JJNY : 'โทนี่'กลุ้มมาก เด็กฉีดไขว้│รถบรรทุกชี้ลดภาษีน้อยไป│Kirin ถอนตัวธุรกิจเมียนมา│‘ปูติน’ย้ำ‘รัสเซีย’ไม่ต้องการสงคราม

'โทนี่' ฉะรัฐบาล ติดซิโนแวค เหมือนติดยาบ้า กลุ้มมากให้เด็กฉีดไขว้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6891732
  
 
‘โทนี่’ ฉะรัฐบาล ติดซิโนแวค เหมือนติดยาบ้า กลุ้มมากให้เด็กฉีดไขว้ แนะใช้ ‘ไฟเซอร์’ พิสูจน์มาแล้วที่อเมริกา จี้ใช้ให้ถูกที่ถูกทาง
  
วันที่ 16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 ก.พ.65 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมสนทนาในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ในหัวข้อ “จุดสิ้นสุด xxxx พลิกเกมสู้ของแพง” ตอนหนึ่งแสดงความคิดเห็นถึงการฉีดวัคซีนโควิดในเด็ก ความว่า ที่ฟังแล้วกลุ้มมาก คือ ให้เด็กฉีดซิโนแวคแล้วตามด้วยไฟเซอร์ สรุปจะให้เด็กฉีด หรือจะเอาค่าคอม ทำไมไม่เอาไฟเซอร์ที่พิสูจน์มาแล้วที่อเมริกา รัฐบาลติดซิโนแวคเหมือนติดยาบ้าเลย ใช้ให้ถูกที่ถูกทาง
 
โทนี่ กล่าวต่อว่า ถามจริงๆ ถ้าวันนี้ลูกหลานผมจะฉีด จะถามว่า ฉีดไหม ผมก็บอกอย่าฉีด รอวัคซีนออกมาใหม่ โอมิครอน ผสมไข้หวัดใหญ่ น่าฉีด แต่วัคซีนวันนี้เป็นวัคซีนของอดีต ที่เชื้อมันรุนแรง วันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เอาภาพเก่าทิ้ง เอาภาพปัจจุบัน วันนี้ ติดเป็นหมื่น ตาย 24 คน เพราะโรคประจำตัว อายุมาก ที่เหลือเดินตัวปลิวเลย เหมือนหวัด
  

 
รถบรรทุกชี้ลดภาษีดีเซล 3 เดือนน้อยไป
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_292475/
 
ประธานสหพันธ์การขนส่งฯ มอง มติครม.หั่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 เดือนน้อยไป ต้อง 6 เดือนถึง 1 ปี วอน ดูแลขายปลีกเบนซิน แก๊สโซฮอล์ด้วย
 
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น. ว่า ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ได้ชะลอการปรับขึ้นค่าขนส่ง 20% ออกไปก่อน หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตรเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกลดลง 3 บาทต่อลิตร
 
ทั้งนี้ส่วนตัวพอใจระดับหนึ่งกับมติครม.ที่ออกมา ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการภาคขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม มองว่า การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 เดือนนั้นน้อยไป ต้องลด 6 เดือนถึง 1 ปี ดังนั้นทางสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ยังคงเดินหน้าเรียกร้องเรื่องราคาน้ำมันต่อไป พร้อมกันนี้อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ด้วย เนื่องจากราคาขายปลีกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อประชาชนด้วยเช่นกัน



ยักษ์ใหญ่อย่างเบียร์ Kirin ก็อยู่ไม่ไหว! ประกาศถอนตัวจากธุรกิจร่วมทุนทหารเมียนมา
https://brandinside.asia/kirin-will-withdraw-from-myanmar-business/

อยู่ไม่ได้แล้ว! เบียร์ Kirin ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นตัดสินใจถอนตัวจากการร่วมทุนทำธุรกิจกับทหารเมียนมาแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ยื้อกันไปมาราว 1 ปีหลังจากที่กองทัพเมียนมาตัดสินใจรัฐประหารยึดอำนาจจากอองซาน ซูจี ประธาน Kirin ถึงกับประกาศขอระงับการร่วมทุนชั่วคราว
 
จากนั้นเวลาก็ผ่านล่วงมา 1 ปีแล้ว ล่าสุด Kirin ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมาว่า ได้มีประชุมบอร์ดและตัดสินใจถอนตัวจากการทำธุรกิจในเมียนมาแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการร่วมทุนกับหุ้นส่วนอย่าง MEHPCL (Myanmar Ecnomic Holdings Public Company Limited) ในประกาศระบุถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021 นั้น ทาง Kirin ได้แสดงความเสียใจที่ทหารยึดอำนาจในเมียนมา ซึ่งขัดต่อนโยบายสิทธิมนุษยชนของ Kirin โดยการระงับทุนในช่วงปีที่แล้ว ก็คือการระงับการให้บริการและการจัดการทุนให้กับทหาร
 
Kirin ระบุว่า ทางบริษัทได้พยายามใช้ทุกมาตรการที่จะทำให้เศรษฐกิจและสังคมของเมียนมาเดินหน้าต่อไปได้ ในการนี้รวมถึงการหารือกับ MEHPCL ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการอนุญาโตตุลาการเพื่อหาทางระงับการร่วมทุนในสิงคโปร์ด้วย ปัจจุบัน Kirin ได้เริ่มกระบวนการหารือกับ MEHPCL ในการถอนตัวจากธุรกิจเมียนมาด้วย ซึ่งก็จะนำไปสู่การยุติการร่วมทุนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในการนี้ Kirin พิจารณาถึงทางเลือกในการขายต่อให้กับภาคีที่สามด้วย
 
การถอนตัวของ Kirin นั้น ยืนยันว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานในท้องที่ โดยจะให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมพิจารณาประเด็นนี้พร้อมกับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนด้วย Kirin ตั้งเป้าว่าจะให้เรื่องทั้งหมดยุติภายในเดือนมิถุนายนนี้
 
หลังจากที่เมียนมาเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 2011 บริษัทต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึง Kirin ก็เข้ามาสู่ตลาดนี้ โดยหวังว่าจะมีการเติบโตมากขึ้น แต่นับจากทหารยึดอำนาจ ธุรกิจต่างประเทศหลายแห่งต่างประกาศถอนตัวกันถ้วนหน้า ท่าทีของ Kirin ดังกล่าวจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นที่จะยุบการร่วมทุนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีทหารเมียนมาเข้ามาเกี่ยวข้องเชื่อมโยงด้วย

ที่มา – NikkeiKirin
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่