เภสัชจบใหม่กับการเริ่มงานร้านยา “B” ณ ห้างใจกลางจังหวัดที่ใหญ่สุดในภาคอีสาน

กระทู้นี้ทำเพื่อระบายความในใจ ไม่ได้มีเพื่อจุดประสงค์ใด และขอยืนยันว่าสิ่งที่พิมพ์ต่อไปนี้เป็นความจริงทุกประการ
***ใครคิดว่าจะสมัครงาน ณ ที่นี่คิดดีๆนะคะ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง***
 
เราเป็นเภสัชจบใหม่ มีใบประกอบ เราปฏิเสธงานหลายที่เพื่อรอการเรียกสัมภาษณ์จากที่ร้านนี้ และเมื่อเราได้งาน เราดีใจมาก เราทำงานมาได้เกือบ 5 เดือน ช่วง3เดือนแรกเรามีความสุขมากค่ะ แม้งานจะหนักมาก และต้องรับมือกับลูกค้าทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับคุณหญิงคุณนาย ภริยานายพล ต่างๆจนกระทั่งแม่บ้านแม่ค้า ลูกค้าชาวต่างชาติ
เราต้องตอบคำถาม ให้คำปรึกษาเรื่องยา อาหารเสริม แม้กระทั่งแชมพูยี่ห้อไหนดี ครีมอาบน้ำไหนฟองเยอะสุด กับสินค้าที่มากกว่า 1000 รายการของร้าน เราพยายามหนักมาก เพื่อที่จะให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการอีก ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อร้าน เราไม่ได้ bonus ไม่ได้ intensive ไม่ได้อะไรเลย
เข้าเรื่องที่ถึงจุดที่ทำให้เราต้องลาออก ต้องบอกว่าเหมือนถูกบีบให้ออกมากกว่าค่ะ
เนื่องจากงานเภสัชหนักมาก เทียบกับค่าตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำกว่าที่อื่น เภสัชเป็นทีม manager ร่วมบริหารร้าน จัดการดูแลสต๊อกยา สินค้าในร้าน และอีกทั้งร้านเราร่วมโครงการกับ สปสช.ทุกอย่าง ไม่ว่าจะแจก ATK ยาคุม ถุงยางอนามัย การดูแลผู้ป่วย SI จัดยาส่งยาให้ผู้ป่วย การจ่ายยาผู้ป่วยจิตเวชจากโรงพยาบาลจิตเวช การขายยาหน้าร้าน การให้คำแนะนำอาหารเสริม แม้กระทั่งเวชสำอาง ทุกอย่างนี้เป็นหน้าที่เภสัชก็ว่าได้ เราทำคนเดียว หลายครั้งมากๆๆๆๆๆที่รู้สึกว่าทำงานคนเดียวค่ะ พนักงานไม่ได้ช่วยแบ่งเบาแต่อย่างใด
และที่เราทำงานมาเกือบ 5 เดือน เราก็ได้สังเกตมาตลอดว่าพนักงานมักมาทำงานสาย มาแล้วก็ไปเตรียมตัวแต่งตัว ในห้องพักพนักงาน ออกมาก็ไปกดกาแฟ ซึ่งเราไม่โอเค เพราะเราเป็นคนให้ความสำคัญในเรื่องเวลามากๆ เพราะเริ่มงานมันก็สายแล้วคุณควรพร้อมมาทำงานเลย ซื้อกาแฟมาให้เรียบร้อย ไม่ใช่มาสแกนนิ้วละไปทำธุระส่วนตัวก่อนค่อยทำงาน ยิ่งวันเสาร์อาทิตย์ที่ห้างเปิด 10 โมง แล้วเวลาเข้างานคือ10 โมง ไม่มีใครคิดที่จะมาเตรียมพร้อมก่อนเลยค่ะ ทุกคนเข้างานเลทหรือทำไรตามใจตนเอง (ยกเว้นน้องพนักงานคนนึงนะคะ ที่มักมาเช้าพร้อมๆเรา น้องน่ารัก active ทำงานก่อนเรามา2เดือนค่ะ น้องก็มาระบายให้ฟังค่ะ ว่าคนมาเช้ามันเหนื่อยนะ เตรียมหน้าร้าน เปิดร้าน ทำไรต่างๆ) เราก็เข้าใจ จึงได้ตัดสินใจแจ้งหัวหน้า (ผจก ซึ่งเป็นเภสัชเช่นกัน) แต่กลายเป็นว่าการแจ้งปัญหาในครั้งนี้ทำให้พนักงานอวุโสท่านนึงไม่พอใจมาก เขาทำงานมา 8 ปีค่ะ เข้าใจความสัมพันธุ์ 8 ปีว่าเข้าสนิทและคุยทุกเรื่องกับ ผจก 
ผจก เข้าข้างพนักงานคนนี้อย่างเห็นได้ชัดว่าแตะต้องไม่ได้ พนักงานท่านนี้ก็แสดงออกชัดเจนเลยคือBoycott เรา เรามารู้ทีหลังอีกว่าพนักงานท่านนี้ฟ้องผู้จัดการโดยใส่ความแง่ร้ายกับเราเช่น เราเหวี่ยงลูกค้า ซึ่งเราไม่เคยเลยค่ะ ขนาดโดนลูกค้าขว้างเงินใส่เรายังแค่ก้มหน้าขอโทษ และเก็บไปร้องไห้ที่บ้าน
ยอมรับว่าพลาดที่ไม่เคยแจ้งอะไรหัวหน้าเลย แต่ยังไงหัวหน้าก็เลือกที่จะฟังความข้างเดียวอยู่แล้ว 
เราทำงานมาด้วยความอึดอัด ร้องไห้ทุกวัน จนเป็นซึมเศร้ารุนแรง จากการได้รับอะไรลบๆจากที่ทำงานสะสมมาเรื่อยๆและเพื่อนร่วมงานก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
ทำให้เราตัดสินใจออกจากที่ทำงานกะทันหันกลางเดือน จริงๆก่อนหน้านั้นเราแจ้งเรื่องลาออกกับ ผจก ไปแล้วค่ะ แต่เขาไม่ถามเหตุผลเราสักคำ เหมือนแบบโอเคจะออกกก็ออก เรารู้สึก ผิดหวังมาก กับองค์กรที่ใหญ่ขนาดนี้
เราแค่แจ้งปัญหาที่มันเล็กน้อยมากๆนะคะเอาจริงๆ การมาตรงต่อเวลาและไม่ควรออกไปซื้ออะไรในเวลางานมันก็เป็นกฎที่ ผจก แจ้งเองด้วยซ้ำ แต่คนผิดกลับเป็นเรา เสียใจ เสียงาน ผิดหวังมากๆๆๆ ตอนนี้อยู่ในช่วงพักและฟื้นฟูใจตัวเองค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่