ขึ้นราคาแล้วทั้งตลาด ผักชี กก.ละ 100 บาท มะนาว 120 พาณิชย์ตาปริบๆบอก ติดป้ายราคาให้ชัดแล้วกัน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3320833
ขึ้นราคาแล้วทั้งตลาด ผักชี กก.ละ 100 บาท มะนาว 120 พาณิชย์มองตาปริบๆ บอก ติดป้ายราคาให้ชัดแล้วกัน
วันที่ 2 พ.ค. รายงานจากตลาดสดเทศบาลนครสงขลาจากการสำรวจราคาผักผลไม้หลังจากราคาเชื้อเพลิงปรับขึ้นวันที่ 1 พ.ค. พบว่าผักผลไมทุกชนิดปรับราคาอ้างว่ารับซื้อจากพ่อค้าคนกลางราคาที่สูงแล้ว โดยมีราคาต้นทุนการขนส่งสูง เนื่องจากผักผลไม้ที่จำหน่ายในตลาด จ.สงขลาส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง
“ราคาผักกวางตุ้นจากราคา กก.ละ 25 บาทปรับเป็นราคา กก.30 บาท แตงกวาจาก กก.ละ20บาทปรับ กก.ละ 30 บาท ขึ้นฉ้าย ต้นหอม ผักชี จากราคา กก. 80บาทเป็น กก.ละ 95-100 บาท น้ำมันพืชขวด 1 ลิตรจาก 65เป็น 68 บาท มะนาวราคาทรงๆ ตัว กก.ละ110- 120 บาท”
นางสาว
ฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์ จ.สงขลาเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปริมาณและราคาสินค้าในตลาดทุกวัน พบว่าสินค้าอั้นราคาไม่อยู่ได้ทยอยปรับมาจากต้นทุนขนส่งที่สูงขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ให้พ่อค้าแม่ขายติดป้ายราคาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภตตัดสินใจซื้อได้ถูกต้อง ไม่ถูกเอารัดเปรียบ
ผู้ประกอบการขนส่งขึ้นค่าบริการแล้ว 15% หลังดีเซลขึ้นราคา
https://ch3plus.com/news/economy/morning/289313
นายพีระพัชร์ จิระวัฒนเอก รองประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังรัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้ขึ้นราคาบริการค่าขนส่ง 15% มีผลไปแล้วทันที คิดเป็น 80 ถึง 90% ของลูกค้าที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นส่วนที่ติดสัญญาเก่า และยอมรับว่าลูกค้าผู้ว่าจ้างบางราย ยังไม่ได้ตัดสินใจทำสัญญาใหม่
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เข้าใจผู้ประกอบการ เนื่องจากแบกรับต้นทุนมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้การขึ้นราคาค่าขนส่ง กระทบต่อการขนส่งทั้งระบบ และทุกขนาดธุรกิจ ตั้งแต่ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายย่อย ไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งต้องรอประเมินอีกสักระยะ ว่าผู้ว่าจ้างหายไปมากน้อยเพียงใด และไทยยังมีคู่แข่งส่งออกอย่างมาเลเซียที่ราคาน้ำมันถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง
ขณะเดียวกันรูปแบบการทำสัญญาขนส่งก็เปลี่ยนไป จากเดิมกำหนดที่ระยะ 3-6 เดือน ลดลงเหลือข้อตกลงในช่วง 30 วัน และกำหนด เพดานราคาน้ำมันไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร ดังนั้น หลังวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ซึ่งหมดระยะมาตรการที่กรมสรรพสามิตได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2565 ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร ที่ทำให้อัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลบี 7 ลดลงจาก 5.99 บาทต่อลิตร เหลือ 3.20 บาทต่อลิตร นั้น
สหพันธ์ฯก็จะประเมินการปรับขึ้นค่าขนส่งอีกครั้ง ซึ่งต้องพิจารณากับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย พร้อมยืนยันแนวทางแก้ไขรัฐบาลสามารถทำได้ในเรื่องของการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่ซ้ำซ้อน และการลดสูตรผสมน้ำมันปาล์มในน้ำมันดีเซลภาคการขนส่ง ซึ่งกลุ่มเรียกร้องมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล และยิ่งประเทศอินโดนีเซียจะขยายมาตรการลดการส่งออกน้ำมันปาล์ม ก็ยิ่งกังวลว่าจะกดดันให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นไปอีก
และในวันนี้ ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้เข้าหารือกับพลตำรวจตรี เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อวางมาตรการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ประกอบการ ที่ลักลอบขนส่งสินค้าเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัญหารุนแรงมากขึ้นหลังลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล โดยพบว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนดอีกเกือบเท่าตัว
ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีส่วนรู้เห็นร่วมกระทำความผิด ทั้งนี้กำหนดให้สหพันธ์ฯ ร่วมกันแจ้งเบาะแสผ่านไลน์กลุ่มแบ่งเป็นรายภูมิภาค โดยมีผู้บังคับการในแต่ละภาคควบคุม และกำหนดให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายภายใน 7 วัน ทั้งทางวินัยและอาญา ไม่เช่นนั้นจะต้องถึงมือทีมเฉพาะกิจ ที่ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงได้แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ พร้อมเร่งประสานไปยังกรมขนส่งทางบกกรณีผู้ประกอบการที่ทำความผิดซ้ำซาก เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการเอาผิด ซึ่งเรื่องการติดแบล็กลิสต์นั้นเป็นเรื่องที่กรมขนส่งทางบกเป็นผู้ดำเนินการ
เกษตรกรร้อง 'เงาะ-สับปะรด' ราคาร่วงสวนทางค่าขนส่ง
https://www.nationtv.tv/news/378871708
พ่อค้าสัปปะรด โคราช - เงาะสีทอง จ.ตราด โอดสินค้าราคาตกต่ำ ขณะที่รถขนส่งผลไม้ขอขึ้นราคาค่าขนส่ง 20%หลังรัฐปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล
1 พฤษภาคม 2565 ภายหลังจากที่คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.มีมติเห็นชอบให้มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป และจะมีการปรับราคาขึ้นเป็นขั้นบันได ไปจนถึง 35 บาทต่อลิตร ก็ทำให้บรรดาผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้าทางการเกษตรต่างๆ เตรียมที่จะปรับราคาค่าขนส่งขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากทนแบกรับภาระไม่ไหว โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โซนขายผลไม้ตลาดเทิดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า บรรดาพ่อค้า แม่ค้าผลไม้ ต่างรู้สึกกังวลใจ เนื่องจากขณะนี้ผู้รับเหมารถขนส่งผลไม้หลายราย เริ่มที่จะมีการแจ้งความประสงค์ที่จะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งผลไม้อีก 20%จนทำให้รายได้จากการขายผลไม้ลดลงเป็นอย่างมาก
โดยนาย
สิรภพ ถนมวงศ์ อายุ 23 ปี พ่อค้าสัปปะรด ตลาดเทิดไท กล่าวว่า ตนเองนั้นเหมาะรถกระบะไปรับสัปปะรดพันธุ์ตราดสีทอง มาจากจังหวัดตราด โดยจ่ายราคาเหมารถต่อเที่ยวๆ ละ 5,000 บาท สามารถบรรทุกสัปปะรดมาได้ประมาณ 3 ตัน ตอนนี้สัปปะรดก็ราคาตกต่ำ ขายได้กำไรลูกละแค่ 1 บาทเท่านั้น ถือว่ากำไรน้อยมาก และภายหลังจากที่รัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ก็ทำให้ผู้ประกอบการรถขนส่งผลไม้ แจ้งความประสงค์มาว่าในเดือนนี้ จะขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งเป็นเที่ยวละ 5,500-6,000 บาท หรือคิดเป็น 20%ของค่าเหมาขนส่งต่อเที่ยวในปัจจุบัน เพราะทนแบกรับภาระค่าน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นไม่ไหว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ตนเองขาดรายได้ไปเป็นอย่างมาก ถ้าคิดเป็นขายสัปปะรดได้กำไรลูกละ 1 บาท ก็จะทำให้เงินกำไรที่จะได้จากการขายสัปปะรด 1,000 ลูกหายไปทันที ทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนสัก 1-2 เดือน โดยจะยังไม่ขึ้นราคาสัปปะรด เพราะเกรงว่าลูกค้าจะได้รับผลกระทบ แต่หากไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะต้องปรับขึ้นราคาสัปปะรดตามไปด้วยแน่นอน เพราะต้นทุนการขนส่ง ค่าแรง และค่าครองชีพทุกวันนี้ปรับสูงขึ้นกันหมดแล้ว
เกษตรกรชาวสวนเงาะสีทอง เร่งเก็บเงาะสีทองที่เริ่มสุกภายในสวนเงาะส่งขายให้กับล้งรับซื้อเงาะสีทอง ซึ่งช่วงสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์แรกที่เงาะสีทองเริ่มสุกและเก็บเกี่ยวได้ เกษตรกรชาวสวนเงาะต้องหาแรงงานมาช่วยเก็บเงาะสีทองในราคา กก.ละ 3 บาท เริ่มจากการเก็บเงาะบนต้น และต้องมีทีมเก็บทั้งปีนต้นเงาะเพือ่เก็บและการรอนเงาะ คัดเลือกเงาะ โดยแยกเป็นเงาะดี สีสวยแดงสด เป็นเงาะคุณภาพสำหรับส่งขายเป็นเงาะส่งออกต่างประเทศ และเงาะเกรดตกไซต์ หรือเงาะคัด เป็นเงาะผลเล็ก สีไม่สวย มีตำหนิ สำหรับขายเป็นเงาะคัด ไม่สามารถส่งออกต่างประเทศได้
คนเก็บเงาะบอกว่า ในแต่ละวันจะเก็บเงาะกันตั้งแต่เช้า จนเที่ยงวันก็จะเสร็จงานเก็บเงาะแล้ว เพราช่วงบ่ายจะต้องคัดแยกและรวบรวมผลผลิตไว้เพื่อให้พ่อค้ามารับซื้อผลผลิตถึงในสวน โดยแต่ละวันจะมีรายได้จากการเก็บเงาะประมาณ 3,000 – 4,000 บาท จากทีมงานเก็บเงาะ5-6 คน แบ่งรายได้กันคนละประมาณ 500-600 บาท ซึ่งเป็ฯช่วงเงาะเลือกเก็บ เพราเงาะไม่สุกพร้อมกันทั้งต้น ทำให้เก็บได้ค่อนข้างช้า แต่ถ้าเป็นช่วงเงาะสุกหมดต้นจะได้ค่าเก็บกก.ละ 2 บาท เพราะเก็บได้เร็วกว่า แต่รายได้ก็พอกัน วันละ 600-700 บาท นายอนันต์ รื่นจิตร เจ้าของสวนบ้านหนองบัวต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด บอกว่าเงาะสีทองปีนี้ ราคาไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านมา และราคาเงาะปรับลดลงเร็วมาก ผลผลิตเพิ่งออกได้แค่สัปดาห์กว่า ราคาปรับลงจากกก.ละ 38 บาทเหลือแค่20 บาทเศษ เท่านั้น
นาง
ศรีรัตน์ ก๋งเหม็ง เจ้าของล้ง รับซื้อเงาะ ต.สะตออ.เขาสมิง รับซื้อเงาะและผลไม้ต่างๆจากชาวสวน บอกว่าเป็ฯฤดูเก็บเกีย่วเงาะสีทองเข้าสู่สัปดาที่สองแล้ว ราคาปรับลดลงตามจำนวนผลผลิตที่ออก ตอนแรกเงาะราคาแพงเพราะมีผลผลิตน้อย แต่ตอนนี้ผลผลิตออกมากขึ้น ราคาจึงปรับลดลง โดยผลผลิตจะส่งไปขายระเทศเวียตนาม และประเทศจีน ซึ่งจะต้องมีการแคกิ้งให้ดี เพื่อส่งผลผลิตเงาะถึงปลายทางอย่างมีคุณภาพ นางศรีรัตน์ ยังบอกด้วยว่า เหตุราคาเงาะลงเร็วเพราตลาดรับซื้อมีน้อย อยากให้ทางราชการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อระบายผลผลิตเงาะไปประเทศกัมพูชาได้
ภูมิธรรม บอก ‘มาร์ค’ อย่ากังวล พท. กลับไปปัดกวาดพรรคเดิมก่อน เรื่องชักนำ รปห.ก็ยังไม่เคลียร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3320791
ภูมิธรรม บอก ‘มาร์ค’ อย่ากังวล พท. กลับไปปัดกวาดพรรคเดิมก่อน เรื่องชักนำ รปห.ก็ยังไม่เคลียร์
จากกรณีที่ นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ สภาที่ 3 ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยังก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร พร้อมสมมุติว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งอีกคงไม่เป็นไรหากประชาชนเลือกมา ทั้งนี้ อย่าย้อนกลับไปสู่พฤติกรรม หรือการกระทำที่เป็นลักษณะการเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัว ให้พวกพ้อง หรือทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงแนวคิดการนิรโทษกรรมด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงเรื่องนี้ว่า แปลกใจเห็นข่าวอดีตนายกฯอภิสิทธิ์แห่ง ปชป.แสดงความห่วงใย “เพื่อไทย” ว่าก้าวไม่ข้าม “ชินวัตร” เกรง “รัฐประหาร” จะเกิดซ้ำ อย่ากังวลเลย ห่วงและปัดกวาด “พรรคท่าน” ก่อนเถิด ปัญหารองหัวหน้าพรรคถูกกล่าวหาฉาวโฉ่ยังไม่จบ และยังเรื่องที่พรรคท่านเป็นจำเลยชักนำเกิดรัฐประหารจนประเทศแย่ยังไม่เคลียร์
https://twitter.com/phumtham/status/1520961188292853760
JJNY : 5in1 ขึ้นราคาทั้งตลาด พณ.ตาปริบๆ│ขนส่งขึ้นแล้ว15%│เงาะ-สับปะรดราคาร่วง│ภูมิธรรมบอกมาร์ค│พิเชษฐปัดเรียกเงินล้มรบ.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3320833
ขึ้นราคาแล้วทั้งตลาด ผักชี กก.ละ 100 บาท มะนาว 120 พาณิชย์มองตาปริบๆ บอก ติดป้ายราคาให้ชัดแล้วกัน
วันที่ 2 พ.ค. รายงานจากตลาดสดเทศบาลนครสงขลาจากการสำรวจราคาผักผลไม้หลังจากราคาเชื้อเพลิงปรับขึ้นวันที่ 1 พ.ค. พบว่าผักผลไมทุกชนิดปรับราคาอ้างว่ารับซื้อจากพ่อค้าคนกลางราคาที่สูงแล้ว โดยมีราคาต้นทุนการขนส่งสูง เนื่องจากผักผลไม้ที่จำหน่ายในตลาด จ.สงขลาส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง
“ราคาผักกวางตุ้นจากราคา กก.ละ 25 บาทปรับเป็นราคา กก.30 บาท แตงกวาจาก กก.ละ20บาทปรับ กก.ละ 30 บาท ขึ้นฉ้าย ต้นหอม ผักชี จากราคา กก. 80บาทเป็น กก.ละ 95-100 บาท น้ำมันพืชขวด 1 ลิตรจาก 65เป็น 68 บาท มะนาวราคาทรงๆ ตัว กก.ละ110- 120 บาท”
นางสาวฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์ จ.สงขลาเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปริมาณและราคาสินค้าในตลาดทุกวัน พบว่าสินค้าอั้นราคาไม่อยู่ได้ทยอยปรับมาจากต้นทุนขนส่งที่สูงขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ให้พ่อค้าแม่ขายติดป้ายราคาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภตตัดสินใจซื้อได้ถูกต้อง ไม่ถูกเอารัดเปรียบ
ผู้ประกอบการขนส่งขึ้นค่าบริการแล้ว 15% หลังดีเซลขึ้นราคา
https://ch3plus.com/news/economy/morning/289313
นายพีระพัชร์ จิระวัฒนเอก รองประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังรัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้ขึ้นราคาบริการค่าขนส่ง 15% มีผลไปแล้วทันที คิดเป็น 80 ถึง 90% ของลูกค้าที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นส่วนที่ติดสัญญาเก่า และยอมรับว่าลูกค้าผู้ว่าจ้างบางราย ยังไม่ได้ตัดสินใจทำสัญญาใหม่
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เข้าใจผู้ประกอบการ เนื่องจากแบกรับต้นทุนมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้การขึ้นราคาค่าขนส่ง กระทบต่อการขนส่งทั้งระบบ และทุกขนาดธุรกิจ ตั้งแต่ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายย่อย ไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งต้องรอประเมินอีกสักระยะ ว่าผู้ว่าจ้างหายไปมากน้อยเพียงใด และไทยยังมีคู่แข่งส่งออกอย่างมาเลเซียที่ราคาน้ำมันถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง
ขณะเดียวกันรูปแบบการทำสัญญาขนส่งก็เปลี่ยนไป จากเดิมกำหนดที่ระยะ 3-6 เดือน ลดลงเหลือข้อตกลงในช่วง 30 วัน และกำหนด เพดานราคาน้ำมันไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร ดังนั้น หลังวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ซึ่งหมดระยะมาตรการที่กรมสรรพสามิตได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2565 ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร ที่ทำให้อัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลบี 7 ลดลงจาก 5.99 บาทต่อลิตร เหลือ 3.20 บาทต่อลิตร นั้น
สหพันธ์ฯก็จะประเมินการปรับขึ้นค่าขนส่งอีกครั้ง ซึ่งต้องพิจารณากับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย พร้อมยืนยันแนวทางแก้ไขรัฐบาลสามารถทำได้ในเรื่องของการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่ซ้ำซ้อน และการลดสูตรผสมน้ำมันปาล์มในน้ำมันดีเซลภาคการขนส่ง ซึ่งกลุ่มเรียกร้องมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล และยิ่งประเทศอินโดนีเซียจะขยายมาตรการลดการส่งออกน้ำมันปาล์ม ก็ยิ่งกังวลว่าจะกดดันให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นไปอีก
และในวันนี้ ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้เข้าหารือกับพลตำรวจตรี เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อวางมาตรการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ประกอบการ ที่ลักลอบขนส่งสินค้าเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัญหารุนแรงมากขึ้นหลังลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล โดยพบว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนดอีกเกือบเท่าตัว
ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีส่วนรู้เห็นร่วมกระทำความผิด ทั้งนี้กำหนดให้สหพันธ์ฯ ร่วมกันแจ้งเบาะแสผ่านไลน์กลุ่มแบ่งเป็นรายภูมิภาค โดยมีผู้บังคับการในแต่ละภาคควบคุม และกำหนดให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายภายใน 7 วัน ทั้งทางวินัยและอาญา ไม่เช่นนั้นจะต้องถึงมือทีมเฉพาะกิจ ที่ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงได้แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ พร้อมเร่งประสานไปยังกรมขนส่งทางบกกรณีผู้ประกอบการที่ทำความผิดซ้ำซาก เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการเอาผิด ซึ่งเรื่องการติดแบล็กลิสต์นั้นเป็นเรื่องที่กรมขนส่งทางบกเป็นผู้ดำเนินการ
เกษตรกรร้อง 'เงาะ-สับปะรด' ราคาร่วงสวนทางค่าขนส่ง
https://www.nationtv.tv/news/378871708
พ่อค้าสัปปะรด โคราช - เงาะสีทอง จ.ตราด โอดสินค้าราคาตกต่ำ ขณะที่รถขนส่งผลไม้ขอขึ้นราคาค่าขนส่ง 20%หลังรัฐปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล
1 พฤษภาคม 2565 ภายหลังจากที่คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.มีมติเห็นชอบให้มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป และจะมีการปรับราคาขึ้นเป็นขั้นบันได ไปจนถึง 35 บาทต่อลิตร ก็ทำให้บรรดาผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้าทางการเกษตรต่างๆ เตรียมที่จะปรับราคาค่าขนส่งขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากทนแบกรับภาระไม่ไหว โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โซนขายผลไม้ตลาดเทิดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า บรรดาพ่อค้า แม่ค้าผลไม้ ต่างรู้สึกกังวลใจ เนื่องจากขณะนี้ผู้รับเหมารถขนส่งผลไม้หลายราย เริ่มที่จะมีการแจ้งความประสงค์ที่จะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งผลไม้อีก 20%จนทำให้รายได้จากการขายผลไม้ลดลงเป็นอย่างมาก
โดยนายสิรภพ ถนมวงศ์ อายุ 23 ปี พ่อค้าสัปปะรด ตลาดเทิดไท กล่าวว่า ตนเองนั้นเหมาะรถกระบะไปรับสัปปะรดพันธุ์ตราดสีทอง มาจากจังหวัดตราด โดยจ่ายราคาเหมารถต่อเที่ยวๆ ละ 5,000 บาท สามารถบรรทุกสัปปะรดมาได้ประมาณ 3 ตัน ตอนนี้สัปปะรดก็ราคาตกต่ำ ขายได้กำไรลูกละแค่ 1 บาทเท่านั้น ถือว่ากำไรน้อยมาก และภายหลังจากที่รัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ก็ทำให้ผู้ประกอบการรถขนส่งผลไม้ แจ้งความประสงค์มาว่าในเดือนนี้ จะขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งเป็นเที่ยวละ 5,500-6,000 บาท หรือคิดเป็น 20%ของค่าเหมาขนส่งต่อเที่ยวในปัจจุบัน เพราะทนแบกรับภาระค่าน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นไม่ไหว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ตนเองขาดรายได้ไปเป็นอย่างมาก ถ้าคิดเป็นขายสัปปะรดได้กำไรลูกละ 1 บาท ก็จะทำให้เงินกำไรที่จะได้จากการขายสัปปะรด 1,000 ลูกหายไปทันที ทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนสัก 1-2 เดือน โดยจะยังไม่ขึ้นราคาสัปปะรด เพราะเกรงว่าลูกค้าจะได้รับผลกระทบ แต่หากไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะต้องปรับขึ้นราคาสัปปะรดตามไปด้วยแน่นอน เพราะต้นทุนการขนส่ง ค่าแรง และค่าครองชีพทุกวันนี้ปรับสูงขึ้นกันหมดแล้ว
เกษตรกรชาวสวนเงาะสีทอง เร่งเก็บเงาะสีทองที่เริ่มสุกภายในสวนเงาะส่งขายให้กับล้งรับซื้อเงาะสีทอง ซึ่งช่วงสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์แรกที่เงาะสีทองเริ่มสุกและเก็บเกี่ยวได้ เกษตรกรชาวสวนเงาะต้องหาแรงงานมาช่วยเก็บเงาะสีทองในราคา กก.ละ 3 บาท เริ่มจากการเก็บเงาะบนต้น และต้องมีทีมเก็บทั้งปีนต้นเงาะเพือ่เก็บและการรอนเงาะ คัดเลือกเงาะ โดยแยกเป็นเงาะดี สีสวยแดงสด เป็นเงาะคุณภาพสำหรับส่งขายเป็นเงาะส่งออกต่างประเทศ และเงาะเกรดตกไซต์ หรือเงาะคัด เป็นเงาะผลเล็ก สีไม่สวย มีตำหนิ สำหรับขายเป็นเงาะคัด ไม่สามารถส่งออกต่างประเทศได้
คนเก็บเงาะบอกว่า ในแต่ละวันจะเก็บเงาะกันตั้งแต่เช้า จนเที่ยงวันก็จะเสร็จงานเก็บเงาะแล้ว เพราช่วงบ่ายจะต้องคัดแยกและรวบรวมผลผลิตไว้เพื่อให้พ่อค้ามารับซื้อผลผลิตถึงในสวน โดยแต่ละวันจะมีรายได้จากการเก็บเงาะประมาณ 3,000 – 4,000 บาท จากทีมงานเก็บเงาะ5-6 คน แบ่งรายได้กันคนละประมาณ 500-600 บาท ซึ่งเป็ฯช่วงเงาะเลือกเก็บ เพราเงาะไม่สุกพร้อมกันทั้งต้น ทำให้เก็บได้ค่อนข้างช้า แต่ถ้าเป็นช่วงเงาะสุกหมดต้นจะได้ค่าเก็บกก.ละ 2 บาท เพราะเก็บได้เร็วกว่า แต่รายได้ก็พอกัน วันละ 600-700 บาท นายอนันต์ รื่นจิตร เจ้าของสวนบ้านหนองบัวต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด บอกว่าเงาะสีทองปีนี้ ราคาไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านมา และราคาเงาะปรับลดลงเร็วมาก ผลผลิตเพิ่งออกได้แค่สัปดาห์กว่า ราคาปรับลงจากกก.ละ 38 บาทเหลือแค่20 บาทเศษ เท่านั้น
นางศรีรัตน์ ก๋งเหม็ง เจ้าของล้ง รับซื้อเงาะ ต.สะตออ.เขาสมิง รับซื้อเงาะและผลไม้ต่างๆจากชาวสวน บอกว่าเป็ฯฤดูเก็บเกีย่วเงาะสีทองเข้าสู่สัปดาที่สองแล้ว ราคาปรับลดลงตามจำนวนผลผลิตที่ออก ตอนแรกเงาะราคาแพงเพราะมีผลผลิตน้อย แต่ตอนนี้ผลผลิตออกมากขึ้น ราคาจึงปรับลดลง โดยผลผลิตจะส่งไปขายระเทศเวียตนาม และประเทศจีน ซึ่งจะต้องมีการแคกิ้งให้ดี เพื่อส่งผลผลิตเงาะถึงปลายทางอย่างมีคุณภาพ นางศรีรัตน์ ยังบอกด้วยว่า เหตุราคาเงาะลงเร็วเพราตลาดรับซื้อมีน้อย อยากให้ทางราชการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อระบายผลผลิตเงาะไปประเทศกัมพูชาได้
ภูมิธรรม บอก ‘มาร์ค’ อย่ากังวล พท. กลับไปปัดกวาดพรรคเดิมก่อน เรื่องชักนำ รปห.ก็ยังไม่เคลียร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3320791
ภูมิธรรม บอก ‘มาร์ค’ อย่ากังวล พท. กลับไปปัดกวาดพรรคเดิมก่อน เรื่องชักนำ รปห.ก็ยังไม่เคลียร์
จากกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ สภาที่ 3 ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยังก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร พร้อมสมมุติว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งอีกคงไม่เป็นไรหากประชาชนเลือกมา ทั้งนี้ อย่าย้อนกลับไปสู่พฤติกรรม หรือการกระทำที่เป็นลักษณะการเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัว ให้พวกพ้อง หรือทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงแนวคิดการนิรโทษกรรมด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงเรื่องนี้ว่า แปลกใจเห็นข่าวอดีตนายกฯอภิสิทธิ์แห่ง ปชป.แสดงความห่วงใย “เพื่อไทย” ว่าก้าวไม่ข้าม “ชินวัตร” เกรง “รัฐประหาร” จะเกิดซ้ำ อย่ากังวลเลย ห่วงและปัดกวาด “พรรคท่าน” ก่อนเถิด ปัญหารองหัวหน้าพรรคถูกกล่าวหาฉาวโฉ่ยังไม่จบ และยังเรื่องที่พรรคท่านเป็นจำเลยชักนำเกิดรัฐประหารจนประเทศแย่ยังไม่เคลียร์
https://twitter.com/phumtham/status/1520961188292853760