ตัดขาดจากครอบครัว เพราะเหตุผลเหล่านี้ EP.2

ตอนนี้ขอรวบรัดนะคะ เราเจอพี่คนนึงในfb ไม่เคยเจอกันมาก่อน ทุกวันนี้ผ่านมา6ปีแล้วยังคุยและเจอกันบ้าง พี่เค้าเป็นคนดีค่ะเราเล่าถึงปัญหาว่าเราอยากออกจากบ้านแต่ไปไม่ได้ ใจจริงอยากให้เค้ามารับด้วยซ้ำเพราะเราออกไปเองไม่ได้(อยู่ตจว.)แต่กลัวเหมือนกัน แต่ เรา สู้ทุกอย่าง เป็นตายร้ายดียังไงก็เอา พี่ผช.คนนั้น เค้าเป็นคนที่มีหน้าตาในสังคมระดับนึง เค้าช่วยเราเท่าที่ช่วยได้เค้าขอเลขบช.เราเพื่อจะสั่งเงินให้เรา เพื่อให้เรา ออกมา แต่เราไม่มีสมุดบัญชี เราเลยให้ที่อยู่ไปค่ะ ตอนนั้นเราว้าวุ่นใจมาก กลัวแม่รู้ แม่ต้องรู้แน่ๆ ว่ามีคนส่งเงินมาแล้วต้องถามเยอะมากแน่ๆ พี่ชายคนนั้นเขาส่งเงินมาให้เราจริงค่ะจำนวน400 บาท มันมีค่ากับเรามากเลย แต่ตอนนั้นแม่เราเป็นคนรับจดหมาย และเป็นคนฉีกซอง  เปิดจดหมายเราแบบนั้นตอนนั้นใจเรา แบบ เต้นแรง กลัวแม่จะเจออะไรอีก เรากลัวพี่คนนั้นจะเขียนอะไรถึงเรา กลัวแม่อ่าน คือวันนั้นเรา จำไม่ค่อยได้ว่าเป็นยังไงต่อ รู้แต่ว่า เราเก็บเงิน400 นั้นมาจำไม่ได้ด้วยว่าตอบแม่ว่าไง เราอ้ำอึ้ง บอกแค่ว่ามีคนส่งมาให้ 
เหตุการณ์ที่เราเข้ากทม.มันมีสาเหตุจากที่เรา คุยกับ พี่ผช.คนนี้ แล้ว เค้าดันเข้าใจผิดว่าเราคือมิจฉาชีพ ไม่รู้ว่าเค้าคิดกับเราแบบนี้ได้ยังไง เค้าคงไม่เคยเจอ คนที่มีปัญหาเยอะแบบเรา เราบอกก่อนนะคะเราไม่เคยขอเงินเค้าเลย มีแต่เค้าให้มาเองครั้งเดียว400นั่นแหละ แต่คำที่เค้าบอกเป็นมิจฉาชีพ ทำให้เราอยากเอาเงินไปคืนเค้าตามที่อยู่ค่ะ เราเพี้ยนมั้ย เค้าส่ง มาจากลพบุรี 😭 ค่ารถไปน่าจะหมดแล้วแต่เราคิดว่า จะทำงานใช้เค้า ก็ได้ คือพี่เค้ากลัวเราตรงที่เรา บอกจ ออกจากบ้าน อยากให้พี่เค้ามารับและในแชทนั้นเราคุยกันแต่เรื่อง เราอยากทำงานพอมีอะไร ให้เราช่วยไหม เราอยากมีรายได้ประมาณนี้ค่ะ
เราขอข้ามมาถึงวันที่เราออกจากบ้านเลยนะคะ เรากว่าจะตัดสินใจได้นานเป็นหลายเดือนค่ะ ระหว่างนั้นแม่ก็ทำแย่ๆใส่เรา ตามปกติของเค้า แต่ใจเรา บอบช้ำ จน ไม่ไหวแล้ว ไม่มีช่องทางให้เราหนีได้เลย เงิน400 นั้นที่พี่ผช.ให้มายังอยู่กับเรานะคะยังไม่ใช้ เพราะเอาไว้เป็นค่ารถเพื่อ จะหนี เราเตรียมกระเป๋าไว้แล้วรอจังหวะคืนแรกที่หนี ตอนนั้นตี3 เราเดิน ออกมามืดมาก ผ่านวัด หมาเห่า หอน ระงม ชาวบ้านแถวนั้นไปบอก แม่เรา ว่าเจอเราเดิน เหมือนจะไปไหนไม่รู้ แม่มาตามเราค่ะ จบ เลย 😭 แต่ตอนนั้นเราก็กลับไป และ แม่ไม่ถามอะไรด้วยนะ ถามแค่ จะไปไหน คำถามนั้น เหมือนเค้ารู้ในใจลึกๆ ว่าเราจะไปไหนและเพราะอะไร เค้าทำกับเราขนาดนี้
การหนีออกจากบ้านครั้งที่2 เราเห็นมอไซค์พ่อเลี้ยง เหมือนพังแล้วเค้าซ่อมอยู่ และเห็นแม่ กำลัง ห่อขนมหวานจะมีงานบุญหรืองานอะไรสักอย่าง เราเห็นจังหวะคนยุ่งๆ เราเดิน ผ่านหน้าเค้าเลยค่ะ ทางออกมีแค่นั้น เพราะบ้านล้อมรั้วหมด แม่รีบเดินมา กักตัวเราไว้ ถามเราว่าไปไหน เราไม่ตอบ เราเดินตรงไป เรื่อยๆ และไปถึงถนนใหญ่ แม่ปั่นจักรยานตามมา ถามเราอีก จะไปไหน ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดุ เราพูดกับเค้าประโยคนึงว่า แม่...หนูเจ็บ ปวด ทุกอย่างที่แม่ทำกับหนูแม่น่าจะรู้ดี ปล่อยหนูไปตามทาง ของหนูเถอะนะอย่าทำร้ายหนูอีกเลย เราพูดแค่นี้อยากจะพูดมากกว่านี้แต่มันจุกข้างในพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่เค้าทำเรามันเยอะมาก บอกว่าจะไม่ลืมแม่นะหนูจะส่งเงินให้แม่ถ้ามีงานทำ เราร้องให้ แม่ก้มกราบเท้าแม่ แม่ก็ร้องให้ เค้าบอกเค้าขอโทษไม่ไปได้ไหม เราบอก เราวางใจ และให้อภัยในสิ่งที่แม่ ทำ แต่แม่ยังเป็นแบบเดิม เค้าเงียบ ... และปั่นจักรยานกลับบ้านไป พูดกันสั้นๆแค่นั้นเราคงแปลกใจนิดหน่อยว่าเค้าปล่อยเราไปง่ายจัง ตอนนั้นเราเดินอยู่ข้าง ถนนกับกระเป๋าเป้1ใบมีเงินติดตัว400 กลัวก็กลัว โล่งใจก็โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากตัว จะเอายังไงกับชีวิต....นี่มันความจริงหรือความฝัน เราจะอยู่ยังไง แต่ ดีกว่าเรา อยู่แบบอดตาย และถูกทำร้ายจิตใจจนเป็นบ้า ขอไปตายเอาข้างหน้าดีกว่าชีวิตคงมีความหมายมากกว่าทรทรมานที่นี่ 
เดี๋ยวเรา มาเขียนต่อนะคะ ตอนนี้เราร้องให้จนปวดหัวเราเล่าต่อถึงตอนที่อยู่กทม. และปัญหา ในครอบครัว ยังตามเราไม่จบสิ้น
หลังจากที่เราเดินออกจากชีวิตพวกเค้า เราเดินตามถนน สองข้างทางเป็นชนบท แต่ถนนคอนกรีดมันก็ค่ำๆแล้วค่ะ เราเดินไปเรื่อยๆตอนแรกยังไม่ มีจุดหมายค่ะมีลุงใจดีขับซาเล้งมาถามๆ เราหนูๆ จะไปไหน เราบอกจะไปกทม.ค่ะ ลุงบอกให้ลุงไปส่งบขส.มั้ย เรากล้าๆกลัวๆ แต่เราก็ขึ้นรถไป กับลุง และนานมากๆ กว่าจะถึง เราหิวมากๆ ตอนไปส่งแล้ว เราขอบคุณลุงมากๆ และทุกวันนี้เรายังไม่ลืมเลยค่ะ เสียดายที่เราจำไม่ได้ แต่น่าจะเป็นคนแถวๆอ.ที่อยู่แน่เลยขอบคุณลุงมากนะคะ ที่ช่วยหนูวันนั้นถ้าไม่มีลุงหนูไม่รู้จะเดินไปถึงไหน
เราขอไม่เล่ารายละเอียดมากตอนไปถึงกทม.นะคะ มันมีพี่ผญ.ใจคนนึง รับเราไว้ดูแลค่ะ ปัจจุบันเรายังคบพี่เค้าอยู่และตอบแทนเค้าส่งเงินให้เมื่อมีโอกาส (เราชอบตอบแทนคนอื่นถ้าใครเคยดีกับเราเราไม่ลืม) เราอยู่กับเค้าประมาณ2อาทิตย์ ก็แยกมาอยู่เอง จากนั้นสักพัก เราก็มีแฟนคนนึง เค้าเป็นคนดีมาก จิตใจดีค่ะ เราโชคดีอย่างนึง ที่เราเจอแต่คนดียื่นมือมาช่วยเหลือไม่เคย ลำบากถึงขีดสุดเลยค่ะ มีแค่ตอนอยู่กับแม่ นั่นคือที่สุดในชีวิตเราแล้ว เรายังไม่เคยเจอความเจ็บปวดไหนเท่านั้นมาก่อนเลย หลังจากที่มาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เราบริจาคร่างกายและไม่คิดว่าจะให้พวกครอบครัวมาเป็นพาระอะไรกับเราทั้งสิ้น เพราะความชินกับการดูแลตัวเองด้วยค่ะ
ตอนอยู่กทม.เรากลัวมาก และกลัวใจตัวเองจะเปลี่ยนไป  เพราะไม่มีใครควบคุม และความอ่อนแอและอ่อนไหวของเราก็ทำให้เจอคนไม่ดี เอาเปรียบก็มีเยอะมาก คนถ้าจะไม่ดีอยู่ที่ไหนก็ไม่ดี ขอไม่โทษจ.นะคะ  แต่เราก็ขยันทำงาน หาเงินเท่าที่เราทำถนัดและทำได้ แต่เราไม่เคยหยุดทำเลย เพราะเราชีวิตเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น เพิ่งได้เริ่มตัดสินใจ ทำอะไรเอง และ ใช้ชีวิตอยากที่เราอยากใช้ตอนอายุ20เอง เราก็เก็บเงินเรียนเอง ที่ ม.แห่งนึง ย่านรามคำแหง ไม่เคยเกเร เลย ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว ที่ไหน เข้าผับยังไม่เป็น ดื่มเหล้าก็ไม่เป็นค่ะ (แต่ไม่ได้ว่าคนที่กินเป็นนะคะ)
เรามีปัญหาสุขภาพเยอะมาก ตอนที่อยู่กับแม่ เกี่ยวกับโรคหัวใจ เอ็นอักเสบ ความเครียด เราเป็นแพนิกด้วย ขี้ตกใจมาก เราลืมเล่าไปว่าเราเคยทำร้ายร่างกายตัวเองและกินยาฆตต.เพราะเราเสียใจเครียดหลายเรื่อง ทั้งเรื่อง ที่รร.และครอบครัวและไม่รู้จะระบายยังไง เราไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องให้เค้าสนใจแต่ที่เราไม่ทำจนสำเร็จเพราะเรา มีความคิดนึงแวปมาในหัวว่า เค้าไม่เห็นค่าของเราเลย ถ้าตายอยู่กับเขาที่นี่มันตายอย่างไร้ค่า เราทำไม่สำเร็จแต่มีบาดแผลจากมีดเป็นแผลเยอะที่ตัวเราแต่เค้ารู้ก็ยังไม่สนใจ ไม่ถามสักคำว่าเราเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นแต่เราก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไรว่าจะให้เค้ามาแคร์เรา เรารู้นิสัยเค้าว่าเค้าไม่แคร์เราอยู่แล้วแต่ มันเริ่มสะสมคำแนนความเย็นชา และใจร้ายของแม่ และมีคำถามในใจทุกวัน ว่าเค้าไม่ได้รักเรารึป่าวนะ
และท้องผูก  และสายตา เป็นน้ำวุ้นตาเสื่อม เอ็นอักเสบ ที่แก้ได้คือ น่าจะเป็นสุภาพจิตค่ะ ดีขึ้นเยอะเลยตอนไม่มีเค้าในชีวิต และ ขับถ่ายดี
ถึงจะลำบากแค่ไหน หรือเจอ คนไม่ดี เราไม่เคยเล่าอะไรให้เค้าฟัง พี่ชายคนกลางเราได้ข่าวว่าตอนนี้ มีฐานะ ส่วนเราลำบากแค่ไหนไม่เคยไปพึ่งพา หรือขอความช่วยเหลือใดๆ เกรงใจด้วย และไม่ใช่นิสัยของเราด้วยส่วนตัวเค้าเองก็เห็น ว่าเราลำบากเค้าก็ไม่เคย สนใจเราเลย แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรค่ะ แค่น้อยใจเล็กน้อยมันก็มีบ้าง จริงๆเราไม่ชอบขอใครนะคะ แต่ถ้าเค้าจะมีความหวังดีให้เราสักนิดไม่ใช่เงินทองก็ได้ เราคงมีอะไรหล่อเลี้ยงใจบ้าง ให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เราส่งเงินให้แม่เดือนละ5000 บางทีช่วยส่งของกินของใช้ให้บ่อยๆ อยากได้อะไรก็ส่งไปให้ เค้าว่าเราดี
แต่ถ้าเมื่อไร ที่เราไปเยี่ยมเค้าให้เค้าน้อย หรือไม่ให้เลย เค้าจะเฉยๆ กับเรา ไม่ค่อยคุยกับเรา แต่ถ้าเราซื้อทองให้เค้าจะอารมณ์ดี คุยจ้อแจ้ และทำอาหารอร่อยให้กิน
ปัจจุบันที่ชายสร้างบ้านอยู่ บ้านนั้นมีห้องแม่ ห้องพี่สาว และห้องพี่ชาย ไม่มีห้องเรา แต่พี่ชายขอเก็บเงินจากเรา5แสน ยิ่งกว่านั้นจะให้เราไปสร้างอยู่เอง แต่เงิน5แสนนี้เค้าขอจากเรานะเหมือนช่วยลงขันค่าบ้าน เราบอกว่าไม่มีและไม่สะดวกให้ เพราะเราไม่ได้ไปอยู่ เราว่ามันไม่ยุติธรรม คือเราไปเยี่ยมแม่ทีไรเราไม่เคยไป เดือดร้อนนอนที่บ้าน เรายอมเสียค่ารร คืนละ900 นอน2-3 คืน เพื่อความสบาย เราไม่ให้เค้าเค้าไม่คุยกับเรา เค้าบอกตัองช่วยกัน เพราะบ้านนี้ สร้างให้แม่ เพื่อแม่ เราไม่ช่วยเค้าว่าเรา ไม่ดี เห็นแก่ตัวเองทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้สร้างห้องเผื่อเรา เค้าพยายามพูดเรื่องเงินหลายครั้ง จนเราร้องให้ เราเสียใจ เค้าไม่เคยคิดอะไรถึงเราเลย แต่ พี่สาวก็เหมือนกัน เค้าทำตัวเป็นใหญ่ในบ้าน คือพี่สาวไม่ได้ออกเงินช่วยค่าบ้านนี้เท่าไรแต่เขามีห้องอยู่สบาย เราก็ไม่เข้าใจว่าคนบ้านนี้ทำไมกลัวและเกรงใจพี่สาวนัก เค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว
อะไรที่เราส่งไปให้หลาน เสื้อผ้า ของใช้ พี่สาวเค้าจะยึดแต่ของดีๆ ไปจนหมด (พี่สาวเรามีลูกใหม่กับสามีใหม่ด้วย) เค้าดูรักหลานคนแรก (คนที่เราเลี้ยงมากับแม่) น้อยกว่าลูกอีกคนนั้น ลูกคนเด็กพี่สาวจะซัพพอตมากกว่าซื้อแต่ของดีๆให้ เค้าจะลงแต่รูปลูกคนเล็กในfb อันนี้ตอนแรกเราเฉยๆ แต่ก็ได้เห็นว่าจริงเพราะตอนที่เราไปเยี่ยม แม่ แล้วพี่สาวอยู่ตจว. คือเค้ามีบ้านอีกหลัง ที่ ตจว.นะ แต้ค้าก็มีห้องนอนที่บ้านแม่ด้วยเลยไปๆมาๆ ตอนวิดีโอคอลคุยกับหลาน ที่หลานอวดของให้แม่ดูว่าน้าซื้ออะไรมาฝากบ้าง เค้าสั่งให้หลายเอาของพวกนั้นไปให้มี่ห้องเค้าคนเดียว หลานอยากได้ เค้าก็ดุหลานแม่ก็ดุ เราก็ปวดใจ เหมือนกัน เรื่องนี้ เราสงสารหลาน เหมือนเห็นตัวเองตอนเด็ก หลาน ก็ถูกแม่บังคับเหมือนที่บังคับเรา
แม่บังคับเราแต่เรื่องแต่งงาน แฟนคนแรกของเรา ก็บังคับ ให้แต่งงาน จนเรามีแฟนคนที่2 ก็บังคับ ให้แต่งงานโชคดีที่เราเจอคนดีทั้ง2คนเลย แต่ถึงเค้าจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่เค้าก็เป็นคนดี คนแรกเขาก็มีข้อดีข้อเสีย แต่ชั่งนน.แล้วเขาดีมาก ดูแลดีและไม่เคยทำร้ายเราแม่บอกว่า อยากให้แต่ง เพราะค่าน้ำนมที่เลี้ยงเรามา และเพื่อเป็นตัววัดว่าผช.คนนั้นเค้าดูแลเราได้ไหม เราอธิบายเรื่องนี้กับแม่5ปี แม่ก็ไม่เข้าใจ เราอยากจะพูดความในใจของเรามากเลย เค้าบังคับเรามาตลอดชีวิต เราทำร้ายแต่เราไม่เคยให้ความรักความอบอุ่น เราขอแค่เรื่องแต่งงานอย่ามาบังคับเรา แต่เราก็สงสารเค้ากลัวเค้าเสียใจค่ะ ทำได้แค่ไม่รับโทรศัพท์ งานบุญ งานบวช พี่ชาย เราไม่ไปเลยค่ะ
มุมของพี่ชาย ตอนโตที่ปฎิบัติกับเราเหตุที่ไม่คุยกันคือ 1 ตอนเค้าชวนเราไปเยี่ยมแม่ เค้าบอกจะออกรถตอนตี3 ให้ไปเจอที่บ้านเค้า แล้วเราเป็นผญ.ทางไปออกจากหมู่บ้านเปลี่ยวๆ มันไกลด้วย ตอนนั้นนั้นไม่มีแกรป และหมู่บ้านเราไม่มีเท็กซี่ผ่าน   เรากลัว ส่วนเค้ามีรนต์ยนต์แต่ไม่มารับเราเลย เราขอยกเลิกไม่ไป เค้าโกรธเราใหญ่เลย ว่าเราเรื่องเยอะและตัวปัญหา และไม่รักแม่ ไม่ไปเยี่ยมแม่บ่นๆๆ แต่ เค้าไม่เคยเป็นที่พึ่งพาเราได้เลยแม้เพียงเล็กน้อย ตอนเรามาอยู่กทม.ใหม่ๆเราลำบากมากเราไม่เคยขอเงินเค้าสักบาท เดือดร้อนยังไงไม่เคยบอกครั้งที่2 เมื่อหลายปีต่อมา ไปเยี่ยมแม่อีก คราวนี้แฟนเราไปส่งบ้านพี่ชายมันก็ไกล เราก็ช่วยค่าน้ำมัน 1500 เราควักให้เลย ไม่อิดออด ที่ ไปเยียมแม่ พี่สาวก็ไปด้วย แต่พี่สาว ไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท แถมตอนขากลับ รบเร้าให้พี่ชายไปส่ง ถึง บ้าน คือบ้านพี่ สาวอยู่คนละจังหวัด แต่ค่าน้ำมันไม่ช่วยสักบาท แต่กับเรา เราต้องโบกรถกลับเอง ทั้งที่พี่ชายถ้าคิดจะไปส่งน้องก็ไปได้อยู่ไม่ไกลกันมาก เราอยู่กทม. ถ้ามาส่งเดินทางแค่30-40นาที แต่ไปส่งพี่สาว คือ2-3ชม. เลย  และถ้าจะไปส่งพี่สาว จริงๆก็ให้เราไปด้วยก็ได้และแวะส่งเรา เพราะมันเป็นทางผ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่