การลดน้ำหนักไขมันในร่างกาย

กระทู้สนทนา
อาหารที่ดีและชีวิตประจำวันที่ดีจะทำให้สุขภาพดี เมื่อสุขภาพดีแล้วน้ำหนักจะค่อยๆปรับไปอยู่ในจุดสมดุลครับ 
การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายแข็งแรง,ลดน้ำหนักไปเร็วขึ้นและอายุยืนขึ้น

ศึกษาให้ลึกซึ่งถึงกลไลชีววิทยา สามารถนำไปใช้ได้ตลอดไป  กระทู้นี้แค่เบื้องต้นนะครับ
สำหรับ CD และ KD อ่านคำเตือนนี้ก่อน https://ppantip.com/topic/38057052/comment11 
แนวทางการคุมอาหารฉบับไม่นับแคล https://www.facebook.com/1106514691/posts/10220293695548315/
ความคิดเห็นที่ 1  Carnivore Diet (CD)
ความคิดเห็นที่ 2  Ketogenic Diet หรือ Keto Diet (KD)
ความคิดเห็นที่ 3  มังสวิรัติ,วีแกน
ความคิดเห็นที่ 4  สิ่งที่ควรทำเพิ่ม
ความคิดเห็นที่ 5  IF หรือ IFF
ความคิดเห็นที่ 6  กินปกติยังไงให้ได้ผล
ความคิดเห็นที่ 7  แนวทางการออกกำลังกายเบื้องต้น

ความคิดเห็นที่ 8  แค่เพ้อ
ความคิดเห็นที่ 9  อาหารเสริม
ความคิดเห็นที่10 อยากสูงขึ้นอีก vs ไม่อยากสูงเพิ่มอีก
ความคิดเห็นที่11  อาหารแปรรูป คืออะไรบ้าง
ความคิดเห็นที่12  flexible อะไรบ้าง
ความคิดเห็นที่13  กาแฟสุดยอดเครื่องดื่มที่เลิกยากมาก ไม่ควรดื่มหลัง14:00น.
ความคิดเห็นที่14  แก้ปัญหาอุจจาระยาก
ความคิดเห็นที่15  ป้ายยา โรคต่างๆ
ความคิดเห็นที่16  ฝึกหายใจ
ความคิดเห็นที่17  การลดน้ำหนักไขมัน สำหรับคนที่อายุไม่เกิน25ปี
ความคิดเห็นที่18  ความดันต่ำ ความดันสูง
ความคิดเห็นที่19  ความสำเร็จของคนที่ไม่ยอมแพ้ต่อโรค
ความคิดเห็นที่20  การอักเสบ ตัวก่อโรค
ความคิดเห็นที่21  การฟื้นฟูและเพิ่มศักยภาพของร่างกาย
ความคิดเห็นที่22  ตรวจไขมันรวม
ความคิดเห็นที่23  มะเร็ง
ความคิดเห็นที่24  มะเร็ง2
ความคิดเห็นที่25  อะไรที่เราไม่กิน/ดื่มได้นานที่สุด
ความคิดเห็นที่26  อาหารคุณภาพสูง ราคาย่อมเยาว์ ประหยัดเงินสุดๆครับ

อยากให้ลองทำตามขั้นตอนทีละข้อครับ ส่วนใครอยากทำหลายข้อพร้อมๆกันก็อาจเป็นไปได้ครับ แต่ไม่แนะนำครับ
1.ปรับอาหารการกินให้ถูกต้องก่อนครับ กินอาหารธรรมชาติไม่แปรรูป จะทำให้อินซูลินและกลูคากอน มีปริมาณและช่วงเวลาที่หลั่งสมดุลกันครับ เพื่อให้ร่างกายนำไขมันเก่าสะสมมาใช้ได้ก่อน แล้วค่อยไปทำข้อ2
2.ออกกำลังกาย เวทเทรนนิ่ง เริ่มที่กล้ามเนื้อที่เราสามารถพัฒนาได้ก่อน แนะนำเป็นกล้ามขาเพราะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่สุดในร่างกาย จะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน  
เริ่มจากการเวทเบาๆก่อน ไม่ต้องเร่งรีบครับ เพราะถ้าทำผิดท่าขณะที่ใช้น้ำหนักเวทเยอะๆจะอันตรายมากครับ การเร่งมากเกินไปอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าครับ  ที่ขาใครไม่ไหวก็เริ่มที่แขนได้ครับ
เรื่องออกกำลังกายมีคนแนะนำเยอะ ดูในยูทูปก็มีเยอะครับ
เวท vs คาร์ดิโอ รายละเอียดมีเยอะมากมาย มีคนแนะนำมากมายครับ แต่ผมจะบอกว่าคุณควรทำที่สามารถทำได้บ่อยๆ ทุกๆวัน ให้เป็นวิถีประจำวันของคุณ

กลับมาที่การปรับอาหารการกินครับ
จริงๆมีหลายสูตร หลายแนวทางมาก เช่นกินพืช กินสัตว์ CD KCD Keto กินปกติเหมือนเดิม ใครที่ทำสำเร็จแบบหนึ่งแล้วดี ก็จะบอกว่ามันดีจริงๆ
ขออ้างถึง https://ppantip.com/topic/41242006 ในหัวข้อเครื่องยนต์
ขอให้แยกให้ออกระหว่าง สุขภาพดี VS มีพละกำลังมาก ครับ  คนจำนวนมากที่มีพละกำลังมากมักจะคิดว่าตนเองนั้นมีสุขภาพดีมาก มาถูกทางแล้วอะไรอย่างงี้ครับ ใครไม่เห็นด้วยก็ลองมายกดัมเบลหรือวิ่งแข่งกันครับ

ผมขอย้อนกลับไปในยุคที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ค่าเฉลี่ยอายุของคนยุคนั้นไม่มากนัก จะเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อ เพราะยารักษายังไม่ค่อยมี หรือไปไม่ถึง แต่ไม่ค่อยมีใครเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)   ขณะที่คนในปัจจุบันเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)เยอะมาก เป็นตั้งแต่อายุไม่ถึง20ก็มีเยอะครับ   เราแก้ปัญหาโรคติดเชื้อได้ดี แต่กลับเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)สูงขึ้นและไม่หายด้วย ทำไมการแพทย์จึงเป็นเช่นนี้
เรารู้กันดีว่าคนอ้วนมีความเสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)สูงกว่าปกติ
ผมจึงขอแนะนำสูตรที่ทำให้มีสุขภาพดี+มีพละกำลังมากครับ  ให้กลับไปกินอาหารธรรมชาติแปรรูปน้อยๆ ปรุงรสน้อยๆครับ กินให้อิ่ม และออกกำลังกายพอสมควรครับ
คำย่อต่างๆ LC ,LF ,HP , MP
L=Low ต่ำ
M=Medium ปานกลาง
H=High สูง
C=คาร์โบไฮเดรทธรรมชาติที่ดีๆ
F=fat ไขมันธรรมชาติดีๆ
P=โปรตีนธรรมชาติดีๆ
ส่วนตัวเริ่มจากCDต้นทุนต่ำครับ 
จบละครับ 

ด้านล่างเป็นวิธีการที่ก็อปเค้ามา https://www.facebook.com/fastingfatdentist/posts/253351172778523
LC(LF)HP
ไหนๆก็มากันขนาดนี้แล้ว ต้องไปให้สุดใช่ไหมครับเพื่อนๆ เอาให้หัวบวมกันไปข้างนึง 55
วันนี้ผมเลยมาคุยเรื่องการปรับอาหารในการจะทำ IFF (Intermitten Fasting and Feeding ) ในส่วนของการ Feeding นะครับ 
ผมจะไม่ได้ลงรายละเอียดลึก แบบแผนภาพสุดหรรษาใน  LIVE  แต่จะคุยในแง่การทานนะครับ และผมเชื่อว่า เพื่อนๆหลายคนรู้ในเชิงลึกบ้างแล้ว แต่อาจจะแค่ปะติดปะต่อไม่ได้แค่นั้นเอง 
( live root cause หัวบวม https://www.facebook.com/watch/?v=684410372400400
live ของ อาจารย์หมอป๊อบ https://www.facebook.com/watch/?v=295973864899202 )
ก่อนอื่น สิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจร่วมกันนะครับคือ 
“สารอาหารหลัก ( macronutrients ) ทั้งสามตัวกระตุ้นอินซูลินทั้งหมด” 
การกระตุ้นอินซูลินตามลำดับมากสุดคือ Carbs Protein Fat  น้อยสุด 
(คุณหมอ ภทร เพิ่มมาเพิ่มเติมนะครับ 
       "ไขมันเดี่ยวๆกระตุ้นอินซูลินต่ำสุดครับ แต่ถ้าไขมัน+คาร์บกระตุ้นอินซูลินมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไขมัน+คาร์บ+โปรตีน(อาหาร5หมู่)ก้อกระตุ้นอินซูลินมาก  แต่เฉพาะไขมัน+โปรตีน 2 อย่างไม่ค่อยกระตุ้นอินซูลินอ่ะครับ"
ขอบพระคุณคุณหมอมากครับ  )
1️⃣อันดับแรก HCHFLP 
          โดยส่วนใหญ่ถ้าเรายังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ทานอาหารตามปกติ เรามักจะทานในลักษณะ Standard american diet กัน คือ 
Protein ประมาณ 15% 
Fat 20% 
Carbs 65% 
แต่ในความเป็นจริง Protein น้อยกว่า ส่วน Fat กับ Carb สูงกวา สัดส่วนนี้ อิอิ ยังไม่รวมถึง สภาวะที่เราทาน HCHF พร้อมกัน ให้เห็นภาพก็ แฮมเบอร์เกอร์ หรือ ทานข้าวผัดกระเพราต่างๆ  จะยิ่งเป็นการเสริมแรงการกระตุ้นอินซูลินให้ทำงานสูงปรี๊ดไปด้วย เพราะถ้าเราทาน HC ไม่ว่าจะทาน Fat หรือ Protein ก็จะเป็นการเสริมการกระตุ้นอินซูลินให้สูงขึ้นกว่าปกติทั้งหมด จึงทำให้ ที่เก็บน้ำตาลก็เต็ม ที่เก็บไขมันก็เต็ม เพราะกระตุ้นอินซูลินกันสนุกสนาน แล้วก็ทำให้เราอ้วน
ซึ่งในจุดนี้ เราจะเป็น Carbs adapted 🍧🍨🍦🎂
2️⃣อันดับถัดมา LCHF(MP)
          เมื่อเราอยากจะรักษาสุขภาพ เราก็จะมาเข้าสู่การปรับอาหาร โดยการปรับมาทานในลักษณะ LCHF ซึ่งหลักการคือ 
ลดCarbsให้เหลือประมาณ 5% คือประมาณ 20-25g ต่อวัน  
Fat 75% 
Protein 20% 
ซึ่งจะแตกต่างกันบ้างในสัดส่วนของ Carbs การทาน LC(50g) KD(25g) CD ( 0g )  การที่เราลด Carbs ก่อน เพราะ
  1. การทาน HC จะทำให้การกระตุ้น อินซูลิน เพิ่มทวี ไม่ว่าจะทาน Fat หรือ Protien ร่วมด้วยก็ตาม (ย้ำนะครับ ทุกตัวกระตุ้นทั้งหมด ) เมื่อเราทาน LC ก็จะลดการกระตุ้นอินซูลินลงอย่างมาก เพราะไม่มีการเสริมทวีขึ้น มีแต่การกระตุ้นตามปกติ 
  2. gulcose ซึ่งจะได้จาก Carbs จะเป็นพลังงานแรกที่ร่างกายใช้เพราะใช้ง่าย สะดวก (แม้ในความเป็นจริงจะให้พลังงานสู้ Fat ไม่ได้ ) 
  3. จากข้อ 3 เมื่อ ทาน LC ปริมาณ glucose ในร่างกายก็จะลดลง จนถึงจุดที่ ที่เก็บน้ำตาลในตับ เริ่มไม่มี glucose ให้เก็บ  ร่างกายจึงจะสั่งให้ร่างกาย นำ Fat ในรูป Ketone จากที่เก็บไขมัน มาใช้  จึงทำให้น้ำหนักเราเริ่มลดลง 
ซึ่งในระยะนี้เราจะเริ่มเป็นสภาวะ Fat adapted 🍗🍖🥩
3️⃣อันดับรองท้าย LCLFHP
         ก่อนที่เรามาถึงจุดนี้ จะพบว่า น้ำหนักเริ่มนิ่ง ทั้งๆที่เราก็ทาน LCHF ตามที่เราเรียนรู้มา ที่เริ่มนิ่งเพราะว่า 
          เรายังทานไขมันเยอะอยู่ ทำให้สมดุลของการทาน Fat การเก็บ Fat และการใช้ Fat ที่เก็บ มันสมดุล คือเท่ากัน สมมุตินะครับ ถังเก็บเราเต็มคือ 100 พอทาน LCHF  ระดับไขมันในถังเก็บน้อยลงมาที่ 70 แต่มันมาถึงจุดที่ Fat ที่เราทาน กับ Fat ที่เราใช้มันเท่ากัน จึงทำให้ไม่มีการนำ Fat ในที่เก็บมาใช้ น้ำหนักเราจึงเริ่มนิ่ง  
          เราจึงจำเป็นต้อง LCLFHP  ลดการทาน Fat เพื่อให้ร่างกายนำ Fat ที่สะสมมาใช้ต่อ ซึ่งสัดส่วน ก็จะเป็น 
Carbs 5% 
Fat 60% 
Protein 35% 
โดยประมาณ ซึ่งบางคนอาจจะปรับสัดส่วนให้ Protien สูงกว่านี้ก็ได้ครับ ตามแต่ความต้องการ ในเรื่องน้ำหนักและสัดส่วน
ซึ่งในระยะนี้เราจะเริ่มเข้าสู่สภาวะ Ketone adapted 🥚🥑🥜
          ที่นี้ก็จะมีคำถามว่า ทำไมไม่เปลี่ยนจาก HCHFLP มาเป็น LCLFHP เลย เพราะว่าถ้าเปลี่ยนเลย ร่างกายจะขาดพลังงานหลักและสำรองอย่างเฉียบพลัน โดยที่ยังปรับสมดุลการใช้การเก็บพลังงานไม่ได้ อาจจะทำให้น๊อคได้ครับ ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายเรา 
          และการเพิ่ม Protein นั้นจะช่วยให้ร่างกายเราปรับสมดุลได้มากขึ้น เพราะ Protein แทบจะเป็นทุกอย่างในร่างกายเรา ร่างกายจะไม่เอา Protein ไปใช้ในแง่พลังงาน แต่จะใช้ในเรื่องสมดุลร่างกายเท่านั้น  และการทาน Protein เพิ่มนั้น จะเพิ่มระดับจุดอิ่มในร่างกายให้ไวขึ้นและอิ่มนานขึ้น 
( link เรื่องจุดอิ่ม  https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=141312867315688&id=108522463928062 )
4️⃣และลำดับสุดท้ายคือ Carbs Cycling 
        บางคนอาจเคยได้ยินว่า การที่ร่างกายอยู่ในภาวะ Ketosis ในระยะเวลานานๆ ไม่ดี ซึ่งก็มีส่วนถูกครับ เพราะจะทำให้ร่างกายเราตึงกับการทำ fat burned ตลอดแล้วเมื่อร่างกายอาจจะต้องมีสภาวะที่ต้องเจอ HC ขึ้นมาจะทำให้เกิดการสับสนของร่างกายในการใช้แหล่งพลังงานได้ บางคนอาจจะแค่ง่วงนอน แต่บางคนถึงกับน็อคได้ครับ 
        ร่างกายของคนเรามีการสร้างสมดุลเสมอ เพราะจริงๆร่างกายเรานั้นมีทั้งการ Fat Burned และ Carbs Burned เพียงแต่ในธรรมชาติของร่างกาย เราจะใช้ Fat burned มากกว่า Carb burned 
         เหมือนฟันในช่องปากเราครับ มีทั้งฟันหน้า ที่มีลักษณะแหลมคมไว้ฉีกเนื้อต่างๆ และมีฟันหลัง ที่มีลักษณะแบน เพื่อในการบดเคี้ยวอาหารที่มีใยอาหาร เพราะเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทานทั้งเนื้อสัตว์และพืชซึ่งถ้ามองที่ ฉลามก็จะมีแต่ฟันแหลมเพราะกินเนื้อ 100% ในขณะที่วัว ฟันจะเป็นลักษณะแบนทุกซี่แม้กระทั้งฟันหน้าเพราะทานแต่หญ้า  
        ดังนั้นเมื่อสมดุลร่างกายของเรากลับมาใกล้เคียงกับธรรมชาติแล้วเราจึงต้องกลับมากระตุ้น Carbs burned ในบางครั้ง โดยการทาน HCLFHP บ้างครับ อาจจะอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง 
        ย้ำนะครับว่า HCLF. ไม่ใช่ HCHF นะครับ ไม่งั้นมีน๊อคนะครับ 55555
ซึ่งในระยะนี้เองครับ ที่เราเรียกว่า Metabolic Flexibility !!!!!!!!!!!!!!! 🦸‍♀️🦸‍♂️🦹‍♀️🦹‍♂️
        มาถึงตรงนี้ไม่รู้ว่าจะหัวบวมหรืองงกว่าเดิมหรือเปล่านะครับ 5555555 ผมเห็นว่า ไหนๆก็เปิดเรื่อง root cause แล้วมีเพื่อนๆเข้ามาถามถึงการปรับอาหารกันพอสมควรเลยคิดว่าไหนๆมาขนาดนี้ ก็น่าจะเอาให้จบ เพราะเรื่องในส่วน Fasting  ผมคิดว่าเพื่อนๆน่าจะเข้าใจกันอยู่แล้ว ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร แต่เรื่อง Feeding  ผมรู้สึกว่า เพื่อนๆหลายคนยังสับสนกันอยู่ รวมทั้งผมด้วยในช่วงแรกๆที่เข้าระบบ 
        ก็หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้คลายสงสัยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมเองก็หัวบวมไม่น้อยครับเรื่องนี้ 555555555
 ใครอยากรู้เรื่องสุขภาพอะไร หรือ อยากให้ลงรายละเอียดส่วนไหนเพิ่ม คอมเม้นต์ หรือ inbox มาคุยมาบอกได้นะครับ
ปล. ถ้าชอบบทความ หรือ เห็นว่ามีประโยชน์ อย่าลืมกด like กด share ให้ผมด้วยนะครับ💓
#Metabolic_Flexibility
#เมื่อสุขภาพดีแล้วน้ำหนักจะลงเอง
#ลดน้ำหนักจากภายใน
#หมออ้วนในดงลดน้ำหนัก
#โรคของเราร่างกายรักษาได้เอง
#เบาหวานหายได้ถ้าเข้าใจ
#หมูที่แข็งแรงไม่มีอยู่จริงมีแต่คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย
#IFF
#KD
#CD
#LCHF
#LCHP
#Fat_adapted
#ketone_adapted
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่