เพชฌฆาตที่ตัดคอคนมากที่สุด

.

.
Charles Henri Sanson
.

.

.
Charles Henri Sanson
น่าจะตัดคอคนมากที่สุด
เพราะช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสที่เริ่มต้นในปี 1789
แต่ต้องรอถึงในปี 1792 จึงเริ่มใช้ Guillotine
ตัดศีรษะนักโทษประหาร เพราะ Guillotine
เป็นเครื่องจักรสังหารที่ตัดคอคนได้เร็วมาก
และมีประสิทธิผลที่สุดโดยได้แรงบันดาลใจจาก
Halifax Gibbet ของสกอตแลนด์
ที่สร้างมาก่อนและมีบันทึกใช้งานในปี 1286
.

.
ในช่วง 10 เดือนยุคแห่งความสยดสยอง 
กันยายน 1793 ถึงกรกฏาคม 1794 
ที่ Maximillian Robespierre แกนนำ Jacobin 
แต่ในที่สุด ก็ถูกสมาชิกรัฐสภากล่าวหา
และถูกผู้คุมจับซ้อมจนกระดูกกรามแตกหัก
จนให้การใด ๆ ไม่ได้
ก็ถูกสรุปว่ายอมรับผิดทุกอย่าง
ก่อนถูกตัดหัวด้วยกิโยติน
เพราะเริ่มบ้าอำนาจสั่งตัดหัวคนเป็นว่าเล่น
จนพวกสมาชิกรัฐสภาก็กลัวจะโดนไปด้วย

ในช่วงยุคแห่งความสยดสยอง
มีการตัดคอนักโทษไม่น้อยกว่า 17,000 ราย
หรือเฉลี่ยเดือนละ 1,700 ราย
กิโยตินได้ฆ่าคนราว 40,000 คน
จากนักโทษ 300,000 คน
แต่นักโทษอีกจำนวนมากตาย
เพราะโรคภัยไข้เจ็บ/ทนทุกข์ทรมานในคุกไม่ไหว
ที่มา https://bit.ly/2pMcWN8
.
.
เพชฌฆาต Guillotine จะสวมชุดสีแดง
เพื่อปกปิดคราบเลือดที่กระเด็นใส่ 
โดย Charles Henri Sanson 
คือ หัวหน้าเพชฌฆาต ที่ลงมือตัดคอคน
ด้วยกิโยตินด้วยฝีมือตนเอง 
ไปจำนวนมากกว่า 3,000 ราย 

แกเคยตอบคำถามจักรพรรดิ์นโปเลียน ที่แซวว่า
" ว่าไง เพชฌฆาต ยังนอนหลับสบายดีไหม "
แกตอบกลับว่า 
"ถ้าจักรพรรดิ์ ราชา ทรราชย์ ยังนอนหลับได้
แล้วทำไมเพชฌฆาตจะนอนหลับไม่ได้บ้าง "

ลูกหลานแกยังสืบทอดอาชีพเพชฌฆาตนี้ 
จนกลายเป็นนามสกุลที่คนหวาดกลัว
พอ ๆ กับนามสกุล Guillotine
ที่ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลอื่น

หัวหน้าเพชฌฆาตคนสุดท้ายของฝรั่งเศส
เริ่มช่วยพ่อใช้กิโยตินตัดหัวคนตอนอายุ 14 ปี
และตัดหัวคนไปแค่  200 คนเอง
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
France's Last Guillotine Executioner
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ.
How Long did a Person Stay Alive after being Guillotined
.

.
นักโทษที่คอขาดกระเด็นยังรู้สึกตัวได้ราว ๆ
10-15 วินาที นานสุดที่เคยบันทึกไว้ 30 วินาที
และสมองไม่ทำงานหลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาที
เพราะผู้คุมคนหนึ่งยกหัวนักโทษหญิงคนหนึ่ง
ออกจากตะกร้าขึ้นมาตบหน้า
ปรากฎว่าใบหน้าแดง/แสดงอาการโกรธ
นักโทษชายคนหนึ่งตกลงจะกระพริบตา
ให้เพื่อนนับหลังจากคอขาด
นับได้ราว 15 วินาทีก่อนจะยุติ
.
.
.

.
Jean Paul Marat  ผู้นำจิตวิญญาณที่ชั่วร้าย
ของแก้งค์ Maximillian Robespierre
ที่ถูกสาวชาวบ้าน Charlotte Corday
แทงมันตายคาที่ขณะแช่น้ำร้อนรักษาโรคผิวหนัง
เธอถูกตัดสินตัดหัวด้วยกิโยตินในปี 1793

หลังจากเธอถูกตัดหัวแล้ว
ผู้คุม Francois le Gros  หยิบหัวเธอขึ้นมา
แล้วตบใบหน้าเธอไปหนึ่งที
แต่ใบหน้าเธอแดง/แสดงอาการโกรธ
โดยมีชาวบ้านที่เชียร์เธอเป็นประจักษ์พยาน

เธอได้รับเกียรติเป็นวีรสตรีปฏิวัติในภายหลัง
บ้านเกิดเธอกลายเป็นอนุสรณ์สถาน
เพราะหลังจากเธอฆ่าทรราชย์ไป 1 ตัว
ช่วยระงับการฆ่าชาวบ้านไปอีกหลายหมื่นคน
เพราะแก้งค์ทรราชย์ Jacobin 22 ตัว
ถูกกวาดล้าง/ฆ่าทิ้งทั้งหมดในภายหลัง

พระภิกษุวัดเซียวลิ้มยี่/เส้าหลิน จะชอบทำตาม
ตะโมภิกขุ(ตั๊กม้อ) ปฐมนิกายเซ็น/วัดบู้เฮียบจีน
ชอบกำจัดมารพิทักษธรรม  Slogan

" อาตมาพร้อมลงขุมนรกกับมิง ฆ่ามิงหนึ่งตัว
ชาวบ้านนับพันคนจะได้รอดตาย "
.
.
แกงค์นี้ยังมีส่วนทำสงคราม Vendée
สงครามอัปยศที่คริสตจักร ก่นด่าจนทุกวันนี้
เพราะมีการฆ่าบาทหลวง/ชาวบ้าน
ข่มขืนแม่ชี/สตรี ที่ไม่ยอมจำนนอำนาจชั่วของรัฐ
มีการยึดทรัพย์สินศาสนาจักรมาแบ่งกัน

แต่ฝรั่งเศสไม่เคยยอมรับว่ามีเรื่องนี้จริง
และสอดคล้องกับคำทำนาย Nostradamus ว่า
เลือด และการผสมพันธุ์ที่ไม่มีความสุข
.

Vendée War สงครามอัปยศที่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับว่าเคยมีเหตุการณ์นี้จนถึงทุกวันที่

.
.
.
.

นักเขียนฝรั่งเศสและศาสนจักรในยุคนั้น
ไม่ต่างกับสมีกิตติวุฒโฒ ที่มีคดีเช็คเด้งก่อนตาย
เจ้าของวาทกรรม ฆ่าคอมฯ ไม่บาป

ทั้งฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาต่างตั้งฉายาสารพัดสัตว์
ให้แก่กันและกัน  เช่น สามกีบ(ควาย/หมู)
สมองxมาปัญญาcวาย สลิ่มไร้สมอง
พร้อมกับคำเหยียดว่า มัน ตัว ครอก ฝูง
.
..
.

คนชั่วคนเลวคนบัดซบ
ทำไมตัองยังให้เกียรติให้ความเคารพกันอีก
เพราะในอดีตมันก็ไม่เคยไว้หน้า/ไว้ชีวิตคนอื่น
นอกจากอวยกันเองในกลุ่มสมุนบริวาร
.
.
หมายเหตุ
.
การปฏิวัติฝรั่งเศส
ช่วงรัชกาลที่ 1 หลังตั้งกรุงเทพฯ ในปี 2332
กว่าสยามจะรู้เรื่องราวนึ้ก็สมัยปลายรัชกาลที่ 3
ที่ฝรั่งเข้ามาติดต่อค้าขายกับ เจรจาขอทำเรื่อง
ลดภาษีเหลือร้อยชักสาม เพราะภาษีเดิมแพงมาก
มาสำเร็จในรัชกาลที่ 4 ตามสนธิสัญญาเบาริ่ง

ชนชั้นสูงในสยามเริ่มอ่านภาษาอังกฤษออกแล้ว
เพราะ นางแอนนา เลียวโนเวล ผู้แต่ง The King and I
สอนภาษาอังกฤษให้กับคนในวังแล้ว
รุ่นเหลนของนางคือ บริษัท หลุยส์ ตี. เลียวโนเวนส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
ยังประกอบการธุรกิจในประเทศไทย

ลูกชายนางแอนนาเป็นนายห้างไม้ที่ภาคเหนือ
เป็นคนเจ้าชู้มีเมียมาก จนเป็นที่กล่าวขานกัน
.
.

.
นางแอนนา เลียวโนเวล
.

.
สยามยังรับรู้แบบงงงง
กับการตัดหัวกษัตริย์ฝรั่งเศส
และการที่สหปาลีรัฐอเมริกา
มีกษัตริย์ผ่านการเลือกตั้ง
ไม่ใช่สืบทอดแบบสันตติวงศ์
และเข้าใจว่าประธานาธิบดี คือ กษัตริย์

รัชกาลที่ 4 ยังดำริห์จะส่งช้างไปช่วยลินคอห์น
รบในสงครามกลางเมือง/เลิกทาส
แต่อุสา USA ไม่รับเพราะขนส่งลำบาก ไกลด้วย
กลัวช้างจะตายระหว่างเดินทางก่อนจะไปถึง
และคงช่วยการรบไม่ได้มากแล้ว
เพราะกระสุนปืนรุ่นใหม่ ๆ ล้มช้างได้
(มีหนังสือตอบขอบคุณจากทูตอุสา)
.
.
ในยุคปฏิวัติฝรั่งเศส 
ตอนนั้นกล้องถ่ายรูปยังไม่มี 
มีแต่ภาพวาด ภาพเขียนลงในหนังสือพิมพ์ 
กว่าจะเริ่มมีกล้องถ่ายภาพขาวดำ อันเบ่อเริ่ม
ครั้งแรกก็ปีพ.ศ. 2382 สมัยรัชกาลที่ 3 

ในปี พ.ศ.1982
ฝรั่งเริ่มพิมพ์หนังสือ หนังสือพิมพ์
ก่อนสยามเสียกรุงครั้งแรกปีพ.ศ. 2112 
ก่อนหน้านั้นถึง 130 ปีแล้ว
.
.
สยามพิมพ์หนังสือครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 4 
ผู้ให้กำเนิดหนังสือพิมพ์ภาษาไทยฉบับแรก 
ก็คือคนอเมริกันที่ชื่อ นายแพทย์แดเนียล บีช บรัดเลย์ 
(ที่ฝังศพท่านยังอยู่ที่เจริญกรุง
ถนนสายแรกสยาม ที่ฝรั่งไว้เดินเล่น ขี่ม้า 
เพราะไม่ไกลจากที่พัก ท่าเรือ สีลมบางรัก 
ป่าช้าแห่งนี้ไม่ไกลจากป่าช้าฝรั่งสีลม 
เป็นที่ดินฝังศพแพงที่สุดในไทย 
คำนวณจากราคาประเมินกรมที่ดินในแต่ละปี)
.
.
.

.
หมอ บรัดเลย์ได้ออกหนังสือพิมพ์ข่าวภาษาไทย
ในชื่อ บางกอกรีคอเดอร์
ออกวางตลาดฉบับปฐมฤกษ์
ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2387
ซึ่งทำให้สยามมีหนังสือพิมพ์
ก่อนประเทศญี่ปุ่นถึง 17 ปี

ต่อมา ท่านปิดหนังสือพิมพ์ด้วยตนเอง
เพราะแพ้คดีหมิ่นประมาท
ในศาลสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
ท่านไม่ต้องการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ขอขมา
คนที่ท่านกล่าวหา/ดูหมิ่น/หมิ่นประมาท
และในยุคนั้นก็ยังไม่มีหนังสือพิมพ์เจ้าอื่นด้วยเช่นกัน
.
.
แต่นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ 
ทึ่ศึกษาจากพงศาวดารพม่า และเอกสารฝรั่ง 
ระบุว่า กรุงศรีอยุธยา เสียเอกราชในปีพ.ศ. 2106 
สมัย พระเจ้าช้างเผือก ที่เจริญสัมพันธไมตรี
กับพระเจ้าบุเรงนอง ผู้ชนะสิบทิศ
แบบยอมยกช้างเผือก 4 ช้างจากที่มี 7 ช้าง
พระราชธิดา 4 พระองค์ให้เป็นนางสนม กับ
พระราเมศวร ให้ไปอุปการะเลี้ยงดูเป็นพระราชโอรส
โดยให้ พระยาจักรี สมุหกลาโหม
และพระสุนทรสงคราม เจ้าเมืองกาญจนบุรี
ไปเป็นพระพี่เลี้ยงพระราเมศวรที่กรุงหงสาวดีด้วย
พระศรีสุริโยทัยก็สิ้นพระชนม์ในสนามรบไปก่อนหน้านี้แล้ว
 
ส่วนพระมหาธรรมราชาก็ให้พระนเรศ
ไปเป็นตัวประกันกับบุเรงนอง/พระราชโอรส

ถ้าไม่แพ้จะยอมยกให้บุเรงนอง ฟรี ๆ หรือไม่ 
นึ่คือ คำถามที่รอคำตอบจากนักประวัติศาสตร์
.
.
ก่อนที่พระเจ้าช้างเผือกจะมาแข็งข้อ
ตอนใกล้สิ้นพระชนม์ในช่วงปลายปีพ.ศ. 2110 
ในปีพ.ศ. 2111 
พม่าจีงเริ่มเคลื่อนทัพมาใกล้กรุงศรีอยุธยา 
กะว่าจะกวาดล้างให้สิ้นซาก 
แต่พระเจ้าชัางเผือกสวรรคตตอนต้นปีพ.ศ. 2112 
หลังจากพม่ามีชัยเหนือโยเดียแล้ว
จึงจับ พระมหินทราธิราช ไปพม่า
แต่พระองค์ตรอมใจสวรรคตในระหว่างเดินทาง
(สยามระบุว่าประชวรด้วยโรคไข้ป่า)

ส่วนหนึ่งที่โยเดียแพ้ เพราะพระบิดาพระนเรศ
(พระมหาธรรมราชา) ปรากฎในพงศาวดารว่า
ฝักใฝ่เข้าข้างพม่ายกกองทัพจากพิษณุโลก
มาร่วมรบกับพม่าที่ยกทัพมารบที่โยเดีย/ยุดยา
เพราะอยากเป็นกษัตริย์จนตัวสั่น
ภายหลังพระนเรศขึ้นครองราชย์แล้ว
ก็ปลดพระบิดาตนเองลงจากบัลลังค์

ขัอมูลเพิ่มเติม

พระเจ้าช้างเผือก มีบุญมากไปจนเป็นปัญหา ทำให้เสียกรุงศรีอยุธยาในครั้งที่ 1

พระเจ้าบุเรงนอง ผู้ชนะสิบทิศ
.
.

.
บุเรงนอง ဘုရင့်နောင်
พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง
หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพม่า
.

.
โยเดียเป็นกึ่งคำเรียก คำเยาะเย้ยของพม่า 
มาจาก ยุทธพ่าย รบแพ้พม่า 3 ครั้ง
พ.ศ.2106, 2112, 2310
ล้อเลียนคำว่า อยุทธยา รบไม่แพ้
อ นำหน้าคือ ไม่ เช่น อมร อมตะ อกุศล

แต่อาณาจักรอยุธยา ยืนยาวนานถึง 417 ปี
ผ่านการปฏิวัติ 17 ครั้ง  กษัตริย์ 34 พระองค์

ขุนวรวงศา พระสวามีเจ้าแม่ศรีสุดาจันทร์ 
แม้ว่าผ่านพิธีบรมราชาภิเศก
แต่บางคนไม่ยอมนับว่าเป็นกษัตริย์
เพราะแพ้ฝ่ายรัฐประหาร กลุ่มอำนาจเก่า
แบบราบคาบหมดสิ้นวงศ์โคตรตระกูล
เลยมีคำถามพระราชโอรสไม่รู้เดียงสายังนับได้
คนก่อการรัฐประหารสำเร็จยังนับได้
แล้วมีเหตุผลพิเศษเหนืออื่นใดจึงไม่นับบางคน

แต่ต้องถือว่ายุดยาไม่เบา แน่เหมือนกัน
ที่อาณาจักรยืนยาวกว่าสี่ศตวรรษ
.
.
คำว่า พม่า นักวิชาการสตรีพม่า/ล่าสุดคนยะไข่
ตกใจมากกับคำนี้ เพราะคล้องกับคำว่า
ผ่าม่า หญิงขายบริการ/กะxรี่
.
.

.

.
ถ้าของไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาในพม่า
ตัดสินใจเลือกใช้ภาษาอังกฤษแทนภาษาไทย
เขียนทับศัพท์บนป้ายของธนาคารด้วยอักษรพม่า
เพราะถ้าใช้เสียงภาษาไทยเขียนทับศัพท์ด้วย
อักษรพม่า หากถอดคำว่า
ထိုင်းဖာနစ် (ทายง์-ผ่า-นิด) แล้ว
จะแปลว่า กะxรี่ไทยจม(น้ำ) 
 .
.
 

.
คนตั้งชื่อ พม่า
อาจจะมีนัยด่าทางอ้อมหรือไม่ แบบเจ็บใจรบแพ้ 
ขอได้ขบสักฮิดก็บายใจ(จิก/กัดสักนิดก็สบายใจ)
เดิมสยามเรียกชื่อพม่าว่า ม่าน พุกาม 
(กาม=คาม หมู่บ้าน 
เช่น เวียงกุมกาม ที่เชียงใหม่)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่