บริเวณหน้าตึกกิจกรรมกลางของหมู่บ้าน เด็ก ๆ ต่างพากันเดินเข้าไปข้างในตึก ที่บริเวณหน้าห้องโถงใหญ่ บนหน้าห้องโถงนั้นมีแผ่นป้ายประกาศเขียนด้วยลายมือแบบบ้าน ๆ ไว้ว่า ‘การประชุมใหญ่ของหมู่บ้านสารขัณฑ์ครั้งที่ 1 สนับสนุนโดย โทน’ พร้อมรูปของโทนที่ทำท่าชี้นิ้วไปข้างหน้าเหมือนคนมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ปูริดลยังคงกระโดดโลดเต้น พยายามแตะจับแผ่นป้ายอยู่ ส่วนบริเวณมุมหนึ่งของห้องประชุมทางด้านหลังมี พีรพล ยิปซียืนมองพิธีการประชุมอยู่อย่างเงียบ ๆ ส่วนบริเวณมุมห้องอีกฝั่งที่มีแสงสลัว ๆ นั้น เห็นเงาร่างมืดของเด็กคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็น
“การเลือกตั้ง?” ยูวดี ไอริน ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา อุทานออกมาพร้อม ๆ กัน
“ใช่ เราต้องมีการเลือกตั้ง” โทนแนะนำเสียงดังก่อนจะพูดต่อ
“เพื่อให้ได้คนที่ทุจริตที่สุด!” โทนพูดผิดไป เด็ก ๆ ทุกคนทำท่าตกกระใจเมื่อได้ยิน เสียงคำว่า ‘ทุจริต’ ก่อนที่จะถูกกระซิบ ซุบซิบกันต่อ ๆ กันไป จากประภาสไปที่ชาณัฐ ชาณัฐไปที่ชนธิดา ชนธิดาไปที่ปูริดล ซึ่งทำหน้ายิ้มแย้ม แต่คิ้วกลับขมวดเป็นปม ก่อนจะหันกลับมาหาชนธิดา
“ทุจริต คืออะไรเหรอ?!” ปูริดลถาม
“ไม่รู้อ่ะ” ชนธิดาตอบ เสียงกระซิบ ซุบซิบกันต่อ ๆ ไปกลับมา ชนธิดาหันไปที่ชาณัฐ ชาณัฐก็ไม่รู้หันกลับไปถามประภาส ประภาสก็ไม่รู้หันกลับไปก็ไม่เจอใครให้ถามต่อ
“ทุจริต คือ... ไม่รู้อ่ะ?” ประภาสตอบ เด็ก ๆ ทุกคนสงสัยและเสียงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นมาในห้องประชุม ทันใดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่
“ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 อธิบายว่า ทุจริตเป็นคำนาม แปลว่า ความประพฤติชั่ว...” เด็ก ๆ หันไปมองทางด้านหลัง เห็นเป็นวิชา ก่อนที่วิชาอธิบายต่อ
“ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางกายเรียกว่า กายทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางกาม เรียกว่า กามทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางวาจา เรียกว่า วจีทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางใจ เรียกว่า มโนทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางการเลือกตั้งเรียก ทุจริตในการเลือกตั้ง…” วิชาร่ายคำอธิบายอันยาวเหยียด เด็ก ๆ ฟังสักครู่ก็ละความสนใจไปที่อื่น ทิ้งให้วิชายืนบ่นคนเดียวเช่นเคย ทุกคนหันไปมองโทนและคริสตัลที่ยืนอยู่บนเวที
“ง่า...สุจริตค่ะ” คริสตัลกระซิบบอกโทน
“อ่ะแฮ่ม และเพื่อให้ได้คนทำงานที่สุจริตที่สุด! เราควรเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน ใคร ๆ ก็สามารถสมัครเลือกตั้งได้” โทนกระแอมแก้ตัว
“และเพื่อที่จะป้องกันคนที่มีคุณสมบัติไม่พอ ไม่ให้เข้ามาสมัครได้ คนที่จะรับสมัครเลือกตั้งได้นั้น ควรผ่านกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ให้ได้เสียก่อน เห็นด้วยหรือไม่?” โทนเสริม คริสตัลรีบชักจูงเด็ก ๆ ด้วยการตะโกนว่าเห็นด้วย ๆ
“เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย!” ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ตะโกนออกมา ยูวดีกับไอรินได้ยินแล้วก็มองหน้ากัน พร้อมยักไหล่
“และนี่คือ กฎเกณฑ์ของผู้สมัครเลิอกตั้ง” โทนพูด คริสตัลก้าวออกมาพร้อมสะบัดม้วนกระดาษที่มีรูปร่างเหมือนพวกพระราชโองการสมัยโบราณออก เรียกเสียงฮือฮาได้เต็มห้องประชุม เด็ก ๆ ต่างก็พากันกรูเข้ามาอ่านที่ม้วนกระดาษมีข้อบังคับต่าง ๆ มากมาย
“1 นับถือศาสนา” ประภาสอ่าน
“2 รักษาธรรมเนียมมั่น” ชาณัฐอ่าน
“3 เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์” ชนธิดาอ่าน
“4 วาจาต้องสุภาพอ่อนหวาน” วิชาอ่าน
“5 ยึด...มั่น...อกตัญญู” ปูริดลอ่านตะกุกตะกัก แถมผิดอีกต่างหาก
“เอิ่ม...กตัญญูจ่ะ” คริสตัลกระซิบ
“6 เป็นผู้รู้รักการงาน” โทนอ่าน
“7 ต้องศีกษาให้เชี่ยวชาญ” พีรพลอ่าน
“7.1 ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน” ยิบซีอ่าน
“8 รู้จักออมประหยัด” ไอรินอ่าน
“9 ต้องซื่อสัตย์ ตลอดกาล” ยูวดีอ่าน
“9.1 น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา” ขวัญใจอ่าน
“10 ทำตนให้เป็นประโยชน์” เงามืดที่อยู่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นอ่านออกมา ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ
“10.1 รู้บาปบุญคุณโทษ” เงามืดอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังอ่าน ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ อีกหนหนึ่ง
“10.2 สมบัติชาติต้องรักษา” เงามืดอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่อ่านต่อ ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ อีกหนหนึ่ง ทันทีที่อ่านจบ ก็มีเสียงโห่ร้อง อืออา ออกมาเต็มห้องประชุมไปหมด
“โห เยอะขนาดนี้ใครจะไปทำได้ล่ะ” ยูวดีบ่น
“ที่มีกฎเกณฑ์มากมายแบบนี้ ก็เพื่อคุณภาพของผู้สมัครเลือกตั้ง” โทนพูดเสียงดัง มั่นใจว่าไม่มีเด็กคนไหนที่มีคุณสมบัติครบทุกข้อแน่ ๆ โทนกับคริสตัลหันมองหน้ากันพลางยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ชั้นทำได้นะ” ไอรินโพล่งออกมา
“เฮ้ย!” โทนและคริสตัลสะดุ้งตกใจ ร้องเสียงสูง
“ข้อ 1 ถึง 10.2 ชั้นมีหมดนะ” ไอรินบอก
“แล้วเธอมีข้อ 10.3 หรือเปล่า?” คริสตัลถาม
“ข้อ 10.3?” ไอรินพูดพลางทำหน้าสงสัย เมื่อเหลือบมองที่มุมล่างสุดของม้วนกระดาษก็เห็นข้อความตัวเล็กกระจิ๊ดเดียวพร้อมดอกจัน
“ข้อ 10.3 ต้องเคยเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมของหมู่บ้านสารขัณฑ์อย่างเป็นทางการ” ไอรินเพ่งพลางอ่านข้อสุดท้ายจบ ก็มีเสียงโห่ร้อง อืออา ออกมาเต็มห้องประชุมไปหมด
“โห ชั้นจะไปมีข้อนี้ได้ไงล่ะ” ไอรินตอบยิ้มแหย ๆ
“งั้นเธอก็ไม่มีสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้งนะ หลบไป ๆ” คริสตัลทำมือไล่ไอรินให้ไปไกล ๆ
“แต่แม้คุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งนั้นจะมากมายเพียงใด แต่เรามีผู้สมัครอยู่ท่านหนึ่ง ที่ผ่านกฎเกณฑ์ทุกข้อ ไม่มีตกหล่น นั่นคือ โทน ๆ ๆ ๆ” คริสตัลพูดพลางทำเสียงกังวานตอนจบด้วยตัวของเธอเอง ก่อนจะผายมือปูทางให้กับโทน ที่เดินขยับออกมาทางด้านหน้าของเวที คริสตัลตบมือ ก่อนจะเรียกให้เด็กคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านตบมือตามเช่นกัน ขณะที่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน บ้างก็ยังงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นเขาตบมือ แปะ ๆ ก็ตบมือตามกันไป โทนโค้งคำนับ รับเสียงตบมือบนเวที บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความชื่นบาน
“มันเป็นวันที่พวกเราได้มีการเลือกตั้ง” เสียงของยูวดี พร้อมกับภาพของเด็ก ๆ ทุกคน ที่เขียนกากบาทลงในช่องสี่เหลี่ยมของกระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากนั้นประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ไอริน ยูวดี วิชา พีรพล ยิบซีและเงาของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด ต่างก็ทยอยออกมาหย่อนกระดาษเลือกตั้งลงในกล่องนับคะแนนเสียง ที่ทำจากกล่องพลาสติกสีขาวขุ่น ๆ ด้านล่างของกล่องมีรอยแตกใหญ่อยู่
“มันเป็นวันที่พวกเราได้มีประชาธิปไตย” เสียงของยูวดีที่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับสภาพเวทีนับคะแนนการเลือกตั้ง ประภาสคลี่กระดาษ เผยให้เห็นชื่อ ‘โทน’ ที่ถูกเขียนอยู่ข้างใน ก่อนจะโชว์ให้เด็ก ๆ คนอื่นดู ชาณัฐประกาศเสียงดังว่า ‘โทน’ ชนธิดาที่ยืนอยู่ข้างหลัง ขีดเส้นหนึ่งเส้น รวมเป็น 5 คะแนน ลงบนกระดาน Whiteboard ที่มีชื่อผู้สมัคร โทนอยู่คนเดียว ข้างใต้โทนมีเขียนว่า ‘งดออกเสียง’ พร้อมเส้นขีดคะแนนขีดอยู่ 2 คะแนน ประภาสคลี่กระดาษต่อไป พร้อมกับเสียงของชาณัฐที่ตะโกนออกมาว่า ‘โทน’ ชนธิดาขีดอีกหนึ่งเส้นคะแนนให้กับโทน
“มันเป็นวันที่เราได้มีผู้นำ” เสียงของยูวดีกับภาพที่ตัดกลับมาที่ภายในห้องโถงใหญ่ ประจำศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน โทนและคริสตัล ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของห้องโถง โทนชูมืออย่างผู้ชนะ คริสตัลตบมือรัว ๆ พร้อมเชียร์ให้เด็ก ๆ คนอื่น ๆ ตบมือตาม ข้างหลังโทนมีแผ่นป้ายประกาศว่า นายกรัฐมนตวย คนแรกของหมู่บ้านสารขัณฑ์ สนับสนุนโดย โทน นายกรัฐมนตวย คนแรกของหมู่บ้านสารขัณฑ์ ปูริดลขโมยซีนด้วยการเดินไปมา ๆ
ภาพตัดมาที่ห้องประชุมที่บ้านของโทน โทนกำลังยืนมองคริสตัล ที่นั่งอยู่พร้อมถือแผ่นป้าย Whiteboard ที่เขียนว่า ‘นายกรัฐมนโท’ โทนส่ายหัว คริสตัลจึงขีดฆ่าคำว่า ‘โท’ ทิ้ง บน Whiteboard คำว่า ‘นายกรัฐมนเอก’ ถูกขีดฆ่าทิ้งไปแล้ว
ต่อมาคริสตัลเขียนคำใหม่ออกมา ก่อนกลับป้ายให้โทนดู เห็นเป็นคำว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ โทนเห็นแล้วก็ส่ายหัวอีกครั้ง คริสตัลขีดฆ่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ๆ ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะนึกคำหนึ่งออก รีบเขียนลงไปที่กระดาน Whiteboard แล้วหันมาโชว์ให้โทนดู เห็นเป็นคำว่า ‘นายกรัฐมนตวย’ โทนยิ้ม ผงกหัวพลางยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ คริสตัลผงกหัวรัว ๆ พร้อมยิ้มอย่างดีใจ
“เป็นวันที่เราได้มีผู้สื่อข่าว” เสียงของยูวดี ซ้อนกับภาพของเธอที่มือกำลังถือไมค์ ยืนรายงานข่าวกับทีวีลม ด้านหลังเป็นโทน คริสตัลและประชาชนของหมู่บ้านสารขัณฑ์ ที่กำลังตบมือให้กับโทน ผู้นำคนแรกของหมู่บ้าน
“เป็นวันที่เราได้มีชนชั้นกลาง” เสียงของยูวดี ซ้อนกับภาพของ ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนวิชานั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว
“เป็นวันที่เราได้เริ่มมีงานทำ” เสียงของยูวดี กับภาพของการตัดริบบิ้นเปิดกิจการของร้านสะดวกซื้อ ชื่อ 24-365 ที่มีขอนไม้วางขาย พร้อมกับแผ่นป้าย ‘0 Day without DEATH’ โดยที่พีรพลและยิบซีเป็นคนตัดริบบิ้นเปิดงาน โดยโทนและคริสตัลยืนข้าง ๆ พร้อมเงาดำทะมึนของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด พร้อมด้วยเงาตะคุ่ม ๆ อีกสองเงาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ส่วนปูริดลยังคงเดินเล่น ตัดหลังขโมยซีน ในกางเกงขาสั้นสีฟ้าพร้อมโลโก้รูปเรือใบตัวเดิม
“ต่อไปไม้จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า” โทนบอก
“ทุกคนมีอิสระและความสามารถที่จะหาไม้ได้ จากสวนสาธารณะ” ยิบซีพูด
“หรือหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 24-365” พีรพลพูด
“อยากได้ไม้เมื่อไหร่ก็แวะมา” พีรพลและยิบซีพูดพร้อม ๆ กัน พร้อมเสียงดังตื๊อ-ตื่อ ที่เอาไว้บอกว่ามีคนเดินเข้าร้านมา
“ไม้เป็นของสาธารณะ ฉะนั้นขอเพียงแค่ขยันทำงาน หาไม้ คนนั้นก็จะรวย พวกเราทุกคนเสมอภาคเท่าเทียม” โทนบอกต่อ ชาวสารขัณฑ์ทุกคนตบมือยินดีเต็มไปหมด
เด็ก ๆ ทุกคนในหมู่บ้านสารขัณฑ์ต่างก็ออกมายืนอยู่ที่หน้าห้องโถงใหญ่ ประจำศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน ยูวดีและไอรินคุยกันสนุกสนาน ประภาส ชาณัฐและชนธิดา เล่นเป็นพ่อแม่ลูกอยู่ด้านหลัง วิชายังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าประตู ปูริดล ยังคงวิ่งเล่นในกางเกงขาสั้นสีฟ้าพร้อมโลโก้รูปเรือใบตัวเดิม พีรพลและยิบซียืนถือท่อนไม้ โทนและคริสตัลยืนข้าง ๆ พร้อมเงามืด ๆ ของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด กับเงามืดอีกสองร่างที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ทุกคนดูยิ้มแย้มมีความสุข
“มันเป็นวันที่พวกเรา ได้มีประชาธิปไตย มีผู้นำ มีทุกอย่างเป็นครั้งแรก มันเป็นวันที่ถูกจารึกลงไปในหน้าประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านสารขัณฑ์แห่งนี้” ขวัญใจถือไมค์รายงานข่าวกับทีวีลมเช่นเคย ภาพค่อย ๆ ลอยสูงขึ้นไปจากบริเวณหน้าห้องโถงใหญ่ ศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน ผ่านเมฆก้อนเล็กน้อยใหญ่ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนเห็นเป็นสภาพพื้นที่ส่วนที่เหลือของทั้งประเทศไทยที่กลายเป็นสีดำ ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้วอีกต่อไป
หากชอบใจ เรื่องราวของหมู่บ้านสารขัณฑ์ สามารถอ่านเพิ่มเติมตอนต่อไป หรืออ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.readawrite.com/c/d76ff1aebf93bd0cb5d0db355375048c
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=2268115&chapter=2
#หมู่บ้านสารขัณฑ์ #sarakantown
เรื่องสั้น หมู่บ้านสารขัณฑ์ (Sarakan Town) ตอน การเลือกตั้ง
“การเลือกตั้ง?” ยูวดี ไอริน ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา อุทานออกมาพร้อม ๆ กัน
“ใช่ เราต้องมีการเลือกตั้ง” โทนแนะนำเสียงดังก่อนจะพูดต่อ
“เพื่อให้ได้คนที่ทุจริตที่สุด!” โทนพูดผิดไป เด็ก ๆ ทุกคนทำท่าตกกระใจเมื่อได้ยิน เสียงคำว่า ‘ทุจริต’ ก่อนที่จะถูกกระซิบ ซุบซิบกันต่อ ๆ กันไป จากประภาสไปที่ชาณัฐ ชาณัฐไปที่ชนธิดา ชนธิดาไปที่ปูริดล ซึ่งทำหน้ายิ้มแย้ม แต่คิ้วกลับขมวดเป็นปม ก่อนจะหันกลับมาหาชนธิดา
“ทุจริต คืออะไรเหรอ?!” ปูริดลถาม
“ไม่รู้อ่ะ” ชนธิดาตอบ เสียงกระซิบ ซุบซิบกันต่อ ๆ ไปกลับมา ชนธิดาหันไปที่ชาณัฐ ชาณัฐก็ไม่รู้หันกลับไปถามประภาส ประภาสก็ไม่รู้หันกลับไปก็ไม่เจอใครให้ถามต่อ
“ทุจริต คือ... ไม่รู้อ่ะ?” ประภาสตอบ เด็ก ๆ ทุกคนสงสัยและเสียงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นมาในห้องประชุม ทันใดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่
“ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 อธิบายว่า ทุจริตเป็นคำนาม แปลว่า ความประพฤติชั่ว...” เด็ก ๆ หันไปมองทางด้านหลัง เห็นเป็นวิชา ก่อนที่วิชาอธิบายต่อ
“ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางกายเรียกว่า กายทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางกาม เรียกว่า กามทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางวาจา เรียกว่า วจีทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางใจ เรียกว่า มโนทุจริต ถ้าเป็นความประพฤติชั่วทางการเลือกตั้งเรียก ทุจริตในการเลือกตั้ง…” วิชาร่ายคำอธิบายอันยาวเหยียด เด็ก ๆ ฟังสักครู่ก็ละความสนใจไปที่อื่น ทิ้งให้วิชายืนบ่นคนเดียวเช่นเคย ทุกคนหันไปมองโทนและคริสตัลที่ยืนอยู่บนเวที
“ง่า...สุจริตค่ะ” คริสตัลกระซิบบอกโทน
“อ่ะแฮ่ม และเพื่อให้ได้คนทำงานที่สุจริตที่สุด! เราควรเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน ใคร ๆ ก็สามารถสมัครเลือกตั้งได้” โทนกระแอมแก้ตัว
“และเพื่อที่จะป้องกันคนที่มีคุณสมบัติไม่พอ ไม่ให้เข้ามาสมัครได้ คนที่จะรับสมัครเลือกตั้งได้นั้น ควรผ่านกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ให้ได้เสียก่อน เห็นด้วยหรือไม่?” โทนเสริม คริสตัลรีบชักจูงเด็ก ๆ ด้วยการตะโกนว่าเห็นด้วย ๆ
“เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย!” ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ตะโกนออกมา ยูวดีกับไอรินได้ยินแล้วก็มองหน้ากัน พร้อมยักไหล่
“และนี่คือ กฎเกณฑ์ของผู้สมัครเลิอกตั้ง” โทนพูด คริสตัลก้าวออกมาพร้อมสะบัดม้วนกระดาษที่มีรูปร่างเหมือนพวกพระราชโองการสมัยโบราณออก เรียกเสียงฮือฮาได้เต็มห้องประชุม เด็ก ๆ ต่างก็พากันกรูเข้ามาอ่านที่ม้วนกระดาษมีข้อบังคับต่าง ๆ มากมาย
“1 นับถือศาสนา” ประภาสอ่าน
“2 รักษาธรรมเนียมมั่น” ชาณัฐอ่าน
“3 เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์” ชนธิดาอ่าน
“4 วาจาต้องสุภาพอ่อนหวาน” วิชาอ่าน
“5 ยึด...มั่น...อกตัญญู” ปูริดลอ่านตะกุกตะกัก แถมผิดอีกต่างหาก
“เอิ่ม...กตัญญูจ่ะ” คริสตัลกระซิบ
“6 เป็นผู้รู้รักการงาน” โทนอ่าน
“7 ต้องศีกษาให้เชี่ยวชาญ” พีรพลอ่าน
“7.1 ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน” ยิบซีอ่าน
“8 รู้จักออมประหยัด” ไอรินอ่าน
“9 ต้องซื่อสัตย์ ตลอดกาล” ยูวดีอ่าน
“9.1 น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา” ขวัญใจอ่าน
“10 ทำตนให้เป็นประโยชน์” เงามืดที่อยู่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นอ่านออกมา ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ
“10.1 รู้บาปบุญคุณโทษ” เงามืดอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังอ่าน ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ อีกหนหนึ่ง
“10.2 สมบัติชาติต้องรักษา” เงามืดอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่อ่านต่อ ทุกคนหันไปมองกันเป็นทางเดียว พลางทำหน้าซุบซิบ ๆ อีกหนหนึ่ง ทันทีที่อ่านจบ ก็มีเสียงโห่ร้อง อืออา ออกมาเต็มห้องประชุมไปหมด
“โห เยอะขนาดนี้ใครจะไปทำได้ล่ะ” ยูวดีบ่น
“ที่มีกฎเกณฑ์มากมายแบบนี้ ก็เพื่อคุณภาพของผู้สมัครเลือกตั้ง” โทนพูดเสียงดัง มั่นใจว่าไม่มีเด็กคนไหนที่มีคุณสมบัติครบทุกข้อแน่ ๆ โทนกับคริสตัลหันมองหน้ากันพลางยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ชั้นทำได้นะ” ไอรินโพล่งออกมา
“เฮ้ย!” โทนและคริสตัลสะดุ้งตกใจ ร้องเสียงสูง
“ข้อ 1 ถึง 10.2 ชั้นมีหมดนะ” ไอรินบอก
“แล้วเธอมีข้อ 10.3 หรือเปล่า?” คริสตัลถาม
“ข้อ 10.3?” ไอรินพูดพลางทำหน้าสงสัย เมื่อเหลือบมองที่มุมล่างสุดของม้วนกระดาษก็เห็นข้อความตัวเล็กกระจิ๊ดเดียวพร้อมดอกจัน
“ข้อ 10.3 ต้องเคยเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมของหมู่บ้านสารขัณฑ์อย่างเป็นทางการ” ไอรินเพ่งพลางอ่านข้อสุดท้ายจบ ก็มีเสียงโห่ร้อง อืออา ออกมาเต็มห้องประชุมไปหมด
“โห ชั้นจะไปมีข้อนี้ได้ไงล่ะ” ไอรินตอบยิ้มแหย ๆ
“งั้นเธอก็ไม่มีสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้งนะ หลบไป ๆ” คริสตัลทำมือไล่ไอรินให้ไปไกล ๆ
“แต่แม้คุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งนั้นจะมากมายเพียงใด แต่เรามีผู้สมัครอยู่ท่านหนึ่ง ที่ผ่านกฎเกณฑ์ทุกข้อ ไม่มีตกหล่น นั่นคือ โทน ๆ ๆ ๆ” คริสตัลพูดพลางทำเสียงกังวานตอนจบด้วยตัวของเธอเอง ก่อนจะผายมือปูทางให้กับโทน ที่เดินขยับออกมาทางด้านหน้าของเวที คริสตัลตบมือ ก่อนจะเรียกให้เด็กคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านตบมือตามเช่นกัน ขณะที่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน บ้างก็ยังงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นเขาตบมือ แปะ ๆ ก็ตบมือตามกันไป โทนโค้งคำนับ รับเสียงตบมือบนเวที บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความชื่นบาน
“มันเป็นวันที่พวกเราได้มีการเลือกตั้ง” เสียงของยูวดี พร้อมกับภาพของเด็ก ๆ ทุกคน ที่เขียนกากบาทลงในช่องสี่เหลี่ยมของกระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากนั้นประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ไอริน ยูวดี วิชา พีรพล ยิบซีและเงาของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด ต่างก็ทยอยออกมาหย่อนกระดาษเลือกตั้งลงในกล่องนับคะแนนเสียง ที่ทำจากกล่องพลาสติกสีขาวขุ่น ๆ ด้านล่างของกล่องมีรอยแตกใหญ่อยู่
“มันเป็นวันที่พวกเราได้มีประชาธิปไตย” เสียงของยูวดีที่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับสภาพเวทีนับคะแนนการเลือกตั้ง ประภาสคลี่กระดาษ เผยให้เห็นชื่อ ‘โทน’ ที่ถูกเขียนอยู่ข้างใน ก่อนจะโชว์ให้เด็ก ๆ คนอื่นดู ชาณัฐประกาศเสียงดังว่า ‘โทน’ ชนธิดาที่ยืนอยู่ข้างหลัง ขีดเส้นหนึ่งเส้น รวมเป็น 5 คะแนน ลงบนกระดาน Whiteboard ที่มีชื่อผู้สมัคร โทนอยู่คนเดียว ข้างใต้โทนมีเขียนว่า ‘งดออกเสียง’ พร้อมเส้นขีดคะแนนขีดอยู่ 2 คะแนน ประภาสคลี่กระดาษต่อไป พร้อมกับเสียงของชาณัฐที่ตะโกนออกมาว่า ‘โทน’ ชนธิดาขีดอีกหนึ่งเส้นคะแนนให้กับโทน
“มันเป็นวันที่เราได้มีผู้นำ” เสียงของยูวดีกับภาพที่ตัดกลับมาที่ภายในห้องโถงใหญ่ ประจำศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน โทนและคริสตัล ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของห้องโถง โทนชูมืออย่างผู้ชนะ คริสตัลตบมือรัว ๆ พร้อมเชียร์ให้เด็ก ๆ คนอื่น ๆ ตบมือตาม ข้างหลังโทนมีแผ่นป้ายประกาศว่า นายกรัฐมนตวย คนแรกของหมู่บ้านสารขัณฑ์ สนับสนุนโดย โทน นายกรัฐมนตวย คนแรกของหมู่บ้านสารขัณฑ์ ปูริดลขโมยซีนด้วยการเดินไปมา ๆ
ภาพตัดมาที่ห้องประชุมที่บ้านของโทน โทนกำลังยืนมองคริสตัล ที่นั่งอยู่พร้อมถือแผ่นป้าย Whiteboard ที่เขียนว่า ‘นายกรัฐมนโท’ โทนส่ายหัว คริสตัลจึงขีดฆ่าคำว่า ‘โท’ ทิ้ง บน Whiteboard คำว่า ‘นายกรัฐมนเอก’ ถูกขีดฆ่าทิ้งไปแล้ว
ต่อมาคริสตัลเขียนคำใหม่ออกมา ก่อนกลับป้ายให้โทนดู เห็นเป็นคำว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ โทนเห็นแล้วก็ส่ายหัวอีกครั้ง คริสตัลขีดฆ่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ๆ ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะนึกคำหนึ่งออก รีบเขียนลงไปที่กระดาน Whiteboard แล้วหันมาโชว์ให้โทนดู เห็นเป็นคำว่า ‘นายกรัฐมนตวย’ โทนยิ้ม ผงกหัวพลางยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ คริสตัลผงกหัวรัว ๆ พร้อมยิ้มอย่างดีใจ
“เป็นวันที่เราได้มีผู้สื่อข่าว” เสียงของยูวดี ซ้อนกับภาพของเธอที่มือกำลังถือไมค์ ยืนรายงานข่าวกับทีวีลม ด้านหลังเป็นโทน คริสตัลและประชาชนของหมู่บ้านสารขัณฑ์ ที่กำลังตบมือให้กับโทน ผู้นำคนแรกของหมู่บ้าน
“เป็นวันที่เราได้มีชนชั้นกลาง” เสียงของยูวดี ซ้อนกับภาพของ ประภาส ชาณัฐ ชนธิดา ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนวิชานั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว
“เป็นวันที่เราได้เริ่มมีงานทำ” เสียงของยูวดี กับภาพของการตัดริบบิ้นเปิดกิจการของร้านสะดวกซื้อ ชื่อ 24-365 ที่มีขอนไม้วางขาย พร้อมกับแผ่นป้าย ‘0 Day without DEATH’ โดยที่พีรพลและยิบซีเป็นคนตัดริบบิ้นเปิดงาน โดยโทนและคริสตัลยืนข้าง ๆ พร้อมเงาดำทะมึนของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด พร้อมด้วยเงาตะคุ่ม ๆ อีกสองเงาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ส่วนปูริดลยังคงเดินเล่น ตัดหลังขโมยซีน ในกางเกงขาสั้นสีฟ้าพร้อมโลโก้รูปเรือใบตัวเดิม
“ต่อไปไม้จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า” โทนบอก
“ทุกคนมีอิสระและความสามารถที่จะหาไม้ได้ จากสวนสาธารณะ” ยิบซีพูด
“หรือหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 24-365” พีรพลพูด
“อยากได้ไม้เมื่อไหร่ก็แวะมา” พีรพลและยิบซีพูดพร้อม ๆ กัน พร้อมเสียงดังตื๊อ-ตื่อ ที่เอาไว้บอกว่ามีคนเดินเข้าร้านมา
“ไม้เป็นของสาธารณะ ฉะนั้นขอเพียงแค่ขยันทำงาน หาไม้ คนนั้นก็จะรวย พวกเราทุกคนเสมอภาคเท่าเทียม” โทนบอกต่อ ชาวสารขัณฑ์ทุกคนตบมือยินดีเต็มไปหมด
เด็ก ๆ ทุกคนในหมู่บ้านสารขัณฑ์ต่างก็ออกมายืนอยู่ที่หน้าห้องโถงใหญ่ ประจำศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน ยูวดีและไอรินคุยกันสนุกสนาน ประภาส ชาณัฐและชนธิดา เล่นเป็นพ่อแม่ลูกอยู่ด้านหลัง วิชายังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าประตู ปูริดล ยังคงวิ่งเล่นในกางเกงขาสั้นสีฟ้าพร้อมโลโก้รูปเรือใบตัวเดิม พีรพลและยิบซียืนถือท่อนไม้ โทนและคริสตัลยืนข้าง ๆ พร้อมเงามืด ๆ ของเด็กคนนึงที่นั่งรถเข็นอยู่ในเงามืด กับเงามืดอีกสองร่างที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ทุกคนดูยิ้มแย้มมีความสุข
“มันเป็นวันที่พวกเรา ได้มีประชาธิปไตย มีผู้นำ มีทุกอย่างเป็นครั้งแรก มันเป็นวันที่ถูกจารึกลงไปในหน้าประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านสารขัณฑ์แห่งนี้” ขวัญใจถือไมค์รายงานข่าวกับทีวีลมเช่นเคย ภาพค่อย ๆ ลอยสูงขึ้นไปจากบริเวณหน้าห้องโถงใหญ่ ศูนย์ออกกำลังกายของหมู่บ้าน ผ่านเมฆก้อนเล็กน้อยใหญ่ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนเห็นเป็นสภาพพื้นที่ส่วนที่เหลือของทั้งประเทศไทยที่กลายเป็นสีดำ ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้วอีกต่อไป
หากชอบใจ เรื่องราวของหมู่บ้านสารขัณฑ์ สามารถอ่านเพิ่มเติมตอนต่อไป หรืออ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.readawrite.com/c/d76ff1aebf93bd0cb5d0db355375048c
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=2268115&chapter=2
#หมู่บ้านสารขัณฑ์ #sarakantown