**********
สรุปความเห็นส่วนตัว: ทิศทางน้ำมัน ระดับราคาWTI น้ำมันดิบ จะอยู่ที่ 80+-10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับกระทู้น้ำมันก่อนหน้า https://ppantip.com/topic/41658714 อย่างไรก็ดีส่วนตัวมองไม่เหมือนกับบางบทความว่าปรับลดกำลังการผลิตถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ที่มองต่างคือควรพิจารณา ความเสี่ยงที่ว่าการลดกำลังการผลิต อาจไม่มากถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้นมาบ้างแล้ว

 Spoil เหตุผลประกอบเหมือนกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื่องจาก ฝั่งของผู้ต้องการขึ้นต้องการพยุงราคาน้ำมัน เพื่อป้องกันราคาน้ำมันลงไปมากเหมือนผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น จะมีกำลังมากกว่า ในช่วงนี้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจะมีตอบสนองจากฝั่งที่ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม มีการปรับลดกำลังการผลิตอีกถ้าระดับราคาอยู่ต่ำลงไปกว่า 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผู้ต้องการให้น้ำมันลง เช่น รัฐบาลสหรัฐ เพื่อลดเงินเฟ้อ
ผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น เช่น ผู้ผลิตน้ำมัน บริษัทน้ำมัน
***อีกประการจากการสังเกตความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน WTI ค่อนข้างสอดคล้องกับ ดัชนีดาวโจนส์ เมื่อ ดัชนีดาวโจนส์ลด WTI จะลดตาม เมื่อดัชนี ฯ เพิ่ม WTI จะเพิ่มตาม
**********
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นมากกว่า 5% สู่ระดับประมาณ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันจันทร์ ท่ามกลางการเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นว่า OPEC+ กำลังพิจารณาที่จะลดการผลิตสูงสุด 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมในสัปดาห์นี้เพื่อหนุนราคา*****

ถ้าปรับลดครั้งนี้จะถือเป็นการตัดลดรายเดือนติดต่อกันเป็นครั้งที่สองของOPEC+ หลังจากลดการผลิตลง 100,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม

เพื่อรับมือกับ (ปัจจัยเชิงลบต่อราคาน้ำมัน) ปัญหาเศรษฐกิจมหภาค ราคาน้ำมันบันทึกการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ในเดือนกันยายน เนื่องจากการตึงตัวของการเงินโดยกลุ่มเศรษฐกิจกลางรายใหญ่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการพลังงานที่ลดลง ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ราคาดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับ COVID ในผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของจีนก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเช่นกัน

เรียบเรียงจาก
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-02/opec-will-consider-output-cut-of-more-than-1-million-barrels
https://tradingeconomics.com/commodity/crude-oil