เรื่องสั้นเรื่องแรกสำหรับปีใหม่ 2565
จะพยายามรวบรวมไว้ในทู้เดียวหลายเรื่องนะคะ จะได้ไม่เปลืองเนื้อที่เว็บ
ทางรักหลอนสยอง
ล. วิลิศมาหรา
นุ่นนั่งรอสามีด้วยท่าทางเศร้าสร้อย เธอนั่งรอเขาอยู่นานแล้ว ตั้งแต่ยามสายของวันนี้จนกระทั่งพลบค่ำ ป่านนี้ยังไม่เห็นรถของสามีโผล่มาเสียที ถนนเส้นนี้แสนเปลี่ยว บรรยากาศเย็นยะเยือก เสียวสันหลังวาบไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า เธอนั่งหวาดผวาอยู่ตามลำพัง กลัวทั้งโจรผู้ร้ายหรือภูตผีปีศาจที่อาจจะมาหลอกหลอน
อภัยให้นุ่นด้วยที่ไม่ยอมเชื่อใจคุณ...หญิงสาวคร่ำครวญถึงสามีในใจ
เพราะไม่มั่นใจในรักแท้ จึงพูดอะไรโง่ ๆ ออกมา ต่อเมื่อคุณขับรถจากไปแล้วนั่นแหละ ถึงเพิ่งนึกได้ว่าขาดคุณไปก็เหมือนขาดใจตาย อย่าใจร้อนนักเลย คิดทิ้งภรรยาได้ลงคอเชียวหรือ เพราะรักหรอกถึงหวง นุ่นพูดได้เพียงเท่านี้
เย็นค่ำลงมากแล้ว เห็นเงาตะคุ่มของกลุ่มคนเดินมาไกล ๆ พวกเขาคงแปลกใจที่เห็นผู้หญิงตัวคนเดียวมานั่งอยู่ข้างทางแสนเปล่าเปลี่ยว มีรถเพียงคันเดียวคือรถของตัวเธอเองจอดอยู่ จะขับไปก็ได้ แต่เธออยากขับไปพร้อมกับรถคันของสามีนี่นา จะได้ไม่พลัดกันอีก...เมื่อไหร่หนอเขาถึงจะหันหัวรถกลับมา
บรรยากาศท้องทุ่งนายามเย็น มองดูทิวทัศน์สองข้างทางมันช่างหม่นมัว ฝูงนกกาบินกลับรังกันพรึบพรับ ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เห็นเป็นแสงสีเหลืองอมส้มงามประหลาดตา มันดึงดูดสายตาคนเราให้จ้องมองราวกับต้องมนตร์สะกด ลมเย็นพัดผ่านผิวเนื้อจนหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ที่รักคะ หนาวจัง รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ นุ่นรออยู่
แต่เอ๊ะ! ทางเส้นนี้ไม่ได้อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวอย่างที่คิดเสียทีเดียว อย่างน้อยก็ยังมีกลุ่มคนน่าจะมีสักเจ็ดหรือแปดคน กำลังเดินมุ่งหน้าตรงมาหา เธอลุกขึ้นยืนโบกไม้โบกมือให้ น่าแปลกใจที่คนพวกนั้นไม่ยักโบกมือตอบ พวกเขาพากันเดินใกล้เข้ามาอีกหน่อยหนึ่งแล้ว แต่ทำไมกระไอเย็น ๆ ประหลาด ถึงระเหยออกมารอบตัวพวกเขาจนเธอรู้สึกได้
อีกแค่สี่เมตร...สามเมตร...สองเมตร ก็จะถึงตัวเธอ
คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วย!
หญิงสาวจ้องมองพวกนั้นตะลึงงัน ใบหน้า...ใบหน้าของพวกเขา คนพวกนี้ไม่มีลูกตา เห็นแต่เพียงเบ้าตากลวงโบ๋ กับจุดแดง ๆ ข้างในนั่นเท่านั้น ริมฝีปากแตกเป็นร่องแยกแสยะออก มีของเหลวสีคล้ำไหลยืดน่าสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด พวกเขาเดินตัวแข็งทื่อตรงเข้ามา และรู้สึกเหมือนว่าจะเดินเร็วขึ้นด้วย สองแขนชูยื่นมาข้างหน้า นิ้วมือเกร็งแข็งหงิกงอ มีเล็บยาวโง้งออกมาทุกนิ้ว ทำไมพวกเขาทำท่าราวอยากจะเข้ามาขยุ้มตัวเธอ
คุณอยู่ที่ไหน ช่วยเมียด้วย!
นุ่นถลาไปหาประตูรถ แต่ก่อนหญิงเคราะห์ร้ายจะทันได้เปิดมันออก กลุ่มคนปริศนาก็โผเข้ามาถึงตัวเธอเสียแล้ว พวกมันจับผมยาวสยายของเธอกระชากจนหน้าหงาย อีกสองคนเข้าดึงแขนไว้คนละข้าง มันง้างมือเธอออกจากประตูรถ ผู้หญิงคนหนึ่งอ้าปากกว้างมองเห็นฟันซี่เล็ก ๆ คมกริบ หล่อนขบขย้ำเข้าที่ลำคอขาวผ่องของเธอเต็มปากเต็มคำ เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดเลอะใบหน้าอำมหิต
โอ้ย!
หญิงสาวกรีดร้องโหยหวนสุดชีวิตด้วยความเจ็บปวด ร่างเธอดิ้นพรวด ๆ อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนกระหายเลือด แขนสองข้างถูกดึงทึ้งฉุดกระชาก ถูกขบกัดเหวอะหวะ ขณะกัดกินตะกรุมตะกราม พวกมันยังฉุดลากเธอไปตามพื้นถนนอันเต็มไปด้วยเม็ดกรวดทราย จนในที่สุดเธอก็ล้มลงนอนตาเหลือก
โอย...ไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกิน
เธอร้องครวญครางเสียงแผ่วลง หมดแรงต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอด ลมหายใจเบาบางลงทุกขณะ ตามเศษเนื้อติดร่างที่แหว่งวิ่นไปทีละน้อย และก่อนสติสัมปชัญญะจะดับลงอย่างสิ้นเชิง หญิงสาวก็กรีดร้องเรียกหาสามีดังลั่น
...ทว่าเขาคงไม่มีวันจะได้ยิน...
(เดี๋ยวมาต่อค่ะ ไปทำธุระแป็บ)
ทางรักหลอนสยอง
จะพยายามรวบรวมไว้ในทู้เดียวหลายเรื่องนะคะ จะได้ไม่เปลืองเนื้อที่เว็บ
ล. วิลิศมาหรา
นุ่นนั่งรอสามีด้วยท่าทางเศร้าสร้อย เธอนั่งรอเขาอยู่นานแล้ว ตั้งแต่ยามสายของวันนี้จนกระทั่งพลบค่ำ ป่านนี้ยังไม่เห็นรถของสามีโผล่มาเสียที ถนนเส้นนี้แสนเปลี่ยว บรรยากาศเย็นยะเยือก เสียวสันหลังวาบไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า เธอนั่งหวาดผวาอยู่ตามลำพัง กลัวทั้งโจรผู้ร้ายหรือภูตผีปีศาจที่อาจจะมาหลอกหลอน
อภัยให้นุ่นด้วยที่ไม่ยอมเชื่อใจคุณ...หญิงสาวคร่ำครวญถึงสามีในใจ
เพราะไม่มั่นใจในรักแท้ จึงพูดอะไรโง่ ๆ ออกมา ต่อเมื่อคุณขับรถจากไปแล้วนั่นแหละ ถึงเพิ่งนึกได้ว่าขาดคุณไปก็เหมือนขาดใจตาย อย่าใจร้อนนักเลย คิดทิ้งภรรยาได้ลงคอเชียวหรือ เพราะรักหรอกถึงหวง นุ่นพูดได้เพียงเท่านี้
เย็นค่ำลงมากแล้ว เห็นเงาตะคุ่มของกลุ่มคนเดินมาไกล ๆ พวกเขาคงแปลกใจที่เห็นผู้หญิงตัวคนเดียวมานั่งอยู่ข้างทางแสนเปล่าเปลี่ยว มีรถเพียงคันเดียวคือรถของตัวเธอเองจอดอยู่ จะขับไปก็ได้ แต่เธออยากขับไปพร้อมกับรถคันของสามีนี่นา จะได้ไม่พลัดกันอีก...เมื่อไหร่หนอเขาถึงจะหันหัวรถกลับมา
บรรยากาศท้องทุ่งนายามเย็น มองดูทิวทัศน์สองข้างทางมันช่างหม่นมัว ฝูงนกกาบินกลับรังกันพรึบพรับ ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เห็นเป็นแสงสีเหลืองอมส้มงามประหลาดตา มันดึงดูดสายตาคนเราให้จ้องมองราวกับต้องมนตร์สะกด ลมเย็นพัดผ่านผิวเนื้อจนหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ที่รักคะ หนาวจัง รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ นุ่นรออยู่
แต่เอ๊ะ! ทางเส้นนี้ไม่ได้อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวอย่างที่คิดเสียทีเดียว อย่างน้อยก็ยังมีกลุ่มคนน่าจะมีสักเจ็ดหรือแปดคน กำลังเดินมุ่งหน้าตรงมาหา เธอลุกขึ้นยืนโบกไม้โบกมือให้ น่าแปลกใจที่คนพวกนั้นไม่ยักโบกมือตอบ พวกเขาพากันเดินใกล้เข้ามาอีกหน่อยหนึ่งแล้ว แต่ทำไมกระไอเย็น ๆ ประหลาด ถึงระเหยออกมารอบตัวพวกเขาจนเธอรู้สึกได้
อีกแค่สี่เมตร...สามเมตร...สองเมตร ก็จะถึงตัวเธอ
คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วย!
หญิงสาวจ้องมองพวกนั้นตะลึงงัน ใบหน้า...ใบหน้าของพวกเขา คนพวกนี้ไม่มีลูกตา เห็นแต่เพียงเบ้าตากลวงโบ๋ กับจุดแดง ๆ ข้างในนั่นเท่านั้น ริมฝีปากแตกเป็นร่องแยกแสยะออก มีของเหลวสีคล้ำไหลยืดน่าสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด พวกเขาเดินตัวแข็งทื่อตรงเข้ามา และรู้สึกเหมือนว่าจะเดินเร็วขึ้นด้วย สองแขนชูยื่นมาข้างหน้า นิ้วมือเกร็งแข็งหงิกงอ มีเล็บยาวโง้งออกมาทุกนิ้ว ทำไมพวกเขาทำท่าราวอยากจะเข้ามาขยุ้มตัวเธอ
คุณอยู่ที่ไหน ช่วยเมียด้วย!
นุ่นถลาไปหาประตูรถ แต่ก่อนหญิงเคราะห์ร้ายจะทันได้เปิดมันออก กลุ่มคนปริศนาก็โผเข้ามาถึงตัวเธอเสียแล้ว พวกมันจับผมยาวสยายของเธอกระชากจนหน้าหงาย อีกสองคนเข้าดึงแขนไว้คนละข้าง มันง้างมือเธอออกจากประตูรถ ผู้หญิงคนหนึ่งอ้าปากกว้างมองเห็นฟันซี่เล็ก ๆ คมกริบ หล่อนขบขย้ำเข้าที่ลำคอขาวผ่องของเธอเต็มปากเต็มคำ เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดเลอะใบหน้าอำมหิต
โอ้ย!
หญิงสาวกรีดร้องโหยหวนสุดชีวิตด้วยความเจ็บปวด ร่างเธอดิ้นพรวด ๆ อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนกระหายเลือด แขนสองข้างถูกดึงทึ้งฉุดกระชาก ถูกขบกัดเหวอะหวะ ขณะกัดกินตะกรุมตะกราม พวกมันยังฉุดลากเธอไปตามพื้นถนนอันเต็มไปด้วยเม็ดกรวดทราย จนในที่สุดเธอก็ล้มลงนอนตาเหลือก
โอย...ไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกิน
เธอร้องครวญครางเสียงแผ่วลง หมดแรงต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอด ลมหายใจเบาบางลงทุกขณะ ตามเศษเนื้อติดร่างที่แหว่งวิ่นไปทีละน้อย และก่อนสติสัมปชัญญะจะดับลงอย่างสิ้นเชิง หญิงสาวก็กรีดร้องเรียกหาสามีดังลั่น
...ทว่าเขาคงไม่มีวันจะได้ยิน...
(เดี๋ยวมาต่อค่ะ ไปทำธุระแป็บ)