หมวดต่อมาเป็นเมนู A La Carte สั่งเป็นกับข้าวทั้งทูน่าทาทากิ/สเต็กปลา/สเต็กเนื้อ/ปลาหมึกย่าง/เต้าหู้ย่าง/หมูผัดกับซอสต่างๆราคา 140-380 บาท เพิ่ม Set Menu ได้แบบเดียวกับหมวด Katsu หน้าเมื่อกี้ ส่วนใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบจานเดียวจบก็ต้องมาสั่งที่หมวด Donburi ที่มีให้เลือกทั้งหมด 23 เมนู โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายตั้งแต่เห็ด/ผักรวม/ไก่ทอด/เนื้อผัดซอส/หมูผัดซอส/ปลาย่างไปจนถึงข้าวหน้าปลาดิบสุดหรูในราคาเริ่มต้นที่ 79-350 บาท ตามระดับของวัตถุดิบที่สั่งในแต่ละจานแต่ก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆที่ขายเมนูเดียวกันอยู่ดี
[CR] รีวิว Moridon ร้านอาหารญี่ปุ่น-อิซากายะราคากันเอง ปรุงโดยเชฟประสบการณ์จากออสเตรเลีย อยู่ในซอยสาทร 11
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศก็คือห้องแถวขนาด 1 ตึก ถึงแม้จะดูเล็กๆแต่ภายในก็ไม่ได้อึดอัด แบ่งโซนเป็นห้องกระจกด้านหน้าทำเป็นครัวที่เชฟหมูเป็นคนทำเองทุกจานไม่มีผู้ช่วย ถัดมาด้านหลังเป็นแคชเชียร์และตู้เก็บวัตถุดิบที่แยกกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่เย็นแบบร้าน Izakaya ส่วนที่นั่งภายในร้านมีให้บริการอยู่ 7 โต๊ะรองรับได้เพียง 28-30 คน เฟอร์นิเจอร์ที่ร้านใช้โต๊ะโครงเหล็กไม้สีอ่อนพร้อมกับเปิดไฟส่องสว่างทำให้ร้านดูกว้างมากยิ่งขึ้น มาถึงผู้ช่วยของเชฟก็ยกเล่มเมนูอาหารมาวางไว้ให้เราสั่งที่โต๊ะ จะมีอะไรให้ทานบ้างนั้นเรามาเปิดดูไปด้วยกันเลยครับผม
ก่อนที่เราจะสั่งอาหารร้านนี้ทางร้านได้ย้ำความเป็นตัวเองโดยการพิมพ์เตือนเอาหน้าเล่มเมนูว่า Japanese Is Not Japanese นั่นหมายความว่าถึงแม้ชื่อ-หน้าตาอาหารจะเหมือนญี่ปุ่นแต่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นนะจ๊ะ เปิดมาหน้าแรกก็พบกับหมวด Snacks หรืออาหารทานเล่นทั้งปีกไก่ทอดราดซอสราคา 150-169 บาท มันฝรั่งทอดที่รูปแบบแตกต่างกันราคา 89-169 บาท นอกนั้นเป็นอาหารทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง เกี๊ยวซ่า/ไก่ทอด/เทมปุระ/ของเสียบไม้ทอด/ไข่หวานและพิซซ่าญี่ปุ่นราคา 59-250 บาท หมวดต่อมาคือ Katsu หรือเนื้อสัตว์ชุบเกล็ดขนมปังทอดราคา 139-180 บาท เลือกทานกับซอสที่เชฟปรุงขึ้นเองได้ 2 จากทั้งหมด 12 รายการ หากต้องการเพิ่มคิดราคาซอสละ 20 บาท เพิ่มซุปมิโสะ+สลัด+กิมจิเป็นชุดราคา 49 บาท ถ้ารวมข้าวราคา 65 บาท เพิ่มชาเขียวอีกเพียงแก้วละ 10 บาท ราคาโดยรวมถือว่าถูกกว่าร้านบนห้างแต่เพิ่มความสนุกด้วยการทานกับซอสที่หลากหลายไม่เหมือนใครดีครับ
หมวดต่อมาเป็นเมนู A La Carte สั่งเป็นกับข้าวทั้งทูน่าทาทากิ/สเต็กปลา/สเต็กเนื้อ/ปลาหมึกย่าง/เต้าหู้ย่าง/หมูผัดกับซอสต่างๆราคา 140-380 บาท เพิ่ม Set Menu ได้แบบเดียวกับหมวด Katsu หน้าเมื่อกี้ ส่วนใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบจานเดียวจบก็ต้องมาสั่งที่หมวด Donburi ที่มีให้เลือกทั้งหมด 23 เมนู โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายตั้งแต่เห็ด/ผักรวม/ไก่ทอด/เนื้อผัดซอส/หมูผัดซอส/ปลาย่างไปจนถึงข้าวหน้าปลาดิบสุดหรูในราคาเริ่มต้นที่ 79-350 บาท ตามระดับของวัตถุดิบที่สั่งในแต่ละจานแต่ก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆที่ขายเมนูเดียวกันอยู่ดี
หน้าต่อมาคือ Kare หรือเมนูแกงกระหรี่อันขึ้นชื่อของทางร้านเรื่องความเข้มข้นราคาเริ่มต้นที่ 109-309 บาท โดยมีท๊อบปิ้งให้เลือกมากกว่า 15 รายการ ยิ่งใส่มากราคายิ่งบวกเข้าไปเรื่อยๆเริ่มที่ 40-250 บาท หน้าต่อไปเป็น Hot Udon ราคาเริ่มต้นที่ 149-329 บาท มีท๊อบปิ้งให้เลือก 9 รายการราคาเริ่มที่ 35-180 บาท แล้วต่อกันด้วยหมวด Cold Soba ราคาเริ่มต้นที่ 120-300 บาท นาเบะหม้อร้อนราคา 179-189 บาท เมนูเส้นแบบผัดแห้งราคา 179-199 บาท สุดท้ายคือสลัดมีให้เลือกมากถึง 9 เมนูราคา 75-159 บาท ตามของคุณภาพวัตถุดิบที่ใส่เป็นท๊อบปิ้ง และอีกอย่างคือ Omakase ตามใจเชฟ 200 บาท คุณจะได้เมนูใหม่ที่ไม่มีในเล่มนี้เหมาะกับคนชอบท้าทายครับ
นอกจากนี้ยังมี Side Dish เป็นของทานเล่นไว้ทานคู่กับอาหารจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 20-50 บาท ถ้ามาร้านนั่งดื่มแบบนี้ ก็ต้องคู่กับเครื่องดื่มดีๆที่ร้านนี้ก็มีให้เลือกไม่มากนักแต่คัดมาเฉพาะตัวเด็ด (ไม่ได้ถ่ายรูปแนบมาด้วย) ส่วนน้ำดื่มทั่วไปก็มีทั้งน้ำแร่/น้ำอัดลม/ชามะนาว/ชาเขียว(รีฟีล)/น้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสนมเปรี้ยวราคา 20-190 บาท ตอนนี้เราก็ทำการสั่งอาหารไปเรียบร้อยโดยทุกจานถูกปรุงใหม่ๆโดยเชฟหมูที่เป็นเจ้าของร้านนี้ หากใครอยากรู้ว่าคนนี้เขามีความพิเศษอย่างไรแนะนำว่าไปดูที่หน้า Facebook ของที่ร้านเลยครับบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน
เมนูจานแรกมาเสิร์ฟเป็น Signature ของทางร้านคือ "มิลเฟยคัตสึ" ราคา 180 บาท เนื้อหมูส่วนสันคอสไลด์แทรกไขมันละเอียดนำมาซ้อนกันหลายๆชั้น (คล้ายกับชั้นแป้งกรอบในขนมมิลเฟย) ก่อนนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปังทอดจนมีสีเหลืองกรอบ ส่งผลให้น้ำเนื้อและไขมันหมูแทรกตัวชุ่มฉ่ำอยู่ตามช่องว่างในแต่ละชั้น ให้ความฟินห์ในการทานที่แตกต่างจากหมูชิ้นใหญ่-หนาตามปกติ วิธีการทานก็แค่บีบเลมอนลงบนหมูทอดร้อนๆหรือทานคู่กับซอสในชุดเราสั่งมา 2 สูตรคือ น้ำซอสมาโยหรือมายองเนสสูตรโฮมเมดไว้ทานคู่กับผักกะหล่ำปลีซอย และทงคัตสึซอสหรือน้ำจิ้มของทอดสไตล์ญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับก็อร่อยฟินห์ไม่แพ้ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังๆบนห้างใหญ่ๆเลยแม้แต่น้อยครับผม
เมนูต่อมาเป็นเมนูเส้นผัดร้อนที่เชฟได้ผสมเทคนิคการทำครัวแบบยุโรป เข้าไปก็คือ "ฮอกไกโดยากิโซบะ" ราคา 179 บาท เป็นเส้นยากิโซบะเรียวเล็กคล้ายราเมนผัดกับซอสยากิโซบะรสชาติหวาน-เค็มกลมกล่อมสูตรของที่ร้าน ใส่เครื่องลงไปทั้งแครอท/กะหล่ำปลี/เห็ดแชมปิญอง ก่อนจะเสิร์ฟราดด้วยโฮมเมดมาโย-โรยสาหร่าย/ปลาคัตสึโอะแห้งและท๊อบปิ้งด้วย Poached Egg หรือไข่ดาวน้ำที่เสิร์ฟแบบเดียวกับเมนู Eggs Benedict ทำให้เมนูนี้มีความคล้ายคลึงกันแต่เปลี่ยนจากขนมปังเป็นยากิโซบะแทนถือว่าเข้ากันได้อย่างลงตัวครับผม เมนูต่อไปเป็นจานพิเศษที่ไม่เคยเห็นในร้าน Izakaya ที่อื่นคือ "เห็ดผัดเต้าหู้ย่างราดซอสมิโสะ" ราคา 149 บาท เริ่มจากเห็ดที่ร้านเชฟเขานำไปต้มกับซีอิ๊วให้ได้รสหวานเค็มอมเปรี้ยวนิดๆจนเข้าเนื้ออย่างเข้มข้นได้ความอูมามิรองที่ด้านล่างสุดของจาน เต้าหู้ที่นำมาใช้เป็นแบบแข็งพิเศษ (ตัดด้วยตะเกียบไม่เข้า) นำไปย่างท๊อบปิ้งด้วยซอสมิโสะรสหวานมันสูตรคล้ายๆกับมิโสะหวานจิ้มกับต้นหอมลวกแบบที่คนญี่ปุ่นชอบทาน จากนั้นเบิร์นไฟเพื่อเพิ่มความเกรียมหอมกรุบกรอบและตกแต่งให้สวยงามด้วยการโรยต้นหอมกับงา ส่วนตัวถ้าไม่เคยอ่านรีวิวเก่าๆมาก่อนจะไม่สั่งเมนูนี้เด็ดขาดเพราะหลายๆร้านมักจะทำจืด แต่ที่นี่รสชาติเข้มข้นหวานมันทานกับเห็ดต้มซีอิ๊วอร่อยสุดๆ เหมาะเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยครับสำหรับจานนี้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น