ลดน้ำหนัก 32 กิโล 1 ปีกว่า เพราะเขาหาว่าหนูอ้วน


สวัสดีค่ะ 
เขิลจังงง ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา "ลดน้ำหนัก 32 กิโล 1 ปีกว่า เพราะเขาหาว่าหนูอ้วน  "
เราอยากแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักด้วยตัวเองเพียงเพราะว่า "เขาหาว่าหนูอ้วน"
ภายใน 1 ปี 6 เดือน เราลดน้ำหนัก 32 กิโล จาก 84 กิโล เหลือ 52 กิโล

ไหนๆก็ไหนๆแล้วหนูขอแนะนำตัวเองเลยนะคะ
หนูชื่อโบว์




เมื่อก่อนโบว์อ้วนมาก ถึงมากที่สุด เท่าที่โบว์ก็ไม่คิดว่าน้ำหนักโบว์จะไปได้ถึงจุดพีคขนาดนี้
ตอนที่พีคๆที่สุดเลยโบว์หนัก 84 กก ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ น้ำหนักอันสูงสุดคือ 84 กก. ละ
คนเดียวกันนะคะ กับรูปด้านบน ไม่มีการตัดต่อใดๆทั้งสิ้นค่ะ


โดนเพื่อนล้อตลอดเลยเรื่องอ้วน ไม่ว่าจะตอนเรียนตอนทำงาน 
เพื่อนก็ยังล้อไม่เลิก เพื่อนบอกว่าโบว์เป็นอูฐบ้างแหละ 
เป็นช้างบ้างแหละ เป็นตัวแทนของอะไรก็ได้ที่เป็นสัตว์ใหญ่ 
แต่โบว์ก็รู้ตัวนะ อายจัง 

เล่นห่วงยาง เพื่อนก็กลัวห่างยางจะแตกแล้วจ้า

ขี่ม้า เพื่อนก็กลัวม้าหลังหัก


ล่องแพ เพื่อนก็กลัวแพล่ม

แต่เอาจริงๆนะโบว์เป็นเด็กมีน้ำมีนวลตั้งแต่เด็ก 
ก็เริ่มจากได้กินของอร่อยๆตั้งแต่เด็ก แล้วก็เป็นคนชอบกิน กิน กิน กิน แล้วก็กิน 
เพื่อนชวนไปไหนไปหมด ไม่เคยปฏิเสธความอร่อยใดๆเลย

นี่โบว์เอง ตอนเด็กๆ 5555

 
ตอนที่โบว์ค่อยๆอ้วนขึ้นเรื่อยๆ โบว์ก็คิดนะ
ว่าเราควรลดน้ำหนักรึเปล่า โบว์ก็มีไปต่อยมวยบ้าง
ลองไปออกกำลังกาย ยกเวทดูบ้าง ลงวิ่งมาราธอน ปั่นไบค์ บ้าง
แต่ลองแล้วค่ะ เอาจริงๆตอนนั้นมันไม่ใช่ทาง
เพื่อนก็เตือนแล้วว่า ทำไม่ได้หรอก



ใช่ค่ะ ทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ
ละพวกมันก็ไม่เลิกล้อ
จนโบว์รู้ตัวละว่าเรามีความสุขกับการกินมากกว่าการออกกำลังกาย 555
 
หลังจากที่เราตัดสินใจแบบนั้น
น้ำหนักโบว์ก็เลยทยานขึ้นเลข 8 อย่างรวดเร็ว
 
เพราะเราเป็นคนชอบกิน ชอบกินของอร่อยๆ
ใครบอกร้านไหน เมนูไหนอร่อยโบว์ไปหมด
ไกลแค่ไหนโบว์ก็ไป โบว์ชอบมาก โบว์ไม่เคยปฏิเสธการกินเลย

โบว์ไม่เคยได้ใส่เสื้อผ้า size ss s m l โบว์ใส่ได้แค่ xl xxl xxl
ถามว่าตอนนั้นโบว์รู้สึกอะไรมั้ย
จริงๆก็รู้สึกนะคะ หาซื้อเสื้อผ้าไม่ได้ยากก็จริง สำหรับคนอ้วน
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ใส่เสื้อผ้าสไตล์ที่คนผอมๆเค้าใส่กัน
โบว์ต้องใส่เสื้อผ้าตัวที่มันปล่อยๆหน่อย ใส่แล้วก็ไม่อึดอัด
ใส่แล้วก็สบายๆ สบายเรื่องอะไรหรอคะ ก็เวลาจะไปกินอะไรกับเพื่อนก็กินอะไรก็ได้ค่ะ ไม่อึดอัด 555
เสื้อผ้าก็จะตัวใหญ่ๆหน่อย สบายๆไม่รู้สึกอึดอัด แต่ด้วยความที่เราเป็นคนชอบแต่งตัวก็จะแอบรู้สึกน้อยใจ ตัวเอง เหมือนกัน อยากใส่แต่ไม่มีไซส์ ก็ byeee ไม่เป็นไร ช่างมัน


แต่เมื่อช่วงกรกฎาคม 2019 โบว์ตัดสินใจไปอเมริกา
อยากลองไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู้น เพื่อนๆก็เสียใจ
ไม่มีใครอยู่ให้ด่าว่าอ้วน ไม่อยู่ให้เพื่อนชวนไปกินของอร่อยแล้ว
ก็คิดนะไปเมกาจะหาของกินอร่อยๆ กินให้เมามันส์ไปเลยได้มั้ย
ก่อนไปขอจัดหนักซะหน่อย ชานมไข่มุกแก้วใหญ่ทุกวัน
ชาบู ปิ้งย่าง จัดให้ครบ ขุนไปเลย ขุนไปยกใหญ่
จนทำได้สำเร็จที่ 84 กก.

84 กก. หนักประมาณไหนดูได้จากในรูป ขออนุญาตปิดบังใบหน้าเพื่อนสวยๆนะคะ
เพราะพวกนี้แหละที่ล้อโบว์ว่าชบาแก้วมาโดยตลอด 55555 ชั้นจะหนีพวกแกไปจริงๆละนะ

ตอนไปเมกาใหม่ๆ อย่างที่โบว์บอกน้ำหนักโบว์คือ start ที่ 84 กก.
แต่พอไปถึงได้สัก 2-3 เดือน
ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ จากตอนที่อยู่ไทย พยายามลดเท่าไหร่ก็ลดไม่ได้
แต่พอไปอยู่เมกา น้ำหนักโบว์ค่อยๆลดลง ลดลง ลดลง ลดลงเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
แต่เพราะโบว์คงเดินเยอะมาก เล่นกับหลานก็หมดพลังไปในแต่ละวัน



โบว์กินปกตินะคะ แต่ก็จะลดมื้อดึก 
แล้วก็จะกินเยอะๆแค่ช่วงวันหยุด หรือมื้อพิเศษแล้วแต่โอกาส
แล้วก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆใช้ชีวิตปกติ

จนมาถึงจุดเปลี่ยนของโบว์ในชีวิตจริงๆ
เกิดเหตุการณ์รุนแรง หนักหนาสาหัส
 
โบว์ไม่สบายหนักมาก ลุกไม่ขึ้น กินข้าวไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย
1 อาทิตย์เต็มๆที่อยู่แบบนี้ และอยู่มาวันนึงคนที่โบว์รักและเคารพมากเสีย
โบว์เสียใจมาก กลับไทยก็กลับไม่ได้ด้วยสถานการณ์ต่างๆ
โบว์เสียใจ กินข้าวไม่ได้ นอนร้องไห้เป็นเดือนๆ
รู้ตัวอีกที เสื้อผ้าใส่แล้วทำไมหลวมๆ เอ๊ะ งงนะ
โบว์ก็เลยลองชั่งน้ำหนักดู ปรากฏว่าน้ำหนักโบว์เหลือแค่ 63.5 กก.

นี่คือโอกาสสำคัญที่โบว์จะตัดสินใจว่าจะไปต่อ หรือพอแค่นี้
ใช่ค่ะ โบว์คิดว่าในเมื่อพยายามลดตั้งนาน มันลดไม่ได้
ทั้งเพื่อนที่ด่ามาตลอดชีวิตว่าช้าง ชบาแก้ว อ้วน
 
แล้วตอนนี้เราแค่เดินเยอะ กินน้อยลง ประจวบเหมาะกับไม่สบาย
น้ำหนักโบว์ลดมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้โบว์ต้องเลือกที่จะไปต่อ
ไปค่ะ โบว์พร้อมลุยแล้ว ไหนๆก็ลดแล้ว เรามาลดเพื่อสุขภาพไปเลยแล้วกัน


เคล็ดลับเอาชนะความอ้วนของโบว์ก็คือ

#กินคีโต
โบว์เลือกกินคีโต เพราะโบว์ลองศึกษาดูแล้ว เราเป็นคนไม่ชอบกินผัก เราอาจจะไม่เหมาะกับกินคลีนแต่คีโต มีอาการที่เรากินได้ 
เรายังชอบเนื้อสัตว์ เรายังอย่างกินของอร่อยๆอยู่ ลองดูละกัน เห็นคนพูดถึงกันเยอะเลยลองศึกษา บวกกับเมนูอาหาร ที่เข้ากับเราได้ 
ไม่ชอบมาทำอะไรที่เครียดๆเพราะเด่วทำได้ไม่นาน
 
มาเริ่มแรกเราก็ต้องเปลี่ยนเครื่องปรุงก่อน ด้วยความที่ไม่ปรุงอะไรมากในตอนทำกับข้าว 
ก็เปลี่ยนเป็นใช้เกลือชมพูแทน ชื่อว่า Himalayan salt แค่นี้ อยู่ได้ละ อ๊ะ!! 
ความง่ายอีกอย่างหนึ่งคือกินหมูกรอบได้ เบคอนได้ แต่ต้องอยู่ในความพอดี 
ไม่มากจนเกินไป แต่ไม่สามารถแตะต้องแป้งได้เลยนะ 
อย่าหลุด โบว์ก็จะเน้นผักที่ตัวเองกินได้ เช่นผักบุ้ง ผักกะหล่ำปลี ผักกาดขาว 
เอาตามความชอบไปเลย จะได้Happy กับการกินและไม่เครียด ทำให้อยากทำต่อทุกๆวัน
 
#ทำIF
ว่ากันด้วย IF เรื่องนี้มาคู่กัน IF มีมากมายหลายเวลา เราก็แค่เลือกและปรับเข้ากับเวลาของเรา ให้ได้มากที่สุด 
ด้วยความไม่กินข้าวเช้าอยู่แล้ว (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ) ก็เลือกเป็น 16/8 ภายใน8 ชม.เรากินอะไรก็ได้ 
แต่กินคีโตนะคะ เราเริ่มกินมื้อแรกตอนไหนนับต่อไป8ชม. ครบปุ๊บหยุดกิน สามารถกินน้ำได้ ตลอดเวลา 
ที่หยุดกินในระหว่าง16 ชม. และอีกเวลาหนึ่งที่เลือก คือ23/1 ในช่วงเวลาหลังจากเมื่อวานเรากินเยอะ 
หรือมากจนเกินไป ก็จะเลือกทำในวันถัดมา อาจจะทรมานนิดนึงแต่อยู่ได้ โบว์คอนเฟิร์ม 

#ออกกำลังกาย
พอเริ่มรู้ตัวเองว่าสิ่งที่ทำเริ่มได้ผล นน.ลด แต่ด้วยความที่โบว์อ้วนมากมาก่อน พอลดลงตัวเริ่มย้วยๆ 
ก็เริ่มลองศึกษาวิธีออกกำลังกาย อย่างถูกวิธี เริ่มด้วยคาร์ดิโอ ขั้นต่ำ 30-40 นาที แล้วมาเริ่มเวทเทรนนิ่ง 
เราก็ต้องเริ่มดูตัวเอง ว่าส่วนไหนลดลง ส่วนไหนยังไม่ลด โบว์อยากแขนเล็กใส่แขนกุด สายเดี่ยวได้ 
ก็เริ่มเล่นแขนก่อน เริ่มยกดัมเบล แล้วก้อขา ปั้นก้นแถมไปอีก ดูทุกคลิปทำตามทุกตอน 
ทำไปเรื่อยๆเหนื่อยเราก็พัก ทำแบบนี้ไปอาทิตย์ล่ะ3-4 วัน บอกเลยเห็นผล



จนตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ โบว์เอาชนะเลข 8 ได้แล้วนะคะ
8 ที่ว่านี่คือ 84 กก. นะจ๊ะ แต่ตอนนี้โบว์ 52 กก. แล้วค่ะ
 
พยายามไปก่อน ผลจะตอบแทนกลับมาให้เราชื่นใจ ภูมิใจกับสิ่งที่ทำ รักตัวเอง แค่นี้ก็มีชีวิตดีดี มีความสุขที่สุดแล้ว 







ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวของโบว์จากวันนั้นที่ " #เขาหาว่าหนูอ้วน " 
จนตอนนี้หนูผอมแล้วนะคะ! สุขภาพดีด้วย 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่