....ระวังดีๆ ยุคนี้ มีแนวคิดผิดๆ ทิฏฐิผิดๆ ทัศนคติผิดๆ แปลกปลอม โผล่ออกมาผสมกับคำสอนเดิมของพุทธมากมาย ทำให้หลักธรรมแท้ๆดั้งเดิมโดนบิดเบือนไปมาก เช่น แนวคิดเรื่อง ...จิตเดิม , สมเด็จองค์ปฐม , เจ้ากรรมนายเวร , ฐานของจิต , การถอดจิต , มีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์หลังจากดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ก็เข้าไปสิงสถิตย์อยู่ในนิพพาน... เป็นต้น ..ยังมีอีกหลายๆอย่าง ฯลฯ..ซึ่งไม่มีในพระไตรปิฏกและอรรถกถา พระพุทธเจ้าก็ไม่เคยทรงสั่งสอน....แต่พวกเหล่าปัญญานิ่มทั้งหลาย ชอบจะเชื่อ /...แต่ คำสอนตรงๆแท้ๆ ของพระพุทธเจ้า ไม่ชอบจะเชื่อ...เลอะเทอะกันไปหมด..นี่คือความเสื่อมของศาสนาพุทธเราที่แท้จริง เสื่อมๆๆ ลงไปเรื่อยๆๆ เพราะของปลอม แทรกผสมเข้ามาเรื่อยๆๆ..อาจจะเป็นเหตุให้คนที่เชื่อผิดๆแบบนี้ หลงเวียนว่ายตายเกิดไปในวัฏฏะสงสาร อีกยาวนานนับชาติไม่ถ้วน
- (๑) พุทธนิกายเถรวาท ไม่มีคำสอนเรื่องจิตเดิม คำสอนนี้เพิ่งแทรกเข้ามาภายหลังในพุทธมหายาน เมื่อประมาณ พ.ศ. 1000 โดยเอาคติเรื่องปรมาตมันของฮินดูมาผสม
- (๒) ไม่มีคำสอนเรื่องสมเด็จองค์ปฐมในพุทธนิกายเถรวาท วัฏฏะสงสารไม่สิ้นสุด ไม่มีเบื้องต้น เบื้องปลาย ..พระพุทธเจ้ามีนับไม่ถ้วน จากอดีต ไปสู่อนาคต
- (๓) ไม่มีคำสอนเรื่องเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นคนอื่นๆคอยจ้องจะจองเวร ...แต่คนที่มีจิตผูกเวรผูกพยาบาทต่อกัน ก็มีสำหรับบางคน บางราบ.. แต่ไม่ใช่หมายถึงว่า คนที่จ้องจะจองเวรนั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนที่โดนถูกจองเวร ...กรรมของใครๆก็ตาม คนนั้นก็เป็นเจ้าของกรรมของตนเอง เท่านั้น
- (๔) ฐานของจิต ก็ไม่มี เพราะจิตมันทรงตัวมันเองได้ มันจะเกิดๆดับๆไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องมีฐานอะไร ไม่ว่าจิตจะขึ้นสู่วิถี หรือ ไม่ขึ้นสู่วิถี ก็ตาม
- (๕) การถอดจิต ก็ไม่มีจริง เป็นแค่นิมิตหลอกจิต เป็นภาพหลอกลวงคล้ายๆความฝัน เท่านั้น...พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ถอดจิตออกจากร่างกาย.. แต่ทรงสอนให้ถอดกิเลสออกจากจิต เท่านั้น
- (๖) พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย หลังจากจริมกจิตสุดท้ายดับในขณะจิตสุดท้ายที่ดับขันธ์ปรินิพพาน ก็ดับหายไปเลย ไม่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในนิพพานหรือในที่ใดๆ ในภพภูมิใดๆอีก ..(( เรื่องที่หลวงตามหาบัวเอามาเล่าในประวัติหลวงปู่มั่น ว่า ก่อนที่หลวงปู่มั่นหรือหลวงปู่อื่นๆ ใกล้จะบรรลุอรหันต์นั้น... ปรากฏมีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต่างๆที่ดับขันธ์ไปแล้วในอดีต มากมายนับไม่ถ้วน มาปรากฏเยี่ยมเยียน ในนิมิต นั้น...ที่จริงคือ ไม่ใช่เหล่าพวกท่านผู้สูงสุดนั้น จะโผล่มาจากดินแดนิพพาน...แต่ นั่นเป็นนิมิตเปรียบเทียบ หรือ ธรรมนิมิต ที่มาปรากฏกับจิต เท่านั้น จิตปรุงแต่งขึ้นมาเองตามปัจจัยของธรรมที่กำลังดำเนินในจิตในตอนนั้น )) ... ที่เราเรียกว่า พระพุทธเจ้า หรือ พระอรหันต์ หรือ ใครต่างๆ เป็นแค่สมมุติบัญญัต ที่ใช้เรียกบุคคล ที่มีขันธ์ ๕ เพื่อให้เข้าใจกัน ..เรียกว่า เป็น " ปุคคลบัญญัต " ซึ่งไม่ใช่ตัวตนจริงๆของบุคคลที่ถูกเรียก ..เมื่อขันธ์ ๕ ของพระอรหันต์ทั้งหลายแตกดับไปเวลาใด นั่นคือความเป็นพระอรหันต์ก็สิ้นสุดลงตรงนั้น ณ เวลานั้น ไม่มีอะไรสืบต่ออีก ..ไม่มีพระอรหันต์ใดๆ ไปอาศัยอยู่ในนิพพานหรือในที่ใดๆอีก ...เปรียบเหมือนดวงไฟที่ดับไปแล้ว ก็หมดลงแค่นั้น...
$$ ระวังดีๆ ยุคนี้มีคำสอนแปลกปลอมผิดๆผสมเข้ามาเรื่อยๆ เช่น เรื่องสมเด็จองค์ปฐม, เจ้ากรรมนายเวร, ฐานของจิต, การถอดจิต $$
- (๑) พุทธนิกายเถรวาท ไม่มีคำสอนเรื่องจิตเดิม คำสอนนี้เพิ่งแทรกเข้ามาภายหลังในพุทธมหายาน เมื่อประมาณ พ.ศ. 1000 โดยเอาคติเรื่องปรมาตมันของฮินดูมาผสม
- (๒) ไม่มีคำสอนเรื่องสมเด็จองค์ปฐมในพุทธนิกายเถรวาท วัฏฏะสงสารไม่สิ้นสุด ไม่มีเบื้องต้น เบื้องปลาย ..พระพุทธเจ้ามีนับไม่ถ้วน จากอดีต ไปสู่อนาคต
- (๓) ไม่มีคำสอนเรื่องเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นคนอื่นๆคอยจ้องจะจองเวร ...แต่คนที่มีจิตผูกเวรผูกพยาบาทต่อกัน ก็มีสำหรับบางคน บางราบ.. แต่ไม่ใช่หมายถึงว่า คนที่จ้องจะจองเวรนั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนที่โดนถูกจองเวร ...กรรมของใครๆก็ตาม คนนั้นก็เป็นเจ้าของกรรมของตนเอง เท่านั้น
- (๔) ฐานของจิต ก็ไม่มี เพราะจิตมันทรงตัวมันเองได้ มันจะเกิดๆดับๆไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องมีฐานอะไร ไม่ว่าจิตจะขึ้นสู่วิถี หรือ ไม่ขึ้นสู่วิถี ก็ตาม
- (๕) การถอดจิต ก็ไม่มีจริง เป็นแค่นิมิตหลอกจิต เป็นภาพหลอกลวงคล้ายๆความฝัน เท่านั้น...พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ถอดจิตออกจากร่างกาย.. แต่ทรงสอนให้ถอดกิเลสออกจากจิต เท่านั้น
- (๖) พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย หลังจากจริมกจิตสุดท้ายดับในขณะจิตสุดท้ายที่ดับขันธ์ปรินิพพาน ก็ดับหายไปเลย ไม่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในนิพพานหรือในที่ใดๆ ในภพภูมิใดๆอีก ..(( เรื่องที่หลวงตามหาบัวเอามาเล่าในประวัติหลวงปู่มั่น ว่า ก่อนที่หลวงปู่มั่นหรือหลวงปู่อื่นๆ ใกล้จะบรรลุอรหันต์นั้น... ปรากฏมีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต่างๆที่ดับขันธ์ไปแล้วในอดีต มากมายนับไม่ถ้วน มาปรากฏเยี่ยมเยียน ในนิมิต นั้น...ที่จริงคือ ไม่ใช่เหล่าพวกท่านผู้สูงสุดนั้น จะโผล่มาจากดินแดนิพพาน...แต่ นั่นเป็นนิมิตเปรียบเทียบ หรือ ธรรมนิมิต ที่มาปรากฏกับจิต เท่านั้น จิตปรุงแต่งขึ้นมาเองตามปัจจัยของธรรมที่กำลังดำเนินในจิตในตอนนั้น )) ... ที่เราเรียกว่า พระพุทธเจ้า หรือ พระอรหันต์ หรือ ใครต่างๆ เป็นแค่สมมุติบัญญัต ที่ใช้เรียกบุคคล ที่มีขันธ์ ๕ เพื่อให้เข้าใจกัน ..เรียกว่า เป็น " ปุคคลบัญญัต " ซึ่งไม่ใช่ตัวตนจริงๆของบุคคลที่ถูกเรียก ..เมื่อขันธ์ ๕ ของพระอรหันต์ทั้งหลายแตกดับไปเวลาใด นั่นคือความเป็นพระอรหันต์ก็สิ้นสุดลงตรงนั้น ณ เวลานั้น ไม่มีอะไรสืบต่ออีก ..ไม่มีพระอรหันต์ใดๆ ไปอาศัยอยู่ในนิพพานหรือในที่ใดๆอีก ...เปรียบเหมือนดวงไฟที่ดับไปแล้ว ก็หมดลงแค่นั้น...