JJNY : ม็อบชาวนาดัน 3ข้อเรียกร้อง│ภรรยากองหลังดอร์ทมุนด์ถูกทำร้ายที่ภูเก็ต│วีระร้องกมธ.ปราบโกงสอบดร.เอ้│BTS ลุยฟ้อง กทม.

ม็อบชาวนาดัน 3 ข้อเรียกร้องแก้หนี้เกษตรกร จับตาเข้าครม. 15 ก.พ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3175901
 
 
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณหน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระรามหก บริเวณเลียบคลอง เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย จาก 36 จังหวัดปักหลักเพื่อเรียกร้องให้เเก้ปัญหาหนี้สินทางการเกษตร กองทุนฟื้นฟู ลูกหนี้ธนาคารรัฐ 4 แห่ง เป็นวันที่ 17 แล้ว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา หลังเคยมาเรียกร้องครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562
 
โดยมีข้อเรียกร้องคือ 
 
1. ขอให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ชะลอการฟ้องบังคับคดียึดทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินของสมาชิก เร่งดำเนินการโอนหนี้สินเข้าสู่กระบวนการการจัดการหนี้สินของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) พร้อมกับขยายเพดานวงเงินการซื้อหนี้ NPA จาก 2.5 ล้านบาทขยายเป็น 5 ล้านบาทเสนอเข้าสู่เข้ามติครม.
 
2. ขอให้ลดหนี้ปลดหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกฟก. กรณีที่ตาย พิการ ทุพพลภาพ ชราภาพ เจ็บป่วย เป็นโรคเหลือไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ได้บัญญัติไว้ช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ (กฟก.)
 
3. ขอให้ตรวจสอบปัญหาทุจริตคอรัปชั่นพร้อมกับปฏิรูปการบริหารงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ขึ้นราคาพืชผลการเกษตรถูกลงทุกวัน แต่ราคาปุ๋ยกลับแพงขึ้น ประชาชนที่เดือดร้อนที่ทำเกษตรกรจึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ช่วยเหลือและเยียวยารวมถึงพักชำระหนี้
 
ต่อมาเวลา 14.14 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณพื้นที่ชุมนุมมีทั้งเสื่อ ที่นอน หมอน มุ้ง จำนวนมากวางเรียงรายตามบริเวณเลียบคลอง โดยมีผู้ชุมนุมนั่ง นอน ดื่มน้ำ กินข้าวและพูดคุยกันตามบริเวณจุดต่างๆ โดยมีการสวมหน้ากากอนามัยกันตลอดแม้กระทั่งตอนนอน และส่วนใหญ่มีพัดติดตัวเพื่อช่วยคลายร้อน บริเวณต้นไม้และเสาจะมีเสื้อผ้าของผู้ร่วมชุมนุมเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก และมีรถเครื่องเสียงและลำโพงตามบริเวณต่างๆ
 
นางปิ่นแก้ว แก้วสุกแท้ ผู้ประสานงานเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่มาชุมนุมกันเป็นเรื่องเดิมที่เรามาติดตาม ไม่ใช่เรื่องใหม่ พวกเราเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งกองทุนนี้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรในด้านการฟื้นฟูอาชีพและแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร จำนวนสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนกับกองทุนฟื้นฟูมีจำนวนทั้งหมด 500,000 ราย
  
เจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดก็คือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)และสหกรณ์การเกษตร โดยใน 500,000 รายนี้ ตรวจสอบพบว่าสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้กว่า 320,000 ราย และในจำนวนนี้ มีสมาชิกที่ควรได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนเนื่องจากกำลังจะถูกฟ้อง 56,000 ราย และส่วนใหญ่ก็ขึ้นทะเบียนไม่ถูกต้องกับกองทุนฟื้นฟู จึงต้องแก้ไขก่อนอันดับแรก
  
ทั้งนี้กระบวนการที่จะให้ความช่วยเหลือได้ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2564 แต่จนถึงเดือนธันวาคม 2564 ก็ยังไม่เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พวกเราอยู่เฉยไม่ได้ จึงเป็นที่มาให้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะถูกผลักดันเข้าครม.ในวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งถ้าเรื่องนี้เข้าครม.แล้ว และสมาชิกกองทุนฟื้นฟูใน 30,000 รายได้รับความช่วยเหลือเรื่องการเซ็นสัญญาใหม่ เราก็จะกลับทันที
 
เราไม่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลยกหนี้ให้เรา แค่ผ่อนคลายให้เราได้หายใจได้ คือ 1.ไม่มีดอกเบี้ย 2. หนี้ 15-20 ปีเราก็ยังพอไหวเพราะจ่ายปีละครั้ง หากผิดนัดชำระหนี้ ก็ไม่ต้องปรับ เพราะอย่างไรเราก็ต้องชำระกองทุนอยู่แล้ว เพราะโฉนดได้โอนเป็นชื่อกองทุน เรายอมขนาดว่าถ้ากองทุนชำระหนี้แทนพวกเรา เราก็พร้อมจะโอนโฉนดให้เป็นชื่อกองทุน และมาทำสัญญาเช่าซื้อกัน เราชำระคืนหมดเมื่อไหร่กองทุนก็ะโอนกลับมาเป็นชื่อเรา ถ้าใครไม่ชำระก็เป็นของกองทุนไป เรายอมกันขนาดนี้” นางปิ่นแก้วกล่าว และว่า ทั้งนี้ยังมีผู้ที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอีก 3,000 กว่าคนเพื่อให้คนเก่าได้กลับบ้าน เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่มาแล้วจะจบในอาทิตย์เดียว
 
ต่อมาเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้ผู้เข้าร่วมชุมนุม ซึ่งปริมาณข้าวกล่องไม่เพียงพอ จนต้องนำมาเพิ่มในภายหลัง



ภรรยาฮุมเมลส์ กองหลังดอร์ทมุนด์ ถูกทำร้ายร่างกายที่ภูเก็ต
https://www.prachachat.net/spinoff/sport/news-861997
 
ภรรยานักบอลดังทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาถ่ายรายการที่ประเทศไทย ถูกคนร้ายตีที่ศีรษะระหว่างเดินเล่นบนชายหาดที่ภูเก็ต
 
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า “เคธี ฮุมเมลส์” อายุ 34 ปี ภรรยาของ “มัตส์ ยูลีอาน ฮุมเมลส์” เซ็นเตอร์แบ็กทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ใช้เวลา 3 สัปดาห์ในประเทศไทย เพื่อถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ “Battle of the Reality Stars

ต่อมาเธอเปิดเผยกับสื่อเยอรมนีเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายในประเทศไทยว่า “ฉันอยากจะกล่าวอำลาสถานที่อันงดงามแห่งนี้ ด้วยการเดินเล่นบนชายหาด ฉันจะไม่มีวันลืมช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน” เธอกล่าวและว่า “ฉันโดนตีที่ด้านหลังศีรษะ คนร้ายตีฉันหลายครั้ง เมื่อฉันก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย และฉันก็เริ่มต่อสู้กลับ”

ตามรายงานของสื่อเยอรมนี ทีมงานรายการทีวีได้แจ้งตำรวจเมื่อเธอกลับมาพบพวกเขา เคธีได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับคนร้ายต่อตำรวจพร้อมแจ้งความ จากนั้นเธอจึงบินต่อไปยังดูไบในเย็นวันเดียวกัน เพื่อพักผ่อนและใช้เวลากับลูกชาย

ทีมงานรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็โล่งใจที่เธอไม่เป็นอะไรไป และทำได้ดีแล้วตามสถานการณ์
 
ล่าสุด เคธี ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ดูไบ ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับฉัน ฉันถูกปล้น ประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันไม่รู้ว่าฉันจะรอดไหม แต่ฉันมีเหตุผลที่ดีที่สุดในการต่อสู้ นั่นคือลูก


 
‘วีระ สมความคิด’ หอบเอกสารร้อง ‘กมธ.ปราบโกง’ สอบ ‘ดร.เอ้’ เอี่ยวงานวิจัยทำเงินมหาศาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3176435

‘วีระ สมความคิด’ หอบเอกสารร้อง ‘กมธ.ปราบโกง’ สอบ ‘ดร.เอ้’ ชี้เอี่ยวงานวิจัยทำเงินมหาศาล ด้าน ‘เสรีพิศุทธ์’ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
 
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษก กมธ.ป.ป.ช. กรณีเรื่องร้องเรียน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีเหตุอันควรสงสัยว่า ทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติ

โดยนายวีระกล่าวว่า ได้ทราบจากสื่อมวลชนว่า กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบนายสุชัชวีร์ จึงนำข้อมูลที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์มามอบให้ กมธ.เพื่อใช้ในการตรวจสอบ ซึ่งเอกสารที่เชื่อว่า กมธ.ยังไม่มี เช่น หนังสือกู้ยืมเงินเพื่อไปศึกษาต่อปริญญาเอก และเอกสารการยื่นทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งขณะนั้นนายสุชัชวีร์ยังไม่ได้เป็นอธิการบดี แต่เป็นบอร์ดของการรถไฟ โดยทรัพย์สินตอนนั้นไม่น่าจะถึง 10 ล้าน ทั้งนี้ เชื่อว่าหาก กมธ.เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเหล่านี้มาตรวจสอบ จะตรวจสอบได้อย่างสำเร็จ ซึ่งขอเรียนว่า กับนายสุชัชวีร์ไม่ได้มีปัญหากัน สนับสนุนมาตลอด แต่ที่ต้องมาตรวจสอบเพราะได้รับเรื่องร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนสาเหตุที่มายื่นตรวจสอบนายสุชัชวีร์ในตอนนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการดิสเครดิตนายสุชัชวีร์ แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ จึงได้นำเอกสารมายื่นกับ กมธ.วันนี้ โดยเอกสารที่นำมายื่นแก่ กมธ. มีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถระบุชื่อได้ 10 คน นอกจากนั้น ยังมีเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำเงินรายได้มหาศาล

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมานานพอสมควร ซึ่งบุคคลที่ร้องเรียนเป็นบุคคลในมหาวิทยาลัยเพียงแต่เขาขอร้องไม่ให้เปิดเผยชื่อ ดังนั้น จึงมีเอกสารหลักฐานพอสมควรในการตรวจสอบ ทั้งนี้ เมื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระแล้วได้มอบหมายให้นายธีรัจชัยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งในขณะนั้นพรรคก้าวไกลยังไม่ได้ส่งตัวผู้ว่าฯกทม. แต่ปรากฏว่าเมื่อประกาศตัวแล้วมีเสียงซุบซิบว่า เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการสอบทุจริตประพฤติมิชอบเหมือนบุคคลทั่วไป ต่อมานายธีรัจชัยได้ขอถอนตัวในที่ประชุม กมธ.แล้ว และได้มอบหมายให้นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นผู้รับผิดชอบแทน ทั้งนี้ ที่มีข่าวว่า เสรีพิศุทธ์รับสอบเรื่องนี้ ต้องเสร็จเหมือนนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แน่ ยืนยันว่าไม่ใช่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ขอให้ไว้วางใจในเรื่องความเป็นธรรมได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่