ข้อมูลเหล่านี้แปลมาจากทาง :
https://historyofyesterday.com/decimation-2ca074812341 หากแปลผิด เรียบเรียงผิดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ภาพ : กองทหารโรมัน
กองทัพโรมันเป็นเครื่องจักรสงครามที่มีประสิทธิภาพ ที่สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ กองทหารโรมันเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา และจัดกองกำลังระหว่างการสู้รบ พวกเขามีชื่อเสียงในด้านวินัยทัพ
แต่หากเกิดอะไรขึ้น หากพวกเขาละทิ้งการต่อสู้ หรือไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของพวกเขากันล่ะ?
พวกเขาจะได้รับโทษที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ทางการทหาร
Decimation หมายถึงการประหารชีวิตทหารทุกๆ 10 คน ในแต่ละกองทหาร
ภาพ : ทหารกำลังทุบตีสหายของพวกเขาจนตาย
ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพโรมัน คือความสามารถในการต่อสู้ตามรูปแบบขบวนทัพ กองทหารโรมันล้วนได้รับเสบียงอาหารอย่างไม่ขาดแคลน อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และการฝึกฝนที่ดี มีวินัย และการเชื่อฟังคำสั่งที่มีความสำคัญสูงสุด
หากมีทหารหลบหนีออกจากสนามรบ ไม่มีทางหวนกลับในสายตาของผู้บัญชาการโรมัน
ผู้ถูกกล่าวหาว่าหลนหนี หนีทัพทั้งหมด ไม่ว่าจะมียศ หรือสถานะทางสังคมสูงมากเพียงใด พวกเขาจะถูกจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มชาย 10 คน ผู้ชายแต่ละคนจะต้องสุ่มเลือกไม่ว่าจะด้วยการหยิบก้อนหินจากภายในกระสอบ หรือการดึงเส้นฟาง ผู้ที่คว้า หรือหยิบได้หินสีขาว หรือดึงเส้นฟางที่สั้นที่สุดจะถูกฆ่าตาย
กองทหารโรมันมักต้องเผชิญหน้ากับความตายเสมอ โทษประหารชีวิตไม่ได้น่าหวาดกลัวสำหรับพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวคือ Decimation อันเป็นบทลงโทษที่มีความโหดร้ายมาก
ทหารที่จับได้หินสีขาว หรือเส้นฟางที่สั้นที่สุดจะถูกเพื่อน สหายร่วมรบที่เหลือทั้ง 9 คนจะทำการรุมทำร้ายจนเสียชีวิตด้วยกระบอง ลองนึกภาพว่าตัวคุณต้องฆ่าเพื่อน สหายร่วมรบที่ร่วมทัพมาหลายปี ทานอาหารร่วมกัน และต่อสู้เคียงข้างกัน
หากโชคดีอาจถูกลงโทษเพียงแค่ ถูกขับไล่ออกจากกองทัพเป็นเวลาสองสามวัน พวกเขาต้องตั้งค่ายอาศัยอยู่นอกป้อม และต้องเอาชีวิตรอดด้วยข้าวบาร์เลย์ดิบ
การลงโทษแบบ Decimation มีน้อยครั้งมาก
ภาพ : กองทหารโรมันกำลังยืนรอ Decimation ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ชาวโรมันไม่ค่อยได้ใช้ Decimation มากนัก เพราะนั้นหมายถึงการสูญเสียทหารที่มีประสบการณ์ ดังนั้นจึงมีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่มีการใช้ Decimation เท่าที่มีการจดบันทึกไว้
นายพลแห่งโรมัน มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส สั่งให้มีการลงโทษด้วย Decimation ภายหลังจากที่ทหารโรมันพ่ายแพ้ ทาสนักสู้ สปาร์ตาคัส ใน 71 ปีก่อนคริสตกาล
จูเลียส ซีซาร์ ข่มขู่ว่าจะสังหารกองทัพที่ 9 ของเขาด้วย Decimation ในช่วงสงครามกลางเมืองโรมัน (49-45 ปีก่อนคริสตกาล)
มาร์ก แอนโธนี ภายหลังการพ่ายแพ้ โดย จักรวรรดิพาร์เธีย (Parthian Empire) ใน 36 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีการสั่ง Decimation เช่นกัน
กรณีที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Decimation คือ Theban legion ในปี ค.ศ.286 กองทัพคริสเตียนกลุ่มนี้ได้ทำการปฏิเสธที่จะข่มเหงเพื่อนคริสเตียนด้วยกัน จักรพรรดิแม็กซิมิลเลียน ทรงสั่งให้ทำการ Decimation แต่พวกเขายังคงปฏิเสธที่จะเชื่อฟังจักรพรรดิอีก จักรพรรดิจึงโกรธเคืองจึงสั่ง Decimation อีกรอบหนึ่ง
แต่ทหารยังคงต่อต้าน ดังนั้นจึงเกิดการ Decimation ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งทหารทั้งหมดจำนวน 6,600 นาย ถูกสังหาร เมืองในสวิตเซอร์แลนด์เปลี่ยนชื่อเป็น นักบุญ มอริส (Saint Maurice) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการของพวกเขา Mauritius
บทสรุป
Decimation ไม่ได้หายไปพร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
ตัวอย่างบางเหตุการณ์ของ Decimation ภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ได้แก่ :
นายพล Luigi Cadorna (ลุยจิ คาดอร์นา) แห่งอิตาลีลงโทษทหารอิตาลีที่มีผลงานต่ำกว่าที่ควรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-1918)
เลออน ทรอตสกี ลงโทษเหล่าทหารหนีสงครามระหว่างสงครามกลางเมืองรัสเซีย (ค.ศ. 1917-1923)
นายพลรัสเซียทำการลงโทษทหารขี้ขลาดในระหว่างยุทธการที่สตาลินกราด (ค.ศ. 1942-1943)
Decimation : การลงโทษที่โหดร้ายที่สุดของกองทัพโรมัน
แต่หากเกิดอะไรขึ้น หากพวกเขาละทิ้งการต่อสู้ หรือไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของพวกเขากันล่ะ?
พวกเขาจะได้รับโทษที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ทางการทหาร
หากมีทหารหลบหนีออกจากสนามรบ ไม่มีทางหวนกลับในสายตาของผู้บัญชาการโรมัน
ผู้ถูกกล่าวหาว่าหลนหนี หนีทัพทั้งหมด ไม่ว่าจะมียศ หรือสถานะทางสังคมสูงมากเพียงใด พวกเขาจะถูกจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มชาย 10 คน ผู้ชายแต่ละคนจะต้องสุ่มเลือกไม่ว่าจะด้วยการหยิบก้อนหินจากภายในกระสอบ หรือการดึงเส้นฟาง ผู้ที่คว้า หรือหยิบได้หินสีขาว หรือดึงเส้นฟางที่สั้นที่สุดจะถูกฆ่าตาย
กองทหารโรมันมักต้องเผชิญหน้ากับความตายเสมอ โทษประหารชีวิตไม่ได้น่าหวาดกลัวสำหรับพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวคือ Decimation อันเป็นบทลงโทษที่มีความโหดร้ายมาก
การลงโทษแบบ Decimation มีน้อยครั้งมาก
นายพลแห่งโรมัน มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส สั่งให้มีการลงโทษด้วย Decimation ภายหลังจากที่ทหารโรมันพ่ายแพ้ ทาสนักสู้ สปาร์ตาคัส ใน 71 ปีก่อนคริสตกาล
จูเลียส ซีซาร์ ข่มขู่ว่าจะสังหารกองทัพที่ 9 ของเขาด้วย Decimation ในช่วงสงครามกลางเมืองโรมัน (49-45 ปีก่อนคริสตกาล)
มาร์ก แอนโธนี ภายหลังการพ่ายแพ้ โดย จักรวรรดิพาร์เธีย (Parthian Empire) ใน 36 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีการสั่ง Decimation เช่นกัน
กรณีที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Decimation คือ Theban legion ในปี ค.ศ.286 กองทัพคริสเตียนกลุ่มนี้ได้ทำการปฏิเสธที่จะข่มเหงเพื่อนคริสเตียนด้วยกัน จักรพรรดิแม็กซิมิลเลียน ทรงสั่งให้ทำการ Decimation แต่พวกเขายังคงปฏิเสธที่จะเชื่อฟังจักรพรรดิอีก จักรพรรดิจึงโกรธเคืองจึงสั่ง Decimation อีกรอบหนึ่ง
แต่ทหารยังคงต่อต้าน ดังนั้นจึงเกิดการ Decimation ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งทหารทั้งหมดจำนวน 6,600 นาย ถูกสังหาร เมืองในสวิตเซอร์แลนด์เปลี่ยนชื่อเป็น นักบุญ มอริส (Saint Maurice) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการของพวกเขา Mauritius
บทสรุป
Decimation ไม่ได้หายไปพร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
ตัวอย่างบางเหตุการณ์ของ Decimation ภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ได้แก่ :
นายพล Luigi Cadorna (ลุยจิ คาดอร์นา) แห่งอิตาลีลงโทษทหารอิตาลีที่มีผลงานต่ำกว่าที่ควรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-1918)
เลออน ทรอตสกี ลงโทษเหล่าทหารหนีสงครามระหว่างสงครามกลางเมืองรัสเซีย (ค.ศ. 1917-1923)
นายพลรัสเซียทำการลงโทษทหารขี้ขลาดในระหว่างยุทธการที่สตาลินกราด (ค.ศ. 1942-1943)