วันนี้เป็นวันแรกในรอบ
ครึ่งปีมั้งครับ ที่ผมอยู่บ้าน
เพราะ..ขี้เกียจ ขอใช้คำนี้ละกัน
ไหนๆก็ไหนๆ เลยอยากเล่านิทานเด็กให้อ่านผ่อนคลาย
กัน ขอแค่มุมปากผู้ฟัง
ขยับ ผู้เล่าก็มีความสุขแล้ว
ขอบคุณครับ
-
-
-
-
ขอวาร์ปไปที่หมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่ง
ที่ๆซึ่งมีเศรษฐีผู้ฟังภาษา
สัตว์ได้
แม้จะมีความพิเศษชนิดนี้
มาแต่เกิด แต่เศรษฐีหนุ่มก็
ไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้
และ...เพราะรู้ภาษาสัตว์
เขาจึงรู้ว่า นกต้องการอะไร จิ้งหรีดต้องการอะไร
หากช่วยได้ เขาก็จะไม่เพิกเฉย
เมื่อฤดูแล้งมาเยือน
สัตว์ต่างๆจึงมักจะมาชุมนุม
อยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่
เศรษฐีเตรียมไว้ให้
แม้จะมีความสามารถพิเศษ
แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใช้มัน
พร่ำเพรื่อนัก ด้วยไม่อยาก
ให้ตัวเองหมกมุ่นเกินไป
จนในตอนสายของวันหนึ่ง
ขณะที่เขาพาภรรยาสาวสวยออกไปช่วยคนงาน
หว่านข้าว
พอแดดเริ่มแรง เขาจึงพา
ภรรยาเข้าไปพักใต้ร่มไม้
ในตอนนั้นเองที่คนงาน
ได้นำอ้อยควั่นมาให้กิน
ชายหนุ่มนั่งกินไปสักพัก
ก็สังเกตเห็นว่า ชานอ้อยของภรรยานั้นมีมดมารุม
ตอมกันมากมาย แต่ของตัว
เขากลับมีแค่เล็กน้อย แถมตอนหลังยังเปลี่ยนเป้าหมายไปหาของภรรยาด้วย
ต่อมความอยากรู้จึงทำงาน
ขึ้นมาทันที ดังนั้นเขาจึง
ตะแคงหูฟังเสียงเล็กๆของ
มดฝูงนั้น ก็ได้ยินว่า..
"เอ๊ะ..เมื่อกี้เอ็งกินกองโน้น
อยู่ไม่ใช่เรอะ "
" ก็..อือ.."
" เอ้า..แล้วมาแย่งพวกข้า
ทำไมเล่า ก็กินของเอ็งไปซี้"
" ปู้โธ่..ใครจะไปกินได้ เล่น
ดูดน้ำหวานจนเกลี้ยงขนาด
นั้น...เอาน่า..แบ่งๆกันเอ็งกินคนเดียวไม่หมดหรอก"
ได้ยินอย่างนั้น ท่านเศรษฐี
ก็ได้แต่ยิ้มกับลมกับฟ้า
ก่อนจะพาภรรยากลับบ้าน
อีกหลายวันจากนั้น
หลังจากสั่งงานที่จะทำในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อย ท่านเศรษฐีก็นึกอยากจะขี่ม้า จึงเดินไปสั่ง
คนงานให้เตรียมม้าให้
ซึ่งคอกม้านี้ก็อยู่ใกล้ๆกับ
คอกวัวเขาจึงแวะไปยืนดู
ลูกวัวที่เพิ่งตกลูกใหม่
ก็ได้ยินคำสนทนาของสัตว์
ทั้งสองคอกดังนี้
"เฮ้อ..ข้าละอิจฉาเอ็งจริงๆ
เลยม้าเอ๊ย..เช้ามาก็ มีหญ้ามารอถึงปาก
น้ำก็มีคนมาอาบให้ ขนก็มี
คนแปรง...ผิดกะข้า หน้า
ฝนก็ต้องอยู่ในไร่ในนาตั้ง
แต่เช้าถึงค่ำทุกวัน หน้าแล้งคิดว่าจะได้พัก แต่ก็ไม่..ยังมีงานลากเกวียนขน
สินค้าไปขายอีก นอนก็นอน
ตากยุง หญ้าก็หากินเอง
กรำทั้งแดดกรำทั้งฝน "
"เพื่อนวัวของข้าเอ๋ย ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่สงสารเพื่อนนะ
แต่วิถีแห่งเราเป็นเช่นนี้เอง
เอาอย่างนี้เถอะ...พรุ่งนี้เพื่อนก็ลองทำเป็นนอนป่วยลุกไม่ขึ้นดู ข้าว่าเขาคงยอมให้เพื่อนได้นอนพักบ้างหรอก"
ได้ยินอย่างนั้น ท่านเศรษฐี
ก็ยิ้มกับลมกับฟ้าแล้วก็เดิน
กลับไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
" ท่านเศรษฐีขอรับ วัวเจ้า
แก่นมันแย่แล้วขอรับ ลุกก็ไม่ขึ้น หญ้าก็ไม่กิน มันคง
ป่วยหนักแน่ๆเลย "
" เรอะ "
ได้ยิ้มกับลมกับฟ้าอีกรอบแล้วสิท่านเศรษฐี
" ไม่เป็นไรๆ ..วันนี้เราให้คน
ทุกคน สัตว์ทุกตัวที่นี่ได้หยุดพักกันหนึ่งวัน แล้วมารับเงินพิเศษกันด้วย กลับไปบอกทุกคนไป อ้อ..ให้เด็กๆมากันด้วยนะ เราจะแจกขนม "
" ฮ้า..เย้ๆๆ ไปเดี๋ยวนี้ขอรับ
โว้ะ!!! ดีใจจริงโว้ย "
ท่านเศรษฐีมองตามหลังคน
งานไปอย่างพอใจ
พักใหญ่เสียงไชโยโห่ฮิ้ว
ก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ
" พวกนั้นเป็นอะไรกันเหรอ
คะคุณพี่ ส่งเสียงดังมากเลย"
" ไม่มีอะไรหรอกจ้ะเมีย พอดีพี่เห็นว่า พวกเขาทำงานกันเหน็ดเหนื่อยมานาน ก็เลยอยากให้ได้พักกันบ้าง คนได้พัก ช้าง ม้า
วัว ควาย ก็จะได้พักด้วย "
"ดีจังค่ะ งั้น..วันนี้คุณพี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ไหนๆก็ได้พักกันแล้ว "
"ก็..มีที่อยากกินอยู่นะ"
" อะไรหรือคะ บอกมาเถอะค่ะ น้องจะทำให้สุดฝีมือเลย "
" พี่..อยากกินเมียครับ ."
" ว้าย..."
(ถึงเวลาตาคนเขียนยิ้มกับลมกับฟ้ามั่งละ😁)
อย่า...อย่าเพิ่งคิดว่าจะจบ
ไม่ง่ายขนาดนั้นครับ😄
เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไป
อย่างชื่นมื่น จวบจนเช้าวัน
รุ่งขึ้น
" ท่านเศรษฐีขอรับ..วัวเจ้า
แก่นยังไม่หายป่วยเลยขอรับ ทำยังไงดี "
" เรอะ..."
เอ้า..เรอะอีกแล้ว
" ไม่เป็นไร..วัวไอ้แก่นยังป่วยอยู่ ก็เอาม้าไอ้โช ไปไถแทน วันสองวันไม่เป็นไร
หรอก "
" ขอรับ "
ท่านเศรษฐีมองตามหลังม้า
ไอ้โชที่ถูกจูงออกจากคอกไป ..แล้วก็เช่นเคย ยิ้มกับลมกับฟ้า(อีกครั้ง)
เย็นนั้น เมื่อคนงานนำม้ามาเข้าคอก ก็พบว่าท่าน
เศรษฐีมารออยู่ก่อนแล้ว
" ไม่มีอะไร เราแค่มาเดินเล่น .เอาม้าไอ้โชเข้าคอก
แล้วก็ไปพักเถอะ "
" ขอรับ.."
เรื่องของคนจบลงเท่านี้
แต่เรื่องของม้ากับวัวยังครับ
เพราะทันทีที่ไม้กั้นคอก
ถูกยกมาสอดช่องล็อก
วัวไอ้แก่นก็เอ่ยปากถามม้า
ไอ้โชขึ้นทันทีว่า
" เพื่อนเอ๋ย..วันนี้เพื่อนเป็น
อย่างไรบ้าง ทำงานอยู่กลางแดดทั้งวัน เหนื่อยมากหรือเปล่า"
คิดดูสิครับ ม้าไอ้โชนี้เคย
แต่เสวยสุข ริ้นก็ไม่เคยไต่
ไรก็ไม่เคยตอม
ครั้นต้องไปตกระกำลำบาก
ขนาดนี้จักเป็นเช่นไร
" โอย..แก่นเพื่อนรัก เรา
สบายดีเพื่อน ก็อาจจะมี
เหนื่อยบ้าง เพราะไม่เคยแต่
เราทนไหว จะสงสารก็แต่
เพื่อนนี่แหละ เพราะตะกี้
ท่านเศรษฐีมาสั่งคนงานว่า
ถ้าพรุ่งนี้ เพื่อนวัวยังไม่หาย
ป่วย ให้เอาไปส่งที่โรงเชือด
ได้เลย "
แหม...ได้ยินแบบนี้
ท่านเศรษฐีจะทำอะไรได้ดี
กว่ายิ้มกับลมกับฟ้ามั้ยน้อ..
-
-
-
-
จบแล้วดีกว่า
(จะไปยิ้มกับลมกับฟ้ามั่ง)
....เพราะเธอคือวัว...
ครึ่งปีมั้งครับ ที่ผมอยู่บ้าน
เพราะ..ขี้เกียจ ขอใช้คำนี้ละกัน
ไหนๆก็ไหนๆ เลยอยากเล่านิทานเด็กให้อ่านผ่อนคลาย
กัน ขอแค่มุมปากผู้ฟัง
ขยับ ผู้เล่าก็มีความสุขแล้ว
ขอบคุณครับ
-
-
-
-
ขอวาร์ปไปที่หมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่ง
ที่ๆซึ่งมีเศรษฐีผู้ฟังภาษา
สัตว์ได้
แม้จะมีความพิเศษชนิดนี้
มาแต่เกิด แต่เศรษฐีหนุ่มก็
ไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้
และ...เพราะรู้ภาษาสัตว์
เขาจึงรู้ว่า นกต้องการอะไร จิ้งหรีดต้องการอะไร
หากช่วยได้ เขาก็จะไม่เพิกเฉย
เมื่อฤดูแล้งมาเยือน
สัตว์ต่างๆจึงมักจะมาชุมนุม
อยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่
เศรษฐีเตรียมไว้ให้
แม้จะมีความสามารถพิเศษ
แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใช้มัน
พร่ำเพรื่อนัก ด้วยไม่อยาก
ให้ตัวเองหมกมุ่นเกินไป
จนในตอนสายของวันหนึ่ง
ขณะที่เขาพาภรรยาสาวสวยออกไปช่วยคนงาน
หว่านข้าว
พอแดดเริ่มแรง เขาจึงพา
ภรรยาเข้าไปพักใต้ร่มไม้
ในตอนนั้นเองที่คนงาน
ได้นำอ้อยควั่นมาให้กิน
ชายหนุ่มนั่งกินไปสักพัก
ก็สังเกตเห็นว่า ชานอ้อยของภรรยานั้นมีมดมารุม
ตอมกันมากมาย แต่ของตัว
เขากลับมีแค่เล็กน้อย แถมตอนหลังยังเปลี่ยนเป้าหมายไปหาของภรรยาด้วย
ต่อมความอยากรู้จึงทำงาน
ขึ้นมาทันที ดังนั้นเขาจึง
ตะแคงหูฟังเสียงเล็กๆของ
มดฝูงนั้น ก็ได้ยินว่า..
"เอ๊ะ..เมื่อกี้เอ็งกินกองโน้น
อยู่ไม่ใช่เรอะ "
" ก็..อือ.."
" เอ้า..แล้วมาแย่งพวกข้า
ทำไมเล่า ก็กินของเอ็งไปซี้"
" ปู้โธ่..ใครจะไปกินได้ เล่น
ดูดน้ำหวานจนเกลี้ยงขนาด
นั้น...เอาน่า..แบ่งๆกันเอ็งกินคนเดียวไม่หมดหรอก"
ได้ยินอย่างนั้น ท่านเศรษฐี
ก็ได้แต่ยิ้มกับลมกับฟ้า
ก่อนจะพาภรรยากลับบ้าน
อีกหลายวันจากนั้น
หลังจากสั่งงานที่จะทำในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อย ท่านเศรษฐีก็นึกอยากจะขี่ม้า จึงเดินไปสั่ง
คนงานให้เตรียมม้าให้
ซึ่งคอกม้านี้ก็อยู่ใกล้ๆกับ
คอกวัวเขาจึงแวะไปยืนดู
ลูกวัวที่เพิ่งตกลูกใหม่
ก็ได้ยินคำสนทนาของสัตว์
ทั้งสองคอกดังนี้
"เฮ้อ..ข้าละอิจฉาเอ็งจริงๆ
เลยม้าเอ๊ย..เช้ามาก็ มีหญ้ามารอถึงปาก
น้ำก็มีคนมาอาบให้ ขนก็มี
คนแปรง...ผิดกะข้า หน้า
ฝนก็ต้องอยู่ในไร่ในนาตั้ง
แต่เช้าถึงค่ำทุกวัน หน้าแล้งคิดว่าจะได้พัก แต่ก็ไม่..ยังมีงานลากเกวียนขน
สินค้าไปขายอีก นอนก็นอน
ตากยุง หญ้าก็หากินเอง
กรำทั้งแดดกรำทั้งฝน "
"เพื่อนวัวของข้าเอ๋ย ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่สงสารเพื่อนนะ
แต่วิถีแห่งเราเป็นเช่นนี้เอง
เอาอย่างนี้เถอะ...พรุ่งนี้เพื่อนก็ลองทำเป็นนอนป่วยลุกไม่ขึ้นดู ข้าว่าเขาคงยอมให้เพื่อนได้นอนพักบ้างหรอก"
ได้ยินอย่างนั้น ท่านเศรษฐี
ก็ยิ้มกับลมกับฟ้าแล้วก็เดิน
กลับไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
" ท่านเศรษฐีขอรับ วัวเจ้า
แก่นมันแย่แล้วขอรับ ลุกก็ไม่ขึ้น หญ้าก็ไม่กิน มันคง
ป่วยหนักแน่ๆเลย "
" เรอะ "
ได้ยิ้มกับลมกับฟ้าอีกรอบแล้วสิท่านเศรษฐี
" ไม่เป็นไรๆ ..วันนี้เราให้คน
ทุกคน สัตว์ทุกตัวที่นี่ได้หยุดพักกันหนึ่งวัน แล้วมารับเงินพิเศษกันด้วย กลับไปบอกทุกคนไป อ้อ..ให้เด็กๆมากันด้วยนะ เราจะแจกขนม "
" ฮ้า..เย้ๆๆ ไปเดี๋ยวนี้ขอรับ
โว้ะ!!! ดีใจจริงโว้ย "
ท่านเศรษฐีมองตามหลังคน
งานไปอย่างพอใจ
พักใหญ่เสียงไชโยโห่ฮิ้ว
ก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ
" พวกนั้นเป็นอะไรกันเหรอ
คะคุณพี่ ส่งเสียงดังมากเลย"
" ไม่มีอะไรหรอกจ้ะเมีย พอดีพี่เห็นว่า พวกเขาทำงานกันเหน็ดเหนื่อยมานาน ก็เลยอยากให้ได้พักกันบ้าง คนได้พัก ช้าง ม้า
วัว ควาย ก็จะได้พักด้วย "
"ดีจังค่ะ งั้น..วันนี้คุณพี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ไหนๆก็ได้พักกันแล้ว "
"ก็..มีที่อยากกินอยู่นะ"
" อะไรหรือคะ บอกมาเถอะค่ะ น้องจะทำให้สุดฝีมือเลย "
" พี่..อยากกินเมียครับ ."
" ว้าย..."
(ถึงเวลาตาคนเขียนยิ้มกับลมกับฟ้ามั่งละ😁)
อย่า...อย่าเพิ่งคิดว่าจะจบ
ไม่ง่ายขนาดนั้นครับ😄
เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไป
อย่างชื่นมื่น จวบจนเช้าวัน
รุ่งขึ้น
" ท่านเศรษฐีขอรับ..วัวเจ้า
แก่นยังไม่หายป่วยเลยขอรับ ทำยังไงดี "
" เรอะ..."
เอ้า..เรอะอีกแล้ว
" ไม่เป็นไร..วัวไอ้แก่นยังป่วยอยู่ ก็เอาม้าไอ้โช ไปไถแทน วันสองวันไม่เป็นไร
หรอก "
" ขอรับ "
ท่านเศรษฐีมองตามหลังม้า
ไอ้โชที่ถูกจูงออกจากคอกไป ..แล้วก็เช่นเคย ยิ้มกับลมกับฟ้า(อีกครั้ง)
เย็นนั้น เมื่อคนงานนำม้ามาเข้าคอก ก็พบว่าท่าน
เศรษฐีมารออยู่ก่อนแล้ว
" ไม่มีอะไร เราแค่มาเดินเล่น .เอาม้าไอ้โชเข้าคอก
แล้วก็ไปพักเถอะ "
" ขอรับ.."
เรื่องของคนจบลงเท่านี้
แต่เรื่องของม้ากับวัวยังครับ
เพราะทันทีที่ไม้กั้นคอก
ถูกยกมาสอดช่องล็อก
วัวไอ้แก่นก็เอ่ยปากถามม้า
ไอ้โชขึ้นทันทีว่า
" เพื่อนเอ๋ย..วันนี้เพื่อนเป็น
อย่างไรบ้าง ทำงานอยู่กลางแดดทั้งวัน เหนื่อยมากหรือเปล่า"
คิดดูสิครับ ม้าไอ้โชนี้เคย
แต่เสวยสุข ริ้นก็ไม่เคยไต่
ไรก็ไม่เคยตอม
ครั้นต้องไปตกระกำลำบาก
ขนาดนี้จักเป็นเช่นไร
" โอย..แก่นเพื่อนรัก เรา
สบายดีเพื่อน ก็อาจจะมี
เหนื่อยบ้าง เพราะไม่เคยแต่
เราทนไหว จะสงสารก็แต่
เพื่อนนี่แหละ เพราะตะกี้
ท่านเศรษฐีมาสั่งคนงานว่า
ถ้าพรุ่งนี้ เพื่อนวัวยังไม่หาย
ป่วย ให้เอาไปส่งที่โรงเชือด
ได้เลย "
แหม...ได้ยินแบบนี้
ท่านเศรษฐีจะทำอะไรได้ดี
กว่ายิ้มกับลมกับฟ้ามั้ยน้อ..
-
-
-
-
จบแล้วดีกว่า
(จะไปยิ้มกับลมกับฟ้ามั่ง)