กระอักสิ้นปี ราคากระฉูดเท่าตัว หมูสด-อาหารทะเล แม่ค้าโอดกระทบเที่ยวปีใหม่
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6810811

แม่ค้าขายอาหารระยองกระอัก หมูสด-อาหารทะเลสด ราคาพุ่งเท่าตัว ชี้แหล่งท่องเที่ยวระยองกำลังได้รับผลกระทบกับราคา พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
   
วันที่ 31 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวสำรวจราคาอาหารที่ตลาดสดสตาร์ ศูนย์การค้าระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตลาดกลางขายปลีกขายส่ง อาหารทะเลสด หมูไก่ เนื้อ และ ผัก ใหญ่ที่สุดของ จ.ระยอง หลังพ่อค้าขายอาหารสำเร็จ รวมถึง ขายอาหารทะเลตามแหล่งท่องเที่ยวของระยองกำลังได้รับผลกระทบกับราคา เนื้อหมู ราคาอาหารทะเลสด พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จนสร้างความเดือดร้อนให้พ่อค้าและผู้บริโภคเป็นอย่างมากช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
 
นายธานินทร์ อายุ 48 ปี พ่อค้าเขียงหมู เปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมูเริ่มขยับขึ้นตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อต้นทุนหมูสูงขึ้นจึงจำเป็นต้องขยับราคาเนื้อหมูทุกชนิดขึ้นตามต้นทุน ขณะนี้หมูสามชั้นจาก ราคาก.ก.ละ 160 บาท ขึ้นเป็น 230 บาท เนื้อแดงบดจากก.ก.ละ 130 บาท ขึ้นเป็น 180 บาท หมูเนื้อแดงจากราคาก.ก.ละ 140 บาท ขึ้นเป็น 180 บาท เนื้อสันคอจาก ก.ก.ละ 160 บาท ขึ้นเป็น 220 บาท รู้สึกเห็นใจผู้บริโภคแค่ก็ไม่สามารถตรึงราคาได้ เพราะต้นทุนมาสูงจำเป็นต้องขึ้นตาม
 
ด้านนางแสงเดือน อายุ 43 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเล บอกว่าช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้ราคาอาหารทะเลสดพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัว อย่างเช่นราคา หมึกสด จากเคยขายก.ก.ละ 260 -280 มาวันนี้ ราคาพุ่งก.ก.ละ 350 บาท กุ้งแม่น้ำราคาขึ้น 100 บาท ต่อก.ก.ทุกไซส์ หอยทุกชนิดขึ้นก.ก.ละ 10 บาท ปูม้าจากราคาก.ก.ละ 500 บาท ขึ้นเป็น ก.ก.ละ 650 บาท
 
ส่วนนางพัชรินทร์ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายข้าวต้มหมู และ ข้าวต้มทะเล ระบุ พ่อค้าแม่ค้าอาหารสำเร็จรูปต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างมากกับวัตถุดิบอย่างหมู และ อาหารทะเล พุ่งสูงขึ้นมากจนแทบจะพยุงราคาเดิมไว้ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยังฝืนทนเพราะเกรงใจและเห็นใจผู้บริโภคยังคงตรึงราคาเดิมไปก่อนจนกว่าจะไม่ไหว
 
” ฝากบอกรัฐบาลให้ช่วยดูแลด้วย ก่อนที่ประชาชนจะแย่กันไปหมด อาหารทะเลตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างก็ปรับราคาอาหารขึ้นตามราคาอาหารสด เพราะไม่สามารถแบกรับการขาดทุนได้ จึงส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่ในจ.ระยอง ต้องบริโภคของแพง ” 
 
ขณะที่นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาซื้อวัตถุดิบไปฉลองปีใหม่ เปิดเผยว่า เจอราคาสินค้าพุ่งสูงมาก ต้องทำใจ กับราคาสินค้าที่พุ่งกระฉูด ไม่คิดว่าราคาจะแพงขึ้นขนาดนี้ ทั้งที่ประชาชนต่างก็ลำบากในช่วงโควิดระบาด แต่กลับต้องมาเจอราคาสินค้าแพงอีก วอนรัฐบาลแก้ปัญหาโดยเร็ว
 

---

 
ผลพวงหมู-ผักแพง ‘ร้านอาหารตามสั่ง’ รับต้นทุนไม่ไหว จ่อปรับขึ้นราคาหลังปีใหม่
https://ch3plus.com/news/category/272514
 
ราคาหมู - สินค้าวัตถุดิบประกอบอาหารหลายชนิดพาเหรดขึ้นราคา บรรดาร้านอาหารตามสั่งแบกรับต้นทุนไม่ไหว หลังปีใหม่หากราคายังไม่ลง จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาอาหารตามสั่งบางชนิด
 
จากการสำรวจร้านอาหารตามสั่ง และร้านจำหน่ายอาหารย่านถนนพระราม 4 พบว่า ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอด เริ่มปรับราคาขายขึ้นอีก 5 บาทต่อชุด จากเดิมหมูทอด 1 ขีด รวมข้าวเหนียว 1 ห่อ ขายในราคา 35 บาท ล่าสุดปรับขึ้นเป็น 40 บาทแล้ว หลังราคาเนื้อหมูพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ยอมรับว่า วัตถุดิบประกอบอาหารปรับราคาขึ้นหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู หมูสามชั้น อาหารทะเล และ เนื้อวัว รวมถึงราคาน้ำมันปาล์มที่ยังไม่ลดลง 
 
ซึ่งที่ผ่านมาได้ทนแบกรับภาระต้นทุนโดยไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะเข้าใจผลกระทบด้านกำลังซื้อของประชาชน แต่ร้านเองก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนสูงอย่างนี้ต่อไปได้ไหว จึงจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาอาหารบางประเภท เช่น อาหารที่มีหมูกรอบเป็นส่วนประกอบหลัก อาหารที่ใช้เนื้อหมู เป็นต้น แต่หากไม่ปรับขึ้นก็จำเป็นต้องลดปริมาณให้น้อยลง เพื่อให้สอดรับกับต้นทุน
 
พร้อมยกตัวอย่างต้นทุนประกอบอาหาร อย่าง ผัดมาม่าหมูสับ 1 จาน จะประกอบด้วย มาม่า 1 ห่อ ราคา 6 บาท ,ไข่ไก่ 1 ฟอง ราคา 5 บาท , หมูสับ 1 ขีด 25 บาท รวม 36 บาท ต่อจาน ยังไม่รวมผักที่ใส่ , ต้นทุนน้ำมันพืช , เครื่องปรุง และต้นทุนค่าแรงงาน เบ็ดเสร็จต้นทุนอยู่ที่จานละ 40-45 บาท
 
ทั้งนี้ยอมรับว่า ในปีหน้า(2565) ราคาสินค้าและอาหารมีแนวโน้มแพงขึ้น ทั้งจากการเรียกเก็บภาษีโซเดียม ที่จะมีผลต่อราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงเนื้อหมูที่ยังแพง หากรัฐบาลไม่เข้ามาดูแลควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
 

---

 
ก้าวไกลเชื่อชนะเลือกตั้งซ่อม ‘ชุมพร-สงขลา’ เหตุ รบ.ขัดแย้ง-ตัดคะแนนกันเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3111642
 
‘ที่ปรึกษาก้าวไกล’ เชื่อชนะเลือกตั้งซ่อม ‘ชุมพร-สงขลา’ เหตุพรรครัฐบาลขัดแย้ง-ตัดคะแนนกันเอง
 
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ว่าการที่พรรค ก.ก.ลงแข่งเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ สื่อมวลชน หรือประชาชนบางกลุ่มอาจจะมองว่าพรรค ก.ก.เป็นม้านอกสายตา คือไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าส่งแข่งขันแล้วจะมีหนทางที่จะชนะเลือกตั้งหรือไม่ ตนในฐานะที่ปรึกษาพรรคได้มาลงพื้นที่และประชุมกับทีมงาน พบว่าพื้นที่เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้พรรค ก.ก.ยังมีหนทางที่จะชนะเลือกตั้งซ่อมได้ เพราะคู่ต่อสู้คือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคกล้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายพรรครัฐบาล คงจะยื้อแย่งคะแนนในฐานของตัวเองมากกว่า จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าแต่ละพรรคจะได้คะแนนเท่าใด สำหรับพรรค ก.ก.มั่นใจในคนรุ่นใหม่ที่ให้การสนับสนุนตั้งแต่สมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) รวมถึงคนไทยที่รักในประชาธิปไตยที่อยู่ในเขตเลือกตั้งชุมพร เขต 1 จะเทคะแนนให้กับเรา โดยในครั้งนี้ได้กำหนดให้หัวหน้าสำนักงานพรรคประจำจังหวัดชุมพร เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม
 
นายอำนาจกล่าวว่า พรรค ก.ก.จะไม่ใช้วิธีการเดียวกับพรรคคู่แข่ง แต่เราจะพยายามรักษาฐานเสียงที่เคยได้ตั้งแต่สมัยเลือกตั้งปี 2562 ประมาณ 1.2 หมื่นคะแนน ซึ่งเราจะพยายามขยายฐานเสียงเพื่อให้ได้คะแนนประมาณ 3 หมื่นคะแนน ซึ่งเพียงพอที่จะคว้าชัยชนะแล้ว เพราะพรรคคู่แข่งจะตัดคะแนนกันเอง นอกจากนี้ ทราบมาว่าคนหนุ่มสาวที่ไปเรียนหนังสือใน กทม.และต่างจังหวัดเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อกราบไหว้กรมหลวงชุมพรฯ ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติของคนชุมพร
 
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 มกราคม 2565 นายวรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ของพรรค ก.ก.จะไปพบปะพูดคุยกับเยาวชนที่กลับบ้านมา เราจึงคาดหวังว่าบรรยากาศที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 คือเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เคยสนับสนุนอดีตพรรค อนค.จะได้พูดคุยกับพี่น้องปู่ย่าตายายของตัวเองที่อยู่ในเขตเลือกตั้ง ให้มาสนับสนุนพรรค ก.ก. ซึ่งจะเป็นช่องทางในการชนะเลือกตั้งซ่อมสนามนี้ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดได้ สรุปคือพรรค ก.ก.จึงมีโอกาสชนะและได้เป็นผู้แทนราษฎร ทั้งสนามชุมพร เขต 1 และสงขลา เขต 6 เพราะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เกิดขึ้นบนความขัดแย้งของพรรคคู่แข่ง จึงเหลือเพียงพรรค ก.ก.ที่จะเป็นความหวัง และตัวเลือกให้ประชาชนในพื้นที่