[CR] รีวิว "Senju" บุฟเฟ่ต์ชาบู-สุกี้ยากี้ต้นตำรับญี่ปุ่นและพรีเมี่ยมซูชิรวม 179 เมนู เริ่มต้นคนละ 599฿++

ถ้าใครยังจำได้เราเคยรีวิวร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู-ซูชิและซาชิมิสุดพรีเมี่ยมระดับตำนานชื่อว่า "Tadaima" (ทาไดมะ) แต่ปัจจุบันมาอยู่ในสังกัดของ Ten Group ก็ได้รีแบรนด์ใหม่เป็น "Senju" (เซ็นจู) ตอนนี้ได้เพิ่มหม้อสุกี้ยากี้กับเมนูใหม่ๆรวมกว่า 179 รายการ ราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 599 บาท++ เปิดให้บริการรวมกว่า 6 สาขานั่นคือ 1. เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ 2. เกตเวย์เอกมัย 3. เมเจอร์รัชโยธิน 4. บริโอ้ศาลายา 5. เดอะพรอมานาดรามอินทรา และก็ 6. เอสพลานาดรัชดาที่เราเคยมาทานครั้งก่อนอ่านรีวิวเก่าได้ที่ลิงก์นี้ "https://bit.ly/3FpH9pN" วิธีเดินทางนั้นถือว่าสะดวกเพราะถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเดินเข้าห้างแล้วขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอร้านแล้ว ถ้านำรถส่วนตัวมาเองสามารถจอดภายในห้างฟรี 30 นาทีแรก เกินจากนั้นคิดราคาชั่วโมงละ 70 บ. ยกเว้นซื้อสินค้าหรือบริการครบ 500 บ. แล้วนำใบเสร็จไปประทับตราใช้เป็นส่วนลดค่าจอดรถ 4 ชั่วโมงแรกแค่ 20 บ. หน้าร้านเป็นบานกระจกขนาดใหญ่เรียงกันมองทะลุได้ไปจนถึงริมมีป้ายชื่อร้านสีทองรูปพระจันทร์กับอักษรตัว S ขนาดใหญ่แบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้ว ปัจจุบันบุฟเฟ่ต์ราคาเท่าไหร่และมีเมนูอะไรให้เรากินบ้างมาดูด้วยกันเลยครับผม

บุฟเฟ่ต์ราคาเริ่มต้นที่ 599/699/999/1,299 และสูงสุดที่ 1,699 ไม่รวม Vat. 7% และ Service Charge อีก 10% เมื่อรวมราคาสุทธิแล้วจะเริ่มต้นที่ 706/823/1,176/1,529 และ 2,000 ตามลำดับ (เฉพาะจ่ายเงินสด) ถ้าหากใช้บัตรเครดิตคิดเงินเพิ่มอีก 35 บาท (ยกเว้นราคา 999 ฿++ เป็นต้นไป) ส่วนของราคาเด็กที่มีส่วนสูงตั้งแต่ 101-120 ซม. ราคา Net. เริ่มต้นที่ 352/411/588/764 และ 1,000 ตามลำดับ เด็กเล็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม.ทานฟรี ถ้าสูงกว่า 120 ซม. คิดในราคาผู้ใหญ่ มีเมนูต่างๆทั้งเนื้อชาบู/ซูชิ/อาหารทานเล่น/เครื่องดื่ม/ขนมหวานรวมกันมากกว่า 179 รายการ โดยวัตถุดิบต่างๆในบุฟเฟ่ต์ก็จะไล่ลำดับความพรีเมี่ยมขึ้นไปเรื่อยๆตามราคาที่จ่ายไปถ้าเลือกเมนูระดับสูงที่สุดก็จะสามารถกินทุกเมนู ความพิเศษที่น่าสนใจของบุฟเฟ่ต์ที่ร้านนี้ก็มีหลากหลายรายการทั้งซีฟู้ดดองสไตล์เกาหลี/กุ้งแม่น้ำ/กุ้งหวานไซส์ยักษ์/ทูน่าโอโทโร่/ฟัวกราส์/หอยเชลล์โฮตาเตะ/ปลาไหลญี่ปุ่น/ไข่ปลาแซลมอน/เนื้อวากิวระดับ A3/ไข่หอยเม่น/ปูคิงส์แครปและมีไอศครีมฮาเก้นดาสให้สั่งได้ไม่อั้นถึง 2 ชั่วโมงเต็ม แต่ก็มีบางเมนูที่สั่งได้เฉพาะสมาชิกซึ่งแน่นอนว่าเรามีบัตร Ten Group ได้สั่งเมนูพิเศษพร้อมได้รับส่วนลดอีก 5%-10% ใช้ได้ทั้งร้าน Senju/Tenjo ด้วยยิ่งคุ้มเข้าไปอีก โดยรวมอาหารดูหลากหลายน่าทานมากขึ้นเข้าไปด้านในกันเลยครับ

เปิดประตูเข้ามาด้านในสิ่งที่จะพบก่อนเป็นอันดับแรกเลยก็คือไลน์ผักสดและขนมหวานยาวพิเศษซึ่งประกอบไปด้วย ไข่ไก่/กะหล่ำปลี/ผักบุ้ง/ข้าวโพด/ปวยเล้ง/แครอท/สาหร่ายวากาเมะ/ฟักทอง/เห็ดเข็มทอง/เส้นบุกแบน/เห็ดออเร็นจิ/วุ้นเส้น/เห็ดหอมสด/เส้นอูด้ง/เห็ดชิเมจิดำ/เต้าหู้อ่อน ขนมหวานที่สามารถเดินมาหยิบได้เองมีทั้ง เยลลี่รสสตรอเบอรี่/เยลลี่รสส้ม/เยลลี่รสแอปเปิ้ล/เยลลี่รสแบล็คเบอรี่/พาตาคอตต้าสตรอเบอรี่ ผลไม้สดตัดแต่งพร้อมกินแช่เย็นต่างๆทั้ง แก้วมังกร/สับปะรด/ฝรั่ง/แคนตาลูปกับแตงโม หยิบใส่จานสีดำแล้วนำไปวางบนโต๊ะได้เองเลยครับ

ถัดมาเป็นไลน์เครื่องดื่มรวมในราคาบุฟเฟ่ต์เรียบร้อยสามารถเดินมากดได้ด้วยตัวเองทั้ง น้ำอัดลมต่างๆ (โคล่า/น้ำส้ม/น้ำเขียว/น้ำแดงและมะนาวโซดา) ตู้กดข้างกันๆเป็นน้ำเปล่าแช่เย็น/ชาเขียวมัทฉะ/น้ำรสส้ม/นมสดไต้หวันสุดหอมมันสำหรับประกอบร่างรวมกับไข่มุกและบุกต้มในน้ำตาลบราวน์ชูการ์ ส่วนชาเขียวร้อนนั้นแบ่งเป็น ผงมัทฉะกับตู้น้ำร้อนให้กดผสมเติมความเข้มข้นได้ด้วยตัวเอง ขนมหวานนอกจากที่อยู่ในตู้แช่เย็นแล้วก็ยังมีอีกมากมายทั้ง แพนเค้กทำเองใส่เนยกับแป้งผสมสำเร็จลงบนเตาวาดเป็นรูปทรงต่างๆแล้วราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปตามใจ เครื่องทำฟองดูว์ใส่ช็อกโกแลตละลายสำหรับใส่มาร์ชเมลโลว์-เยลลี่เคลือบน้ำตาลและผลไม้แช่เย็นลงไปเคลือบ ตู้บดน้ำแข็ง/ราดน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆกับนมข้นหวานออกมาเป็นเมนูน้ำแข็งใสข้างๆกันเป็นโมจิสอดไส้และถั่วแดงญี่ปุ่นบดไว้ทานคู่กัน ท้ายสุดก็คือตู้ไอศครีมให้เดินมาตักเองรวมกว่า 6 รสชาติ ใครมีไอเดียอะไรก็ปรุงเป็นเมนูใหม่ได้ตามใจตัวเองเลยครับผม

โต๊ะกับเก้าอี้ภายในร้านยังคงใช้เบาะหนังกั้นด้วยฉากลายหินอ่อนสีดำและกระจกใสแบ่งออกเป็นช่องเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนใบสั่งอาหารก็ยังคงใช้เป็นแบบเขียนจำนวนที่ต้องการลงในช่องขวาสุด แบ่งสีตามระดับราคาคือ 1. สีดำ Premium Buffet ราคาคนละ 599 บ.++ 2. สีเขียว Prime Buffet ราคาคนละ 699 บ.++ 3. สีน้ำเงิน Platinum Buffet ราคาคนละ 999 บ.++ 4. สีทอง Prestige Buffet ราคาคนละ 1,299 บ.++ 5. สีแดงราคาสูงสุดสำหรับ Ultima Buffet ราคาคนละ 1,699 บ.++ วางไว้ให้บนโต๊ะพร้อมดินสอ แนะนำว่าถ้ามาทานกันหลายคนให้มีคนเขียนออเดอร์แค่ผู้เดียว คนอื่นก็สแกนดูเมนูจาก QR Code ตรงหัวโต๊ะบอกรายการกับจำนวนที่ต้องการกับเพื่อนแทนช่วยลดความสับสนได้ดีมากๆ โดยวันนี้เราเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์ระดับ Ultima จ่ายราคาคนละ 2,000 บ. วัตถุดิบและเมนูต่างๆที่เสิร์ฟขึ้นโต๊ะมานั้นจะพรีเมี่ยมและดีงามสมราคาขนาดไหน มาติดตามไปพร้อมกันเลยครับผม

มาถึงพนักงานก็จะเสิร์ฟชุดถ้วย-จาน/ช้อนตะเกียบและแก้วน้ำพร้อมถุงมือพลาสติกสำหรับไปหยิบตักอาหารที่ไลน์หน้าร้าน สำหรับน้ำซุปเลือกได้ 4 จากทั้งหมด 8 น้ำซุปก็คือ 1. น้ำซุปชาบูน้ำใส 2. น้ำซุปกิมจิ 3. น้ำซุปเล้งแซ่บ 4. น้ำซุปต้มยำ 5. น้ำซุปเห็ดหอมไวน์แดง 6. น้ำซุปหม่าล่า 7. น้ำซุปสุกี้ยากี้ 8. น้ำซุปกระดูกหมู ยกเว้นน้ำซุปอย่างสุดท้ายที่เราสั่งมาพร้อมหม้อสำหรับผัดหอมหัวใหญ่และมันไขวัวนั่นก็คือ "น้ำซุปสุกี้ยากี้ต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่น" ยกมาเพียงแค่หม้อเดียวผสมน้ำซุปสุกี้ยากี้กับปลาแห้งตามอัตราส่วนที่ต้องการได้เอง (โดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นน้ำซุปชนิดอื่นๆได้ในภายหลัง) มาพร้อมน้ำจิ้มที่ถูกยกออกมาจากตู้เย็นหลังร้านเรียงกัน 8 สูตร พร้อมพริกขี้หนูสดและกระเทียมสับให้ปรุงรสชาติที่เราชอบตามใจตัวเอง ส่วนถ้วยน้ำจิ้มเริ่มต้นให้เพียงแค่ 2 แต่ขอเพิ่มได้อีกไม่คิดเงินครับ

จานแรกเป็นเมนูเนื้อวากิวที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ในบุฟเฟ่ต์ระดับ Ultima คือ "เนื้อสันคอฮอกไกโด A3" หรือ Chuck Roll จุดเด่นของเนื้อส่วนนี้ก็คือมีไขมันแทรกสวยงามสม่ำเสมอทั้งชิ้น-กลิ่นหอมละมุนกับสัมผัสนุ่มลื่นไหลลงคอเมื่อทานแบบชาบู/สุกี้ยากี้ซึมซับรสชาติของน้ำซุปได้อย่างดีเยี่ยม "เนื้อพรีเมี่ยมวากิวริปอาย" จุดเด่นของส่วนนี้ก็คือมีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อน้อยแต่ติดสีขาวตรงขอบ ทำให้ได้สัมผัสเคี้ยวและมีกลิ่นเนื้อหนักกว่าจึงทำให้น้ำซุปเข้มข้น-อูมามิยิ่งทานแบบสุกี้ยากี้ผัดร้อนเข้ากันได้ดีสุดๆ ส่วนซาชิมิต่างๆที่เพิ่มมาคือ "อัลติมาซาชิมิเซ็ท" รวมวัตถุดิบซุปเปอร์พรีเมี่ยมเอาไว้ในชามเดียวกันทั้ง 1. อากามิหรือปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินส่วนเนื้อสีแดงมีรสชาติเข้มข้น 2. โอโทโร่หรือปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินส่วนท้องมีไขมันแทรกสวยงามเคี้ยวแล้วละลายในปากราวกับเนื้อวัววากิว 3. ไข่ปลาแซลมอนหรืออิคุระเม็ดเล็กรสชาติเข้มข้นไม่เค็มจัดทานได้เรื่อยๆ 4. ซาชิมิกุ้งหวานยักษ์ตัวใหญ่เนื้อเด้งเคี้ยวเต็มๆคำ 5. ซาชิมิหอยเชลล์ญี่ปุ่นหรือโฮตาเตะตัวโตเนื้อหวานเนียนละเอียด หากอยากทานวัตถุดิบแบบเดียวกันในราคาสบายกว่าก็สั่งเป็นระดับ Prestige ได้แต่เป็นซูชิเกือบทั้งหมด เมนูต่อไปตั้งใจมาเพื่อสิ่งนี้ก็คือ "ซูชิอูนิ" หรือไข่หอยเม่น ที่สีเหลืองทองสวยงามวางบนข้าวซูชิปรุงรสหวานอมเปรี้ยวม้วนด้วยสาหร่าย ลดความเลี่ยนด้วยวาซาบิดองฉุนขึ้นจมูกเคี้ยวกรอบนิดๆ รสชาติของไข่หอยเม่นที่ร้านนี้หวานเบาๆเนื้อสัมผัสราวกับครีมคัสตาร์ต แต่เทียบกับร้านที่เป็น Omakase แท้ไม่ได้เพราะราคาห่างกันค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวแค่ไม่มีอูนิเหม็นน้ำทะเลเนื้อเละสีเหลืองอมเขียวก็ถือว่าดีมากแล้วครับ

นอกจากนี้ก็สั่งเนื้อวัวที่อยู่ในรายการ Prestige Buffet มาเพิ่มอีกทั้ง "เนื้อพรีเมี่ยมวากิว A3" ที่คาดเดาด้วยสายตาแล้วน่าจะเป็นส่วนริปอายมีไขมันน้อยแต่ยังคงความนุ่มหอม-รสชาติเข้มข้น (แต่ก็ไม่เทียบเท่าพรีเมี่ยมวากิวริปอายในถาดแรก) "เนื้อพรีเมี่ยมวากิวสันนอก" แทรกไขมันละเอียดสวยงามเคี้ยวนุ่มละมุนกลิ่นไม่รุนแรงทานง่ายแต่ไม่ไหลลงคอเท่าสันคอฮอกไกโด A3 อยากฟินขั้นสูงสุดยังไงก็แนะนำให้ข้ามไป Ultima คุ้มกว่า ถาดต่อไปคือ "เนื้อพรีเมี่ยมวากิวสันคอ" ไขมันแทรกขนาดใหญ่ไม่นุ่มมากแต่รสชาติเข้มข้นคงเหลือกลิ่นเอาไว้ในน้ำซุปเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อวัวแบบชัดเจนตอนโจทย์ดีสุดๆ ส่วนซีฟู้ดมารอบนี้ไม่ได้สั่งอะไรมากมายยกเว้น "กุ้งแม่น้ำ" ไซส์ใหญ่ๆเนื้อแน่นเด้งแกะเปลือกมาให้พร้อมลวกลงในหม้อชาบูทันที ไม่ต้องแกะเองให้ลวก-เปื้อนมือสายกุ้งตัวจริงห้ามพลาด

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:   Senju Shabu & Sushi Premium Buffet
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่