JJNY : บิล เกตส์ มองปท.กำลังพัฒนาอนาคตสดใส│อังกฤษเคาะBA.4,BA.5น่ากังวล│บาทอ่อนซ้ำต้นทุนสูง│“ชัชชาติ”ขึ้นรถอีวีแห่รอบกรุง

บิล เกตส์ มองประเทศกำลังพัฒนา อนาคตสดใส มีอินเดีย อินโดฯ เวียดนาม และประเทศขึ้นต้น “ไ” ลงท้าย “ย”
https://www.catdumb.com/tech-update/81519
 
  
บิล เกตส์ เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของโลก ที่ชอบมาสื่อสารกับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ โดยช่องทางหนึ่งก็คือการมาตั้งกระทู้ถาม-ตอบ ในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Reddit ด้วยนั่นเอง
 
Reddit คือบอร์ดที่คล้ายๆ กับพันทิปของบ้านเรา จะพูดให้ง่ายก็เหมือนกับคนดังและคนรวยท็อปๆ มาตั้งกระทู้ให้ถามคำถามที่น่าสนใจ แล้วเขาก็จะเข้ามาตอบนั่นเอง
 
กระทู้ของบิล ได้รับความนิยมและคอมเมนต์สูงมาก ซึ่งก็มีคำถามหลากหลาย แต่แคทดั๊มบ์จะขอหยิบประเด็นที่คิดว่าเพื่อนๆ จะสนใจมาคร่าวๆ แล้วกันนะ
 
เริ่มจากประเด็นแรก คริปโตฯ ที่กำลังเป็นกระแส เขาลงทุนด้วยหรือไม่?
 
บิลบอกว่า ไม่ได้ถือคริปโตฯ เลย เพราะมองไม่ออกถึงผลตอบแทนนอกจากการที่คนให้ค่าและยอมจ่ายเงินให้ พอคนซื้อมากขึ้น ราคาก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เขาชอบลงทุนกับการลงทุนที่มองได้ชัดเจนอย่างการลงทุนในธุรกิจ ถ้าบริษัททำผลิตภัณฑ์ที่ดี ขายได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทมีมูลค่ามากขึ้น
 
งี้.. บิล เกตส์ ได้ไปร่วมซื้อหรือขายหุ้น Gamestop ด้วยไหม?
 
ไม่เค๊ยยยยยยยยย!!
 
บิล เกตส์ ลงทุนซื้อที่ดินทำฟาร์มด้วย?
 
ใช่ แต่ทีมลงทุนของบิล ซื้อที่ดินไม่ได้มากขนาดนั้น น้อยกว่า 0.1% ของที่ดินอเมริกาด้วย (อาจจะสื่อว่า ไม่ได้ผูกขาด) ส่วนใหญ่คือการลงทุนเอาเทคโนโลยีไปทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น บางฟาร์มอยู่ใกล้เมือง ก็อาจจะใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย
 
คนธรรมดา จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ยังไง?
 
บิลมองว่าสินค้าเพื่อโลกสีเขียว อย่างเช่นพวก รถยนต์ไฟฟ้า อะไรพวกนั้นจะมีราคาสูงกว่าของปกติเล็กน้อย แต่ถ้าทุกคนหันมาช่วยกันซื้อมากขึ้น บริษัทก็จะทำมาขายมากขึ้น มีการผลิตจำนวนมาก ราคาก็จะถูกลง
 
ส่งผลให้ในที่สุดราคาก็จะเหมือนของปกติ คนก็จะซื้อง่าย และช่วยโลกได้ด้วยเช่นกัน
 
ประเทศกำลังพัฒนา ที่บิล มองว่ามีอนาคตสดใส
 
เขามองว่าประเทศในกลุ่มรายได้กลาง-ต่ำ ที่อนาคตจะสดใสประกอบไปด้วยประเทศเอเชียอย่าง อินเดีย ปากีสถาน เวียดนาม และอินโดนีเซีย
 
แต่จากประสบการณ์ในแอฟริกา เขาก็มองว่าเคนย่า แทนซาเนีย ไนจีเรีย รวมถึงเอธิโอเปียด้วย แต่รายหลังสุดนี้ ทำได้ดีจนกระทั่งมีปัญหาความขัดแย้งในประเทศ ซึ่งก็หวังว่าพวกเขาจะผ่านมันไปได้
 
แนะนำหนังสือสัก 5 เล่ม ที่ชอบที่สุดหน่อย
– Grand Transitions
– How the World Really Works
– The Better Angels of our Nature
– Coddling of the American Mind
– Why We’re Polarized
– Heart or A Gentleman in Moscow
– All the Light We Cannot See
(ไปๆ มาๆ แนะนำ 7 เล่มเฉยเลย ฮ่าๆ)
 
ส่วนใครอยากจะอ่านกระทู้เต็มๆ สามารถตามไปได้เลยที่:

www.reddit.com/r/IAmA/comments/ut7yj0/im_bill_gates_cochair_of_the_bill_and_melinda/
 


อังกฤษเคาะโอไมครอน BA.4,BA.5 เป็นสายพันธุ์น่ากังวล-เกาหลีเหนือติดโควิดใหม่อีก 2 แสน
https://www.isranews.org/article/isranews-news/108968-UKKKNorthkorea.html

อังกฤษ เคาะโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.4,BA.5 เป็นสายพันธุ์น่ากังวล หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม 'ยุโรป'เผยระบาดระลอกล่าสุดจำนวนคนเข้าไอซียูเพิ่มขึ้น - เกาหลีเหนือติดเชื้อเพิ่มอีก 2 แสน นานาชาติจี้รับความช่วยเหลือ ส่วนทางการแนะกลั้วปากด้วยน้ำเกลือ ดื่มชาน้ำผึ้งบรรเทาอาการ
 
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19หรือโคโรน่าไวรัสว่า ที่สหราชอาณาจักร ทางการได้กำหนดให้ไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 นั้นเป็นโควิดสายพันธุ์อันน่ากังวล หลังจากที่พบหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการเติบโตของไวรัสนี้ 
 
โดยคลื่นการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่มีการระบาดนับแต่ฤดูหนาวที่ผ่านมา นั้นเป็นที่รู้จักว่าเป็นโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.1 และต่อมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2565 ก็มีการพุ่งขึ้นของสายพันธุ์ย่อย BA.2
 
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจากสำนักสถิติแห่งชาติระบุเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า BA.2 ยังเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดเป็นหลักในสหราชอาณาจักร ส่วนหน่วยงานด้านความมั่นคงทางสุขภาพของสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA ได้เปิดเผยว่าไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 นั้นถูกกำหนดให้เป็นโควิดสายพันธุ์อันน่ากังวลแล้ว หลังจากที่สองสายพันธุ์ย่อยดังกล่าว ณ เวลานี้เป็นต้นเหตุของคลื่นการระบาดระลอกใหม่ในประเทศแอฟริกาใต้  
พญ.มีรา แชนด์ ผู้อํานวยการด้านการติดเชื้อทางคลินิกและโรคเกิดใหม่ของ UKHSA กล่าวว่าการกำหนดทั้งสองสายพันธุ์ให้เป็นสายพันธุ์อันน่ากังวลนั้นสะท้อนให้เห็นหลักฐานการเติบโตของ BA.4 และ BA.5 ทั้งในสหราชอาณาจักรและในระดับนานาชาติ ซึ่งทาง UKHSA นั้นกำลังศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และจะเปิดเผยรายงานการเฝ้าระวังอีกครั้งหนึ่ง 
 
ทั้งนี้ข้อมูลจาก UKHSA เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ระบุว่าพบข้อมูลว่ามีผู้ติดเชื้อ BA.4 จำนวน 115 ราย และ BA.5 อีกจำนวน 80 ราย ในสหราชอาณาจักร   อย่างไรก็ตาม หน่วยงานนี้ได้สร้างแบบจำลองของการแพร่เชื้อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองสายพันธุ์นั้นมีความได้เปรียบด้านการเติบโตของเชื้อเหนือกว่าสายพันธุ์ BA.2 ในสหราชอาณาจักร หรือก็คือว่าทั้งสองสายพันธุ์นี้ ท้ายที่สุดแล้วอาจเป็นไวรัสที่จะระบาดเป็นหลักในประเทศได้  
 
ขณะที่ นพ.ทูลิโอ เด โอลิเวียรา ผู้อํานวยการศูนย์นวัตกรรมและการรับมือการแพร่ระบาดที่มหาวิทยาลัยสเตลเลนบอชกล่าวว่าความได้เปรียบของการแพร่เชื้อของสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่เหนือกว่าสายพันธุ์ BA.2 นั้นเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่สายพันธุ์ BA.2 เหนือกว่าสายพันธุ์ BA.1
 
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจากแอฟริกาใต้ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าพบข้อบ่งชี้เพียงเล็กน้อยว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่นั้นอาจจะเป็นส่วนทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงมากกว่าโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้น ทางด้านศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรปหรือ (ECDC) ก็ได้ให้ความเห็นสะท้อนไปในทิศทางเดียวกับผู้เชี่ยวชาญจากแอฟริกาใต้
 
“ถ้ายึดโยงตามข้อมูลที่ยังจำกัดอยู่ ณ เวลานี้ ไม่พบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญของผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง อันเกิดจากสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ ณ เวลานี้ อย่างไรก็ตาม ในการระบาดระลอกล่าสุด ถ้าหากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ก็จะพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเข้าห้องไอซียูอยู่ในระดับหนึ่ง” ECDC ระบุ
 
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเกาหลีเหนือ มีรายงานว่าสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาล รายงานสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในเกาหลีเหนือมากกว่า 2.46 ล้านคน เพิ่มขึ้น 219,030 คน และสถิติผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 66 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย ส่วนสถิติผู้ป่วยที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในระบบ อยู่ที่อย่างน้อย 281,350 คน

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้และอีกหลายฝ่ายเชื่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ “เลวร้ายกว่าที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ” โดยองค์การอนามัยโลก ( WHO ) เรียกร้องรัฐบาลเปียงยางเปิดรับความช่วยเหลือจากภายนอก เนื่องจากการไม่สามารถตรวจสอบการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาที่ยังไม่ถูกวิธี เพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์
 
ทั้งนี้ สื่อของรัฐบาลเปียงยางเดินหน้าเผยแพร่คลิปแพทย์ แนะนำประชาชนกลั้วคอ และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ และอธิบายการใช้ยา เมื่อเกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และมีไข้สูง ตลอดจนการดื่มชาสายน้ำผึ้งให้ได้วันละ 3 ครั้ง
 
เรียบเรียงจาก : https://www.theguardian.com/world/2022/may/20/two-types-omicron-classified-covid-variants-concern-uk-ba4-ba5
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่