม่อยู่แล้ว คำพูดบางคำที่เปล่งออกมาแล้วมันทำร้ายจิตใจเราก็จะเถียงสู้ขาดใจ ให้คนเหล่านั้นได้รู้ซะบ้างว่า เห็นเราไม่พูดก็ใช่ว่าจะพูดจาแบบนี้ใส่เราได้ จนที่สุดเราก็กลายเป็นคนชอบเถียงคนสะงั้นเพราะเราไม่อยากที่จะทำให้ใครเข้าใจผิดออีกต่อไป
อยู่แต่ในบ้านหรอ? ออกมาข้างนอกมาดูโลกภายนอกหน่อย.
แล้วไง อยากออกก็จะออกไปเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากออกไป แต่ออกไปเเล้วเจอคำพูดแบบนี้เลยไม่ออกไปไง
คุณหญิงคุณชายเพิ่งจะออกบ้านหรอ? นานๆทีเห็นออกมาดูโลก นั่นนู่นนี่
บางคนอาจจะคิดว่าคำพูดแค่นี้เองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้
แต่ใครจะใคร่รู้ว่าเรื่องเล็กที่คุณว่า เรากับน้องโดนพูดแบบนี้ใส่ตั้งแต่ตอนประถมแล้ว
เราก็ไม่รู้นะว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา ตอนนี้เราเหนื่อยมากเลย เหนื่อยใจ เจ็บปวดใจเจ็บปวดที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโตเราพบเจอแต่เรื่องสูญเสีย ปู่ ย่า น้องชาย เป็นคนที่เรารักมากๆ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึง นอนร้องไห้เกือบทุกคืน
ตอนที่น้องเราเสียนั้น เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมากกลางหัว สิ่งที่เราจินตนาการไว้ในหัวหายไปหมด อนาคตที่เราวาดฝันก็สลาย
แต่ในความคิดนั้นเราก็ดันมีความเห็นแก่ตัวด้วย
ในหัวเราอยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นว่า อ้าว น้องมาชิงไปก่อนแล้วเราล่ะ เราก็จะตายไม่ได้น่ะสิ เราก็ต้องทุกข์แบบนี้สิ
ซึ่งมันเป็นความคิดที่โคตรเลวและโคตรเห็นแก่ตัวเลย
หลังจากน้องเสียไปประมาณ2-3อาทิตย์ เราก็เริ่มป่วยหนักซมอยู่แบบนั้น คืนหนึ่งเรานอนไม่หลับนอนยังไงก็ไม่หลับหายใจก็ไม่ออกคืนที่เงียบสงบได้ยินเหมือนมีคนหลายคนมาพูดอยู่ข้างหูทั้งสองข้างเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ พูดอยู่ไม่หยุด พอเราหลับตาก็เห็นคนจูงมือเราลากไปนู่นไปนี่เป็นผู้ชายทีผู้หญิงทีสลับสับเปลี่ยนกันไปจนสุดท้ายมาอยู่ที่ผู้หญิงนางชุดเราแรงๆแล้วบอกว่าไม่อยากไปหาน้องชายหรอ?เขาบอกว่าเขารู้นะว่าน้องชายอยู่ไหนพูดแล้วก็ยิ้มให้เราแต่เราชักมือกลับบอกว่าไม่ไป ยื้อกันอยู่นานในที่สุดเราก็ตื่นลืมตาขึ้นเหงื่อแตกเต็มตัวหายใจก็ไม่ค่อยออปในใจก็คิดว่าอย่าตายนะห้ามตายเด็ดขาดนะ เราไม่อยากให้แม่ให้คนที่รักเจอเราเป็นศพอีกคน ค่ำคืนที่แสนยาวนาน เราภาวนาขอให้เช้าไวๆ คืนนั้นทั้งคืนเหมือนไม่ได้นอนเลย เป็นอะไรที่โคตรน่ากลัวมาก
ที่จริงเรื่องนี้คือเรื่องยิบย่อยที่เกิดขึ้น มันมีมากกว่านั้นและน่ากลัวกว่านั้นมาก
ทุกวันเราแอบหวังนะขอแค่ได้เจอน้องในฝันก็ดีแล้ว
น้องจะชอบมาเข้าฝันก่อนวันพระบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง บอกว่าเจอคนนั้นคนนี้ที่เคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ชาติก่อนก็มี ล่าสุดก็มาคุยเล่นด้วยบอกว่าตัวเขาเองเริ่มเลือนลางเริ่มจะจำอะไรไม่ค่อยได้แล้วบางครั้งก็ลืมว่าตัวเองเป็นคนยังไงชอบอะไรก็เกือบลืมไปซะหมดแต่เขาบอกว่าเขายังไม่ลืมพ่อแม่พี่และน้องเลยนั่นคือสิ่งที่เขายังจำได้
แต่ก็แค่นั้นแหละ
เราแค่หวังว่าทุกคนจะใส่ใจกับลูกคนกลางบ้าง ส่วนมากลูกคนกลางจะโดนเมินไปในหลายๆเรื่อง ขอให้ใส่ใจพวกเขาด้วย
เรื่องที่เล่าๆมาก็วกไปวนมาเล่าไปร้องไห้ไป ก็ไม่มีอะไรมาก
สำหรับใครที่เข้ามารับฟังจนจบ ขอบคุณนะคะ