173 ส.ส.ฝ่ายค้าน เข้าชื่อยื่นซักฟอกรบ. ล็อกเป้าถล่มครม. ปัญหาของประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3143085
“ฝ่ายค้าน” ยื่นแล้ว อภิปราย ม.152 พุ่งเป้าอัดรบ.แก้ศก.ล้มเหลว-ของแพง-เอเอฟเอส-บริหารไร้ประสิทธิภาพ คาด ได้ซักฟอกกลาง ก.พ. ขอเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชม.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มกราคม ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคพท. นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) นาย
นิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นาย
ซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ (ปช.) นาย
สงคราม กิจโรจน์ไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) และนาย
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาตรา 152 ต่อนาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร
โดย นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีผู้เข้าชื่อเสนอทั้งหมด 173 คน จาก 7 พรรค ได้แก่ พรรคพท. พรรคก.ก. พรรคสร. พรรคปช. พรรคพช. พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยเนื้อหาสาระที่จะอภิปรายแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.วิกฤตเศรษฐกิจในยุคข้าวของแพง ค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน 2.วิกฤตโรคระบาด ทั้งโควิด-19 และโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) 3.วิกฤตด้านการเมือง ยุคปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลว ยุคการเมืองที่ใช้เงินเป็นหลัก และ 4.วิกฤตความล้มเหลวเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาวะฝุ่นพิษ การบริหารราชการแผ่นดินที่ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ส่วนวันเวลาในการอภิปราย เนื่องจากปีนี้เนื้อหาสาระในการอภิปรายมีค่อนข้างมาก เราจะขอเจรจาต่อรองเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเปิดอภิปราย คือ วันที่ 16-18 กุมภาพันธ์
เมื่อถามถึง ความคาดหวังของฝ่ายค้านหลังจากการเปิดอภิปรายครั้งนี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เนื่องด้วยเนื้อหาสาระและกระบวนการเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสภาได้ แต่เนื้อหาสาระที่เราเสนอเป็นข้อเท็จจริงที่จะบอกกับประชาชนโดยตรงผ่านสภา ถึงสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติ และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจะส่งผลโดยตรงต่อรัฐบาลจากการกดดันของภาคประชาชน ที่เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากทุกกลุ่มและทุกอาชีพ เราคาดว่ารัฐบาลน่าจะรับฟังเสียงของเราในสภาและเสียงของประชาชน ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปในทางที่ดี รัฐบาลก็ควรพิจารณา เพราะคณะรัฐมนตรีคือปัญหาสำคัญที่สุด
ด้าน นาย
ชวน กล่าวว่า การยื่นอภิปรายในช่วงนี้ ก็คาดว่า น่าจะมีการอภิปรายในช่วงกลางเดือน ก.พ. ส่วนระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายก็ให้ตัวแทนผู้ควบคุมเสียงทั้งสองฝ่ายหารือกันต่อไป ทั้งนี้ จะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบรายชื่อตามวิธีการของสภาฯ และตามข้อบังคับ ก่อนจะบรรจุระเบียบวาระ
แม่ค้ากล้วยทอดโวย ขายมา 5 ปี ตั้งแต่น้ำมันปาล์มลังละ 320 บาท ตอนนี้ 880 รัฐช่วยดูแลได้ไหม
https://www.matichon.co.th/region/news_3142880
แม่ค้าร้านกล้วยทอดโอดซื้อน้ำมันปาล์มลังละ 880 บาท วอนรัฐควบคุมราคา เพราะวัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง
เมื่อวันที่ 21 มกราคม น.ส.
ธนพร ยินดี แม่ค้ากล้วยทอดขายอยู่ริมถนนสายมหาสารคาม-กมลาไสย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ราคาวัตถุดิบที่ใช้ทำกล้วยทอดขึ้นเกือบทุกชนิด ทั้งกะทิ แป้ง น้ำตาล โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มที่ใช้อยู่ ซึ่งเป็นน้ำมันปาล์มอย่างดี ไม่มีขายในห้างค้าปลีก หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันบัว ราคาจะสูงกว่าน้ำมันปาล์มทั่วไป ซึ่งขึ้นราคาจนน่าตกใจ จากเดิมเคยซื้อลังละ 615 บาท ขึ้นมาเป็น 660 บาท ล่าสุดราคาพุ่งมาอยู่ที่ 880 บาท 1 ลังจะมี 12 ถุง ถุงละ 1 ลิตร เฉลี่ยแล้วตกถุงละ 73.33 บาท
น.ส.
ธนพรกล่าวว่า ตอนเห็นราคาแล้วตกใจมาก ตั้งแต่ขายกล้วยทอดมา 5 ปี ไม่เคยเจอราคาขึ้นมากขนาดนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องขายของทุกวัน ต้องยอมรับสภาพ วัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง แต่ราคาขายยังคงเดิม เพราะเห็นใจลูกค้า ลูกค้าอุตส่าห์มาซื้อ ก็เอาวัตถุดิบหลายๆ อย่างมาถัวเฉลี่ยกัน ที่ร้านมีทั้งกล้วยทอด เผือกทอด มันทอด ฟักทองทอด และที่เป็นไฮไลต์คือสับปะรดทอดและขนมไข่นกกระทา ราคาขายอยู่ที่ของทอดทุกอย่าง 8 ชิ้น 20 บาท ส่วนขนมไข่นกกระทาอยู่ที่ 15 ลูก 20 บาท
“ที่แน่ๆ คือกำไรลดลง แต่ก็ยังพออยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลเรื่องราคาสินค้าโดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพราะราคาสูงเกินไป รวมถึงราคาสินค้าทุกอย่างที่ตอนนี้พากันขึ้นราคาทุกอย่าง ขายกล้วยทอดมา 5 ปี ตั้งแต่ราคาน้ำมันปาล์มลังละ 320 บาท จนตอนนี้ 880 บาท คิดดูแล้วกันว่ามันขึ้นราคาขนาดไหน” น.ส.
ธนพรกล่าว
โซเชียลเดือด! #แบนทปอพุ่ง หลังเพจ TCAS ตอบปมติดโควิด อ่านแล้วถึงกับเหม่อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6845210
ดราม่าร้อน ชาวเน็ตแห่ติด #แบนทปอ หลังทางเพจ TCAS ออกมาตอบคำถาม ‘ถ้าติดโควิดหายไม่ทันทำไง’ ผลที่ได้ทำนักเรียนถึงกับไปแทบไม่เป็น
กลายเป็นดราม่าร้อน เมื่อชาวเน็ตพากันติด
#แบนทปอ จนพุ่งทะยานติดเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามวันข้ามคืน เหตุไม่พอใจการตอบคำถามของทางแอดมิน เพจ TCAS เกี่ยวกับข้อสงสัยในการสอบ ที่ได้รับคำตอบจนทำเอาเข่าแทบทรุด
สืบเนื่องจากทางเพจ TCAS ได้ออกมาอัพเดตถึงถึงกำหนดการของ TCAS65 สำหรับการสอบ GAT/PAT และการสอบวิชาสามัญ พร้อมกับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับสนามสอบและคำแนะนำสำหรับผู้เข้าสอบ ทำให้มีชาวเน็ตเข้าไปสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก
ต่อมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ออกมาเผยข้อความตอบกลับของทางแอดมินเพจ TCAS หลังจากได้สอบถามว่า
“หากติดโควิดก่อนวันสอบ (หายไม่ทันวันสอบ) จะต้องทำอย่างไร” ซึ่งทางแอดมินตอบกลับมาว่า
“สอบปีหน้า หรือไม่ก็เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบ”
การตอบคำถามครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะดูเป็นการตอบแบบไม่สนใจในปัญหา และผลักภาระให้ผู้เข้าสอบแทน
จากนั้น ชาวทวิตเตอร์หลายคนได้ออกมาเผยแชทและการตอบกลับความเห็นของแอดมินเพจ ที่หลายคนอ่านแล้วต้องรู้สึกหัวร้อนไปตาม ๆ กัน เช่น
“ทำไมถึงไม่คืนเงินหรอคะถ้าจะยกเลิกวิชานั้นอยากรู้เหตุผลจังค่ะ” แอดมินตอบกลับว่า “
กระบวนการคืนเงินสร้างภาระมากเกินควรครับ”
“ให้คนรู้สึกไม่สบายมาอยู่ห้อง1 ละถ้าเกิดเป็นโควิด แต่คนอื่นตัวร้อนธรรมดา สรุปคนอื่นก็ไม่รอดสิคะ” แอดมินตอบกลับว่า
“ครับ เกิดจากคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมรู้ว่าป่วยยังแอบมาสอบครับ”
“ถ้าแพทย์บอกให้ต้องกักตัวในวันที่สอบ มีมาตรการจัดการยังไงคะ” แอดมินตอบกลับว่า
“ไปกักตัวครับ ไม่แนะนำให้มาสอบ” และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งชาวเน็ตมองว่า การตอบคำถามควรไตร่ตรองและมีวุฒิภาวะมากกว่านี้
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังเปรียบเทียบการจัดการการสอบ TCAS กับ การสอบ
“ซูนึง” ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับการสอบและเด็กนักเรียนมาก
หากเปรียบเทียบกับกรณีที่มีนักเรียนไทยถามว่า หากติดโควิดในวันสอบแล้วทำอย่างไร ซึ่งแอดมินได้ตอบกลับว่า ไม่ต้องมาสอบ หรือ เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนน แล้วนั้น ทางเกาหลีใต้มีระบบการจัดการและการแก้ปัญหาที่ดีกว่ามาก หากนักเรียนติดโควิด ทางหน่วยงานมีการจัดการให้สอบในโรงพยาบาล แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับทุกคน
JJNY : เข้าชื่อยื่นซักฟอกรบ.ล็อกเป้าถล่มครม.│แม่ค้ากล้วยทอดโวยรัฐช่วย│#แบนทปอ.│ไทยอันดับ 1 โลก ขอ ‘กูเกิล’ ลบวิจารณ์รัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3143085
“ฝ่ายค้าน” ยื่นแล้ว อภิปราย ม.152 พุ่งเป้าอัดรบ.แก้ศก.ล้มเหลว-ของแพง-เอเอฟเอส-บริหารไร้ประสิทธิภาพ คาด ได้ซักฟอกกลาง ก.พ. ขอเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชม.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มกราคม ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคพท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ (ปช.) นายสงคราม กิจโรจน์ไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาตรา 152 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีผู้เข้าชื่อเสนอทั้งหมด 173 คน จาก 7 พรรค ได้แก่ พรรคพท. พรรคก.ก. พรรคสร. พรรคปช. พรรคพช. พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยเนื้อหาสาระที่จะอภิปรายแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.วิกฤตเศรษฐกิจในยุคข้าวของแพง ค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน 2.วิกฤตโรคระบาด ทั้งโควิด-19 และโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) 3.วิกฤตด้านการเมือง ยุคปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลว ยุคการเมืองที่ใช้เงินเป็นหลัก และ 4.วิกฤตความล้มเหลวเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาวะฝุ่นพิษ การบริหารราชการแผ่นดินที่ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ส่วนวันเวลาในการอภิปราย เนื่องจากปีนี้เนื้อหาสาระในการอภิปรายมีค่อนข้างมาก เราจะขอเจรจาต่อรองเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเปิดอภิปราย คือ วันที่ 16-18 กุมภาพันธ์
เมื่อถามถึง ความคาดหวังของฝ่ายค้านหลังจากการเปิดอภิปรายครั้งนี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เนื่องด้วยเนื้อหาสาระและกระบวนการเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสภาได้ แต่เนื้อหาสาระที่เราเสนอเป็นข้อเท็จจริงที่จะบอกกับประชาชนโดยตรงผ่านสภา ถึงสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติ และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจะส่งผลโดยตรงต่อรัฐบาลจากการกดดันของภาคประชาชน ที่เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากทุกกลุ่มและทุกอาชีพ เราคาดว่ารัฐบาลน่าจะรับฟังเสียงของเราในสภาและเสียงของประชาชน ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปในทางที่ดี รัฐบาลก็ควรพิจารณา เพราะคณะรัฐมนตรีคือปัญหาสำคัญที่สุด
ด้าน นายชวน กล่าวว่า การยื่นอภิปรายในช่วงนี้ ก็คาดว่า น่าจะมีการอภิปรายในช่วงกลางเดือน ก.พ. ส่วนระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายก็ให้ตัวแทนผู้ควบคุมเสียงทั้งสองฝ่ายหารือกันต่อไป ทั้งนี้ จะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบรายชื่อตามวิธีการของสภาฯ และตามข้อบังคับ ก่อนจะบรรจุระเบียบวาระ
แม่ค้ากล้วยทอดโวย ขายมา 5 ปี ตั้งแต่น้ำมันปาล์มลังละ 320 บาท ตอนนี้ 880 รัฐช่วยดูแลได้ไหม
https://www.matichon.co.th/region/news_3142880
แม่ค้าร้านกล้วยทอดโอดซื้อน้ำมันปาล์มลังละ 880 บาท วอนรัฐควบคุมราคา เพราะวัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง
เมื่อวันที่ 21 มกราคม น.ส.ธนพร ยินดี แม่ค้ากล้วยทอดขายอยู่ริมถนนสายมหาสารคาม-กมลาไสย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ราคาวัตถุดิบที่ใช้ทำกล้วยทอดขึ้นเกือบทุกชนิด ทั้งกะทิ แป้ง น้ำตาล โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มที่ใช้อยู่ ซึ่งเป็นน้ำมันปาล์มอย่างดี ไม่มีขายในห้างค้าปลีก หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันบัว ราคาจะสูงกว่าน้ำมันปาล์มทั่วไป ซึ่งขึ้นราคาจนน่าตกใจ จากเดิมเคยซื้อลังละ 615 บาท ขึ้นมาเป็น 660 บาท ล่าสุดราคาพุ่งมาอยู่ที่ 880 บาท 1 ลังจะมี 12 ถุง ถุงละ 1 ลิตร เฉลี่ยแล้วตกถุงละ 73.33 บาท
น.ส.ธนพรกล่าวว่า ตอนเห็นราคาแล้วตกใจมาก ตั้งแต่ขายกล้วยทอดมา 5 ปี ไม่เคยเจอราคาขึ้นมากขนาดนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องขายของทุกวัน ต้องยอมรับสภาพ วัตถุดิบขึ้นทุกอย่าง แต่ราคาขายยังคงเดิม เพราะเห็นใจลูกค้า ลูกค้าอุตส่าห์มาซื้อ ก็เอาวัตถุดิบหลายๆ อย่างมาถัวเฉลี่ยกัน ที่ร้านมีทั้งกล้วยทอด เผือกทอด มันทอด ฟักทองทอด และที่เป็นไฮไลต์คือสับปะรดทอดและขนมไข่นกกระทา ราคาขายอยู่ที่ของทอดทุกอย่าง 8 ชิ้น 20 บาท ส่วนขนมไข่นกกระทาอยู่ที่ 15 ลูก 20 บาท
“ที่แน่ๆ คือกำไรลดลง แต่ก็ยังพออยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลเรื่องราคาสินค้าโดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพราะราคาสูงเกินไป รวมถึงราคาสินค้าทุกอย่างที่ตอนนี้พากันขึ้นราคาทุกอย่าง ขายกล้วยทอดมา 5 ปี ตั้งแต่ราคาน้ำมันปาล์มลังละ 320 บาท จนตอนนี้ 880 บาท คิดดูแล้วกันว่ามันขึ้นราคาขนาดไหน” น.ส.ธนพรกล่าว
โซเชียลเดือด! #แบนทปอพุ่ง หลังเพจ TCAS ตอบปมติดโควิด อ่านแล้วถึงกับเหม่อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6845210
ดราม่าร้อน ชาวเน็ตแห่ติด #แบนทปอ หลังทางเพจ TCAS ออกมาตอบคำถาม ‘ถ้าติดโควิดหายไม่ทันทำไง’ ผลที่ได้ทำนักเรียนถึงกับไปแทบไม่เป็น
กลายเป็นดราม่าร้อน เมื่อชาวเน็ตพากันติด #แบนทปอ จนพุ่งทะยานติดเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามวันข้ามคืน เหตุไม่พอใจการตอบคำถามของทางแอดมิน เพจ TCAS เกี่ยวกับข้อสงสัยในการสอบ ที่ได้รับคำตอบจนทำเอาเข่าแทบทรุด
สืบเนื่องจากทางเพจ TCAS ได้ออกมาอัพเดตถึงถึงกำหนดการของ TCAS65 สำหรับการสอบ GAT/PAT และการสอบวิชาสามัญ พร้อมกับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับสนามสอบและคำแนะนำสำหรับผู้เข้าสอบ ทำให้มีชาวเน็ตเข้าไปสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก
ต่อมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ออกมาเผยข้อความตอบกลับของทางแอดมินเพจ TCAS หลังจากได้สอบถามว่า “หากติดโควิดก่อนวันสอบ (หายไม่ทันวันสอบ) จะต้องทำอย่างไร” ซึ่งทางแอดมินตอบกลับมาว่า “สอบปีหน้า หรือไม่ก็เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบ”
การตอบคำถามครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะดูเป็นการตอบแบบไม่สนใจในปัญหา และผลักภาระให้ผู้เข้าสอบแทน
จากนั้น ชาวทวิตเตอร์หลายคนได้ออกมาเผยแชทและการตอบกลับความเห็นของแอดมินเพจ ที่หลายคนอ่านแล้วต้องรู้สึกหัวร้อนไปตาม ๆ กัน เช่น “ทำไมถึงไม่คืนเงินหรอคะถ้าจะยกเลิกวิชานั้นอยากรู้เหตุผลจังค่ะ” แอดมินตอบกลับว่า “กระบวนการคืนเงินสร้างภาระมากเกินควรครับ”
“ให้คนรู้สึกไม่สบายมาอยู่ห้อง1 ละถ้าเกิดเป็นโควิด แต่คนอื่นตัวร้อนธรรมดา สรุปคนอื่นก็ไม่รอดสิคะ” แอดมินตอบกลับว่า “ครับ เกิดจากคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมรู้ว่าป่วยยังแอบมาสอบครับ”
“ถ้าแพทย์บอกให้ต้องกักตัวในวันที่สอบ มีมาตรการจัดการยังไงคะ” แอดมินตอบกลับว่า “ไปกักตัวครับ ไม่แนะนำให้มาสอบ” และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งชาวเน็ตมองว่า การตอบคำถามควรไตร่ตรองและมีวุฒิภาวะมากกว่านี้
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังเปรียบเทียบการจัดการการสอบ TCAS กับ การสอบ “ซูนึง” ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับการสอบและเด็กนักเรียนมาก
หากเปรียบเทียบกับกรณีที่มีนักเรียนไทยถามว่า หากติดโควิดในวันสอบแล้วทำอย่างไร ซึ่งแอดมินได้ตอบกลับว่า ไม่ต้องมาสอบ หรือ เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนน แล้วนั้น ทางเกาหลีใต้มีระบบการจัดการและการแก้ปัญหาที่ดีกว่ามาก หากนักเรียนติดโควิด ทางหน่วยงานมีการจัดการให้สอบในโรงพยาบาล แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับทุกคน