คือเราก็เคยคิดนะว่า การที่เราได้รับการบริการที่ไม่ดีหรือพนักงานบริการไม่ว่าจะบริการใด ๆ ก็ตาม หากไม่ดีหรือกิริยาท่าทางที่แสดงให้เราเห็นต่อหน้า หรือน้ำเสียงในการให้บริการ แล้วเราจะ Feedback ทันที ทั้งต่อหน้าและทั้งผ่านฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อน ๆคิดว่าเราเป็น "คนเรื่องมาก " "คนชอบหาเรื่อง"
คนที่ปล่อยวางไม่เป็นหรือเปล่า หรือปล่อยผ่านเลยไปก็ไม่มีปัญหาอะไร
ด้วยความที่เราก็เคยทำงานบริการมาก่อน เอาตรง ๆนะแค่น้ำเสียงของเรายังต้องระมัดระมังมาก ๆ แค่เสียงหายใจดังก็มีลูกค้าคอมเพลน "หาว่าไม่พอใจเค้า" หรือการพูดที่ต้องสุภาพและไม่แสดงกิริยาท่าทางที่ไม่ดีต่อหน้าลูกค้า นอกจากว่าลูกค้าคนนั้นจะมาแนวแบบไร้เหตุผล โวยวาย แต่เราก็ต้องสุภาพกับเค้าเพื่อให้เค้าอารมณ์เย็นลงหรือช่วยเหลือตามที่เค้าต้องการ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะต้องให้หัวหน้ามาดูแลต่อ บริษัทที่เราเคยทำงานเค้าก็เทคแคร์ลูกค้าทุกคนนะเพราะสอนพนักงานว่า ไปมีปัญหากับลูกค้า 1 คน มันไม่จบแค่นั้นไง เพราะ 1 คน บอกต่อ 2 3 4 คน และต่อ ๆ ไปอีก ยิ่งโซเชียลสมัยนี้คือเร็วมาก บริษัทแม่จะไม่โอเคหากมีปัญหาจากคนในองค์กร แต่การทำโทษก็ไม่ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังเหตุผลของพนักงานหากเกินปัญหากับลูกค้าจริงๆ ก็ต้องฟังความกันด้วยเหตุผล แต่ก็มีเพื่อนพนักงานให้ออกบ่อยๆ เพราะคำพูดหรือท่าทางกับลูกค้า แค่มีคอมเพลนมา 3 ครั้งก็ให้เขียนใบลาออกแล้ว
แต่พอเราเจอพนักงานบริการทำสีหน้าท่าทาง และคำพูดที่ดูไม่สุภาพโดยน้ำเสียง สายตา ถ้าไม่มากเกินไปเราจะไม่ฟีดแบคอะไร ณ ตรงนั้นแต่ละพีดแบคไปบริษัทที่ดูแลพนักงานคนนี้อยู่โดยตรง หรือถ้าหากพนักงานแสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อหน้าแบบแรงๆ ก็จะฟีดแบค ณ ตรงนั้นไปเหมือนกัน โดยมากจะถามว่า "คุณเป็นอะไรหรือ" หรือ "คุณมีปัญหาอะไรกับผมหรือไม่"
อย่างงานบริการ 7-11 เอง ก็เจอพนักงานพูดจาไม่ดี ในบางครั้งด้วยความที่พอจะมีเบอร์ติดต่อเจ้าของสาขานั้น เราก็จะให้พนักงานคนที่พูดกับเราแบบแย่ ๆ ประชุมสายคุยกับเจ้าของสาขาโดยตรง และให้เค้าอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น จริงหรือไม่จริงตามที่เราบอกแจ้งไป และทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา
บางทีเราก็อยากให้พนักงานคนนั้นได้อธิบายให้เจ้าของฟังโดยตรงว่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์นั้นคืออะไร เราพูดไม่ดีก่อนหรือไม่ หรือเราพูดไม่ดีกับเค้าก่อนหรือไม่ จนทำให้เค้าฟีลขาด เพราะการควบคุมอารมณ์ของคนแตกต่างกัน
โดยเฉพาะ "วัยรุ่น" อายุประมาณ 12-18 ปี สำหรับเราถึงแค่ 18 ก็ถือว่าเป็นวัยรุ่นนะ เพราะถ้ามากกว่านี้คือไม่ใช่แล้วพอจะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากพอสมควรแล้ว บางทีเราก็จะมองว่าเป็นเพราะวัยฮอร์โมน ก็จะคิดไปว่าเป็นเพราะเค้ายังวัยรุ่น อารมณ์ฉุนเฉียวเลยมากพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ เพราะบางคร้งเด็กในวัยนี้บางคนก็สุภาพ และไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางที่แย่ๆ เลย เป็นเพราะพื้นฐานทางครอบครัวด้วยแหละ
แต่ในบางครั้งเราว่า เราดูจะมากไป เว่อไป หรือเกินไปหรือไม่ อะไรข้ามผ่านไปได้ก็ช่างมัน คำ่วา "ช่างมันเถอะ" ในบางครั้งก็ทำให้อะไร ๆ ต่ออะไร จบไปง่าย ๆ เพราะเราเองก็กลัวนะ หากวันใดวันหนึ่งพนักงานที่เราร้องเรียนไปเกิดอารมณ์ชั่ววูบมา "ฆ่า" เราจะทำอย่างไร ก็น่าคิดนะเพราะคนเราคิดต่างกัน
ใครมีนิสัย"ร้องเรียนการบริการของพนักงาน" บ่อยๆ บ้าง มันดีหรือไม่ดี หรือว่าเราปล่อยวางไม่เป็นอะ
คนที่ปล่อยวางไม่เป็นหรือเปล่า หรือปล่อยผ่านเลยไปก็ไม่มีปัญหาอะไร
ด้วยความที่เราก็เคยทำงานบริการมาก่อน เอาตรง ๆนะแค่น้ำเสียงของเรายังต้องระมัดระมังมาก ๆ แค่เสียงหายใจดังก็มีลูกค้าคอมเพลน "หาว่าไม่พอใจเค้า" หรือการพูดที่ต้องสุภาพและไม่แสดงกิริยาท่าทางที่ไม่ดีต่อหน้าลูกค้า นอกจากว่าลูกค้าคนนั้นจะมาแนวแบบไร้เหตุผล โวยวาย แต่เราก็ต้องสุภาพกับเค้าเพื่อให้เค้าอารมณ์เย็นลงหรือช่วยเหลือตามที่เค้าต้องการ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะต้องให้หัวหน้ามาดูแลต่อ บริษัทที่เราเคยทำงานเค้าก็เทคแคร์ลูกค้าทุกคนนะเพราะสอนพนักงานว่า ไปมีปัญหากับลูกค้า 1 คน มันไม่จบแค่นั้นไง เพราะ 1 คน บอกต่อ 2 3 4 คน และต่อ ๆ ไปอีก ยิ่งโซเชียลสมัยนี้คือเร็วมาก บริษัทแม่จะไม่โอเคหากมีปัญหาจากคนในองค์กร แต่การทำโทษก็ไม่ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังเหตุผลของพนักงานหากเกินปัญหากับลูกค้าจริงๆ ก็ต้องฟังความกันด้วยเหตุผล แต่ก็มีเพื่อนพนักงานให้ออกบ่อยๆ เพราะคำพูดหรือท่าทางกับลูกค้า แค่มีคอมเพลนมา 3 ครั้งก็ให้เขียนใบลาออกแล้ว
แต่พอเราเจอพนักงานบริการทำสีหน้าท่าทาง และคำพูดที่ดูไม่สุภาพโดยน้ำเสียง สายตา ถ้าไม่มากเกินไปเราจะไม่ฟีดแบคอะไร ณ ตรงนั้นแต่ละพีดแบคไปบริษัทที่ดูแลพนักงานคนนี้อยู่โดยตรง หรือถ้าหากพนักงานแสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อหน้าแบบแรงๆ ก็จะฟีดแบค ณ ตรงนั้นไปเหมือนกัน โดยมากจะถามว่า "คุณเป็นอะไรหรือ" หรือ "คุณมีปัญหาอะไรกับผมหรือไม่"
อย่างงานบริการ 7-11 เอง ก็เจอพนักงานพูดจาไม่ดี ในบางครั้งด้วยความที่พอจะมีเบอร์ติดต่อเจ้าของสาขานั้น เราก็จะให้พนักงานคนที่พูดกับเราแบบแย่ ๆ ประชุมสายคุยกับเจ้าของสาขาโดยตรง และให้เค้าอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น จริงหรือไม่จริงตามที่เราบอกแจ้งไป และทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา
บางทีเราก็อยากให้พนักงานคนนั้นได้อธิบายให้เจ้าของฟังโดยตรงว่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์นั้นคืออะไร เราพูดไม่ดีก่อนหรือไม่ หรือเราพูดไม่ดีกับเค้าก่อนหรือไม่ จนทำให้เค้าฟีลขาด เพราะการควบคุมอารมณ์ของคนแตกต่างกัน
โดยเฉพาะ "วัยรุ่น" อายุประมาณ 12-18 ปี สำหรับเราถึงแค่ 18 ก็ถือว่าเป็นวัยรุ่นนะ เพราะถ้ามากกว่านี้คือไม่ใช่แล้วพอจะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากพอสมควรแล้ว บางทีเราก็จะมองว่าเป็นเพราะวัยฮอร์โมน ก็จะคิดไปว่าเป็นเพราะเค้ายังวัยรุ่น อารมณ์ฉุนเฉียวเลยมากพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ เพราะบางคร้งเด็กในวัยนี้บางคนก็สุภาพ และไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางที่แย่ๆ เลย เป็นเพราะพื้นฐานทางครอบครัวด้วยแหละ
แต่ในบางครั้งเราว่า เราดูจะมากไป เว่อไป หรือเกินไปหรือไม่ อะไรข้ามผ่านไปได้ก็ช่างมัน คำ่วา "ช่างมันเถอะ" ในบางครั้งก็ทำให้อะไร ๆ ต่ออะไร จบไปง่าย ๆ เพราะเราเองก็กลัวนะ หากวันใดวันหนึ่งพนักงานที่เราร้องเรียนไปเกิดอารมณ์ชั่ววูบมา "ฆ่า" เราจะทำอย่างไร ก็น่าคิดนะเพราะคนเราคิดต่างกัน