JJNY : “ชวน”แนะฝ่ายรัฐบาล│หวั่นสถานการณ์ยูเครน น้ำมันดิบปรับเพิ่ม│ชี้ขึ้นค่าขนส่ง กระทบราคาสินค้าแน่│แห่ยื่นกู้กยศ.ทะลัก

“ชวน” แนะ ฝ่ายรัฐบาล เมื่อรู้อีกฝ่ายไม่เป็นองค์ประชุมให้ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3183067
 
 
“ชวน” กรีด สภาฯ ล่มทำเสียหาย แนะ รัฐบาลเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เป็นองค์ประชุมให้ ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อม
 
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบรรยากาศในช่วงสัปดาห์ก่อนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่มีวาทะค่อนข้างมาก จะมีการปรามสมาชิกอย่างไร ว่า มีระเบียบข้อบังคับอยู่ แต่โดยทั่วไปความร่วมมืออยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ เห็นได้ชัดในเรื่องของกฎหมายของรัฐบาลทุกฉบับสามารถผ่านไปได้หมด ไม่มีค้างแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะกฎหมายเป็นเครื่องมือกลไกในการบริหาร ส่วนญัตติที่ค้างอยู่เป็นเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ปกติเรื่องเหล่านี้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ช่วงสัปดาห์หลังเห็นได้ชัดว่าองค์ประชุมไม่ครบ โดยเฉพาะช่วงใกล้ปิดประชุมหรือในการประชุมนัดพิเศษวันศุกร์ ทำให้เกิดความเสียหาย ตนเคยขอร้องว่าหากไม่อยากประชุมวันศุกร์ เราประชุมวันพุธหรือวันพฤหัสบดีให้ค่ำหน่อยได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องประชุมวันศุกร์ แต่เวลาปฏิบัติจริงนั้นยาก เพราะสมาชิกส่วนหนึ่งก็จองตั๋วเครื่องบินแล้ว
 
เมื่อถามว่า ในช่วงนี้มีวาทะที่เป็นการปะทะกัน นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรที่ทำให้กระบวนการนิติบัญญัติมีอุปสรรค จะทำให้มีปัญหาบ้างก็ทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น ตนย้ำอยู่เสมอว่าเวลามีค่า ฉะนั้นภารกิจที่เราต้องทำให้จบก็ต้องทำให้จบ
 
เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหาเรื่องสภาฯ ล่มอย่างไร นายชวน กล่าวว่า ความจริงตอนนี้ก็ชัดเจน เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจว่าถึงอย่างไรก็จะให้ไม่ครบองค์ประชุม ฝ่ายรัฐบาลก็ควรจะเตรียมมาให้พร้อม เมื่อรู้ว่าโจทย์คืออะไรคงจะทำให้เตรียมตัวมาดีขึ้น
 
เมื่อถามว่า การอภิปรายวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ จะมีการวางมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เขาได้ไปคุยเรื่องกรอบเวลากันแล้ว คือฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 8 ชั่วโมง โดยมีข้อแม้ว่าฝ่ายรัฐบาลเมื่อครบ 8 ชั่วโมงแล้วยังสามารถพูดต่อได้ ฉะนั้นไม่ต้องคุมเรื่องเวลา ใครจะพูดยาวเท่าไหร่ก็เป็นสิทธิของผู้นั้น แต่การอภิปรายจะต้องอยู่ในกรอบข้อบังคับ โดยทั่วไปความร่วมมืออยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
 
เมื่อถามถึงกรณี 3 ส.ส.ที่ถูกพรรคพลังประชารัฐขับออกและยังไม่มีสังกัดพรรค นายชวน กล่าวว่า ต้องรอความคืบหน้าสัปดาห์นี้
 


หวั่นสถานการณ์ยูเครน น้ำมันดิบปรับเพิ่มกว่า 1% สูงสดรอบ 7 ปี ทองขึ้น 2.43%
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3182872
 
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ตลาดหลัก ทำให้ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 7 ปี หรือสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากความหวั่นวิตกถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจจะรุกรานยูเครน
 
ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือปรับเพิ่มขึ้น 1.2% มาปิดที่ 95.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สถิติราคาน้ำมันดิบที่สูงที่สุดครั้งก่อนอยู่ที่ 96.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเดือนตุลาคม 2557 ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสก็ปรับเพิ่มขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ 94.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งใกล้แตะสถิติสูงสุดเดิมที่ 94.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเดือนกันยายน 2557
 
นักวิเคราะห์ระบุว่าหากเกิดการเคลื่อนไหวทางทหารขึ้นจริง ราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะนี้ราคาน้ำมันยังคงอ่อนไหวอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิดต่อไป
 
ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นดังกล่าวยังมีขึ้นขณะที่องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปก+ พยายามที่จะเพิ่มผลผลิต แม้จะมีการให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการผลิตขึ้นอีก 400,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือนมีนาคมก็ตามที
 
ด้านราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 2.43% มาอยู่ที่ 1,851.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์


 
ส.อ.ท.ชี้ขึ้นค่าขนส่ง กระทบราคาสินค้าแน่
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_291207/

ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ชี้ รถบรรทุกขึ้นค่าขนส่งอีก 20% กระทบราคาสินค้าแน่ รัฐต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจให้คนมีรายได้
 
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กรณีที่ภาคขนส่งออกมาเรียกร้องในเรื่องของราคาน้ำมัน หากไม่ได้ตามที่กำหนด จะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งอีกร้อยละ 20 นั้น จะกระทบต่อราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน รวมทั้งผู้ประกอบการSMEs ซึ่งไม่ได้ทำสัญญาค่าขนส่งระยะยาว เหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการกำหนดราคาค่าขนส่งล่วงหน้าเฉลี่ย 1-3 เดือน และแน่นอนว่าเมื่อต้นทุนสูงขึ้นแนวโน้มราคาสินค้าก็ยังจะคงสูงอย่างต่อเนื่อง
 
แต่อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาตามความต้องการบริโภคในตลาดด้วย ซึ่งเวลานี้ต้องยอมรับว่ารายได้ของประชาชนลดลง กำลังในการซื้อสินค้ามีน้อยลง มองว่าภาครัฐต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ อาจแก้ด้วยมาตรการภาษีหรือการอุดหนุน แต่ต้องยอมรับว่ารัฐบาลมีช่องในการใช้เครื่องมือด้านภาษีไม่มากนัก ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปิดประเทศผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าและมีเม็ดเงินเข้าประเทศ เวลานั้นรายได้ของประชาชนจะสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่